คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9
Chapter 9
คาซึระไม่ยอมออกจากร้านราเมงซะที เอาแต่นั่งเหม่ออยู่ริมร้าน นาน ๆ ทีถึงจะขยับตัวเมื่ออิคุมัตซึขอให้ช่วย แต่ส่วนใหญ่หญิงสาวจะปล่อยให้เขาอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมากกว่า นาน ๆ ทีจึงจะหันมามองแบบเป็นห่วง หรือไม่ก็หันมาดีดหน้าผากเรียกสติ
“เป็นผู้ชายซะเปล่า มีปัญหาหัวใจแล้วมานั่งซึม ใช้ได้ที่ไหน” เธอตบหัวเขาเบา ๆ แล้วส่งยิ้มให้ “อย่าไปคิดอะไรมากสิ ไม่ต้องคิดว่าอันไหนดี อันไหนถูกหรอก ทำตามที่รู้สึกว่าอยากทำ แล้วผลลัพท์มันจะออกมาเอง”
คาซึระยิ้มซึมตอบ ก่อนจะขออ้อมเคาน์เตอร์ไปกอดผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนเป็นพี่สาว ซบหน้าลงกับไหล่เล็ก ๆ แล้วปล่อยความคิดให้ว่างตามคำแนะนำ น่าแปลกที่รู้สึกสงบขึ้นอย่างที่เธอบอก แม้ยังหาข้อสรุปให้ตัวเองไม่ได้ก็ตาม
“งั้น...” เขาดึงตัวออกจากอ้อมกอด กลับไปนั่งที่ที่นั่งตัวเองแล้วเท้าคาง “สมมตินะ ถ้าท่านอิคุมัตซึมีคนสองคนมาชอบพร้อม ๆ กัน จะเลือกคนไหนล่ะ”
หญิงสาวกลับไปจัดของในร้าน พร้อมพูดโดยไม่หันมามองหน้า “ยังไม่รู้เลยว่าสองคนนั้นเป็นยังไง จะตอบได้ไง” ทำให้คาซึระถอนหายใจ แล้วเหลือบไปมองนอกหน้าต่าง
“แสดงว่าชาตินี้ไม่เคยมีใครมาชอบสินะ”
จานใบในมือเกือบหล่นลงมากลางหัว อิคุมัตซึหันกลับมาแล้วค้อนให้ ก่อนจะเชิดหน้าไปทำงานต่อ
“อย่างน้อยฉันก็หาสามีได้เป็นตัวเป็นตนแล้วกันย่ะ ไม่เหมือนแก ไม่รู้จะหาสามีหรือภรรยาดี วิกผมเอ๊ย...” ประโยคสุดท้ายพูดเบา ๆ ทำให้คนถูกล้อเมิน กลับไปสนใจเรื่องของตัวเองอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ บรรยาย(ปนเพ้อ) ออกมา
“คนหนึ่งใจดีมาก ๆ อ่อนโยนด้วยทุกอย่าง ถึงจะทำเป็นไม่สนยังไงสุดท้ายก็กลับมาช่วยอยู่ดี ถ้าฉันอยากร้องไห้ ไปหาเขาแล้วจะสบายใจที่สุด” คาซึระจิบน้ำกันคอแห้งแล้วพูดต่อ
“ส่วนอีกคนหนึ่ง...ตรงข้าม วัน ๆ ทำเป็นแต่ทำลาย ปากก็บอกว่าเกลียดเอา ๆ แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ฉันไปเป็นของใคร บอกว่าฉันเป็นของมันได้แค่คนเดียว หวงได้หวงดีเหมือนฉันเป็นของเล่น ชอบเล่นผมฉัน แล้วก็...เป็นคนที่ซาดิสม์หน่อย ๆ ถ้าอยู่กับมันรับรองว่าไม่มีวันไหนไม่เจ็บตัว” รอยยิ้มหวานคลี่ออกนิด ๆ “ถึงอย่างนั้น...ก็ยังตัดใจไม่ได้ซะที”
อิคุมัตซึหันมามองแล้วทำตาเป็นเครื่องหมายเท่ากับ ขีดเซ็งป่อยหล่นลงมาสามขีด “หมั่นไส้อารมณ์สาวน้อยของแกชะมัด” กระนั้น ก็ไม่ได้เอ่ยขัดอารมณ์ แล้วปล่อยให้ฝ่ายนั้นคิดคำนวณเองเงียบ ๆ แทน
เวลาผ่านไปเรื่อยจนนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน คาซึระจึงได้ฤกษ์ขอตัวกลับ ‘บ้าน’ ของตัวเอง พร้อมอลิซาเบธเดินอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง พวกชินเซนก็คงกลับบ้าน ไม่ก็อู้งานกันหมด ถนนสายนี้จึงไม่มีคนเลยสักคน เขาจึงเดินได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องสนใจคนอื่นเท่าไร แม้จะถอดหมวกฟางนี่ออกไปก็ไม่มีใครจำได้อยู่ดี เป็นเวลาส่วนตัวของเขาอย่างแท้จริง
ร่างบางฮัมเพลงเบา ๆ ไปเรื่อย จนเห็นคนยืนพิงอยู่บ้านข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร นอกจากควานหากุญแจของตัวเอง กระทั่งคน ๆ นั้นเดินเข้ามาใกล้ ถีบอลิซาเบธสุดแรงจนล้ม แล้วกระชากเขาเข้ามาหาตัว
“...ทาคาสึกิ!?”
คาซึระพยายามดิ้นหนี แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งทำให้แรงบีบมากขึ้น ทาคาสึกิไม่คิดจะอธิบายอะไรสักนิด แค่ลากเหมือนฆาตกรโรคจิตลากเหยื่อ ต่างกันเพียงแค่ตอนนี้ใบหน้านี้ไม่ได้มีรอยยิ้มแบบคนพวกนั้นเท่านั้นเอง
“ปล่อยฉัน!” เขาพยายามสลัดมือออก แม้ไม่หลุด ทว่านั่นกลับทำให้อีกฝ่ายยอมหันกลับมา สั่งห้วน ๆ สั้น ๆ พร้อมสีหน้าเคร่งเครียด
“หุบปากแล้วตามฉันมา”
คาซึระไม่สนใจฟัง ตัดสินใจถีบท้องอีกฝ่ายเต็มแรงเพื่อสลัดให้หลุด คว้าอลิซาเบธแล้วหนีเข้าบ้าน กระแทกประตูปิด ขณะที่ทาคาสึกิงอตัวลงไปครู่เดียวเพราะจุก กลับวิ่งกลับมาด้วยความเร็วมากกว่า ทันก่อนที่เขาจะทันล็อกประตู เอาแขนข้างหนึ่งขัดประตูไว้ไม่ลังเลว่าจะถูกกระแทกหรือเปล่า พร้อมกับคว้ากิโมโนคนตัวเล็กไว้ สั่งเน้นทีละคำ “ไป-กับ-ฉัน-เดี๋ยว-นี้!”
“ไม่มีทาง!”
คาซึระหน้าถอดสี พยายามปิดประตูอย่างสุดความสามารถ แต่อีกฝ่ายแรงเยอะกว่า แทบบุกเข้ามาในบ้านได้อยู่แล้ว จนหางตาของผู้บุกรุกหันไปเห็นบางสิ่งบางอย่างส่องประกาย
แสงสีแดงเรืองๆ กระพริบเป็นจังหวะ จากช้า ค่อย ๆ เร็วขึ้น พร้อมเสียงปิ๊บ ๆ ตามมา
เพียงชั่ววินาทีที่ชายหนุ่มผงะไปทำให้คาซึระหลุดมือไปได้ ทว่าร่างเล็กวิ่งออกไปยังไม่ถึงก้าว เขาก็กลับมาได้สติ ฉุดกระชากอีกฝ่ายกลับมา แต่เมื่อไม่ว่ายังไงคาซึระก็ไม่ยอมตามไป มือจับประตูไว้แน่นราวกับเป็นที่ยึดสุดท้าย ทำให้ทาคาสึกิตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คิดจะทำมาก่อน
“ฉันขอให้แกมีความสุขกับกินโทกินะซึระ”ชายหนุ่มกอดร่างเล็กเอาไว้ ใช้ตัวเองพลิกกลับดันอีกฝ่ายออกไปข้างนอกแล้วเข้ามาอยู่ข้างในแทน พอดีกับจังหวะที่แสงสีแดงกระพริบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะวาบไปทั่วทั้งบ้าน ทาคาสึกิถีบคาซึระออกไป ทันจังหวะที่รู้สึกถึงความร้อนจากด้านหลัง
“หนีไปซะ”
บึ้ม!!!
ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องมาตายเพราะโดนระเบิด แถมโดนเพราะพยายามช่วยคนที่รักจากระเบิดนั่นอีกต่างหาก
ถึงจะไม่ค่อยมีสติแล้ว แต่ทาคาสึกิก็พยายามเพ่งมองคาซึระที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้าเมตร ภาวนาให้ระเบิดนี้ไม่แรงพอให้ไปถึงอีกฝ่าย แม้มันดูเป็นไปไม่ได้เลยก็ตาม
คนบาปอย่างเขา คำว่าภาวนาไม่เคยมีอยู่ในหัว เขาไม่เคยคิดว่าพระเจ้าจะช่วยเขาหรอก
แต่หาก...คำขอนี้ส่งไปถึงละก็...แค่คาซึระปลอดภัยละก็...
เขาพร้อมแลก...แม้ด้วยชีวิต
ตอนที่กำลังจะตาย คนเราจะหยุดคิดและทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งสิ่งที่ได้ทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ สิ่งที่สมหวัง และสิ่งที่ยังไม่สมหวัง
หากสิ่งที่ได้ทำคือการทำให้คาซึระเป็นของเขา สิ่งที่ยังไม่ได้ทำก็คือ ยังไม่เคยบอกรักให้อีกฝ่ายดีใจสักที
หากสิ่งที่สมหวังคือการได้ช่วยชีวิตคนที่ตัวเองรักมาก ๆ ไว้ สิ่งที่ยังไม่สมหวังก็คงจะเป็น ยังไม่ได้รับคำขอบคุณ รอยยิ้ม หรือคำต่อว่าจากฝ่ายนั้นสักที
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำอะไรดี
จะทำให้คาซึระมีความสุขมากกว่านี้ได้รึเปล่า จะทำให้ดวงตาคู่นั้นไม่ต้องร้องไห้ตอนกลางคืนแบบที่เคยทำได้มั้ยนะ จะบอกรักให้อีกฝ่ายดีใจ...หรือเจ็บใจกันแน่
ทาคาสึกิไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย
ไม่รู้ว่าคำบอกรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายนี้ จะถูกเสียงระเบิดกลบไปจนหมดรึเปล่า
“ฉันรักแกมากนะคาซึระ”
“เจ็บรึเปล่า” เด็กชายผมสีดำยาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ขณะใช้ลูกประคบแตะที่ขาของเด็กผมสั้นอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นรอยถูกตี พยายามดูแลแผลด้วยมือเบาที่สุด กระนั้น...ถูกตี มีหรือจะไม่เจ็บ มือเบาขนาดไหน ชินสุเกะก็อดเบ้หน้าไม่ได้อยู่ดี
“ไม่ต้องทาแล้วล่ะ” เด็กชายเอาขาหลบ “ยิ่งทายิ่งเจ็บ” พูดแบบไม่ได้สนใจความรู้สึกเพื่อนสักนิด ทั้งที่หากสังเกตสักหน่อยจะเห็นว่าอีกฝ่ายเตรียมปล่อยโฮใส่อยู่แล้ว
“ก็แล้วทำไมต้องมารับผิดแทนฉันด้วยล่ะ ทำไมไม่ฟ้องอาจารย์ไปเลยเล่า!” คาซึระน้อยตวาดพร้อมน้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ให้เห็นความอ่อนแอของตัวเอง ทำให้ชินสุเกะชะงักไป เหวอทำอะไรไม่ถูกสักครู่ ก่อนจะเอื้อมมือไปเขย่าไหล่เล็กเบา ๆ
“อย่าร้องไห้ดิ ฉันช่วยเพราะก็ไม่อยากให้แกมาสำออยต่างหาก ไม่ต้องรู้สึกผิดเหมือนนางเอกไปหรอกน่า! มันน่ารำคาญ”
บอกเสร็จแล้วก็แอบกัดปากตัวเองฐานพูดโกหกไปอีกที ขณะที่เด็กขี้แยก็ยังไม่หยุดร้องไห้ แถมทำท่าจะร้องหนักขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก ในฐานะเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ง้อใคร เจอสถานการณ์นี้ถึงขั้นทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว
“เลิกร้องได้แล้วโว้ยไอ้ซึระ!” ชินสุเกะทำอะไรไม่ถูกเลยลุกขึ้นไปตบหัวกลม ๆ สักที ก่อนจะคว้าหัวเดิมนั่นเข้ามาแนบอก
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ซามุไรที่ดีต้องปกป้องเพื่อน อาจารย์เคยสอนไว้ไม่ใช่เหรอ” เด็กชายส่งยิ้มให้ ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นรอยแดงแบบเขิน ๆ ประดับแก้ม ทำให้น้ำตาที่ไหลรินนั่นหยุดชะงัก ก่อนจะไหลลงมาหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นซามุไรที่ดีที่ว่า... ต่อจากนี้ไป ฉันจะปกป้องแกเอง”
ดวงตาสีเขียวอมเหลืองจะค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ พร้อมภาพตรงหน้าที่พร่ามัว
“ถึงฉันจะไม่เคยรักษาสัญญาได้สักที...แต่ครั้งนี้ มันเป็นจริงแล้วนะ”
ต่อจากนี้ไป ฉันจะปกป้องแกเอง
แต่ถ้าฉันไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว...ขอให้คนที่ปกป้องแกได้ดีกว่าดูแลทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ของแกด้วยนะ
ลาก่อน...เพื่อนคนแรก
และรักสุดท้ายของฉัน
_________________________________________________________________________________________________________
เกือบเดือน...เพิ่งรู้ตัวว่าเขียนอะไรลงไป
ทากะ...แกน้ำเน่าได้ขนาดนี้เลยเรอะ!!!
(อารมณ์ไป...คาแรกเตอร์ก็ไป(ลับ)... เหมือนกัน)
ช่วงนี้ช่วงสอบ
วันนี้ผ่านพ้นวันแรกมาได้...ด้วยดี(มั้ง)
นึกคึกอะไรนั่งแต่งฟิคก็ไม่รู้ 55+
ป.ล. ช่วงนี้เน็ตไม่ค่อยดี ลุ้นนะ...จะอัพได้มั้ยเนี่ย
ความคิดเห็น