ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Gintama fanfic) Cannot fly away Yaoi

    ลำดับตอนที่ #10 : Happy Valentine's Day (แบบไม่มีพล็อต เขียนสด=w=)

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 55


    เดี๋ยวมาต่อ White Day แล้วกัน
    (เตือนด้วยนะเหวย เดี๋ยวลืม!)



                   เหอะ...วันนี้มันมีดีอะไร ทำไมพวกผู้หญิงต้องกรี๊ดกร๊าดกันด้วยนะ


                  
    คาซึระนั่งเหม่ออยู่ในห้องเรียน มองสาวน้อยทั้งหลายจับกลุ่มกรี๊ดกร๊าดกัน หางตาก็เหลือบไปหลังห้องบ่อยจนไม่ว่าใครก็ดูออกว่าเป็นที่นั่งของหนุ่มหล่อเลวประจำห้องนั่นเอง


               
    เหอะ... หนุ่มหล่อเอาแต่โดดเรียน


                  
    เขาได้แต่ควงปากกาเล่น เหม่อออกไปนอกหน้าต่าง หรือไม่ก็นั่งฮัมเพลงเบา ๆ อยู่คนเดียวอย่างที่ปกติชอบทำ เพราะวันนี้ สำหรับเขาไม่ได้มีอะไรพิเศษ เป็นแค่วันธรรมดาที่ช่วยตอกย้ำว่าเขามันไม่ฮอตเหมือนเพื่อนสมัยเด็กเท่านั้นเอง


               
    เหอะ...ช็อกโกแลต


                  
    ไม่ได้อยากได้สักหน่อย ก็แค่ของหวานที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ดีแต่ทำให้เสียสุขภาพเปล่า ๆ ไม่ได้อยากกินสักนิด หรือถ้าอยากกิน ไปซื้อเองก็ได้ มันไม่แพงขนาดนั้นหรอก


                  
    เหอะ...หนุ่มฮอตนี่ต้องโดนเบาหวานกินสักวันแน่ ๆ


                  
    อาจารย์กินปาจิเดินเข้ามาด้วยหน้าปลาตาย ประกาศสั้น ๆ “วันนี้อาจารย์งดสอน ขี้เกียจ” แล้วเดินออกไปหน้าตาเฉย ไม่คิดหาข้ออ้างให้มันประเสริฐสมเป็นผู้ควรได้รับความเคารพเลยสักนิด กระนั้น เขาก็ยังเห็นสาว ๆ บางคนแอบเดินตามไป ในมือถือ
    โรคเบาหวาน เตรียมมอบให้หนุ่มหัวขาว ไม่รู้ว่าผู้หญิงพวกนี้ไม่รู้หรือไงว่าหมอนั่นมันต้องควบคุมเรื่องอาหารพวกนี้ได้แล้ว


                  
    เหอะ...น่ารำคาญ


                  
    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ไม่ได้อิจฉาหรือหมั่นไส้ใครใด ๆ ทั้งสิ้น แค่รู้สึกรำคาญขึ้นมาเท่านั้นเองเหอะ


                  
    แค่นั้นจริง ๆ
    !





     

                        ตอนเย็นมาถึงเร็วราวกับโกหก คาซึระเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย ก่อนจะนึกได้ว่าลืมของไว้ในล็อกเกอร์ เลยย้อนกลับไปเอา ก่อนจะเหลือบไปเห็นล็อกเกอร์ข้าง ๆ ของทาคาสึกิมีซองจดหมายสีชมพูแพลมออกมา หากให้เดา เขายอมเอาหัวเป็นประกันว่าข้างในต้องมีมากกว่านี้อีกเยอะ แล้วในโต๊ะของหมอนั่นก็น่าจะพอ ๆ กัน


                  
    สาวน้อยทั้งหลายหลงผิดมาชอบมันได้ไงเนี่ย


                  
    ลมแรงพัดมา ทำให้ซองจดหมายสีชมพูเริ่มสั่นไหว ค่อย ๆ เลื่อนจนหลุดออกจากซอกล็อกเกอร์ร่วงลงพื้นแถมถูกลมพัดปลิวไปอีก ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็น่าสงสารเจ้าของแย่ ในเมื่อเขาเป็นคนดี ฉะนั้น จะช่วยเก็บให้หน่อยก็แล้วกัน


                  
    คาซึระเดินไปเก็บ แล้วยัดมันลงซอกเดิมแบบไม่ค่อยใส่ใจ แต่แล้ว ก็ถูกอาจารย์หัวขาวเรียกจากด้านหลังเสียงง่วงนอน


                  
    “นี่ด้วย ทำตกไว้น่ะ”


                  
    กุหลาบสีแดงหนึ่งดอกอยู่ในมืออาจารย์กินปาจิ เขาเลิกคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ มีสองความหมายคือ ไม่ใช่ของเขา และไม่ใช่ของคนที่เขาเก็บของให้เช่นกัน หมอนั่นจึงทำหน้าง่วงให้ง่วงกว่าเดิม แล้วยื่นส่งมาให้


                  
    “ไม่รู้ของใคร งั้นให้นายแล้วกัน” ห้วนสั้น พร้อมดวงตาไล่ให้รีบ ๆ ไสหัวไปแบบนั้นมันช่างน่าถีบเสียจริง ทว่า อย่างไรซะ หมอนั่นก็ยังเป็นอาจารย์...จะถีบอาจารย์เดี๋ยวได้เข้าห้องปกครอง ที่เขาทำได้จึงแค่เพียง รับมันมาด้วยดวงตาเป็นเครื่องหมายเท่ากับ


                  
    “ขอบคุณครับ”


                  
    หวังว่ามันจะฟังออกว่าเขาประชด...

     




                  
    “เลิกเรียนแล้วเหรอเนี่ย”


                  
    ทาคาสึกิในชุดนักเรียนแบบไม่เรียบร้อยเดินสวนเข้ามาที่ประตูรั้วขณะเขากำลังเดินออกพอดี วันนี้ หมอนั่นก็ยังเหมือนเคย คือ ยิ้มอย่างจิต ๆ ใส่ทุกคน เขาจึงไม่อยากเสียอารมณ์ไปเสวนาด้วย เพียงแค่บอกส่ง ๆ ว่า “ของแกที่คนอื่นเอามาให้ ไปหาในโต๊ะกับล็อกเกอร์เอาแล้วกัน” ก่อนจะเดินจากมาโดยไม่หันไปมอง ทว่า อยู่ดี ๆ คนที่กำลังจะเข้าไปในโรงเรียนดันเปลี่ยนใจ แล้วคว้าตัวเขาไว้แทน


                  
    “ช่างมัน ไม่อยากได้จากพวกนั้นซะหน่อย”


                  
    กระซิบเบา ๆ ...
    ที่ข้างหูก่อนจะเป็นฝ่ายลากเขาออกจากโรงเรียน ตรงไปที่ซอกตึกข้าง ๆ แล้วดึงตัวเขาเข้ามากอดโดยไม่สนใจการขัดขืนใด ๆ ทั้งสิ้น เชิดคางเขาขึ้นพร้อมจับแขนข้างหนึ่งไว้


                  
    “อยากได้จากคนที่ไม่เคยได้อะไรต่างหาก”


                  
    คาซึระค้อนใส่ พยายามดิ้น แต่ด้วยแรงที่ต่างกันทำให้ไม่หลุด ได้แต่ปล่อยให้มือคนแรงเยอะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเอง


                  
    “ไม่มีอะไรให้แกหรอก ปล่อย
    !


                  
    “โกหก...ดูนี่สิ” ชายหนุ่มหยิบช็อกโกแลตบู้บี้ขึ้นมา “เตรียมให้ฉันก็สารภาพมาเหอะ เนอะ คุณเพื่อนสมัยเด็ก”


                  
    คาซึระเกลียดรอยยิ้มและดวงตานี้ที่สุด เพราะทุกครั้ง มันเหมือนจะอ่านใจเขาได้หมด


                  
    “ไปเอากับสาว ๆ ของแกเองสิ ปล่อย
    !


                       
    ทาคาสึกิไม่ตอบอะไร และไม่ยอมคืนช็อกโกแลตนั่นด้วย กลับแกะและกินทันทีโดยไม่สนใจสภาพบู้บี้ของมัน ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าตัวเองแล้วหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมา


                  
    “อื้อ
    !


                  
    อยู่ดี ๆ หมอนั่นก็จูบเขาซะเฉย ๆ ขณะเดียวกันก็ยัด
    อะไรบางอย่าง ใส่กระเป๋ากางเกง เนิ่นนานกว่าจะยอมถอนออกไป แล้วยอมปล่อย พร้อมส่งยิ้มแสยะให้


                  
    Happy Valentine นะ”


                  
    หมอนั่นเดินออกจากซอกไปแล้ว คาซึระจึงกล้าหยิบมันขึ้นมาดู และพบว่า มันเป็นดอกกุหลาบ...สีแดง


                  
    ไอ้บ้าสองตัวนี้มันจะทำอะไรวะ
    ?
    50%

     

                   14 มีนาคม


                  
    มีใครเคยบอกรึเปล่าว่าสีชมพูเป็นสีที่หวานเลี่ยนที่สุดในโลก...


                  
    แล้วมีใครเคยบอกรึเปล่า...ว่าสีขาวที่มาหลังสีชมพูน่ะ... ก็ชวนอ้วกไม่ต่างกัน


                  
    คาซึระเอาป็อกกี้รสสตอเบอรี่ที่ตัวเองได้รับแจกมาตอนเดินผ่านหน้าสถานีหักเล่นทีละชิ้นอย่างหงุดหงิด มองบรรยากาศสีชมพูอบอวลชวนหงุดหงิดแล้วพานจะของขึ้นซะอย่างนั้น ไม่ทราบว่า ถ้ามันจะไปสวีทกันนอกห้องเรียนไม่ได้หรืออย่างไรกัน ถึงต้องมาให้ช็อกโกแลตตอบแทนกันถึงในห้องเนี่ย


                  
    อย่างน้อยวาเลนไทน์ ผู้หญิงก็เป็นฝ่ายให้...ทำหน้าเขินแบบน่ารัก ๆ มันก็ย่อมดีกว่าหน้าตาย ๆ ที่หาความหล่อไม่เจอของพวกเพื่อนผู้ชายทั้งหลายตอนให้ช็อกโกแลตเยอะแหละน่า
    ! เห็นหน้าพวกมันแบบนั้นแล้วคลื่นไส้!


                  
    แล้วไอ้อาจารย์เวรหน้าชั้นเรียนนี่อะไร...ให้ช็อกโกแลตผู้หญิงแบบนั้นเรอะ ชิ้นเล็กชนิดดมก็แทบจะหมดเนี่ยนะ
    ? รู้ว่าคนให้น่ะเยอะ แต่อย่างน้อยก็น่าจะรักษามารยาท เอาไซส์มาตรฐานที่คนอื่นเขาให้กันสิ เอาช็อกโกแลตมาแบ่งครึ่งอีกแล้วแจกเนี่ย น่าเกลียดที่สุด!


                  
    โว้ย
    ! หมั่นไส้พวกมันที่มีคนมาให้แล้วทำเป็นไม่สนใจโว้ย!


                  
    หักป็อกกี้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เหมือนแช่งหักกระดูก แผ่บรรยากาศดำมืดออกมารอบตัว ไม่ทราบว่าไอ้เทศกาลนี้มันจะมีมาทำไม แค่ช้ำใจวันเดียวก็ทรมานแล้ว จะมาซ้ำกันอีกทำไม!



                  
    ไม่เอาแล้ว เลิกเรียนวันนี้เขาจะรีบกลับบ้าน ไม่แวะไหนให้เจ็บใจเล่นเด็ดขาด


                  
    “ซึระ เย็นนี้มาพบฉันด้วยล่ะ” เสียงบอกหมดคาบดังขึ้น หลังอาจารย์กินปาจิส่งท้ายประโยคนี้แล้วก็รีบเดินออกจากห้องทันที คาซึระหน้าเหวอ คิดทบทวนว่าตัวเองทำอะไรผิด... แต่ก็คิดไม่ออก ทว่า การที่อาจารย์ขอเรียกพบเป็นการส่วนตัวนี่ สำหรับนักเรียนก็เป็นความซวยอย่างหนึ่งนะ คราวนี้มีเรื่องอะไรอีกละเฮ้ย


                  
    เฮ้ย
    ! สาว ๆ ผู้ผิดหวังในความรักทั้งหลาย ไม่ต้องหันมามองเขาด้วยความอิจฉาเช่นนั้นเลยนะ ถ้าลืมไปละก็ เขาจะบอกย้ำอีกครั้งว่า “ฉันเป็นผู้ชายนะเว้ย!” ได้อยู่กับหนุ่มฮอตในโรงเรียนสองต่อสองก็ไม่ดีใจหรอก มีแต่จะหมั่นไส้มันซะมากกว่า


                  
    ทว่า เชื่อมั้ย ทั้งวันนั้นเขาเรียนไม่เป็นสุข เพราะว่าประโยคของไอ้อาจารย์หัวหงอกนั่นแหละ
    !

     


                  
    “มีเรื่องอะไรล่ะ
    จารย์?” คาซึระเข้าไปในห้องพักครูพร้อมเอ่ยถามด้วยเสียงเกรียน ๆ อย่างหงุดหงิด ขณะนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ส่วนใหญ่คนอื่นก็กลับบ้านกันไปหมด ยกเว้นพวกที่ทำกิจกรรมชมรม พวกดวงซวยที่ตามหาคนนัดทั้งวันก็หาไม่เจอแบบเขา กับไอ้คนนัดที่ไม่เคยยอมบอกสถานที่ มีแค่คนสามประเภทนี้เท่านั้นแหละที่ยังแกร่วอยู่ในโรงเรียนแบบนี้


                  
    แม้แต่อาจารย์ฝ่ายปกครองสุดเฮี้ยบที่ปกติกลับบ้านช้ากว่าคนอื่นยังกลับไปแล้วเลย คิดดูสิว่าช้าขนาดไหน


                  
    อาจารย์กินปาจิยังคงเงียบ ไม่ตอบอะไรอยู่ดี จนคาซึระต้องถามซ้ำ และคำตอบที่ได้รับคือ... มือข้างขวาที่แบออกมาข้างหน้า ใบหน้าหล่อยักคิ้วขึ้นอย่างเกรียน ๆ และคำพูดสั้น ๆ “ของขวัญไวท์เดย์ล่ะ”


                  
    “...”


                  
    รู้ว่าหมอนี่นิสัยประหลาด แต่ก็ไม่น่าทวงของขวัญจากคนที่ไม่ได้ให้อะไรในวันวาเลนไทน์นี่นา จะงกก็ให้มีขีดจำกัดหน่อยเหอะ
    !


                  
    “ทำไมฉันต้องให้ด้วย” ในเมื่ออีกฝ่ายเกรียนมา เขาก็ขอเกรียนกลับ แม้จะเสี่ยงต่อคะแนนในสมุดพกนิดหน่อยก็ไม่
    เป็นไร ยังไงก็ไม่เคยถือว่าหมอนี่เป็นอาจารย์อยู่แล้ว ออกแนวเล่น ๆ เหมือนเพื่อนกันมากกว่า อีกอย่าง นี่อาจจะเป็นแค่มุกที่หมอนั่นเอามาทดลองใช้ก็ได้มั้ง


                  
    คิดนู่นคิดนี่จนเผลอเหม่อไปแวบหนึ่ง รู้ตัวอีกทีตอนหมอนั่นลุกขึ้นมายืนแล้วจ้องหน้าเขาระยะประชิด พร้อมกับถาม
    ว่า “ไม่มีมาใช่มั้ยล่ะ” ขณะที่แขนข้างหนึ่งเลื่อนไปโอบเอวเขาเข้าหาตัว จนลางสังหรณ์ถึงความซวยพุ่งปรี๊ดกันเลยทีเดียว


                  
    “ก็นายไม่ได้ให้อะไรฉันวันวาเลนไทน์ ฉันก็ไม่ต้องให้อะไรนายตอนไวท์เดย์สิ”ร่างบางพยายามแกะตัวเองออกจากมือปลาหมึก แต่ด้วยแรงที่ต่างกันทำให้ไม่เป็นผล ได้แต่ต้องหน้าอาจารย์กินปาจิแบบเคือง ๆ เท่านั้น


                  
    “ดอกกุหลาบ” ชายหนุ่มพูดสั้น ๆ ก่อนจะหันมาทำตาปลาตายเหมือนเดิม “ฉันให้แล้ว นายต้องให้ฉันกลับด้วย”


                  
    การรับของที่อ้างว่าตกพื้นแล้วหาเจ้าของไม่เจอ ต้องให้ตอบแทนด้วยเหรอ ธรรมเนียมนี้...ไม่เคยได้ยินจริง ๆ ว่ะ


                  
    “ปล่อยฉัน
    !


                  
    กินปาจิยังไม่ยอมปล่อย แล้วทวงถามอีกครั้งด้วยเสียงเรียบสนิท “สรุปว่าไม่มีมาใช่มั้ย งั้นฉัน...ขออย่างอื่นแทนละนะ”


                  
    แขนซ้ายของเขาโอบเอวบางไว้ ขณะมือขวาเชยคางคาซึระขึ้น เห็นดวงตาสีดำลุกลี้ลุกลนแล้วกลั้นยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะก้มหน้าลงไปแตะริมฝีปากน่าสัมผัสเบา ๆ


                  
    จุ๊บ


                  
    “อะ อะ ไอ้โรคจิต
    !


                  
    ปฏิกิริยาตอบโต้ไม่ผิดไปจากที่เขาคิด ร่างบางกระทืบเท้าเขาแล้วสะบัดหน้าหนีออกไปทันที ทว่า...จะด่าเขาหน้าด้านก็ได้นะ แต่เขาก็ยังเดินตามคาซึระไปเงียบ ๆ อยู่ดี


                  
    ก็แหม...เมื่อกี้ยังไม่เรียกว่าจูบด้วยซ้ำ แค่ปากแตะปากเฉย ๆ เอง จูบจริงมันต้องดูดดื่มมากว่านี้สิ หึ ๆ


                  
    เห็นหน้าตาย ๆ อย่างนี้ก็เหอะ ใครรู้จักกินปาจิคงต้องรู้ว่าตัวจริงน่ะ หื่นขนาดไหน



     

                   คาซึระกระทืบเท้าออกจากห้องพักครู ตรงกลับบ้านทันทีไม่แวะที่ไหนตามที่ตั้งใจไว้ ขณะที่เบื้องหลังยังมีสตอล์กเกอร์ตัวเบ้ง ๆ ตามมาติด ๆ หันไปทำตาดุก็แล้ว บ่นระยะประชิดก็แล้ว หมอนั่นก็ยังหน้าหนาเดินตามมาอยู่ได้ ถ้าแวะเข้าสถานีตำรวจแล้วแจ้งข้อหามัน มันจะแกล้งกดเกรดให้เขามั้ยวะ?


                  
    “เฮ้ย
    !


                  
    แค่คิดเล่น ๆ นะ ไม่ได้จะเอาจริง ๆ ใครมันฉุดเขาเข้าซอก(หน้าสถานีตำรวจ)วะเนี่ย!


                  
    “หวัดดีซึระ”


                  
    ... เคยมีใครบอกมั้ยว่าดวงตาสีเขียวเหลืองในความมืดมันจะเรืองแสงและโคตรหลอน เขาเกือบจะร้องกรี๊ดออกมาให้เสียสถาบันเคะ(
    ?) โชคดีที่เฉลียวใจทันว่ามันคือเพื่อนเวร ๆ ผู้ไม่เคยเข้าเรียนนี่เอง คาซึระจึงถอยออก เหลือบมองกินปาจิที่หันซ้ายหันขวาหาเขาอยู่แล้วนึกขอบคุณหมอนี่ขึ้นมา...นิดนึง เพราะความจริงแล้ว...ทั้งคู่ก็ตัวอันตรายไม่ต่างกัน


                  
    “มีเรื่องอะไรกับฉันล่ะ” รอยยิ้มโรคจิตของมันไม่เคยเปลี่ยน จับมือของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย ดึงเข้ามาใกล้ ๆ แล้วเอ่ยทวงสิ่งที่ไม่อยากได้ยินที่สุด


                  
    “ของขวัญไวท์เดย์”


                  
    “ไม่มี ไม่ได้เตรียมอะไรมาทั้งนั้น” เด็กดื้อปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมือข้างที่ว่างของอีกฝ่ายแตะที่แก้ม นิ้วโป้งแตะที่ปาก


                  
    “ใครบอกว่าไม่มีอะไรล่ะ หืม”


                  
    คาซึระเม้มปาก แต่ทาคาสึกิไม่ได้ใส่ใจว่าเขาจะเต็มใจรึเปล่า ชายหนุ่มบีบกราม บังคับให้ริมฝีปากอ้าออก แล้วประกบจูบซ้ำไปทันที ทว่า จูบได้แค่นิดเดียวก็ถูกขัดจังหวะด้วยชายหนุ่มหัวขาวที่ถูกทิ้งไว้ข้างนอก โดยฝ่ายนั้นถือสิทธิอะไรไม่รู้ดึงคอเสื้อคาซึระออกมาหน้าตาเฉย ก่อนจะพูดอย่างลอยหน้าลอยตา ไม่เกรงใจทาคาสึกิสักนิด


                  
    “ฉันมาก่อน”


                  
    ร่างบางถูกกระชากเข้าอ้อมกอด ก่อนจะถูกจูบซ้ำอีกครั้ง ทว่า อีกคนก็ไม่ยอมแพ้ เข้ามากอดจากด้านหลัง ซุกไปตรงซอกคอ ดวงตาวาวโรจน์ สบกับดวงตาสีแดงไม่ยอมแพ้


                  
    “มันเป็นของฉันต่างหาก”


                  
    ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นเปรี๊ยะข้ามไหล่คาซึระไประหว่างตาสองคู่ ต่างฝ่ายต่างก็ยิ้มเชือดเฉือนกันและกัน จนคนกลางเริ่มรู้สึกอึดอัด ดันกินปาจิออกและเบี่ยงตัวหนีทาคาสึกิเนียน ๆ กะว่าได้โอกาสเมื่อไหร่จะโกยอ้าวทันที


                  
    แต่...ความซวยมันไม่เข้าใครออกใคร


                  
    “แกจะเลือกใคร”เสียงนิ่ง ๆ จากกินปาจิมาก่อน ตามมาด้วยเสียงสนับสนุนและออร่าน่ากลัวแผ่ออกมาจากคนที่นิ่งเงียบ ร่างบางเหงื่อตก กวาดตาหาตัวช่วย ทว่า รอบตัวกลับไม่มีสัญญาณชีพของสิ่งอื่นใดเลยสักนิด


                  
    “ขะขอ... เปลี่ยนคำถาม”


                  
    ไม่รู้อากาศมันร้อนมาจากไหน จากเหงื่อหยดเดียวเริ่มหยดตามกันมาเรื่อย ๆ จนเนื้อตัวเขาเปียกชุ่ม ทาคาสึกิหัวเราะหึ ๆ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดจากด้านหลังให้แน่นกว่าเดิม


                  
    “เปลี่ยนเป็น... แกจะให้ใครกด หืม”


                  
    “...”


                  
    ถ้าจะเปลี่ยนอย่างนี้อย่างเปลี่ยนเลยดีกว่ามั้ยครับ...


                  
    “ไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งกดทั้งนั้นแหละ ปล่อย
    ! ฉันจะกลับบ้านแล้ว!” คาซึระดิ้น ทว่า จากคำพูดของตัวเองดันย้อนกลับมาทำร้ายโดยไม่รู้ตัว โรคประจำตัวที่ใช้คำพูดผิดไวยากรณ์ตลอดเวลาเริ่มออกผลร้ายเสียแล้ว


                  
    “ไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งกด...แสดงว่า ยอมให้กดทั้งคู่ใช่มะ” กินปาจิพูดก่อน ก่อนจะเชยคางร่างบางขึ้นมาพร้อมส่งยิ้ม(หื่น ๆ )ให้


                  
    “ถ้าจะเชิญชวนกันขนาดนี้อ่ะนะ อยากกลับไปต่อที่บ้านเร็ว ๆ ก็บอกเถอะ” แม้ยากจะเชื่อ แต่ประโยคนี้ คนที่พูดคือทาคาสึกิ ซึ่งทำให้ทันทีที่จบประโยค คาซึระจึงถูกอุ้มขึ้นทันที แม้เจ้าตัวจะสะดุ้งแล้วร้องโวยวายแค่ไหนก็ตาม


                  
    อ้อ ลืมบอกไป ที่ไม่มีใครหันมามอง ไม่ใช่เพราะแล้งน้ำใจหรอก...


                  
    แต่เพราะทันทีที่เสียงทำท่าจะหลุดออกไปให้คนอื่นได้ยิน ก็จะถูกเมะ ไม่คนใดก็คนหนึ่งปิดปาก(ด้วยปาก)ไว้ตลอดนั่นแหละ


                  
    “อื้อ
    !


                  
    ส่วนเรื่องหลังจากนั้นที่ไปต่อกันที่บ้าน แม้ไม่เล่าก็คงจับประเด็นกันได้ล่ะนะ


                  
    ไวท์เดย์ปีนี้ของคาซึระ...ซวยขึ้นอีกสองเท่า


                  
    ขอฉลองแบล็กเดย์ดีกว่า ถ้าไวท์เดย์ต้องเจอสองคนนี้น่ะนะ

                   “อ่อยอ๊าน~(ปล่อยฉ้าน~)”
    100%
    ________________________________________________________________________________________
    เกิดอะไรขึ้นน่ะ@@
    แต่งเองมึนเอง
    สี่ทุ่มกว่าแล้ว ใกล้ได้เวลานอนมีนแล้วแหละ 55+
    ไม่มีพล็อตจริง ๆ นะ=w=;;
    เขียนสด...น่า อย่าคิดมาก
    อ่านแก้เครียด...
    (ความจริงคือ ยังปั่นฟิคหลักไม่เสร็จ กร๊าก!)

    ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีทุกท่าน^^

    edit ลืมแปะรูป
    จะให้ทากะกับซึระ อารมณ์ประมาณนี้

     
    ไปจริง ๆ ละจ้า=w=
    ____________________________________________________________________________________
    Edit - 100%
    ครบแล้วจ้า
    ขอให้คนเตือน...เลยมีคนเตือนเยอะมากเลยแฮะรอบนี้ 55+
    ท่านปลายฟ้า ตั้งแต่ 1 มีนา จนถึงใกล้ ๆ ก็ทวงอีกที
    แล้วก็แนน(NatsuKi_Mi) ทวงวันก่อนไวท์เดย์
    (ตอนพี่กำลังอ่านสอบชีวะพอดี=w= 55+)
    ขอบคุณมาก ทั้งคู่เลยนะคะ><b
    ครูก็ช่างเลือกวันสอบ สอบทั้งพระพุทธ ทั้งชีวะ ติดกัน ==;;
    ทำข้อสอบชีวะไปก็บรรลุสัจธรรม
    "จริง ๆ แล้ว ฉันอาจจะมี 4กระเพาะก็ได้นะ" OTL <<หาความหมายได้จากหนังสือวิทย์... (และเด็กวิทย์ที่เข้าสอบพร้อมกัน)

    ช่างหัวสอบมันเหอะ...
    มาเรื่องฟิคดีกว่า
    ตอนนี้เป็นไงบ้างคะ
    แต่งไปแล้วรู้สึกติด ๆ กลัวแป้กมาก
    สำนวนก็เริ่มแปลกขึ้นทุกวัน
    รู้งี้จะให้ซึระบรรยาย... ง่ายกว่าเยอะ (ทำไมเพิ่งมารู้ตัวตอนนี้!)
    ติได้ติไป รู้ว่ารอบนี้มีผิดพลาดเยอะ
    ว่าแต่...ฟิคหลักไปถึงไหนแล้วเนี่ย//มองไหดอง

    เอ่อ...ไว้หมักดองเสร็จเมื่อไหร่ จะมาต่อนะคะ//โกย
    (เดี๋ยวนะ...หมัก... ไม่ใช้ออกซิเจน...เพื่ออะไรวะ!)<<เมา 55+

    ข้อมูล เสริมสักหน่อย
    White Day - 14/03 ผู้ชายให้ของขวัญผู้หญิงที่ให้เขาในวันวาเลนไทน์ โดยราคาของจะมากกว่าของที่ได้ 3เท่า <<อ.กินปาจิมันงก= =;; ถึงครึ่งเท่ารึเปล่าเหอะ
    Black Day - 14/04 นิยมในเกาหลีใต้ คนที่ไม่มีคู่รัก (ผลเก็บเกี่ยวเป็นศูนย์)จะรวมตัวกันเพื่อนกินบะหมี่ดำ(จาจังมยอน)เชื่อ่ว่า จะทำให้ได้พบกับคนรักในเร็ววัน <<แต่ซึระไม่ต้องกินก็ได้มาทีเดียวสองคน เมพเนอะ =w=b
    credit : wikipedia ไปหาต่อกันได้นะ=w=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×