ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Gintama fanfic) Cannot fly away Yaoi

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 54



                  
    ไม่ว่าใคร ต่างก็มีสิ่งที่รัก สิ่งที่หลงใหลกันทั้งนั้น

                   สิ่งที่อยากดูแล สิ่งที่อยากปกป้อง และสิ่งที่อยากทำลาย

                   ไม่เว้นแม้แต่เขา มารร้ายตนนี้ก็ตาม

     

                   ดวงอาทิตย์กลมโตทอแสงสีส้มเริ่มอ่อนจางลงทุกที ย้อมสีทั้งนภาให้เป็นสีเดียวกัน ขณะค่อยๆทิ้งตัวลงนอนกับขอบฟ้าอย่างช้า ๆ เป็นภาพที่คู่รักส่วนใหญ่นิยมมาชมด้วยกัน จะสารภาพอะไรก็ชอบทำกันเวลานี้นัก ฉากหลังจะเป็นท้องทะเลกว้าง เป็นตึกสูง เป็นหุบเขาหรืออะไรไม่เกี่ยง บรรยากาศที่มีตอนนี้ก็โรแมนติกพอให้ทำอะไร ๆ ได้สะดวกอยู่แล้ว


                  
    เว้นซะแต่ คนคู่หนึ่ง


                  
    ทาคาสึกิใช้หวีไม้สางผมสีดำของคนที่นั่งอยู่บนเตียง รอยยิ้มตรงมุมปากยังคงเหยียดอยู่เช่นนั้นโดยไม่จางหาย ก้มลงกระซิบเบา ๆ ข้าง ๆ หูจากด้านหลัง


                  
    “วิวสวยมั้ย ซึระ”


                  
    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากผู้ถูกเรียก ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบโต้ ยังคงนั่งอยู่เฉยๆ แม้คนเบื้องหลังจะก้มลงงับหูเบาๆ ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็นๆแผ่วเบา แล้วค่อยๆดังขึ้นจนดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
    ขัง


                  
    “ขอโทษที ฉันลืมไปว่านาย...” หยุดทิ้งจังหวะชั่วครู่เพื่อยกมือขึ้นแตะบริเวณที่เป็นดวงตาของอีกฝ่ายซึ่งมีผ้าพันแผลพันไว้หลายทบ จากใบหน้าด้านบนไปจนถึงเหนือท้ายทอยข้างหลัง เอ่ยเสียงกังวานให้กระทบเข้าไปในโสตประสาทซ้ำ ๆ

     “...มองไม่เห็นแล้วนี่นา”


                  
    ใช่...ด้วยฝีมือของเขาเอง


                  
    สำหรับมารร้ายอย่างเขา หายาพิษที่มีผลให้ตาบอดไม่ใช่เรื่องยากอะไรเท่าไหร่ ทว่า จะโทษกันฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ ต้องโทษตัวเองนั่นแหละที่ยังคงเชื่อใจเขาอยู่ ทั้งที่เขาหักหลังอีกฝ่ายไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ตาม


                  
    “อึ๊ อื้อ
    !” ทาคาสึกิก้มลงกัดซอกคอขาวซ้ำรอยช้ำเดิม คาซึระที่นั่งนิ่งขัดขืนเป็นครั้งแรก พยายามขืนตัวออก แต่แรงเพียงแค่น้อยนิดนี่ไม่สามารถปัดมารร้ายตนนี้ออกได้หรอก กลับทำให้โดนรัดเข้าหามากขึ้น อึดอัดจนอยากผลักทิ้งไปให้พ้นๆ ทว่า ผลก็เหมือนเดิม... ขัดขืนไม่ได้เหมือนเดิม


                  
    “เพี้ยะ”


                  
    การกระทำจากอารมณ์เพียงชั่วครู่ทำเอาคาซึระถึงกับเหวอ มือที่เผลอตบไปกับใบหน้าคมบีบเข้าหากันด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย แม้มองไม่เห็นก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงโกรธแน่ ๆ ลางสังหรณ์น้อย ๆในใจของคนตัวเล็กสัมผัสได้ถึงลางมรณะ ก่อนร้องลั่นเมื่อโดนกดลงกับเตียงในสภาพบีบคอ กึ่ง ๆ จะทำให้ขาดอากาศหายใจจนต้องสำลัก กระนั้น คนที่กำลังโกรธอยู่ก็ไม่ปล่อยมือซะที น้ำเสียงที่ใช้พูด จากเยาะเย้ย หยอกเย้า เปลี่ยนเป็นเย็นชาจนน่าใจหาย


                  
    “ทำตัวไม่น่ารัก ระวังไม่ตายดีนะ” บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือก สมองของคาซึระเริ่มขาดอากาศเข้าไปหล่อเลี้ยงอย่างช้า ๆ ขณะที่กำลังคิดว่าอาจจะตายก็ได้ ปากก็เผลอเอ่ยชื่อของคนๆหนึ่งออกมา...ที่ยิ่งทำให้แรงบีบพุ่งสูงขึ้นจนเกือบไม่รอด


                  
    “กิน... กินโทกิ”


                  
    โชคดีที่หลังจากนั้นทาคาสึกิก็ได้สติ ปล่อยมือออกก่อน
    เหยื่อจะขาดใจตาย ร่างบางถึงกับไอตัวโยน หอบเอาอากาศเข้าไปให้มากที่สุด ก่อนจะเหวออีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาแหวกเสื้อ เผยให้เห็นหน้าอกไปกว่าครึ่ง ก้มลงมาตีตราเป็นเจ้าของซ้ำ ๆ ไปเรื่อย จนพอใจ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูด ไม่สิ สั่ง เขาต่อ


                  
    “มาตกลงกันนะ” ขึ้นต้นประโยคด้วยคำพูดดี ๆ ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ “ตอนกลางวัน ฉันจะปล่อยให้นายเป็นอิสระ” คาซึระทำหน้าแบบไม่เชื่อหูสุดๆ ขณะเขาเริ่มพูดต่อ


                  
    “จะไปร่านกับใครที่ไหนก็ได้ ถือซะว่า เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีข้อผูกมัดอะไรทั้งนั้นระหว่างเรา”


                  
    ฟังดูเป็นข้อเสนอที่ดี แต่อย่างทาคาสึกินั่นน่ะเหรอจะยอมให้เป็นแบบนี้ อย่างหมอนั่นนะเหรอจะยอมให้เหยื่อของตัวเองหลุดไปง่าย ๆ


                  
    ระแวงอยู่ได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ยืนแขนยาวๆออกมาโอบรอบเอวอย่างอบอุ่น ลูบเส้นผมดำยาวเล่นพร้อมสูดกลิ่นของมันไปด้วย... ก่อนการโอบ จะเปลี่ยนเป็นการกอดแน่นแบบที่เรียกว่า รัด ผลักลงเตียงแล้วกระชากหัว ต่อด้วยจูบ...แบบไม่อ่อนโยนสักนิด รู้สึกอึดอัดจนอยากผลักทิ้งไปให้พ้น ๆ ซึ่งแน่นอนว่าแรงน้อยย่อมแพ้แรงมาก ยิ่งเป็นการหาเรื่องเจ็บตัวเพิ่มซะมากกว่า


                  
    เวลาชั่วครู่เหมือนผ่านไปเนิ่นนาน มือเรียวเล็กกำกิโมโนสีม่วงแน่นเหมือนเป็นหลักยึด ลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาควานหาความหวานในปากเหมือนจะดูดวิญญาณไปซะหมด ก่อนทาคาสึกิจะยอมหยุดและถอนริมฝีปากออก พร้อมเอ่ยประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์กึ่งวิปริต


                  
    “แต่...ตอนกลางคืน นายจะมีแค่ฉัน” บีบกรามของอีกฝ่ายไว้ บังคับให้เงยหน้า

    “แค่ฉัน...เท่านั้น ปากของนาย...มีไว้แค่ครางกับเรียกชื่อฉันก็พอ” ตอกย้ำอีกครั้งโดยการสัมผัสเอว เลื่อนลงไปที่สะโพก ความรู้สึกแปลกๆวาบขึ้นมาทั่วตัวจนคาซึระเกร็งพร้อมโอบรอบคอคนเบื้องบนไว้ ความสัมพันธ์ทางร่างกายดำเนินต่อไปเรื่อยๆ... ทั้งคืน โดยไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยน หรือคำบอกรักเลยสักคำ น้ำตารินไหลจากดวงตาที่ไม่สามารถเห็นโลก เพียงแค่ระบายความรู้สึกลึกๆในใจออกมา

    ได้โปรด ใครก็ได้ พาฉันออกไปจากนรกที่ชื่อว่าทาคาสึกินี่ที...

     

    ทาคาสึกิเหลือบมองนาฬิกาที่ผนัง บอกว่าถึงเวลาเช้าแล้ว เหลือบมองคนบนเตียงที่หลับสนิทด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก ก่อนจะเอื้อมไปปัดผมที่ปรกหน้า เผยให้เห็นน้ำตาซึมไปกับผ้าพันแผลนั้น ริมฝีปากกัดเข้าหากันน้อยๆอย่างเจ็บปวด รอยช้ำทั่วตัวไม่ได้ทำให้ร่างกายนี้ดูน่ารังเกียจหรือน่าขยะแขยง สำหรับเขา มันยิ่งเหมือนการยั่วยวน ชวนให้ตีตราซ้ำลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า อดหวงไม่ได้ที่จากนี้จะต้องปล่อยอีกฝ่ายไปแล้วค่อยกลับมาพบกันใหม่ในยามกลางคืน ไม่รู้ว่าระหว่างวันจะมีใครที่ไหนมาแย่งคนๆนี้ไปรึเปล่า

    ทว่า...เมื่อคิดดีๆอีกที ก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไง คาซึระก็หนีเขาไม่ได้อยู่แล้ว แม้ตอนกลางวันเขาจะไม่สะดวกในการเข้าหาหรือเข้ามาคุมอย่างคนเป็นเจ้าของ แต่...เพียงแค่ตอนกลางคืน ร่างกายนี้จะเป็นเพียงแค่ของๆเขา แค่คนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องการโดนลักพาตัวหรืออะไร เพราะคงไม่มีใครอยากดูแลคนที่ตาบอดอย่างนี้ไปตลอดอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ

    ขนาดเขาที่จัดได้ว่าเป็นคนค่อนข้างใกล้ชิดเองยังไม่คิดจะดูแลหรือโอ๋โลมอะไรเลย ชายอื่นที่หลงเพียงเปลือกนอกของอีกฝ่ายคงไม่ต้องพูดถึง...

    หรือ...บางทีคงลืมไปอีกคนนึง

    “...ซากาตะ กินโทกิ”

    ถ้ามีใครจะแย่งเหยื่อของเขาไปได้ก็ต้องเป็นคน ๆ นี้นี่แหละ!

     


    นาฬิกาเรือนน้อยที่หัวเตียงส่งเสียงร้องปลุก เสียงเดิมที่คุ้นเคย ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้หลังจากตบหัวมันไปเรียบร้อย คาซึระก็อยากจะหยิบมันขึ้นมาดูเวลาสักหน่อย ทว่า แม้เปิดตาให้กว้างที่สุด ก็ไม่สามารถเห็นอะไรได้ นอกจากความมืดมิด และใบหน้าของคนๆหนึ่งที่ฝังอยู่ด้านหลังเปลือกตา

    นั่นสินะ เจ้าบ้าทาคาสึกิจูบเขาพร้อมเอายาอะไรไม่รู้ใส่ปาก ทำให้เขาหลับไปมากกว่าครึ่งวัน เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็มองอะไรไม่เห็นอีก มีเพียงเสียงของอีกฝ่ายที่กระซิบพูดกับเขา พร้อมมือที่สัมผัสไปรอบตัวเท่านั้นที่ทำให้เขาเชื่อว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียว...บนโลกที่มีแค่สีดำ

    หลังจากนั้นหมอนั่นก็จากไปหน้าตาเฉยหลังทรมานเขามาทั้งคืน ไม่สนใจจะดูแลหรือแสดงความเป็นห่วงอะไรอื่นสักนิด...ทั้งที่รู้แบบนั้นแท้ ๆ เขาก็ยังหวังอยู่ลึกๆว่าอีกฝ่ายจะหันกลับมา ให้ความสนใจ ทำเหมือนเขามีค่าบางสักนิดแม้ความจริงเป็นแค่คนที่ทำอะไรไม่ได้เมื่อเสียดวงตาของตัวเองไป

    พอโดนทิ้งก็ร้องไห้อยู่คนเดียวจนหลับ หลับเสร็จก็ตื่น แล้วก็ร้องไห้ใหม่ ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนไม่มีวันจบ

    ผ้าพันแผลซึ่งควรจะแห้งและสะอาด บัดนี้เปียกชื้นด้วยรอยน้ำตา อากาศที่หายใจเข้าไปเหมือนเริ่มหนัก เข้าไปไม่ถึงปอดสักที เช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นช้าลง พร้อมปวดหนึบ...อย่างทุกครั้งที่อีกฝ่ายทิ้งกัน

    คาซึระไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรต่อ ควรใช้ชีวิตอยู่อย่างไร โลกทั้งใบดูมืดมน เหมือนเดินไปทางไหนก็ไม่มีทางออก ไม่มีใครให้จับมือแล้วพาเดินไปไหนมาไหน เพียงแค่อยู่คนเดียว เงียบ ๆ กับความวังเวงและความเหงาที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดอย่างทุกที

    แม้แต่อลิซาเบธยังไม่มาตามหาเลยคิดดูสิ

    ปึก!

    ประตูห้องแบบบานเลื่อนถูกเปิดออกอย่างไม่ระวัง สะท้อนนิสัยผู้กระทำ ชายหนุ่มหัวหยักศกสีขาวเดินเข้ามาในห้องนอนของคาซึระโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อันที่จริง ก็อยากจะเหลือบไปมองอยู่หรอกนะ แต่ดวงตานี่มันมองไม่เห็นอะไรแล้วสิ เดี๋ยวกินโทกิต้องโวยวายที่เขาทำเมินแน่ ๆ เลย

    “นาย...ไปทำอะไรมา”

    ผิดคาด เสียงพูดกับเขาที่ปกติจะเป็นเสียงง่วงนอน คราวนี้กลับเป็นเสียงเย็นชา ขณะเจ้าตัวเดินเข้ามาทรุดลงข้างเตียง เอามือจับหน้าเขาให้หันมา ไม่ต้องมองก็รู้ว่าตาสีแดงคู่นั้นจะต้องน่ากลัวมากแน่ ๆ อย่างที่ทำใส่เขาเมื่อไปหาเรื่องใส่ตัวเสมอ ๆ

    “...ไม่มีอะไร”กระนั้นก็ยังคงหาเรื่องปากแข็งปฏิเสธไปทั้งที่หลักฐานแปะอยู่บนหน้าทนโท่ ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แล้วนิ้วเรียวก็ค่อยๆลากผ่านผ้าพันแผล รอบบริเวณที่เป็นดวงตา สีหน้าตอนนี้คงเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย เพราะประโยคต่อไปของเขาคือ “เจ็บมากมั้ย”

    คาซึระไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนี รู้สึกอึดอัดขึ้นมา เหมือนเป็นการประชด ที่คนทำกลับไม่สำนึก ไม่สนใจกันเลยด้วยซ้ำ ทว่า คนไม่ได้ทำกลับเป็นฝ่ายเป็นห่วง ใส่ใจกันอยู่เสมอ ถึงจะทำเป็นเมินหรืออะไรก็ตาม สุดท้ายก็จะกลับมาอยู่ข้างๆ ทำทุกอย่างตามความเอาแต่ใจของเขา แม้ปากก็บ่นเอา ๆ บอกว่าไม่สนใจก็ตาม

    “ทาคาสึกิ...อีกแล้วสินะ”

    ไม่ว่าเมื่อไหร่หมอนี่ก็รู้จักเขาดีที่สุดจริง ๆ

    “อย่าร้องไห้...ยิ่งร้องไห้หมอนั่นจะยิ่งได้ใจ เข้มแข็งเข้าไว้สิ”

    ทั้งที่อ่อนโยนมากกว่าแท้ ๆ แต่กลับไม่รัก...

    “ตัดใจจากมันซะ เศษสวะอย่างมันรักใครไม่เป็นหรอก อย่าเปลืองตัวไปให้มันเลย”

    ข้อความซ้ำ ๆพวกนี้ เขาก็รู้ดี ทว่า...ก็ทำไม่ได้

    มือของอีกฝ่ายลูบหัวเขาเบา ๆ ผ่านเส้นผมที่เมื่อคืนคนที่ทำร้ายกันเป็นคนสางให้ ราวกับเป็นการประชด

    แม้รู้ดีอีกเช่นกันว่าคนตรงหน้ารู้สึกอย่างไรกับตน กระนั้น กลับเลือกที่จะแกล้งโง่ หลงอยู่ในที่เดิม ๆ ไม่ยอมหลุดออกมาเสียที

    เพราะฉะนั้น...

    กินโทกิ

    ได้โปรดมอบความกล้าให้ฉัน ให้ตัดใจจากอดีตที่ไม่มีทางสมหวัง ให้กลับมามีความสุขกับปัจจุบันซะที

    เพราะถ้าเป็นนาย...

    อย่างนายต้องทำได้แน่ๆ แม้ต้องใช้เวลานานเท่าไรก็ตาม
    _____________________________________________________________________________________________________

    ดราม่า...อีกแล้ว
    เป็นแนวที่เขียนลื่นที่สุดแล้วล่ะมั้ง
    มาลุ้นกันเร็ว ใครจะเป็นพระเอก
    เห็นตอนลงที่บอร์ด...มีแต่คนเชียร์คุณกินแฮะ
    ทากะเอ๊ย...อาจต้องเตรียมตัวโดนปลด 55+

    เมนท์ติชมได้เต็มที่ค่ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×