คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #55 : บทที่ 12 (2)
“ที่นี่ที่ทำงานนะคะ”
รัตน์วลีหันไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่เข้ามาทางด้านหลัง
เมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของเขาเธอถอยกรูดหนีร่างสูงที่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้
แต่ด้านหลังเธอเป็นโต๊ะทำงานของเขา พอสะโพกของเธอชนเข้ากับโต๊ะทำงาน
ร่างสูงก็พุ่งเข้ามาปะชิดกักเธอไว้ด้วยการเท้ามือลงบนโต๊ะทำงานคร่อมร่างของเธอไว้
“ที่ทำงาน
ตื่นเต้นดีออก” เอริคว่าพลางสะบัดสูทออกจากตัวแล้วโยนลงพื้น ก่อนจะกลับมาปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออก
ตอนแรกเขาตั้งใจจะแค่จูบเธอเฉยๆ แต่พอเห็นคนที่คิดไปไกลกว่าหน้าแดงด้วยความอับอาย
และคิดตามเธอ ใจมันก็เริ่มคึกคักขึ้น และยิ่งได้กักเธอไว้แบบนี้ ได้กลิ่นหอมๆ
จากร่างอรชร ส่วนกลางกายก็ชูชันขึ้นจนกางเกงตุงขึ้นมา
“เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็นค่ะ”
“ถ้าฉันไม่อนุญาตก็ไม่มีใครเข้ามาหรอก”
“พี่เอริค
รัตน์โกรธจริงๆ นะคะ”
“งั้นแค่จูบก็ได้”
ไม่ได้รอให้เธอได้ตอบ
มือหนาก็เข้าประคองท้ายทอย พร้อมกับริมฝีปากที่เริ่มเธอเริ่มคุ้นชินก็แนบลงมา
เขากดเม้มริมฝีปากของเธอซ้ำๆ
ก่อนจะไล้ปลายลิ้นร้อนชื้นไปตามกลีบปากนุ่มแล้วเบียดแทรกเข้ามาควานหาอะไรที่หวานยิ่งกว่า
ปลายลิ้นชื้นที่มีรสชาติกาแฟพันเกี่ยวไปกับลิ้นของเธอ ชั้นเชิงช่ำชองชวนให้หลงใหลทำให้เธอเผลอไผลตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อน
“พี่เอริค รัตน์ให้แค่จูบ”
ริมฝีปากหยักได้รูปเลื่อนไปที่แก้มแดงจัด ก่อนจะไล้ลงไปตามลำคอขาวเนียนอย่างเสน่หา
ทำให้เธอต้องรีบห้ามเขา
“อย่างอื่นด้วยไม่เหรอ”
“ไม่ได้ค่ะ
เดี๋ยวคนอื่นเห็น” รัตน์วลีห่อไหล่หนีปลายลิ้นร้อนชื้นที่ลากไล้อยู่ตรงซอกคอก่อนจะขบเม้มจนขนทั่วกายลุกซู่
“ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก”
เสียงทุ้มงึมงำแทบไม่เป็นคำพูดเมื่อริมฝีปากยังไม่ละจากผิวกายเนียนนุ่ม
และหอมหวนจนเขาเริ่มขาดความยับยั้งชั่งใจขึ้นทุกที
ยิ่งรับรู้ได้ถึงร่างอรชรที่สั่นระริกเขาก็ยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่
“มะ...ไม่เอาค่ะ”
มือหนาเลื่อนลงปลดดุมเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวออกโดยไม่สนใจเสียงห้ามปรามเบาหวิวและสั่นพร่า
“เอาเถอะ
พี่อยากเอา”
ความร้อนจัดแล่นปราดไปตามกระแสเลือดกับคำพูดที่สื่อความหมายชัดเจน
แต่ไม่หยาบโลนของเขา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอด้อยประสบการณ์
หรือเขาเชี่ยวชาญจนเกินไปกันแน่จึงทำให้เธอไม่รู้ตัวว่าเสื้อของตนถูกปลดกระดุมออกจนหมดตอนไหน
จนกระทั่งมือหนาข้างหนึ่งเลื่อนไปปลดตะขอชั้นในของนั่นแหละเธอจึงได้รู้ตัว
“พี่เอริคหยุดเถอะ”
หญิงสาวยกมันดันไหล่เขาแล้วรีบร้องออกมา
“ไม่”
เสียงทุ้มพร่า
ทว่าหนักแน่นเอ่ยออกมา มือหนาเลื่อนขึ้นกอบกุมความเต่งตึงใต้ปราการลูกไม้สีขาวที่ถูกปลดตะขอออกโดยไม่สนใจแรงน้อยนิดที่เธอใช้ผลักไส
ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้หนีบยอดอกสีเรื่อเอาไว้บีบขยี้จนมันเริ่มแข็งชูชัน
“เดี๋ยว...คะ...คนเข้ามาเห็นนะคะ”
“ถ้าพี่ไม่อนุญาตไม่มีใครกล้าเปิดประตูเข้ามาหรอก”
เอริคย้ำประโยคเดิมที่เคยบอกเธอไปแล้วพลางยกร่างเล็กขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ
ดันตัวเองเข้าไปยืนกั้นกลางระหว่างขาเรียวทั้งสองข้าง แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
“อีกอย่างเราใช้เวลากันไม่นานหรอก” ก่อนจะดึงชั้นในสีขาวขึ้นแล้วเข้าครอบครองยอดทรวงของเธอด้วยริมฝีปาก
‘พี่’
เมื่อกี้เขาแทนตัวเองว่าพี่งั้นเหรอ
สรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปทำให้อาการต่อต้านของเธอหยุดลง
และความพยายามในการรั้งสติของตัวเองไว้ก็สลายไปทันควัน
จากเรื่องราวตลอดชีวิตที่ผ่านมา
เธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอดำเนินมาจนถึงจุดนี้ได้ยังไง
และถึงเธอจะไม่เสียใจกับสิ่งที่มอบให้เขา
และมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้
แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ขยับไปไหนเลย ก็ทำให้เธอหวั่นใจมากขึ้นทุกวัน... ทุกวัน
แต่คำว่าพี่ที่เพิ่งหลุดออกมาจากริมฝีปากของเขาครั้งแรก
มันก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนความสัมพันธ์ที่อึมครึมระหว่างเธอกับเขามันชัดเจนขึ้นมาอีกนิด
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น
แล้วขยุ้มเสื้อเชิ้ตเขาไว้เพื่อระบายความเสียวซ่านที่ทำให้ช่องท้องหดเกร็ง
และกัดริมฝีปากตัวเองกลั้นเสียงร้องน่าอายเอาไว้เมื่อปลายลิ้นร้อนขยับปัดป่ายขึ้นลงหนักหน่วง
“อื้อออ” แต่มือหนาที่สอดเข้าใต้กระโปรงไต่คลำไปที่ขอบชั้นใน
เลื่อนเข้ามา คลึงส่วนที่อ่อนไหวที่ชื้นฉ่ำตามแรงอารมณ์ด้วยปลายนิ้วก็ทำให้เธอต้องปล่อยเสียงครางที่กลั้นไว้ออกมา
ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มไปหมด กล้ามเนื้อลึกลับเต้นตุบจนปวดร้าว
เรียกร้องหาอะไรที่ร้อนฉ่ามากกว่าที่กำลังเป็นอยู่...
ความคิดเห็น