คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : บทที่ 10 (1)
อาการปวดตุบๆ ที่ศีรษะ กับอาการเมื่อยขบไปทั่วปลุกเอริคให้ลืมตาขึ้นและพบว่าแสงของเช้าวันใหม่เข้าครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าแล้ว
ทั้งๆ ที่คาดไว้ว่าฝนคงตกไม่นานทว่าเมื่อคืนสายฝนด้านนอกกลับเทลงมาต่อเนื่องราวกับจะไม่มีวันหยุดและกว่ามันจะหยุดตกเขาก็เผลอหลับไปก่อนแล้ว
ชายหนุ่มยกมือขึ้นนวดขมับ ทว่า...
อื้อออ
เสียงครางแผ่วอย่างรำคาญเต็มแก่เพราะการขยับกายเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก หญิงสาวขยับศีรษะที่ซบกับไหล่ของเขาเพื่อหาตำแหน่งที่สบายที่สุด
หลายครั้งที่เธอทำให้เขาเสียความเป็นตัวของตัวเอง หลายครั้งที่เธอทำให้เขาไขว้เขว และอีกหลายหนที่เธอทำให้ หัวใจของเขาเป็นอะไรไปไม่รู้ มันเต้นด้วยจังหวะแปลกไปอย่างที่เขาไม่อาจหาเหตุผลได้
“ถ้ากลัวว่าจะป่วย ก็ทำให้สิ” ไม่แปลกที่ตอนนั้นนัยน์ตากลมโตที่กระพริบมองเขาจะเต็มไปด้วยแววแปลกใจแบบนั้น แม้แต่เขาเองยังอดตกใจกับคำพูดที่หลุดออกไปไม่ได้เลย
“มานั่งตรงนี้สิคะ” และคำตอบของเธอก็ทำให้หัวใจดวงแกร่งหวั่นไหวได้อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใคร เพราะคำๆ นั้นของเธอมันไม่สามารถแปลเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจากเธอ ‘เป็นห่วง’ ตอนนั้นเขาพยายามไม่คิดเองเออเอง พยายามปัดมันทิ้งไป พยายามไม่สนใจ ทว่านาทีต่อมาร่างกายก็ขยับ ทำในสิ่งที่ขัดกับสมอง
ปลายนิ้วเรียวที่สอดเข้ามาในกลุ่มผมอย่างแผ่วเบา สร้างความรู้สึกบางอย่างให้ก่อตัวขึ้นจนเขารู้สึกพิศวง และทันทีที่มือเล็กผละห่างออกไปเพราะไฟที่ดับลงก็ทำให้เขาหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แต่มือข้างเดิมที่เอื้อมมายึดต้นแขนของเขาไว้ในวินาทีต่อมาเพราะความตกใจก็ทำให้ความหงุดหงิดนั้นหายวับไปทันควัน แต่เขาความหงุดหงิดก็กลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อมือนุ่มถูกดึงกลับไปหลังจากที่เธอตั้งสติได้
ใช่! เขาอยากให้เธอกลัว อยากให้เธอต้องพึ่งพาเขา
ติ๊ง!
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเพราะข้อความถูกส่งเข้ามาทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ เอริคหันไปมองโทรศัพท์ แล้วพอเห็นว่าเป็นข้อความจากวิลเลียม เขาก็เอื้อมมือไปหยิบมัน พยายามไม่ขยับตัวมากนัก พอส่งข้อความตอบกลับไป ว่าวันนี้จะเข้าบริษัทสาย เขาก็วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม
นัยน์ตาสีเทาล้ำลึกหลุบมองคนที่ใช้ไหล่ตนแทนหมอนอีกครั้ง ช่างใจว่าจะปลุกเธอ หรือจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ดี แต่ ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มที่เขาจำได้ดีว่าหวานและแสบสันเพียงใสยามโต้เถียงกับเขาที่เผยอออกน้อยๆ ก็ทำให้เขาเลือกไม่ได้ ไม่สิ ไม่อยากเลือกทำระหว่างสองข้อนั้น
ปลายนิ้วเรียวถูกยกขึ้นไล้ริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างไม่รู้ตัว เขารู้สึกว่าปลายนิ้วร้อนขึ้นมาทันควัน แรงปรารถนาเร่าร้อนพุ่งพรวดขึ้นมาจนสัดส่วนกลางกลายของเขาตื่นตัวอย่างไม่อาจควบคุม
แม่งเอ้ย!!! นี่เขากำลังแข็งตัวเพียงเพราะเอานิ้วแตะริมฝีปากผู้หญิงเนี่ยนะ
เขาไม่เคยอยากขย้ำใครมากเท่านี้มาก่อนเลย ยิ่งเมื่อนัยน์ตากลมโตใส่แจ๋วที่กระพริบลืมขึ้น มองตรงมาที่ดวงตาของเขานิ่ง และไม่ได้หลบ ไม่ได้ผลักไส หรือโวยวาย ก็ยิ่งทำให้เขาหยุดตัวเองไม่ได้
ร่างหนาที่พลิกตัวพร้อมกับดันร่างของเธอให้นอนราบลงไปบนโซฟาทำให้รัตน์วลีตระหนก ทว่าเธอกลับไม่มีความรู้สึกรังเกียจ หรืออยากผลักเขาให้ถอยห่างออกไป เธอจ้องสบกับดวงตาสีเทาทรงพลังที่ครั้งนี้ไม่ได้เฉยชาอย่างเช่นที่ผ่านมาอย่างละสายตาไม่ได้ ราวกับดวงตาคู่นั้นมีแรงดึงดูดมหาศาล หัวใจของเธอเต้นโครมครามอยู่ในอกสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย ลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ
ใบหน้าที่ล้อมกรอบด้วยตอเคราหนาครึมเคลื่อนเข้ามาใกล้ ระยะห่างที่ลดลง ทำให้ลมหายใจแผ่วร้อนเป่ารดใบหน้าของเธอ หัวใจดวงเล็กที่เต้นถี่แรงอยู่แล้วเต้นระรัวขึ้นอีกเมื่อสัมผัสนุ่มและชื้นแตะลงบนกลีบปากอย่างแผ่วเบา
ชายหนุ่มขยับริมฝีปากบดเคล้าเรียวปากสีเรื่อ ขบเม้มริมฝีปากล่างซ้ำๆ จนมันบวมช้ำ ก่อนจะเบี่ยงองศาเพื่อให้ริมฝีปากของเขากับเธอแนบชิดกันยิ่งขึ้น แล้วเริ่มไล้ปลายลิ้นแตะเรียวปากฉ่ำชื้นของเธอให้เผยอขึ้นเปิดทาง ก่อนจะแทรกเข้าไปควานหารสหอมหวานที่เพิ่งรู้ว่าโหยหาเพียงใด
ฝ่ามือร้อนระอุที่ลากไปทั่วโดยมีผ้าฝ้ายกั้นทำให้รัตน์วลีเกร็งตัวขึ้น กระแสไฟฟ้าแล่นเปรี๊ยะไปทั่วร่างไหลลงไปรวมอยู่ที่จุดลึกลับ กระตุ้นให้เกิดแรงปรารถนาอันเร้าร้อน ริมฝีปากของเขากับเธอยังประกบแนบชิด ลิ้นของเขาตวัดเกี่ยวดันลิ้นของเธอ เรียกร้องแกมสอนให้เธอเริ่มตอบสนองเขา แล้วพอเธอดันลิ้นตอบเขาก็ดูดดึงมันอย่างกระหาย
ส่วนล่างของเธอกับเขาแนบสนิทชิดกันจนรับรู้ได้ถึงความร้อนจัดที่เหยียดขยายตามแรงราคาที่โหมกระพือโดยที่ผ้าฝ้ายที่เป็นปราการขวางกั้นไม่มีประโยชน์อันใดเลย หญิงสาวใจเต้นระรัวเมื่อความร้อนฉ่าถูกบดเบียดกับกับสะโพก
เธอรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอกลับไม่ได้ต่อต้านเขาเหมือนครั้งก่อน...
_____________________
มาต่อให้แล้วจ้า
ความคิดเห็น