คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 6 (1)
โรลส์รอยซ์คันหรูวิ่งฝ่าการจราจรที่คับคั่งแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วนผ่านตึกสูงต่ำด้วยความเร็วสม่ำเสมอ แสงแดดยามสายจัดจ้าขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่เคลื่อนผ่านไป
รัตน์วลีรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อคนข้างกายไม่ได้ได้พูด หรือมีท่าทีอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน บางทีคงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันคงไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย แต่กับเธอ คงอีกนานกว่าเธอ...
ความคิดของรัตน์วลีสะดุดลงเมื่อรถที่ตนนั่งอยู่เงินเลี้ยวเข้าไปยังถนนที่ทอดตรงสู่ตึกสีขาวสะอาดอันเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลเอกชนที่ขึ้นชื่อว่าบริการดีเยี่ยม มีบุคลากรแพทย์ที่เก่ง แต่ต้องแลกมาด้วยค่ารักษาพยาบาลที่สูงตามไปด้วย
“รัตน์ต้องไปสัมภาษณ์งานก่อนค่ะ” รัตน์วลีละสายตาจากตึกสีขาวนอกหน้าต่างเพื่อหันไปมองคนข้างกายที่นั่งนิ่ง เงียบกริบมาตลอดทาง ราวกับเป็นรูปปั้นที่ขยับได้แค่แขนและขาก่อนจะพูดขึ้น
“การสัมภาษณ์ถูกเลื่อนไปเป็นบ่ายโมง ตอนนี้ไปหาหมอซะ”
“พี่รู้ได้ยังไง” รัตน์วลีไม่ได้สนใจถ้อยคำสุดท้ายของเขา แต่เลือกที่จะถามถึงประโยคแรกที่เขาพูด
“เพราะฉันจะเป็นคนสั่งให้เลื่อนเอง”
“พี่ไม่ใช่เจ้าของบริษัทเสียหน่อย จะทำอย่างนั้นได้ยังไง”
‘จะ’ ก็แสดงว่ายังไม่ได้สั่งให้เลื่อนใช่ไหม
“แต่ใครๆ ก็อยากทำให้เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์พอใจ โดยเฉพาะถ้าคนคนนั้นเป็นเจ้าของบริษัท ออกแบบ และรับเหมาก่อสร้าง ที่อยากร่วมงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่”
“พี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร” รัตน์วลีขึ้นเสียงอย่างหมดความอด
เธอเดาความคิดของเขาไม่ออกเลยสักนิด ถ้าจะคิดว่าเขาแค่แกล้ง ไม่อยากให้เธอได้งาน ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเขาน่าจะบอกว่าจะสั่งให้ทางบริษัทโทรมายกเลิกการสัมภาษณ์ไม่ใช่เลื่อนเวลาออกไปมากกว่า จะบอกว่าเขาห่วงเธอ ก็คงเป็นไม่ได้ ยังไงก็ไม่ใช่แน่นอน
เธอพยายามมองเข้าไปในนัยน์ตาสีเทาล้ำลึก แต่ก็เป็นแบบที่เป็นตลอดมา เธอไม่เคยได้รู้อะไรเลยสักนิดจากการมองสบตากับเขา
“ลงไปซะ”
ไม่ต้องรอคำสั่งห้วนกระด้างนั่นออกมาจากปากของเขา เธอก็ไม่คิดจะอยู่บนรถคันนี้ต่ออีกวินาทีเดียว หญิงสาวหันไปผลักประตูให้เปิดออก และทันทีที่ออกมาอยู่นอกรถ มือเล็กผลักประตูให้กระแทกปิดอย่างไม่เกรงกลัวว่าแรงของตัวเองจะทำให้ประตูรถราคาแพงจะหลุดลงมา แวบหนึ่งเธอเห็นนัยน์ตาคมเข้มส่งสายตาไม่พอใจมาให้ แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หญิงสาวหมุนตัวเดินห่างออกจากโรลส์รอยซ์คันหรูทันที ทว่าเธอไม่ได้เดินเข้าไปในตึกสีขาวอย่างที่คนมาส่งต้องการ แต่กลับเดินออกไปตามทางเดินที่ตรงออกไปยังถนนหลักเพื่อเรียกแท็กซี่
แต่ยังเดินได้ไม่ถึงสิบเมตร รถคันหรูที่เธอเพิ่งลงมาก็เข้ามาปาดหน้าในระยะประชันชิดจนคนที่กำลังจ้ำอ้าวแทบเบรคไม่ทัน ยิ่งเขาทำแบบนี้เธอก็ยิ่งแน่ใจว่าเขาคิดจะแกล้งให้เธอไปสัมภาษณ์ไม่ทัน
ใบหน้าหวานจับจ้องใบหน้าคนขับที่ก้าวลงมาจากรถด้วยแววตาวาวโรจน์ ทว่าเธอกลับพบว่าคนที่ลงมาจากรถก็มีอาการเช่นเดียวกัน
“ฉันบอกให้ไปพบหมอ” นัยน์ตาสีเทาล้ำลึกเปล่งประกายวาบ คนที่เคยควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เป็นอย่างดีในทุกๆ สถานการณ์เสียการควบคุมไปชั่วขณะ กระชากเสียงห้วนใส่ร่างบางอย่างลืมตัว
“รัตน์จะไปสัมภาษณ์งาน”
“ก็บอกแล้วไงว่าการสัมภาษณ์จะถูกเลื่อนเป็นบ่ายโมง”
“พี่ทำแบบนี้ทำไม ถ้ารัตน์ได้งานทำ รัตน์จะได้ไม่ต้องใช้เงินของคุณลุงอีก พี่ก็ต้องการแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” ใช่เธอเข้าใจว่าเขาจะทำให้เธอไปสัมภาษณ์งานไม่ทัน การจะสั่งให้ยกเลิกการสัมภาษณ์งานของเธอเลย มันคงดูเหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็กเกินไป
ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่...
“นี่เธอคิดว่าฉันแกล้งเธองั้นเหรอ”
“แล้วพี่จะให้รัตน์คิดว่าที่พี่ทำอย่างนี้เพราะเป็นห่วงงั้นเหรอ เมื่อคืนรัตน์ได้ยินเต็มสองหู จำมันได้ขึ้นใจ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะรัตน์ไม่มีทางฝันแบบนั้นหรอก”
“ก็ดีแล้วที่เธอไม่คิดอย่างนั้น แล้วจริงอย่างที่เธอพูด หากเธอได้งานทำ มีเงินเดือนเป็นของตัวเอง เธอก็จะไม่เป็นภาระของพ่อฉัน แต่ถ้าเกิดเธอพิการขึ้นมา เธอก็คงต้องเป็นภาระพ่อฉันไปตลอดชีวิต ที่ได้ๆ มาก็มากเกินไปแล้วมั้งที่คนอย่างเธอกับน้าของเธอควรจะได้ หัดรู้จักคำว่าพอเสียบ้าง”
“รัตน์แค่ข้อมือเคล็ด ไม่ได้พิการ”
“เธอรู้ได้ยังไง”
“แล้วพี่รู้ได้ยังไงล่ะ”
“ฉันเป็นผู้ชาย” ความรุนแรงและการบาดเจ็บเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่อชอบกีฬาและความท้าทายอย่างเขา เมื่อก่อนเขาใช่ย่อยเมื่อไร เรื่องชกต่อยได้แผลนี่แทบวันเว้นวันด้วยซ้ำ ยังไม่รวมกีฬาผาดโผน เสี่ยงตายทุกชนิดที่เขาลองเล่น ประสบการณ์พวกนั้นทำให้แค่เห็นก็รู้ว่ามันไม่ใช่แค่ข้อมือเคล็ดธรรมดาๆ แน่ๆ
แต่เรื่องยอกย้อนกวนโมโห รัตน์วลีก็ที่หนึ่งเช่นกัน...
**********************
ความคิดเห็น