ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 5 (3)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.24K
      37
      4 ส.ค. 64

    “ไหนคุณน้าบอกว่า แค่ปวดหัวยังไงล่ะครับ ตกบันไดกับปวดหัวนี่มันต่างกันมากเลยนะครับ”

    “รัตน์ไม่อยากให้น้ากานต์เป็นห่วงก็เลยโกหกน่ะคะ” แม้จะโต้เถียงกลับไปอย่างทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอกลับเชิดหน้าขึ้น จ้องเขากลับอย่างไม่หวั่นเกรงเหมือนที่เคยทำไม่ได้

    “แล้วเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า” โรเจอร์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใยและเอ็นดู

    “ไม่มีค่ะ ส่วนข้อมือนี่อีกสองสามวันก็หายแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ” รัตน์วลีตอบพลางคลี่ยิ้มบางๆ เพื่อให้การโกหกแนบเนียนขึ้น 

    เธอไม่ชอบการโกหกก็จริง แต่ถ้าการโกหกจะทำให้คนที่ห่วงใยเธอสบายใจ เธอก็ยอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบ 

    ซึ่งที่จริงแล้ว ส่วนที่รู้สึกปวดหนึบๆ ยังมีตรงสะโพกที่ได้รับแรงกระแทกเต็มๆ แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากเท่ากับข้อมือ แต่ที่ทำให้เธอเป็นกังวลคือรอยช้ำประปรายทั่วตัวต่างหาก แต่รอยพวกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแรงกระแทกจากการตกลงมาจากที่สูง แต่เป็นรอยช้ำจากการขยำบีบเคล้นตามแรงอารมณ์และรอยแดงจากการดูดเม้มของคนที่นั่งนิ่งไม่ได้มองมาทางเธอต่างหาก โชคดีที่รอยพวกนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ซ่อนไว้ในร่มผ้าได้ ไม่งั้นเธอก็คงต้องเสียเวลาในการใช้รองพื้นซ่อนมันไว้จากสายตาคนอื่นนานทีเดียว 

    “งั้นก็ดีแล้ว กินข้าวเถอะ”

    “ค่ะ” รัตน์วลีตอบรับพลางส่งยิ้มให้กับโรเจอร์ แล้วเริ่มลงมือกินข้าวทันทีเพราะอยากให้ทุกคนเลิกสนใจข้อมือของตน แต่ความรู้สึกปวดแปลบตรงมือข้างขวาที่ยกขึ้นมาจับช้อนตามความเคยชินก็ทำให้เธอต้องชะงักแล้วเปลี่ยนไปใช้มือซ้ายแทน ทว่ามือข้างที่ไม่ถนัดก็ทำให้มื้อเช้าเป็นไปอย่างทุลักทุเล      

    “แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก” เสียงดุๆ ดังขึ้นอีก กานต์สินีมองหลานสาวอย่างจับผิด

    “ไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ ค่ะน้ากานต์ อย่าห่วงเลย กินข้าวเถอะค่ะ สายแล้วเดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะนะคะ”

    “ส่งมือมาน้าขอดูหน่อย”                                          

    ทั้งๆ ที่รัตน์วลีร่ายยาวพยายามดึงความสนใจของผู้เป็นน้าไปที่อย่างอื่น แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตกหลุมพราง

    “ไม่ต้องดูหรอกค่ะ รัตน์ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ”

    “ส่งมือมา”

    “รัตน์ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ นะคะน้ากานต์” รัตน์วลีพูดขึ้น ไม่ยอมส่งมือให้กับผู้เป็นน้าอย่างที่ถูกขู่ 

    “ลุงว่าไปให้หมอดูเถอะ ลุงกับน้าจะได้สบายใจ” ความอึมครึมที่เกิดขึ้นจากการไม่มีใครยอมใครทำให้โรเจอร์ต้องรีบพูดไกล่เกลี่ย

    “ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวรัตน์จะไปหาหมอ คุณลุงกับน้ากานต์กินข้าวเถอะนะคะ” รัตน์วลีตอบรับแต่โดยดี 

    “กานต์ว่าเรื่องที่เราจะไปเที่ยว ยกเลิกไปก่อนดีไหมคะ รัตน์เป็นแบบนี้กานต์เป็นห่วง”

    “ไม่ได้นะคะ อย่ายกเลิกเพราะรัตน์เลยค่ะ รัตน์ไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ เดี๋ยวสองสามวันก็คงหายแล้ว”

    “เป็นหมอหรือไงถึงได้วินิจฉัยอาการตัวเองได้”

    “งั้นถ้ารัตน์ไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก น้ากานต์ต้องไปเที่ยวกับคุณลุงตามแผนเดิมนะคะ”

    “...”

    “น้ากานต์คะ” รัตน์วลีส่งเสียงอ้อนเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับปาก

    “อืม ก็ได้”

    “รัตน์อิ่มแล้ว ขอตัวเลยนะคะ”

    “อ้าวก็ไปพร้อมพี่เขาสิ” โรเจอร์พูดกับรัตน์วลีก่อนจะหันไปพูดกับลูกชายที่นั่งตักข้าวต้มเข้าปากไม่สนใจใคร “ก่อนเข้าบริษัทก็แวะพาน้องไปโรงพยาบาลก่อนนะ เสียเวลาไม่มากหรอก”

    “วันนี้รัตน์คงยังไม่ได้เข้าไปบริษัทนะคะ พอดีวันนี้มีสัมภาษณ์งาน” รัตน์วลีพูดขึ้นก่อนที่คนที่เพิ่งเงยหน้าจากถ้วยข้าวต้มจะตอบอะไรออกมา

    “อ้าวลุงเห็นแต่งตัวเรียบร้อยเลยนึกว่าจะไปทำงานกับพี่เขาเสียอีก ว่าแต่บริษัทไหนล่ะ”

    “โรยอล เฮาส์ ดีไซน์ค่ะ”

    “บริษัทใหญ่ซะด้วย” โรเจอร์พูดขึ้น ก่อนจะหันไปถามลูกชาย “บริษัทนี้ก็เคยทำงานกับบริษัทเราใช่ไหมเอริค”

    “ครับ” ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปาก ก่อนจะตอบบิดาสั้นๆ 

    “ลุงอวยพรให้โชคดี ได้งานทำนะ”

    “ขอบคุณค่ะคุณลุง งั้นขอตัวไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะสาย”

    “เดี๋ยวลุงไปเอารถออกรอนะครับคุณรัตน์” พร้อมพงศ์พูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น

    “ไม่ต้องหรอกค่ะลุงพร้อม เดี๋ยวรัตน์ไปเองดีกว่า ลุงเพิ่งออกจากโรงพยาบาล วันนี้ก็พักอีกวันเถอะนะคะ”

    “โอ้ย ไม่เป็นไรหรอกครับ ลุงไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”

    “จริงของหนูรัตน์ นายก็พักเถอะวันนี้ ถ้าเป็นลมเป็นแล้งไป จะยิ่งไปกันใหญ่ ยังไงเอริคก็ต้องผ่านทางนั้นอยู่แล้วหนูรัตน์ก็ติดรถพี่เขาไปก็แล้วกันนะ แล้วตอนไปโรงพยาบาลก็แท็กซี่ล่ะ ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้า” 

    โรเจอร์ดักคออย่างรู้ทัน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ รัตน์วลีจะไม่ยอมใช้รถและคนขับรถที่บ้านหรือขึ้นแท็กซี่ เธอชอบขึ้นรถเมล์หรือไม่ก็รถไฟฟ้ามากกว่า รู้ว่ามันเร็วกว่า ประหยัดกว่า แต่มันก็ไม่สะดวกสบายเท่า

    “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรัตน์เรียกแท็กซี่เลยดีกว่า พี่เอริคยังกินข้าวไม่อิ่มเลย รัตน์ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”

    แกร็ก!

    เสียงช้อนกระทบจานที่ดังขึ้นเรียกสายตาสามคู่ให้หันไปมอง ทว่าคนที่ทำให้เกิดเสียงก็ยังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มด้วยท่าทางสบายๆ ไม่สนใจสายตาที่มองมา

    “ผมไปทำงานนะครับ” เอริคพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วสาวเท้าตรงไปยังทางออกทันที 

    “ไปสิ เดี๋ยวสายนะ” โรเจอร์พูดขึ้นอีก

    “ค่ะ” และนั่นก็ทำให้รัตน์วลีปฏิเสธไม่ได้

     

    แจ้งโปรฯ อีบุ๊กวันสุดท้าย… “ปรารถนารักจอมทมิฬ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×