ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เถื่อนรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 2 จนกว่าเราจะได้พบกันอีก (3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.52K
      42
      6 พ.ย. 64


    ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดสนิททุกสรรพสิ่งก็ถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัด บรรยากาศที่น่าอึดอัดทำให้รัดเกล้าขยับตัวไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี รัดเกล้ารู้สึกว่าอุณหภูมิในลิฟต์เพิ่มขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะเธอคิดไปเอง แต่ที่แน่ๆ คือเธออยากให้เหตุการณ์อันน่าอึดอัดนี้จบลงเสียที

    ขอโทษ แล้วก็ขอบคุณนะคะ

    เท่าไร?”

    รัดเกล้าขมวดคิ้วให้กับคำพูดที่พูดขึ้นแทบจะพร้อมกับคำว่า ขอโทษ และขอบคุณ ของเธอก่อนจะถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจ

    ขอโทษค่ะฉันไม่เข้าใจที่คุณถาม?”

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้หญิงเข้าหาผมด้วยวิธีนี้

    ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณหมายถึงเรื่องอะไร

    คุณต้องการเท่าไรแลกกับการนอนกับผม

    รัดเกล้าหน้าชากับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า เธอเม้มริมฝีปากแน่น เพื่อข่มอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองเอาไว้ แต่ถึงเธอจะรู้สึกโกรธเขาเพียงใด เธอก็รู้ดีว่าทั้งหมดจะโทษว่าเป็นความผิดของเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายจูบเขาก่อน ถึงแม้ว่านั่นจะเรียกว่าจูบจริงๆ ไม่ได้ก็ตาม

     ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณแม้แต่บาทเดียว แล้วก็ไม่ได้อยากนอนกับคุณด้วย รัดเกล้าพ่นลมหายใจออกเพื่อบรรเทาอารมณ์ที่ขุ่นมัวก่อนจะพูดออกมา พอพูดจบเธอก็มองเข้าไปในดวงตาสีน้ำเงินเพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูด แม้จะรู้สึกโกรธ แต่ความอายในสิ่งที่ตัวเองพูดก็มีมากไม่ต่างกัน

    สิ้นคำตอบของเธอภายในลิฟต์ทรงสีเหลี่ยมก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เป็นความเงียบที่แสนทรมานและน่าอึดอัดยิ่งกว่าเก่าหลายร้อยหลายพันเท่า

    คุณชื่ออะไรแม็กซิมัสลูบคางอย่างครุ่นคิด นัยน์ตาสีน้ำเงินมองร่างเล็กอย่างประเมิน ก่อนจะถามออกมาอีกครั้ง แต่เป็นคำถามที่ต่างออกไป

    รัดเกล้ามองเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจกับการเปลี่ยนบทสนทนาของเขา แต่เช่นเดิม ใบหน้าของเขายังคงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ และราวกับบทสนทนาก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และในเมื่อเธอไม่เข้าใจเธอจึงเลือกพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูดและสมควรพูดมากกว่า

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยฉัน

    ผมถามว่าคุณชื่ออะไร น้ำเสียงของเขาฟังดูคุกคามเล็กน้อยเมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ

    รัดเกล้าค่ะ แล้วก็ขอโทษด้วยนะคะที่ฉัน...จูบ...คุณ... เธอหน้าแดง น้ำเสียงแผ่วเบาอ้อมแอ้มตะกุกตะกักขอโทษอย่างอับอาย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจคำขอโทษของเธอมากนัก

    พักที่นี่เหรอ

    เออ...รัดเกล้าอ้ำอึ้ง รัดเกล้ากระพริบตางุนงงหนักไปอีก เธอไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรจากคำถามเหล่านั้น

    ผมถามว่าพักที่นี่หรือเปล่าหรือเป็นพนักงาน แต่ดูจากการแต่งตัวไม่น่าจะใช่

    เปล่าค่ะ ฉันไม่ใช่พนักงานที่นี่

    แล้ว?

    ฉันมาเที่ยว

    สกายผับแอนด์เรสซิเด้นท์แม็กซิมัสถามพลางขมวดคิ้ว และคิ้วที่ขมวดไว้ก็ขมวดแน่นขึ้นอีกเมื่อเสียงหวานเอ่ยตอบรับในสิ่งที่เขาคาดเดา

    ค่ะ

    อายุเท่าไร ถึงมาเที่ยวที่แบบนี้

    “...” รัดเกล้าไม่ได้ตอบ เพราะถึงเขาจะเป็นคนช่วยเธอไว้ แต่เรื่องที่เขาถามก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอไม่จำเป็นต้องตอบ แต่พอเธอไม่ตอบอีกฝ่ายก็หันมามองเธอตรงๆ โน้มหน้าลงมาใกล้จนใบหน้าของเขาห่างจากเธอแค่เพียงคืบเดียว แล้วถามประโยคเดิมซ้ำด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าเยียบเย็นไม่ต่างจากนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ใช้จ้องมองมา

    ผมถามว่าคุณอายุเท่าไร

    มะ...มากพอที่จะเข้าผับได้แล้ว พอใจหรือยังคะรัดเกล้าผละหน้าออกห่างใบหน้าคมเข้ม เธอรู้สึกหายใจไม่ออก ยิ่งได้สบตากับดวงตาสีน้ำเงินในระยะที่ต้องใช้ลมหายร่วมกันแบบนี้หัวใจเธอยิ่งเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา

    อืม

    รัดเกล้าแทบพ่นลมหายใจออกมาเพราะตอนที่เขาได้คำตอบที่ต้องการชายหนุ่มก็ถอยห่างออกไป เธอเหลือบตามองเขา และถ้ามองไม่ผิดเธอเห็นริมฝีปากของเขากระตุกขึ้น

    บ้าชะมัด! ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ทำให้เธออึดอัดได้มากขนาดนี้นะ

    อาจเป็นเพราะหน้าตาที่หล่อเหลาขั้นรุนแรง หรืออาจจะเป็นสายตาที่เขาใช้มองเธอ หรือเป็นเพราะมือหนาที่ยกขึ้นจับคางแล้วใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากล่าง ริมฝีปากที่น่าจูบ...

    น่าจูบอย่างนั้นเหรอ แล้วความคิดนั้นก็นำพาภาพจุมพิตเร่าร้อนระหว่างเธอกับชายหนุ่มแปลกหน้าให้ไหลบ่าเข้ามาในห้วงคำนึงอีกหน รัดเกล้ารู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ไปทั่วใบหน้า และหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัวไม่เป็นจังหวะของตัวเองได้อย่างถนัดถนี่ จนเธอต้องรีบปัดความคิดส่วนลึกทิ้งด้วยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

    ติ้ง!

    เสียงเตือนตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออกทำให้รัดเกล้าแทบพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

    เออ ขอโทษนะคะ ฉันต้องกลับแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยพูดจบรัดเกล้าเดินออกจากลิฟต์ ก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาต่างหากที่ควรออกจากลิฟต์ เพราะตอนนี้ลิฟต์มาหยุดอยู่ที่ชั้นที่เขาเป็นคนกดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเธอน่ะสมควรอยู่ในลิฟต์แล้วรอให้มันเคลื่อนตัวลงไปชั้นล่างต่างหาก

    แม็กซิมัสกระตุกยิ้มตอนที่เห็นร่างเล็กๆ พุ่งออกจากลิฟต์ และแทบขำพรืดตอนที่ร่างเล็กที่หมุนกลับมา ใบหน้าหวานแดงก่ำ เธอเม้มปากแน่น มือบางยกขึ้นทัดผมที่หูอย่างไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านั้น เขาสาวเท้าเดินออกมาจากลิฟต์แล้วผายมือให้เธอเดินเข้าไปในนั้นแทน

    รัดเกล้าเม้มปากแน่นตอนที่เดินข้าไปในลิฟต์ ก่อนจะเอื้อมมือสั่นๆ ไปกดปุ่มให้ประตูลิฟต์ปิด เธออยากไปให้พ้นๆ สถานการณ์น่าอายและชวนใจสั่นนี่เสียที เธอก้มหน้าต่ำมองเท้าตัวเอง ไม่กล้ามองหน้าเขา และอยากไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ หญิงสาวรอฟังเสียงเตือนตอนที่ประตูปิดดังอย่างร้อนรน แต่ไม่มีท่าทีว่าประตูลิฟต์จะยอมปิดลงเสียที จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาสาเหตุ แล้วเธอก็รู้คำตอบทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของหนุ่มแปลกหน้าที่ซักประวัติเธอราวกับนายทะเบียนกำลังยืนพิงประตูลิฟต์ไว้

    เออ... ลาก่อนค่ะรัดเกล้ามองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรอีก ก่อนจะตัดสินใจบอกลา เพื่อบอกเขาแบบอ้อมๆ ว่าให้เขาถอยออกห่างจากประตูลิฟต์เสียที

    จนกว่าเราจะได้พบกันอีก

    เป็นคำพูดบอกลาธรรมดาๆ และน้ำเสียงของเขาฟังดูสุภาพ แต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่ามันเป็นการคุกคามมากกว่าการบอกลาทั่วๆ ไป อะไรบางอย่างในตัวร้องเตือนดังลั่นว่าประโยคลานั้นเป็นเหมือนถ้อยคำที่คล้ายจะเป็นการเริ่มต้นอะไรบางอย่าง และเป็นบางอย่างที่จะนำพาความยุ่งยากเข้ามาในชีวิตของเธอ

    _____________________

    มาต่อให้แล้วจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×