คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : บทที่ 7 คืนแรกในฐานะภรรยา(รับจ้าง) (3)
“ฉันไปเองได้ค่ะ”
“ไปยังไง คุณไม่มีเงินติดตัวสักบาท แม้แต่รองเท้าคุณยังไม่มีคุณจะเดินเท้าเปล่าจากห้องนี้ลงไปเรียกแท็กซี่หน้าตึกหรือไง”
คำพูดของเขาทำให้รัดเกล้านึกถึงเมื่อสองวันก่อน
ตอนที่เธอเดินตามร่างสูงออกจากบ้านหลังใหญ่ของเสี่ยสมภพ เพราะเธอถูกแบกออกมาทั้งๆ
ที่สติไม่ครบถ้วน ตอนที่ฟื้นคืนสติรองเท้าใส่อยู่บ้านที่เธอใส่อยู่ก็หายไปไหนไม่รู้แล้ว
ทำให้ตอนออกมาจากบ้านหลังนั้นเธอต้องเดินเท้าเปล่าออกมา ถนนที่เป็นปูนหยาบๆ
ทำให้เจ็บฝ่าเท้าไม่น้อย และก็ทำให้อัตราการก้าวย่างของเธอเชื่องช้าลง
จนจากการก้าวตามในระยะกระชั้นชิด กลายเป็นห่างจากร่างสูงหลายเมตร
จนคนที่เดินนำต้องหันมามองอย่างไม่ชอบใจหลายต่อหลายครั้ง แต่จะให้ทำยังไงได้
ก็เท้าเธอระบมจนเดินต่อไม่ไหวแล้วนี่
“ว้าย!” รัดเกล้าร้องออกมาพร้อมกับผวากอดคอเขาไว้อย่างตกใจ
เมื่ออยู่ๆ
ร่างเธอก็ลอยหวือขึ้นจากพื้นไปอยู่ในอ้อมแขนของคนที่ตวัดร่างเธอขึ้นอุ้มโดยไม่บอกไม่กล่าว
“ทำอะไรคะ”
“เดินช้าแบบนี้ อยากอยู่ที่นี่ต่อหรือไง”
“เดี๋ยวฉันเดินเร็วๆ ก็ได้ค่ะ วางฉันลงเถอะ”
“...” ไม่มีคำตอบรับจากคนร่างสูงที่เดินลิ่วตรงไปยังรถคันหรูราวกับไม่ได้แบกน้ำหนักของเธอไว้ในอ้อมแขน
ถ้าเรื่องตอนนั้นน่าอายแล้ว
ตอนที่เธอมาถึงโรงแรมแห่งนี้เธอยิ่งอายกว่าอีก เพราะที่บ้านเสี่ยสมภพมีแค่คนของเขา
ส่วนคนของเสี่ยสมภพไม่รู้อันตรธานไปอยู่ตรงไหนกันหมด แต่ที่โรงแรมเดอะคาริโน
นอกจากพนักงานของที่นี่ ก็ยังมีผู้คนที่มาใช้บริการห้องพักที่มีราคาต่อคืนแพงระยับนี่อีกนับไม่ถ้วนที่เห็นเหตุการณ์เข้า
“ไว้พรุ่งนี้” เสียงที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้รัดเกล้าหลุดออกจากภวังค์ความคิด
หน้าเธอแดงขึ้นเมื่อคิดว่าเขาต้องอุ้มเธอออกจากห้องนี้
ผ่านล็อบบี้ที่คนพลุกพล่านไปยังหน้าตึกที่มีรถของเขาจอดอยู่ แค่คิด... เธอก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนแล้ว
สำหรับเธอครั้งนั้นครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว
ต้องไม่มีอีก!
“ฉันไปเองได้ค่ะ
เดี๋ยวเรียกแท็กซี่ไป แล้วค่อยขึ้นไปเอาเงินที่ห้องมาจ่ายค่าโดยสาร”
รัดเกล้าว่าเธอเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องรองเท้าของตัวเอง เพราะคิดว่าอาจจะดูพิลึกสักหน่อยที่เธอจะเดินเท้าเปล่าไปมาในโรงแรมแห่งนี้
แต่พื้นของที่นี่ปูด้วยหินอ่อนแถมยังสะอาดยิ่งกว่าห้องเช่าของเธออีกล่ะมั้ง
เพราะมีแม่บ้านคอยทำความสะอาดตลอดเวลา
ไม่เหมือนห้องของเธอแม้จะไม่ได้สกปรกแต่เพราะต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเธอจึงไม่ค่อยได้เก็บกวาดมากนัก
“ไว้พรุ่งนี้”
คำเดิมถูกเอ่ยย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและบ่งบอกว่านี่คือการจบสนทนา
“แต่...”
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
แล้วเข้านอนซะ” เสียงทรงอำนาจเอ่ยสั่ง
“...” รัดเกล้าอ้าปากขึ้นตั้งใจจะโต้แย้งกลับไปอีก
แต่ก่อนเธอจะได้พูดอะไรออกมาริมฝีปากที่อ้าขึ้นก็ต้องหุบปากฉับลงอย่างรวดเร็วเมื่อถูกตัดบทด้วยประโยคข่มขู่ที่ชวนให้น่าร้อนเห่อ
“เลือกเอาว่าจะไปเปลี่ยนเองหรือให้ผมเปลี่ยนให้”
เท่านั้นแหละคนที่ตั้งท่าจะยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองก็จ้ำอ้าวกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
แม็กซิมัสก้าวจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบกายท่อนร่าง
หยาดน้ำใสๆ ยังเกาะพราวอยู่บนเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ชายหนุ่มเช็ดผมที่เปียกปอนขึ้นก่อนจะตวัดสายตาไปที่เตียงกว้างที่ตั้งอยู่กลางห้อง
เมื่อสิ่งที่ควรเห็นทางหางตากลับไม่ได้อยู่ตรงนั้นอย่างที่เขาคิด
ชายหนุ่มสาวเท้ายาวๆ
ตรงไปยังห้องแต่งตัว ผลักประตูเข้าไปเร็วๆ
เพื่อมองหาร่างเล็กที่สมควรอยู่บนเตียงแล้วตอนนี้แต่เขากลับพบเพียงความว่างเปล่า
เขาหมุนตัวตั้งใจจะเดินออกจากห้องนอน แต่หางตาเขาก็ไปสะดุดกับกองผ้าเล็กๆ
มุมหนึ่งของห้องเสียก่อน เมื่อหันไปมองตรงๆ เขาจึงเห็นว่าในกองผ้านั่นเป็นร่างเล็กๆ
ของหญิงสาวที่เขากำลังมองหาอยู่
บ้าฉิบ
ไปนอนทำไมตรงนั้น!
แม็กซิมัสสบถในใจพลางจ้องไปยังร่างเล็กที่ขดตัวอยู่ในเสื้อสูทของเขาที่เธอคงหยิบมาจากห้องแต่งตัว
หมอนบนเตียงถูกหยิบลงไปสองใบ ใบหนึ่งถูกใช้หนุน ส่วนอีกใบอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆ
และถูกใบหน้าหวานซุกซบอยู่ ร่างบางที่เกร็งขึ้นตอนที่เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้ทำให้เขารู้ว่าเธอยังไม่หลับ
“ขึ้นไปนอนบนเตียง”
“แค่ฉันนอนในห้องนี้ก็พอไม่ใช่หรือคะ”
เสียงของเธอชัดเจนแม้ว่าจะยังซบหน้ากับหมอนนุ่มอยู่
ยืนยันเจตนารมณ์ว่าเธอจะไม่มีทางทำตามที่เขาสั่ง
“...”
แม็กซิมัสอ้าปากขึ้นตั้งใจจะพูดอะไรสักอย่างก่อนจะหุบริมฝีปากลง
เมื่อคิดได้ว่าเธอจะนอนตรงไหนก็ช่าง ในเมื่อเธอเลือกที่จะทำตัวเองให้ลำบากเอง แล้วทำไมเขาต้องไปสนใจด้วยเธอจะนอนหลับสบายหรือไม่!
ความคิดเห็น