คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 5 ไม่ได้ต่างกัน (1)
ทองผาภูมิ
จังหวัดกาญจนบุรี เมืองผลไม้ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา ป่าไม้ และสายหมอกในหน้าหนาว...
ภายในห้องรับแขกของบ้านสวนนวลจันทร์
บ้านไม้เก่าแก่ที่ยังคงความเป็นไทยได้อย่างงดงามแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาร้อยกว่าปี
เมื่อห้านาทีก่อน
“ทิพย์ขอเวลาจัดการอะไรอีกนิดหน่อยนะคะเสี่ย
ตอนนี้แม่ทิพย์เพิ่งเสียจะรีบจัดการทรัพย์สมบัติตอนนี้ก็ดูจะน่าเกลียดไปหน่อย
ถ้าขายบ้านหลังนี้กับสวนผลไม้ เงินแค่ยี่สิบล้านไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ”
“คุณทิพย์จำอะไรผิดหรือเปล่า”
“จำผิด... จำเรื่องอะไรผิดคะ”
“ก็จำนวนหนี้ที่คุณติดผมไง”
“ไม่นะคะ
ฉันจำไม่ผิดแน่นอน”
“ผมว่าคุณดูเอาเองแล้วกัน”
ทิพย์มณฑาว่าพลางรับเอกสารที่ถูกยื่นมาตรงหน้ามาไว้ในมือ
ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ “ห้าสิบล้าน อะไรกันคะเสี่ย แบบนี้มันโกงกันชัดๆ นี่”
“จะมาโทษกันแบบนี้ได้ยังไงคุณทิพย์
ลายมือที่เซ็นตรงผู้กู้ก็ลายมือคุณทิพย์เองไม่ใช่เหรอ แล้วมาหาว่าผมโกงได้ยังไง”
“เสี่ย!” ทิพย์มณฑาตวาดลั่น เธอเกือบถลันเขาไปทำร้ายร่างท้วมของชายวัยกลางคนที่มีอายุมากกว่าตัวเองไม่กี่ปีแล้ว
ถ้าหากลูกน้องท่าทางกร่างของเสี่ยสมภพจะไม่ปัดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นมัจจุราชสีดำมันเลื่อม
ทิพย์มณฑาฮึดฮัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเธอเองที่สะเพร่า
เพราะเงินสิบล้านที่วางอยู่ตรงหน้า กับความหัวเสียที่เสียเงินไปมาก
และอยากจะเอาทุนคืนเร็วๆ
ทำให้เธอไม่แม้แต่จะเหลือบตามองตัวอักษรในเอกสารสัญญานั่นด้วยซ้ำตอนที่เซ็นชื่อลงไป
“เสี่ยจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
ทิพย์มณฑาสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามข่มกลั้นความโกรธเอาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นกว่าเก่า
“ผมทำอะไร”
“ก็ที่เสี่ย...”
ทิพย์มณฑาชะงักคำพูดกึก
แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะมัจจุราชที่พร้อมจะปลิดชีวิตของเธอได้ทุกเมื่อ แต่เป็นเพราะร่างบอบบางของหญิงสาวกาฝากของบ้านที่เธอเกลียดขี้หน้าราวกับกิ้งกือไส้เดือนที่กำลังเดินตรงเข้ามาทางนี้ต่างหาก...
รถตู้สีบรอนซ์แล่นผ่านประตูรั้วที่มีป้ายชื่อบ้านสลักไว้อย่างสวยงามด้วยอักษรสีทองเข้ามาจอดหน้าบ้านไม้เรือนไทยริมน้ำที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี
บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเพราะขาดประมุขที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกนกลูกกาได้พักพิง
รัดเกล้าก้าวลงจากรถด้วยท่าทางอิดโรย
สามวันมาแล้วที่เธอแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน
เพราะความเศร้าโศกที่เกาะกุมหัวใจทำให้เธอไม่เป็นอันทำอะไร
นอกจากนั่งนิ่งอยู่หน้าโลงศพที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม
แต่เพราะวันนี้เธอไม่ต้องนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเพื่อนท่านอีกแล้วเพราะวันนี้เป็นวันเผา
หลังจากเสร็จพิธีเธอจึงต้องกลับบ้าน บ้านที่ไร้ไออุ่น..
บ้านที่ไร้คนที่รักเธอและเอาใจใส่เธอมาตลอดชีวิต
หญิงสาวกวาดตามองบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพรรณไม้
และสวนผลไม้นานาชนิด เธอจำต้นไม้ที่สวนแห่งนี้ได้ทุกต้น
จำได้ว่าต้นไหนบ้างที่เธอปีนเล่นและตกลงมาจนถูกคุณย่าดุ
จำได้ว่าต้นไหนท่านเป็นคนปลูกด้วยตัวเอง แล้วต้นไหนที่ท่านสอนให้เธอเป็นคนปลูก แม้สวนผลไม้แห่งนี้จะไม่ใหญ่โตนัก
แต่ทุกส่วนของที่นี่ก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความตั้งใจของคุณย่าของเธอ
เพียงแค่คิดถึงน้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างที่ห้ามไม่อยู่
รัดเกล้ารีบยกมือขึ้นปาดหยาดน้ำสีใสออกจากใบหน้า
เธอรู้ว่าคุณย่าไม่ชอบเห็นเธอร้องไห้
ท่านบอกว่าการที่เธอร้องไห้ทำให้ท่านไม่สบายใจ และเธอก็อยากให้ท่านจากไปอย่างหมดห่วงที่สุด
รัดเกล้ายกมือขึ้นลูบหน้าคล้ายจะปัดความหมองเศร้าออกจากความรู้สึก
เท้าในรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเอื่อยๆ
ไปตามทางเดินที่ทอดไปสู่ประตูบ้านด้วยความเคยชินมากกว่าจะรับรู้
“เสี่ยจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
“ผมทำอะไร”
“ก็ที่เสี่ย...”
เสียงโต้เถียงระหว่างใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาชุดใหญ่ทำให้คนเหม่อลอยหลุดออกจากภวังค์
รัดเกล้าชะงักฝีเท้าก่อนจะหันไปมองยังที่มาของเสียง
แต่ทุกสรรพเสียงก็ถูกชะงักลงเช่นกันเมื่อเจ้าของเสียงโต้เถียงเหลือบมาเห็นเธอ
รัดเกล้าขมวดคิ้วมองชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม
และชายฉกรรจ์หน้าตาไม่น่าไว้วางไว้ที่มีท่าทางกร่างอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะหันไปมองทิพย์มณฑาผู้เป็นอา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทางหวาดกลัวหรือขอความช่วยเหลือใดๆ
เธอก็ปัดความระแวงที่ผุดขึ้นมาทิ้งแล้วก้าวต่อตรงไปยังบันไดเวียนที่ทอดสู่ชั้นสอง
_____________
มาอีกตอนตามสัญญาจ้า
ความคิดเห็น