ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เถื่อนรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 5 ไม่ได้ต่างกัน (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.01K
      23
      18 พ.ย. 64


            องผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองผลไม้ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา ป่าไม้ และสายหมอกในหน้าหนาว...

             ภายในห้องรับแขกของบ้านสวนนวลจันทร์  บ้านไม้เก่าแก่ที่ยังคงความเป็นไทยได้อย่างงดงามแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาร้อยกว่าปี เมื่อห้านาทีก่อน

    “ทิพย์ขอเวลาจัดการอะไรอีกนิดหน่อยนะคะเสี่ย ตอนนี้แม่ทิพย์เพิ่งเสียจะรีบจัดการทรัพย์สมบัติตอนนี้ก็ดูจะน่าเกลียดไปหน่อย ถ้าขายบ้านหลังนี้กับสวนผลไม้ เงินแค่ยี่สิบล้านไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ”

    “คุณทิพย์จำอะไรผิดหรือเปล่า”

    “จำผิด...  จำเรื่องอะไรผิดคะ”

    “ก็จำนวนหนี้ที่คุณติดผมไง”

    “ไม่นะคะ ฉันจำไม่ผิดแน่นอน”

    “ผมว่าคุณดูเอาเองแล้วกัน”

    ทิพย์มณฑาว่าพลางรับเอกสารที่ถูกยื่นมาตรงหน้ามาไว้ในมือ ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ “ห้าสิบล้าน อะไรกันคะเสี่ย แบบนี้มันโกงกันชัดๆ นี่”

    “จะมาโทษกันแบบนี้ได้ยังไงคุณทิพย์ ลายมือที่เซ็นตรงผู้กู้ก็ลายมือคุณทิพย์เองไม่ใช่เหรอ แล้วมาหาว่าผมโกงได้ยังไง”

    “เสี่ย!” ทิพย์มณฑาตวาดลั่น เธอเกือบถลันเขาไปทำร้ายร่างท้วมของชายวัยกลางคนที่มีอายุมากกว่าตัวเองไม่กี่ปีแล้ว ถ้าหากลูกน้องท่าทางกร่างของเสี่ยสมภพจะไม่ปัดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นมัจจุราชสีดำมันเลื่อม ทิพย์มณฑาฮึดฮัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเธอเองที่สะเพร่า เพราะเงินสิบล้านที่วางอยู่ตรงหน้า กับความหัวเสียที่เสียเงินไปมาก และอยากจะเอาทุนคืนเร็วๆ ทำให้เธอไม่แม้แต่จะเหลือบตามองตัวอักษรในเอกสารสัญญานั่นด้วยซ้ำตอนที่เซ็นชื่อลงไป

     “เสี่ยจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ” ทิพย์มณฑาสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามข่มกลั้นความโกรธเอาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นกว่าเก่า

    “ผมทำอะไร”

    “ก็ที่เสี่ย...” ทิพย์มณฑาชะงักคำพูดกึก แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะมัจจุราชที่พร้อมจะปลิดชีวิตของเธอได้ทุกเมื่อ แต่เป็นเพราะร่างบอบบางของหญิงสาวกาฝากของบ้านที่เธอเกลียดขี้หน้าราวกับกิ้งกือไส้เดือนที่กำลังเดินตรงเข้ามาทางนี้ต่างหาก...

     

    ถตู้สีบรอนซ์แล่นผ่านประตูรั้วที่มีป้ายชื่อบ้านสลักไว้อย่างสวยงามด้วยอักษรสีทองเข้ามาจอดหน้าบ้านไม้เรือนไทยริมน้ำที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเพราะขาดประมุขที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกนกลูกกาได้พักพิง

    รัดเกล้าก้าวลงจากรถด้วยท่าทางอิดโรย สามวันมาแล้วที่เธอแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน เพราะความเศร้าโศกที่เกาะกุมหัวใจทำให้เธอไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากนั่งนิ่งอยู่หน้าโลงศพที่ตกแต่งอย่างวิจิตรสวยงาม

    แต่เพราะวันนี้เธอไม่ต้องนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเพื่อนท่านอีกแล้วเพราะวันนี้เป็นวันเผา หลังจากเสร็จพิธีเธอจึงต้องกลับบ้าน บ้านที่ไร้ไออุ่น.. บ้านที่ไร้คนที่รักเธอและเอาใจใส่เธอมาตลอดชีวิต

    หญิงสาวกวาดตามองบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพรรณไม้ และสวนผลไม้นานาชนิด เธอจำต้นไม้ที่สวนแห่งนี้ได้ทุกต้น จำได้ว่าต้นไหนบ้างที่เธอปีนเล่นและตกลงมาจนถูกคุณย่าดุ จำได้ว่าต้นไหนท่านเป็นคนปลูกด้วยตัวเอง แล้วต้นไหนที่ท่านสอนให้เธอเป็นคนปลูก แม้สวนผลไม้แห่งนี้จะไม่ใหญ่โตนัก แต่ทุกส่วนของที่นี่ก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความตั้งใจของคุณย่าของเธอ

    เพียงแค่คิดถึงน้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างที่ห้ามไม่อยู่ รัดเกล้ารีบยกมือขึ้นปาดหยาดน้ำสีใสออกจากใบหน้า เธอรู้ว่าคุณย่าไม่ชอบเห็นเธอร้องไห้ ท่านบอกว่าการที่เธอร้องไห้ทำให้ท่านไม่สบายใจ และเธอก็อยากให้ท่านจากไปอย่างหมดห่วงที่สุด

    รัดเกล้ายกมือขึ้นลูบหน้าคล้ายจะปัดความหมองเศร้าออกจากความรู้สึก เท้าในรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเอื่อยๆ ไปตามทางเดินที่ทอดไปสู่ประตูบ้านด้วยความเคยชินมากกว่าจะรับรู้

    “เสี่ยจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ”

    “ผมทำอะไร”

    “ก็ที่เสี่ย...”

    เสียงโต้เถียงระหว่างใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาชุดใหญ่ทำให้คนเหม่อลอยหลุดออกจากภวังค์ รัดเกล้าชะงักฝีเท้าก่อนจะหันไปมองยังที่มาของเสียง แต่ทุกสรรพเสียงก็ถูกชะงักลงเช่นกันเมื่อเจ้าของเสียงโต้เถียงเหลือบมาเห็นเธอ

    รัดเกล้าขมวดคิ้วมองชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม และชายฉกรรจ์หน้าตาไม่น่าไว้วางไว้ที่มีท่าทางกร่างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองทิพย์มณฑาผู้เป็นอา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทางหวาดกลัวหรือขอความช่วยเหลือใดๆ เธอก็ปัดความระแวงที่ผุดขึ้นมาทิ้งแล้วก้าวต่อตรงไปยังบันไดเวียนที่ทอดสู่ชั้นสอง

    _____________

    มาอีกตอนตามสัญญาจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×