คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 3 ชนวนเหตุ (3)
แม็กซิมัสปิดเอกสารที่เปิดค้างอยู่ตรงหน้า
โยนมันออกห่าง แล้วระบายลมหายใจหนักๆ
ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะใช้เวลาในการพยายามทำงานต่อไป ในเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมากลายเป็นเวลาที่เขาใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์
เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ทำให้สมองจอจ่ออยู่กับงานไม่ได้...
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน
สาวเท้าไปยังผนังที่ทำด้วยกระจกใสแจ๋ว พิงไหล่กับกระจก ทอดสายตาของกรุงเทพมหานครเบื้องล่าง
ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอีกหน
บางทีเขาคงต้องการอะไรแรงๆ
เพื่อมาดับความรู้สึกหงุดหงิดนี่! ทันเท่าความคิด
แม็กซิมัสก็สาวเท้าออกจากเพ้นท์เฮาส์ไปยังลิฟต์ที่ถูกเรียกไว้รอทันทีที่คนของเขาเห็นเขาเดินตรงไปทางนั้น
“ไม่ต้องตาม ฉันแค่จะไปที่สกายผับแอนด์เรสซิเด้นท์”
แม็กซิมัสเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่กดลิฟต์ให้
ทำท่าจะก้าวตามเข้ามา
“แต่ว่าคุณโรเจอร์สั่งไว้ว่า...”
“รู้ไหมว่าใครเป็นคนจ่ายค่าจ้างให้นาย
แล้วรู้ไหมว่านายควรฟังคำสั่งใครมากกว่ากัน” แม็กซิมัสตวัดสายตาคมเฉียบมองบอดี้การ์ดหนุ่ม
“ขอโทษครับ” บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำว่า
เขาค้อมหัวน้อยๆ ก่อนจะถอยออกจากลิฟต์
แม็กซิมัสรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความผิดอะไร
แต่เขาก็หงุดหงิดเกินกว่าจะให้ใครมาขัดใจ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
บ้าชะมัดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่!
ไม่ถึงแปดชั่วโมงด้วยซ้ำที่เขาออกคำสั่งให้โรเจอร์ตามหาผู้หญิงที่ชื่อรัดเกล้า
แต่การรอคอยเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้เขาหงุดหงิดเหมือนสิงโตที่ถูกรบกวนเวลานอน
และพร้อมจะขย้ำใครก็ตามที่กวนใจให้แตกดับ
ติ้ง!
เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นเบาๆ
ดึงการรับรู้ของคนโดยสารให้หลุดออกจากภวังค์ความคิด แม็กซิมัสก้าวออกจากลิฟต์
เดินเอื่อยเฉื่อยไปตามทางเดินที่ตรงไปยังสถานที่รื่นเริงที่เขาคิดว่าคงจะช่วยให้ความหงุดหงิดบ้าบอดนี่จางหายไปได้บ้าง
ชายหนุ่มไม่ได้เหลือบมองบริกรที่ทำหน้าที่เปิดประตูให้ด้วยท่าทางนอบน้อมด้วยซ้ำตอนที่เดินผ่านประตูกระจกใสเข้าไปยังร้านอาหารกึ่งไนต์คลับแล้วเลยไปยังโซนที่เป็นไนท์คลับเต็มตัว
“วิสกี้” แม็กซิมัสเลือกนั่งเก้าอี้ทรงสูงหนึ่งในหลายตัวที่ตั้งเรียงรายไปตามยาวของเคาน์เตอร์บาร์
แล้วสั่งเครื่องดื่มให้กับตัวเองโดยไม่รอให้บาร์เทนเดอร์ถาม แม้จะรู้ดีกว่าการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ของเขาเป็นที่สนใจของผู้คนไม่น้อย
โดยเฉพาะสาวๆ แต่แม็กซิมัสก็ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าเครื่องดื่มที่ถูกวางตรงหน้าหลังจากที่สั่งไปไม่กี่วินาที
“นั่งด้วยคนได้ไหมคะ”
เสียงหวานหยดที่เอ่ยแทรกเสียงเพลงเพราะพริ้งทำให้แม็กซิมัสต้องละสายตาจากแก้วคริสตัลในมือ
แล้วหันไปมอง...
เธอเป็นหญิงสาวในชุดราตรีสีเพลิงที่โชว์สัดส่วนของความเป็นหญิงได้อย่างละเอียดลออที่สุด
หน้าอกอิ่มดันล้นเนื้อผ้าออกมาเล็กน้อยอวดความอวบอิ่มงดงาม
ชายกระโปรงรัดรูปเน้นสะโพกผายได้สัดส่วนสั้นเหนือเข่าขึ้นมาหนึ่งคืบเผยให้เห็นเรียวขาเพรียวระหงไร้ไขมัน
แต่สิ่งที่หยุดสายตาของแม็กซิมัสได้อย่างชะงักกับเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยและไม่ได้เห็นมานานนั่นต่างหาก...
“เกือบสิบปีที่เราไม่ได้เจอกัน
จะไม่ทักทายกันหน่อยเหรอคะ”
น้ำเสียงหวานหยดหลุดออกมาจากริมฝีปากสีแดงสดอีกครั้งเมื่อไร้วี่แววว่าเธอจะได้คำตอบจากคำถามที่เพิ่งถามออกไป
“คิดว่าคงไม่จำเป็น” แม็กซิมัสตอบกลับเสียงเรียบที่แทบจะเป็นเย็นชา
หญิงสาวคลี่ยิ้มหวานแม้ว่าคำตอบของเขาจะเป็นการตัดบทกลายๆ
เธอหย่อนสะโพกกลมกลึงลงเก้าอี้บาร์ข้างกายของเขาโดยไม่สนใจคำพูดและท่าทางเย็นชาไร้เยื่อใย
และประโยคต่อมาของเธอก็ยังถูกเอ่ยออกมาอย่างหวานหยดเช่นเดิม
“บังเอิญจังเลยนะคะที่ได้เจอคุณที่นี่
จะไม่...”
“เชิญคุณตามสบาย
ผมขอตัว” แม็กซิมัสตัดบทเสียงเรียบก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง
ตั้งใจจะออกจากที่นี่ แต่แขนของเขากลับถูกมือเล็กๆ ยึดไว้
“เดี๋ยวสิคะ
คุยกันก่อนสิ”
“ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“แต่ฉันมี
แล้วก็สำคัญมากด้วย เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเรา ฉันอยากอธิบาย...”
“ผมว่ามันไม่จำเป็น” เป็นอีกครั้งทีแม็กซิมัสตัดบทอย่างไร้เยื่อใย เขาไม่สนหรอกว่าหญิงสาวตรงหน้าต้องการอะไร
เขาสนแต่ว่าเขาต้องการอะไร
และสิ่งที่เขาต้องการคือเขาไม่อยากจะใช้เวลาแม้แต่วินาทีเดียวในการเสวนากับเธอ
“คุณยังโกรธอยู่หรือคะ
โกรธเรื่องโง่ๆ ที่ฉันเคยทำในอดีต”
“ผมลืมมันไปหมดแล้วต่างหากล่ะ
แล้วก็ช่วยเอามือของคุณออกไปจากแขนผมด้วย”
“คุณอย่าถือสาเรื่องที่ผ่านมาเลยนะคะ
ตอนนั้นฉันยังเด็กมากเลยทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นลงไป
แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นเมื่อนานมากแล้ว”
“ก็ยังดีนะที่คุณไม่บอกว่าที่ทำทุกอย่างทั้งหมดก็เพราะรักผม
เพราะมันคงทำให้คุณดูน่ารังเกียจกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หลายเท่า”
“ฉันรู้ดีค่ะว่าหากฉันพูดไปอย่างนั้นคุณไม่มีทางเชื่อ
ถึงแม้ว่าในตอนนั้นที่ฉันเลือกจากคุณมาส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันรักคุณมากจริงๆ”
“คุณต้องการอะไรกันแน่
พูดมาตรงๆ เถอะเสียเวลา” น้ำเสียงของแม็กซิมัสเย็นเฉียบและไร้เยื่อใยยิ่งกว่าเก่า
“ฉันอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม
ได้ไหมคะแม็กซ์ ได้โปรด”
“ผมคงให้สิ่งที่คุณขอไม่ได้”
“งั้น...คืนนี้คุณอยู่กับฉันได้ไหมคะ
ขอแค่คืนนี้คืนเดียว”
“แลกกับอะไร” แม็กซิมัสหรี่ตามองหญิงสาวที่ทิ้งเท้าลงจากเก้าอี้แล้วยืนขึ้นเต็มความสูง
ขยับกายเข้าหาเบียดความนุ่มหยุ่นกับลำแขนของเขาที่เธอยึดไว้ก่อนหน้านี้อย่างพิจารณา
“ก็เหมือนที่ผู้หญิงที่คุณนอนด้วยได้จากคุณ”
แม็กซิมัสกระตุมมุมปากขึ้นตอบรับรอยยิ้มเชิญชวนที่เธอส่งมาให้
มือหนาทั้งสองข้างจับมือบางที่พยายามปลุกเร้าร่างกายของเขาเอาไว้
แล้วโน้มตัวก้มลงไปใกล้จนปลายจมูกของเขาแทบชนกับจมูกของเธอ
นัยน์ตาสีน้ำเงินจับจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทที่หวานฉ่ำยั่วยวนนิ่งนาน จนเธอเริ่มเคลิ้มฝันและเป็นฝ่ายขยับใบหน้าเข้าหาเขานั่นแหละน้ำเสียงเยียบเย็นราวกับน้ำแข็งขั้วโลกเหนือจึงหลุดออกมา
“เสียใจด้วย
เดี๋ยวนี้ผมไม่ชอบของที่เคยใช้แล้ว มันน่าเบื่อ ซ้ำซาก และของบางอย่างก็น่าสะอิดสะเอียนเกินกว่าจะกินลง” แม็กซิมัสว่าพลางดันเรือนร่างชวนหลงใหลออกห่าง
“คุณดูเปลี่ยนไปมากนะคะ
ดูไม่เหมือนแม็กซิมัสคนที่ฉันเคยรู้จัก”
“...” แม็กซิมัสไม่ได้ตอบ
เขากวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้า ตั้งแต่ดวงตาสีดำสนิท คิ้วโก่งได้รูป จมูกโด่ง
ริมฝีปากบางเป็นกระจับที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสดเข้ากับสีชุดของเธอ และสัดส่วนงดงามที่อวดโฉมต่อสายตาใครต่อใครอย่างที่เจ้าตัวไม่มีความเขินอาย
เวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้เธอเปลี่ยนไปเลยสักนิด ทั้งใบหน้างดงาม
และรูปร่างเย้ายวนชวนหลงใหล ถ้าจะมีที่เปลี่ยนไปคงเป็นนิสัยของเธอล่ะมั้ง ไม่สิ
เธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยน่ะถูกแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นเขาต่างหากที่โง่เขลามองไม่ออก
ว่าจริงๆ แล้วตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นอย่างไร เธอมันก็แค่ผู้หญิงจอมมารยาที่เก็บซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใต้รูปลักษณ์ที่งดงาม
และท่าทางที่อ่อนหวาน
แต่...
อย่างที่เธอพูดเขาเปลี่ยนไปแล้ว
เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มโง่เง่าที่จะหลงโง่งมกับรูปลักษณ์ภายนอกและท่าทางใสซื่อที่เธอฉาบไว้ปกปิดความโสมมของตัวเอง
_____________________
มาต่อให้แล้วจ้า
ความคิดเห็น