ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัญชารักจอมเถื่อน

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 (1)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 64


    เขาไม่ได้อยากคิดถึงมันเลยสักนิด แต่บทสนทนาและเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมันทำให้ความทรงจำที่เขาพยายามไม่คิดถึงมัน พยายามปัดมันทิ้งทุกครั้งที่มันผุดขึ้นมาในห้วงความคิดไหลบ่าเข้ามาในความทรงจำราวกับกระแสน้ำที่ไหลทะลักออกจากเขื่อนที่พังทลายลง

    กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ทำให้เจ้าของร่างสูงกำยำที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าสถานเริงรมย์ชื่อดังย่านใจเมืองกรุงเทพฯ ต้องควานมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างเคยชิน ก่อนจะดึงมือออกจากกระเป๋ามือเปล่าเมื่อโทรศัพท์ที่ส่งเสียงไม่ใช่โทรศัพท์ของตน นัยน์ตาสีเทาเหลือบมองเสี้ยวหน้าของเจ้าของโทรศัพท์ที่ยังกรีดร้องไม่หยุดอยู่ทางหางตาแวบหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจบุหรี่ที่ถูกคีบมือระหว่างนิ้วต่อ

    “อยู่นอกร้าน... มาคุยโทรศัพท์...”

    ทว่าเสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นหลังจากเสียงเรียกเข้าเงียบหายไปก็ทำให้ชายหนุ่มต้องต้องเหลือบตามองเสี้ยวหน้าหวานนั้นอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองแบบตรงๆ อย่างไม่เชื่อสายตา

    ใบหน้าเนียนใสที่เคยปกติไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มวันนี้กลับถูกแต่งเติมอย่างประณีตเสียจนหวานหยด เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกดัดเป็นลอนตรงปลาย ร่างบอบบางอยู่ในชุดสายเดี่ยวผ้าลูกไม้สีดำขับผิวขาวเนียนให้ดูกระจ่างใสขึ้นอีก และแม้ว่าเดรสตัวนั้นจะยาวเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยซึ่งเรียกว่าไม่ได้สั้นมากและไม่ได้คว้านคอลึกจนน่าเกลียด ทว่าช่วงบนที่เป็นแบบเข้ารูปก็ทำให้สัดส่วนโค้งเว้าถูกอวดโฉมอย่างละเอียดลออ ท่อนขาที่โผล่พ้นออกมาจากกระโปรงบานพริ้วเรียวสวย และนวลเนียนอย่างที่เขาไม่เคยสังเกตเห็น บางทีอาจเป็นเพราะปกติเธอชอบใส่กางเกงขายาว แม้แต่ชุดนักศึกษาของเธอยังเป็นพลีทยาวเลยเข่ามาเกือบคืบ

     หญิงสาวตรงหน้าสลัดภาพเด็กสาวกะโปโลได้อย่างไม่เหลือคราบ จนเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเธอคือผู้หญิงคนเดียวกับเด็กเมื่อวานซืนจอมกวนประสาทคนนั้น

    “ไม่หนีกลับก่อนหรอกน่า อือๆ กำลังจะกลับเข้าไปแล้ว”

     เสียงหวานคุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง แต่เพราะครั้งนี้ร่างบางกำลังสาวเท้าก้าวห่างออกไปเสียงที่แว่วมาให้ได้ยินจึงเบาแสนเบา แต่เสียงแผ่วนั้นก็ทำให้เอริคหลุดออกจากภวังค์ความคิด

     เสียงเพลงอึกทึกจากวงดนตรีชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมและเสียงโหวกเหวกของผู้คนที่คุยกันด้วยเสียงดังโหวกเหวกแข่งกับเสียงเพลงกระหึ่มก้องดังผ่านออกมาจากประตูผับที่ถูกเปิดออกด้วยฝีมือหญิงสาวที่เขายังไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ และทั้งๆ ที่บอกว่าอย่าไปสนใจ แต่สองขาแกร่งกลับก้าวเดินตามแผ่นหลังบอบบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว ทว่าทันทีที่เขาเดินผ่านประตูผับเข้ามาร่างเล็กๆ ก็ลับหายไปในกลุ่มผู้คนหนาแน่นเสียแล้ว

    เอริคสาวเท้าฝ่าผู้คนที่เบียดเสียดโยกย้ายเรือนร่างไปกับจังหวะเร้าใจ นัยน์ตาสีเทาใต้คิ้วเข้มที่ขมวดแน่นกวาดมองไปรอบร้านขนาดใหญ่หาร่างบอบบางที่คาดสายตาไปโดยไม่สนใจเหล่าผู้หญิงที่กำลังเลื้อยดิ้นกันไปมาและส่งสายตายั่วยวนมาให้

    “เอริคคะ”

    แต่ก่อนที่เขาจะหาคนที่หายไปจากสายตาพบ เสียงตะโกนแข่งกับเสียงเพลงของใครบางคนก็ทำให้เขารู้ว่าตัวเองกำลังทำเรื่องที่ไม่สมควรทำอยู่

    ‘นี่นายทำบ้าอะไรอยู่วะ! เธอจะทำอะไร จะทำตัวยังไง หรือจะเป็นยังไงก็ช่างเธอสิ มาเองได้ก็ต้องดูแลตัวเองได้’ เอริคสบถด่าตัวเองในใจ พลางยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ อย่างหงุดหงิดจากการเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะ

     เอริคคะ ทางนี้” เสียงตะโกนที่ดังขึ้นอีกทำให้เขาตัดสินใจสาวเท้าไปหาเมริษาที่กำลังโบกมือส่งสัญญาณมาให้ก่อนที่อีกฝ่ายจะลุกเดินมาหา

    “ทำไมนานจัง ฉันคิดว่านายจะหาโต๊ะไม่เจอแล้วเสียอีก”

    “ก็เกือบหาไม่เจอเหมือนกันนั้นแหละ” เขาตัดสินใจโกหกไป พอขับรถพาเมริษามาถึงที่นี่ เขาก็ให้เมริษาเข้ามาก่อน ส่วนตัวเองก็ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างนอก เขาเห็นข้อความที่เธอส่งมาบอกตำแหน่งโต๊ะที่เธอนั่งแล้ว ทว่าตอนที่เขาเดินมาทางนี้เขามาได้ตระหนักด้วยซ้ำว่าเป็นทิศทางเดียวกัน

    “นั่งตรงนี้ดีกว่า ขี้เกียจตะโกนคุย เด็กพวกนี้เสียงดังชะมัด”

    เขาขยับกายตั้งใจจะไปนั่งที่เก้าอี้ทรงสูงตรงข้ามกับเมริษา ทว่าหญิงสาวกลับเอื้อมมือมาจับแขนเขาไว้แล้วดึงให้มานั่งข้างๆ เธอแทน 

    “แล้วทำไมมานั่งตรงนี้” เอริคตอบพลางพยายามปลุกปล้ำอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลง

    “ก็โต๊ะมันเหลือแค่ตัวนี้นี่ ว่าจะฟังเพลงเพราะๆ เสียหน่อยแต่กลับต้องมาฟังเสียงเด็กพวกนี้ตะโกนโหวกเหวก เซ็งชะมัด”

    “เปลี่ยนร้านไหมล่ะ”

    “ดึกแล้วผับแถวนี้ก็คงเต็มเหมือนกันแหละค่ะ ยิ่งเป็นวันเสาร์ด้วย ทำไมเด็กพวกนี้ถึงต้องมาฉลองเรียนจบกันวันนี้ด้วยก็ไม่รู้” 

    “งั้นกลับกัน”

    “ได้ยังไงล่ะ วันนี้วันเกิดฉันนะ แล้วนายก็สัญญาแล้วด้วยว่าจะมาฉลองกับฉัน”

    ตอนแรกเขาตกลงกับเมริษาว่าแค่จะพาไปกินข้าวเย็นกัน แต่เธอกลับรบเร้าจะมาต่อ เขากับเมริษาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ เขากับเธอเรียนโรงเรียนเดียวกัน แล้วพอเข้ามหาลัยเธอก็เลือกเรียนมหาลัยเดียวกับเขา ทำให้เธอเป็นเพื่อนกับแซคที่เรียนคณะเดียวกับเขาด้วย ส่วนไรอันเพราะฝ่ายนั้นขยันบินมาเยี่ยมเขาที่เมืองไทยทำให้แซคกับเมริษารู้จักกับไรอัน ตอนนั้นแซค ไรอัน และเมริษายังไม่ได้สนิทกัน แต่เพิ่งมาสนิทกันตอนที่เขา แซคและเมริษาไปเรียนต่อปริญญาโทต่อที่อเมริกา

    และก็ใช่ว่าวันนี้เขานัดเธอมาฉลองวันเกิดแค่สองต่อสอง เขานัดไรอัน กับแซคไว้ด้วย แต่เพราะกระชั้นชิดเกินไปไรอันที่อยู่อเมริกาจึงมาไม่ได้ ส่วนแซคที่บอกว่ามาได้ พอถึงเวลาก็ดันติดงานกระทัน ทำให้เขาต้องมากับเมริษาแค่สองคน

    “วิสกี้เหมือนเดิมนะ”

    เมริษาว่าพลางส่งแก้ววิสกี้แบบออนเดอะร็อกที่บริกรนำมาเสิร์ฟมาให้ คงเป็นเพราะเขาดื่มแบบนี้เป็นประจำอีกฝ่ายจึงถือวิสาสะสั่งให้ 

    “อะ...อืม” เสียงของเอริคสะดุดไปนิดหนึ่งเมื่อแผ่นหลังของเขาถูกชนจากคนที่อยู่ด้านหลัง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาในผับที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนเขาจึงไม่ได้หันกลับไปมองคนที่ชนตัวเอง

    (เดินจากหน้าผับมาที่โต๊ะใช้เวลาเป็นชาติเลยนะยะ) เสียงแหบทุ้มที่ถูกดัดจนแหลมที่ไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าเจ้าของร่างของเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงดังแข่งกับเสียงเพลงดังขึ้นอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบทสนทนาที่ได้ยินคงดึงดูดความสนใจไม่ได้หากว่าเสียงที่ตอบกลับมาจะไม่ใช่เสียงที่เขาคุ้นเคยมากเกือบยี่สิบปี

    (แวะไปเข้าห้องน้ำมาน่ะ)

    ชายหนุ่มหันกลับไปมองยังกลุ่มหนุ่มสาวอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบห้านับสิบคนที่ยืนเบียดเสียดกันล้อมโต๊ะทรงสูงด้านหลังของตน บางคนกำลังยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม และบางคนก็กำลังดิ้นตามเสียงเพลงอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง ซึ่งหลายคนเขาคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะเคยเห็นไปหารัตน์วลีที่บ้านบ่อยๆ และแม้จะไม่ได้เห็นหน้าแต่ชุดเดรสลูกไม้สีดำ ผมที่ดัดเป็นลอน และรูปร่างสมส่วนคุ้นเคยก็ทำให้เขารู้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาพอดีเป็นคนที่เพิ่งคลาดจากสายตาของเขาไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แผ่นหลังของเธอกับเขาอยู่ห่างกันแค่เพียงคืบเดียวเท่านั้น ข้างกายของเธอเป็นหญิงสาวรูปร่างสูงเพรียวในชุดเดรสสีเปลือกไข่คว้านหลังลึกจนถึงบั้นเอว ซึ่งถ้าไม่ได้ยินเสียงเขาคงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงจริงๆ มากกว่าผู้ชายที่มีรูปร่างภายนอกราวกับผู้หญิง

    ******************

    อ่านให้สนุกค่ะ ช่วงนี้ก็ระวังตัว รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×