คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 2 จนกว่าเราจะได้พบกันอีก (4)
แม็กซิมัสถอดเสื้อสูทออกก่อนจะพาดมันไว้บนพนักโซฟา
ปลดกระดุมคอเสื้อออกสองเม็ด ก่อนจะค่อยๆ
พับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นไว้ตรงข้อศอกแล้วทรุดกายลงนั่งบนโซฟาหลุยส์ที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่นของเพ้นท์เฮาส์หรูบนชั้นสามสิบเจ็ดของโรงแรมคาริโน
ความเบื่อหน่ายจากงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทรถยนต์ที่เขาเป็นคนก่อตั้ง
ถูกเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมากลืนหายไปจนแทบไม่มีเหลือ...
“ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ
ฉันไม่ได้ต้องเงินของคุณ แล้วก็ไม่ได้อยากนอนกับคุณด้วย”
ในชีวิตของเขาผ่านผู้หญิงมามาก
แต่ละคนแทบจะเปลื้องผ้าออกเพื่อยั่วยวนให้เขายอมขึ้นเตียงด้วยด้วยซ้ำ
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเชิดหน้าตอบเขาอย่างหยิ่งผยองว่าไม่อยากนอนกับเขา
ถ้าเขาไม่ได้ยินบทสนทนาของเธอกับหนุ่มหน้าตี๋คนนั้น และไม่ได้เห็นแววตาใสซื่อและเชื่อมั่นในตัวเองของเธอ
เขาคงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพียงเพราะเขาบังเอิญไปอยู่ตรงนั้นเข้าพอดี
ช่างน่าแปลก
ในเมื่อเขาตัดสินใจจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
และความอวดดีถือดีของเขาก็มีมากพอที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนที่บอกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากยุ่งกับเขา
แต่ทำไมนะ! ทำไมในใจเขาถึงได้รู้สึกไม่อยากปล่อยให้เธอไปเฉยๆ
แม็กซิมัสยกมือขึ้นแล้วใช้ปลายนิ้วชี้ถูริมฝีปากของตัวเองเบาๆ
ความอิ่มเอมยังคงติดตรึงอยู่ตรงนั้น เสียงลมหายใจของเธอยังก้องอยู่ในหู
กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนดอกไม้แรกแย้มที่โชยมาจากร่างบางยังติดอยู่ที่จมูก
นัยน์ตาสีนิลคู่หวานที่สะกดทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายให้หยุดนิ่งยังติดอยู่ในความทรงจำ...ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นเธอช่างเป็นอะไรที่ยากจะลืมเลือน
“ผู้หญิงคนนั้นล่ะครับ”
เสียงของโรเจอร์ผู้ช่วยคนสนิทและบอดี้การ์ดคู่ใจดึงแม็กซิมัสให้หลุดจากภาพหญิงสาวหน้าหวาน
และจุมพิตหวานซ่านที่ทำให้ร่างกายของเขาตื่นตัวขึ้นอีกหน
“คนไหน?” แม็กซิมัสถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแม้ว่าจะรู้ดีว่าอีกฝ่ายถามถึงใคร
“คนนั้นไงครับ”
“แล้วคนนั้นของนายน่ะคนไหน” แม็กซิมัสว่าพลางจ้องประสานกับดวงตาสีฟ้าของคนสนิทที่จับจ้องมองมายังเขาอย่างพิจารณาด้วยแววตาคมดุ
สื่อความหมายให้อีกฝ่ายหยุดถามในเรื่องที่ตนไม่อยากตอบเสียที แต่ก็ใช่ว่าคนสนิทที่ทำงานกับเขามานานจนแทบจะเรียกได้ว่ามองตาแล้วรู้ทุกอย่างที่คิดจะยอมสงบปากสงบคำโดยง่าย
“ก็ผู้หญิงที่คุณจูบเธอหน้าลิฟต์ไงครับ” โรเจอร์สบประสานสายตาสีน้ำเงินเย็นเฉียบเหมือนจะแช่เขาให้กลายเป็นน้ำแข็งอย่างไม่ได้เกรงกลัว
“เธอจูบฉัน
ไม่ใช่ฉันจูบเธอ ฉันว่านายตาถั่วแล้วโรเจอร์ ปีนี้นายอายุเท่าไรแล้วนะ
ฉันว่านายคงอายุเยอะเกินไปที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของฉันแล้วล่ะมั้ง”
“ผมเพิ่งจะสามสิบหกเองนะครับ
มากกว่าคุณแค่ห้าปี ยังแข็งแรง ที่สำคัญผมเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา และจากผลตรวจสายตาผมก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ” โรเจอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย
ไม่ได้เกรงกลัวต่อแววตาดุดันและคำข่มขู่ของผู้เป็นนายแม้แต่น้อย
เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนขู่ว่าจะถูกไล่ออก
ทุกครั้งที่เขาถามในสิ่งที่คนถูกถามไม่อยากตอบ ประโยคแบบนี้จะถูกเอ่ยขึ้นทุกครั้งเพื่อให้เขารู้ว่าถึงเขาถามไปเขาก็ไม่ได้คำตอบ
“ว่าแต่ว่าได้มาหรือเปล่า” แม็กซิมัสพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ
ก่อนจะถามถึงเรื่องที่สั่งให้โรเจอร์จัดการ เพื่อเปลี่ยนประเด็นสนทนา
“เรียบร้อยแล้วครับ” โรเจอร์ว่าพลางยื่นซองเอกสารน้ำตาลให้ผู้เป็นนาย
แม็กซิมัสรับซองเอกสารมาไว้ในมือ
เปิดออก
แล้วหยิบรูปถ่ายในซองออกมาดูอย่างพอใจก่อนจะเก็บรูปถ่ายนับสิบใบลงซองแล้วส่งคืนให้กับคนสนิท
“ส่งมันให้วาเลนไทน์
อืม...ไม่ต้องดีกว่า ฉันจะเป็นคนเอาไปให้หมอนั่นเอง”
“แน่ใจเหรอครับ”
โรเจอร์ถามเสียงเรียบ ทั้งๆ ที่ในใจอดกังวลไม่ได้ เป็นเรื่องแน่นอน
ที่ไม่ต้องใช้การคาดเดาเลยสักนิดว่าถ้าซองเอกสารในมือเขาตอนนี้ถึงมือวาเลนไทน์
คาริโน คงเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ
เพราะถึงวาเลนไทน์กับแม็กซิมัสจะเป็นพี่น้องที่รักกันมากเพียงใด
แต่เรื่องนี้วาเลนไทน์ คาริโน พี่ใหญ่แห่งตระกูลคาริโนคงเดือดจัด และไม่ยอมง่ายๆ เป็นแน่!
“ฉันอยากเห็นสีหน้าหมอนั่นด้วยตัวเอง”
คำตอบของผู้เป็นนายทำให้โรเจอร์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ
เพราะคำตอบที่เขาอยากได้คือ แน่ใจเหรอว่าจะส่งเอกสารนี้ให้กับวาเลนไทน์ แต่แม็กซิมัสกลับตอบว่าแน่ใจที่จะนำเอกสารซองนี้ไปให้กับพี่ชายด้วยตัวเอง
นี่มันเรื่องหายนะชัดๆ
“มีอะไรอีกหรือเปล่า ถ้าไม่มีนายก็ไปพักได้แล้ว”
“พรุ่งนี้เครื่องออกตอนเก้าโมงตรงนะครับ” โรเจอร์รายงานกำหนดการคร่าวๆ ของวันพรุ่งนี้ เมื่อเห็นว่าพูดไปตัวเองก็เปลี่ยนความตั้งใจของผู้เป็นนายไม่ได้
“อืม รู้แล้ว” แม็กซิมัสเอนหลังพิงพนักโซฟา เงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบรับรายงานของคนสนิท
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”
โรเจอร์ถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นผู้เป็นนายขมวดคิ้วนิดๆ ตอนที่ตอบรับในสิ่งที่เขารายงาน
อย่างที่บอกเขาทำงานกับแม็กซิมัส คาริโนมานาน
ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาเขาไปได้
“เปล่า”
“คืนนี้เหมือนเดิมนะครับ” โรเจอร์แอบพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้รับคำตอบใดๆ
จากคำถามที่ถามไป
“วันนี้ไม่ต้อง...ฉันอยากอยู่เงียบๆ
นายไปพักเถอะ”
“ครับ” โรเจอร์ค้อมหัวเล็กน้อยรับคำสั่ง ก่อนจะหมุนเดินออกจากห้องไป
แม็กซิมัสมองตามหลังของคนสนิทจนมันลับหายไปหลังบานประตูห้อง
คำพูดรายงานของโรเจอร์ยังวนเวียนอยู่ในความคิด...
ชายหนุ่มยันกายลุกจากโซฟาแล้วสาวเท้าไปยังกำแพงกระจกใส่แจ๋ว
ทอดสายตาไปยังทิวทัศน์กรุงเทพมหานครยามค่ำคืนที่ระยิบระยับไปด้วยแสงไฟหลากสีสัน
“พรุ่งนี้เครื่องออกตอนเก้าโมงตรงนะครับ”
ทั้งๆ
ที่กำหนดการนี้เขาก็รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วเพราะเขาเป็นคำกำหนดมันขึ้นเอง
แต่ทำไม...เขาถึงรู้สึกว่ามันเร็วเกินไปที่เขาจะไปจากที่นี่
เขารู้สึกว่ายังมีบางอย่างที่ยังค้างคา ยังมีบางเรื่องที่เขาอยากจะทำ ทั้งๆ
ที่เขาก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว
มันคืออะไรกันนะ?
แม็กซิมัสได้แต่ถามตัวเองด้วยความแปลกใจแล้วก็ได้แต่ถอดถอนใจเมื่อหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขาเองที่ไม่ยอมรับคำตอบนั้น
___________________________
ความคิดเห็น