คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : บทที่ 9 การทำงานวันแรก (2)
คลิกไปอ่านตอนก่อนหน้านะคะ ตอนที่แล้วเหมยอัปผิดจ้า
แม่งเอ๊ย! ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทำให้เลือดในกายเขาเดือดพล่านได้ถึงขนาดนี้นะ
แค่เธอมองมาด้วยสายตาแบบนั้นก็ทำให้แรงปรารถนาอยากครอบครองเรือนร่างของเธอครอบงำจิตใจจนร่างกายแทบไร้การควบคุม
เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่เร่าร้อนจนเกือบปะทุ รู้สึกถึงความปั่นป่วนในช่องท้อง
และแก่นกลางกายที่แข็งขืนขึ้นมาอย่างที่เขาก็ไม่สามารถห้ามปรามได้
เป็นปฏิกิริยายาที่น่าหงุดหงิด
และเกิดขึ้นทุกครั้งที่นัยน์ตาสีนิลถูกช้อนขึ้นมองเขาอย่างตื่นตระหนก
ตอนที่เธอเผลอเผยอริมฝีปากขึ้นหรือไม่ก็กัดริมฝีปากล่างไว้แน่น
ตอนที่เธอเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นหอมสะอาดและกลิ่นครีมอาบน้ำ ตอนที่...
บ้าฉิบ! นั่นมันหมายถึงทุกครั้งที่เขาเห็นเธอเลยนี่
แม็กซิมัสชะงักความคิดก่อนจะสบถในใจ
เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นราชสีห์งี่เง่าที่เก็บลูกแกะตัวน้อยที่มีกลิ่นกายเย้ายวนและมีเนื้อนุ่มน่ากินไว้ข้างกาย
แต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามองดูอย่างทรมาน
แม็กซิมัสยกมือขึ้นลูบหน้า
พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เพื่อขับไล่ภาพสายตาตื่นตระหนกที่รัดเกล้าใช้สำรวจเรือนร่างของเขาก่อนหน้านี้ออกจากหัว
ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องแต่งตัว
ทั้งๆ
ที่ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ แต่เธอกลับมาทำงานวันแรกทันเวลาเข้างานเพียงเฉียดฉิว สาเหตุก็เป็นเพราะแววตาร้อนรุ่มที่เธอต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะปัดมันออกจากหัวได้น่ะสิ
เธอไม่มีทางลืมแววตาแบบนั้นของเขาลงได้แน่
แววตาแบบเดียวกันกับทุกครั้งที่เขาจูบเธอ แววตาแบบที่เขามีในวันนั้น
วันที่เธอเกือบเผลอไผลไปกับสัมผัสแปลกใหม่ ลึกซึ้ง และร้อนแรงเกินจะต้านทาน
ไม่น่าเชื่อแค่เขาใช้แววตาแบบนั้นมองมาจะทำให้ร่างกายของเธอแปรปรวนจนแทบทำอะไรไม่ได้
เขาไม่ได้จูบเธอเสียหน่อย แล้วก็ไม่ได้เกือบจะร่วมรักกันเหมือนในเพ้นท์เฮาส์ที่ประเทศไทยด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นช่องท้องของเธอกลับหดเกร็ง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับสัมผัสพวกนั้น...
สัมผัสจากฝ่ามือร้อนผ่าวที่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอ
สัมผัสเร่าร้อนจากริมฝีปากได้รูปที่แผดเผาสำนึกรู้คิดของเธอให้มอดไหม้กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง
หลังจากเข้าไปในห้องน้ำและขังตัวเองไว้ในนั้น
กว่าเธอจะอาบน้ำเสร็จก็นานทีเดียว
มือไม้เงอะงะอ่อนแรงทำนั่นนี่ร่วงอยู่ตลอดเวลาทำให้เสียเวลาไปมากโข แต่พออาบน้ำเสร็จเธอกลับพบว่าตัวเองทำผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมร่วงลงพื้นตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
รู้แต่ว่ามันไม่ได้อยู่ในห้องน้ำกับเธอด้วย
จะใส่เสื้อผ้าชุดเก่าออกไปเธอก็ดันทำมันร่วงลงในอ่างอาบน้ำจนเปียกโชก
สิ่งที่เธอทำได้จึงมีเพียงแนบหูกับประตู ฟังเสียงภายนอก จนแน่ใจว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องจึงโผล่หน้าออกไปจากประตูที่ค่อยๆ
แง้มเปิด แล้ววิ่งพรวดออกจากห้องน้ำทั้งๆ
ที่เปลือยเปล่าไปทั้งตัวตรงไปยังผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมที่เธอทำตกพื้นตั้งแต่ได้เห็นซิกแพ็คแน่นๆ
“นี่จะทำโอทีตั้งแต่วันแรกเลยหรือครับ”
เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆ
ทำให้รัดเกล้าดึงตัวเองออกจากห้วงความคิด หญิงสาวละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเงยขึ้นมองมิสเตอร์เอเลียต
แจ็คสันเจ้าของและผู้บริหารบริษัทแอล เจ ออแกไนซ์เซอร์
ดวงตาสีฟ้าของเขาเป็นประกายวิบวับขณะยืนพิงสะโพกโต๊ะทำงานของเธอแล้วส่งยิ้มมาให้
“เปล่านี่คะ” ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าของบริษัทจะมาทักทายพนักงานใหม่แบบเธอ
เพราะบริษัทแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก เป็นเพียงบริษัทเล็กๆ
ที่มีพนักงานประจำไม่ถึงยี่สิบคนแต่ก็มีชื่อเสียงพอสมควรในด้านการรับจัดงานอีเวนท์แบบครบวงจร
“คุณตั้งใจทำงานเสียจนผมเชื่อแล้วว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่รับคุณเข้ามาทำงาน”
“ขอบคุณค่ะ” รัดเกล้าหน้าแดง พึมพำขอบคุณ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ได้อีก
ก็ถ้าเขารู้ความจริงว่าอันที่จริงแล้วจิตใจของเธอไม่ได้จดจ่ออยู่กับตารางเอกเซลตรงหน้า
แต่เป็นความทรงจำเมื่อเช้า อีกฝ่ายคงไม่พูดอะไรทำนองนี้ออกมาเป็นแน่
“เก็บของได้แล้วครับ”
“คะ?”
“เลยเวลาเลิกงานมาสิบนาทีแล้ว” อีกฝ่ายพูดขึ้นพลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเธอพร้อมกับเลิกคิ้วสูง
“อ้อ...ค่ะ” รัดเกล้าว่าพลางส่งยิ้มเก้อเขินให้เขาก่อนจะเริ่มเก็บของลงกระเป๋า
“ว่าแต่ว่าเย็นนี้มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่นี่คะ”
“งั้นก็ดีเลยวันนี้มีการฉลองเล็กๆ
ที่บริษัทเราได้โปรเจคใหม่ ผมเลยตั้งใจจะเลี้ยงต้อนรับการทำงานวันแรกของคุณด้วย”
“แต่...”
“ไปเถอะเกล้า
พวกพี่ก็ไปกันหมด” อิซาเบลเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่เธอกินข้าวกลางวันด้วยเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังเก็บของอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองซึ่งเป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่ถัดไปจากโต๊ะทำงานของเธอ
และนั่นก็ทำให้รัดเกล้ารู้ว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่ได้รับคำชวน
“ไปกันเยอะๆ จะได้สนุก..
นะ” เอเลียตเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นความลังเลในนัยน์ตาสีนิล
“...”
รัดเกล้าตอบรับคำชวนด้วยร้อยยิ้มบางๆ
แววตาของเอเลียต
แจ็คสันอาจทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจที่จะตอบรับคำชวน แต่ที่ทำให้เธอหนักใจยิ่งกว่าคือรถคันหรูที่คงมาจอดรอรับเธอกลับบ้านอยู่ที่หน้าตึกแล้วต่างหาก
ความคิดเห็น