ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เถื่อนรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #39 : บทที่ 8 ละครฉากใหญ่ (6)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.12K
      31
      8 ธ.ค. 64

     

     “อุ้!” รัดเกล้าร้องออกมาอย่างตกใจเพราะทันทีที่เธอเดินผ่านประตูเข้าไปในห้องนั่งเล่นสีครีมที่เพดานสูงเป็นสองเท่าของห้องปกติร่างของเธอก็ถูกแขนข้างหนึ่งของคนที่ยืนพิงผนังข้างประตูดึงเข้าไปหา ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้หัวใจเธอเต้นรัว รัดเกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของลำแขนที่โอบร่างเธออยู่ ดวงตาสีน้ำเงินล้ำลึกที่เคยเรียบเฉยอยู่เป็นนิจครั้งนี้มันมีบางอย่างแปลกไป มันคล้ายรักใคร่ หลงใหล และหิวกระหาย...

     “หวานขนาดนี้เมื่อไรจะแต่ง” เสียงเซเกรดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มกว้างและดวงตาที่ระยิบระยับไปด้วยแววสนุกสนาน พร้อมกับดึงร่างของมีนรญาเข้าไปในอ้อมแขนของตัวเองบ้าง

    ทุกสายตาหันมามองที่แม็กซิมัสแทบจะทันที และนั่นก็รวมหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเธอด้วย และวินาทีนั้นรัดเกล้าก็รู้ทันทีว่าสายตาแบบนั้นของเขามันคืออะไร

    นี่เธอลืมไปได้ยังไงนะ ทุกอย่างที่เป็นเขาตอนนี้ก็แค่ละครฉากหนึ่งที่ต้องทำให้แนบเนียนเท่านั้น ก็แน่ล่ะ! ตอนนี้เขาอยากให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือภรรยาที่เขารักมากนี่

    “จริงด้วย แม่ก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย” มาดามเทเราซ่าที่นั่งอยู่ตรงโซฟารูปตัวยูสีน้ำตาลทองพอให้ผู้ใหญ่สิบคนนั่งได้แบบสบายๆ เป็นคนเอ่ยขึ้น

    “ว่าไง” เซเกรเอ่ยสำทับอีกครั้ง เขากัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นหัวเราะ

    “รอให้ไทน์แต่งก่อนแล้วกันครับ” แม็กซิมัสตวัดสายตามองพี่ชายคนรองอย่างหงุดหงิด แต่ถึงจะหัวเสียเพียงใดเขาก็ยังเก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเรียบ ท่าทางนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรได้อย่างแนบเนียน

    คนที่ถูกโยนระเบิดมาให้หันขวับมามองหน้าคนพูดด้วยแววตาวาววับราวกับจะฆ่าคนได้ เรื่องเมื่อกลางวันยังไม่ทันได้สะสาง ตอนค่ำยังไม่วายสร้างเรื่องปวดให้เขาอีกเรื่อง

    “เกี่ยวอะไรกับฉัน” วาเลนไทน์ตวัดเสียงขุ่น

    “ได้ยังไง เอาลูกเอาหลานเขามาอยู่ด้วยแบบนี้ไม่จัดการให้เรียบร้อยแม่ไม่ยอมนะ” แม็กซิมัสไม่ได้ได้ตอบ มาดามเทเรซ่าแทรกขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันไม่น่าอภิรมย์ที่เกิดขึ้นระหว่างสองพี่น้อง

    “ผมจดทะเบียนสมรสกับเธอแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงานคิดว่าคงไม่จัด”

    “ยังไงแม่ก็ไม่ยอม จะทำแบบนั้นได้ยังไงผู้หญิงก็ฝันจะมีงานแต่งงาน อยากใส่ชุดเจ้าสาวกันทั้งนั้น”

    “หรือว่านายมีแผนอะไรกันแน่” เสียงเซเกรที่แทรกขึ้นทำให้แม็กซิมัสหันควับไปมองด้วยแววตาเย็นเฉียบ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยี่หระ แถมยังเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางกวนโทสะ

    “เอ่อ...เป็นเพราะเกล้าเองค่ะ” เสียงหวานที่แทรกขึ้นทำให้หลายสายตาหันมามองเจ้าของเสียง

    “ทำไมล่ะจ้ะ” มาดามเทเราซ่าเอ่ยถาม

    “คุณย่าของเกล้าเพิ่งเสียชีวิต เกล้าเลยยังไม่อยากจัดงานมงคล อยากให้รอไปก่อนค่ะ” รัดเกล้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม ขณะที่หลุบตาลง เรื่องที่คุณย่าจากไปเธอพอทำใจได้บ้างแล้วแต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าสบตากับใครเพราะเรื่องที่เธอพูดไปแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องโกหกเสียเลยทีเดียวแต่เจตนาที่พูดออกไปก็ไม่ได้ต่างกัน และท่าทางของเธอก็ทำให้มือของเธอข้างหนึ่งถูกมาดามเทเรซ่าคว้าไปเพราะความเข้าใจผิด

    “เสียใจด้วยนะจ้ะ”

    รัดเกล้าพยายามคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับคำเสียใจของหญิงสูงวัยกว่า แต่กว่าเธอจะยิ้มออกมาได้ก็ยากเย็นเหลือเกิน เพราะยิ่งมาดามเทเรซ่าดีกับเธอมากเท่าไรเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดยิ่งขึ้น

    “ดูดีแล้วใช่ไหมคนนี้”

    เสียงทุ้มแหบของชายวัยกลางคนที่เงียบอยู่นานดังขึ้นจนคนทั้งห้องเงียบกริบ สมาชิกครอบครัวคาริโนไม่มีใครไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นรัดเกล้าเพียงคนเดียว และแม้เรื่องราวจะเกิดขึ้นมานานมากแล้วและทุกอย่างก็คลี่คลายเกือบหมด แต่มันก็กลายเป็นรอยร้าวเล็กๆ ที่ไม่มีใครอยากหยิบยกมันขึ้นมาพูดถึง

    แม็กซิมัสสบสายตากับผู้เป็นบิดานิ่งนานไม่ยอมหลบ ความเงียบเริ่มก่อตัวจนรู้สึกอึดอัด และรัดเกล้าก็รู้สึกได้ถึงลำแขนที่รัดร่างของเธอแน่นขึ้น เธอช้อนตาขึ้นมองเจ้าของแขนที่โอบเธอไว้ใบหน้าเขานิ่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนเธออดไม่ได้ที่จะจับมือหนาข้างที่โอบร่างเธอไว้ และดูเหมือนการกระทำของเธอจะทำให้ร่างสูงคลายความเกร็งลงแม้จะเพียงน้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

    แม็กซิมัสสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ ปกติเขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนต่ำ แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ว่าเมื่อไรก็ทำให้อารมณ์ของเขาเดือดขึ้นได้เสมอ

    “ขอโทษนะครับแม่ ผมกับรัดเกล้าเพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ วันนี้คงต้องขอตัวก่อน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะรั้งร่างในอ้อมแขนออกจากห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์คาริโนโดยไม่สนใจเรื่องมารยาท

     

    ที่หน้าคฤหาสน์โรเจอร์เอารถมาจอดรออยู่แล้ว รัดเกล้าไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแต่ก่อนที่จะได้คิดใคร่ครวญ แม็กซิมัสก็ก้าวผ่านประประตูหลังที่โรเจอร์เป็นคนเปิดให้ขึ้นไปบนรถก่อนจะดึงร่างของเธอให้ขึ้นไปนั่งเคียงข้าง

    รัดเกล้าไม่เคยเห็นแม็กซิมัสเป็นแบบนี้มาก่อน เขาดูเครียดจัด ไม่สบอารมณ์ และดูเหมือนหัวเสียกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็น

    ไม่ใช่เรื่องแปลกกับการที่สมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งจะไม่ยอมรับผู้หญิงแปลกหน้าที่แทบไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป อย่างเรื่องแม่สามีกับลูกสะใภ้ก็เป็นเรื่องสุดแสนจะคลาสสิก ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนเป็นพ่อสามีกับลูกสะใภ้ก็คงไม่ต่างกัน แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่ได้จะมาเป็นสมาชิกจริงๆ ของตระกูลคาริโนเสียหน่อย และเรื่องนี้แม็กซิมัสก็รู้อยู่แก่ใจ ดังนั้นไม่ว่ามองมุมไหน คงไม่ใช่เรื่องนี้ที่ทำให้เขามีท่าทีแปลกไปอย่างแน่นอน

    แม้จะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นภายในครอบครัวนี้กันแน่ และถึงจะสงสัยใคร่รู้เพียงใด รัดเกล้าก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะเธอรู้ตัวว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองและเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปถามเขา ที่สำคัญเมื่อถึงวันนั้น ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าวันไหน แต่มันต้องมาถึงในสักวัน... วันที่เธอกับเขาและครอบครัวของเขาจะกลายเป็นเพียงคนที่เคยผ่านมาพบเจอกันก็เท่านั้น

    ความคิดนี้นำพาความรู้สึกเจ็บจี๊ดเข้ามาสู่หัวใจจนรัดเกล้าต้องรีบปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว

    _____________________

    มาแล้วมาแล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×