คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : บทที่ 8 ละครฉากใหญ่ (6)
“อุ้ย!” รัดเกล้าร้องออกมาอย่างตกใจเพราะทันทีที่เธอเดินผ่านประตูเข้าไปในห้องนั่งเล่นสีครีมที่เพดานสูงเป็นสองเท่าของห้องปกติร่างของเธอก็ถูกแขนข้างหนึ่งของคนที่ยืนพิงผนังข้างประตูดึงเข้าไปหา
ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้หัวใจเธอเต้นรัว รัดเกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของลำแขนที่โอบร่างเธออยู่
ดวงตาสีน้ำเงินล้ำลึกที่เคยเรียบเฉยอยู่เป็นนิจครั้งนี้มันมีบางอย่างแปลกไป
มันคล้ายรักใคร่ หลงใหล และหิวกระหาย...
“หวานขนาดนี้เมื่อไรจะแต่ง” เสียงเซเกรดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มกว้างและดวงตาที่ระยิบระยับไปด้วยแววสนุกสนาน
พร้อมกับดึงร่างของมีนรญาเข้าไปในอ้อมแขนของตัวเองบ้าง
ทุกสายตาหันมามองที่แม็กซิมัสแทบจะทันที
และนั่นก็รวมหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเธอด้วย และวินาทีนั้นรัดเกล้าก็รู้ทันทีว่าสายตาแบบนั้นของเขามันคืออะไร
นี่เธอลืมไปได้ยังไงนะ
ทุกอย่างที่เป็นเขาตอนนี้ก็แค่ละครฉากหนึ่งที่ต้องทำให้แนบเนียนเท่านั้น ก็แน่ล่ะ! ตอนนี้เขาอยากให้ทุกคนเชื่อว่าเธอคือภรรยาที่เขารักมากนี่
“จริงด้วย
แม่ก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย” มาดามเทเราซ่าที่นั่งอยู่ตรงโซฟารูปตัวยูสีน้ำตาลทองพอให้ผู้ใหญ่สิบคนนั่งได้แบบสบายๆ
เป็นคนเอ่ยขึ้น
“ว่าไง”
เซเกรเอ่ยสำทับอีกครั้ง เขากัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นหัวเราะ
“รอให้ไทน์แต่งก่อนแล้วกันครับ”
แม็กซิมัสตวัดสายตามองพี่ชายคนรองอย่างหงุดหงิด
แต่ถึงจะหัวเสียเพียงใดเขาก็ยังเก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเรียบ
ท่าทางนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรได้อย่างแนบเนียน
คนที่ถูกโยนระเบิดมาให้หันขวับมามองหน้าคนพูดด้วยแววตาวาววับราวกับจะฆ่าคนได้
เรื่องเมื่อกลางวันยังไม่ทันได้สะสาง
ตอนค่ำยังไม่วายสร้างเรื่องปวดให้เขาอีกเรื่อง
“เกี่ยวอะไรกับฉัน”
วาเลนไทน์ตวัดเสียงขุ่น
“ได้ยังไง
เอาลูกเอาหลานเขามาอยู่ด้วยแบบนี้ไม่จัดการให้เรียบร้อยแม่ไม่ยอมนะ” แม็กซิมัสไม่ได้ได้ตอบ
มาดามเทเรซ่าแทรกขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันไม่น่าอภิรมย์ที่เกิดขึ้นระหว่างสองพี่น้อง
“ผมจดทะเบียนสมรสกับเธอแล้ว
ส่วนเรื่องแต่งงานคิดว่าคงไม่จัด”
“ยังไงแม่ก็ไม่ยอม
จะทำแบบนั้นได้ยังไงผู้หญิงก็ฝันจะมีงานแต่งงาน อยากใส่ชุดเจ้าสาวกันทั้งนั้น”
“หรือว่านายมีแผนอะไรกันแน่”
เสียงเซเกรที่แทรกขึ้นทำให้แม็กซิมัสหันควับไปมองด้วยแววตาเย็นเฉียบ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยี่หระ
แถมยังเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางกวนโทสะ
“เอ่อ...เป็นเพราะเกล้าเองค่ะ”
เสียงหวานที่แทรกขึ้นทำให้หลายสายตาหันมามองเจ้าของเสียง
“ทำไมล่ะจ้ะ”
มาดามเทเราซ่าเอ่ยถาม
“คุณย่าของเกล้าเพิ่งเสียชีวิต
เกล้าเลยยังไม่อยากจัดงานมงคล อยากให้รอไปก่อนค่ะ” รัดเกล้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม
ขณะที่หลุบตาลง เรื่องที่คุณย่าจากไปเธอพอทำใจได้บ้างแล้วแต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าสบตากับใครเพราะเรื่องที่เธอพูดไปแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องโกหกเสียเลยทีเดียวแต่เจตนาที่พูดออกไปก็ไม่ได้ต่างกัน
และท่าทางของเธอก็ทำให้มือของเธอข้างหนึ่งถูกมาดามเทเรซ่าคว้าไปเพราะความเข้าใจผิด
“เสียใจด้วยนะจ้ะ”
รัดเกล้าพยายามคลี่ยิ้มบางๆ
ให้กับคำเสียใจของหญิงสูงวัยกว่า
แต่กว่าเธอจะยิ้มออกมาได้ก็ยากเย็นเหลือเกิน เพราะยิ่งมาดามเทเรซ่าดีกับเธอมากเท่าไรเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดยิ่งขึ้น
“ดูดีแล้วใช่ไหมคนนี้”
เสียงทุ้มแหบของชายวัยกลางคนที่เงียบอยู่นานดังขึ้นจนคนทั้งห้องเงียบกริบ
สมาชิกครอบครัวคาริโนไม่มีใครไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
ถ้าจะมียกเว้นก็คงเป็นรัดเกล้าเพียงคนเดียว และแม้เรื่องราวจะเกิดขึ้นมานานมากแล้วและทุกอย่างก็คลี่คลายเกือบหมด
แต่มันก็กลายเป็นรอยร้าวเล็กๆ ที่ไม่มีใครอยากหยิบยกมันขึ้นมาพูดถึง
แม็กซิมัสสบสายตากับผู้เป็นบิดานิ่งนานไม่ยอมหลบ
ความเงียบเริ่มก่อตัวจนรู้สึกอึดอัด
และรัดเกล้าก็รู้สึกได้ถึงลำแขนที่รัดร่างของเธอแน่นขึ้น เธอช้อนตาขึ้นมองเจ้าของแขนที่โอบเธอไว้ใบหน้าเขานิ่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จนเธออดไม่ได้ที่จะจับมือหนาข้างที่โอบร่างเธอไว้
และดูเหมือนการกระทำของเธอจะทำให้ร่างสูงคลายความเกร็งลงแม้จะเพียงน้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
แม็กซิมัสสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อสะกดกลั้นอารมณ์
ปกติเขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนต่ำ
แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ว่าเมื่อไรก็ทำให้อารมณ์ของเขาเดือดขึ้นได้เสมอ
“ขอโทษนะครับแม่
ผมกับรัดเกล้าเพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ วันนี้คงต้องขอตัวก่อน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะรั้งร่างในอ้อมแขนออกจากห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์คาริโนโดยไม่สนใจเรื่องมารยาท
ที่หน้าคฤหาสน์โรเจอร์เอารถมาจอดรออยู่แล้ว
รัดเกล้าไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแต่ก่อนที่จะได้คิดใคร่ครวญ
แม็กซิมัสก็ก้าวผ่านประประตูหลังที่โรเจอร์เป็นคนเปิดให้ขึ้นไปบนรถก่อนจะดึงร่างของเธอให้ขึ้นไปนั่งเคียงข้าง
รัดเกล้าไม่เคยเห็นแม็กซิมัสเป็นแบบนี้มาก่อน
เขาดูเครียดจัด ไม่สบอารมณ์ และดูเหมือนหัวเสียกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็น
ไม่ใช่เรื่องแปลกกับการที่สมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งจะไม่ยอมรับผู้หญิงแปลกหน้าที่แทบไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ
ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป
อย่างเรื่องแม่สามีกับลูกสะใภ้ก็เป็นเรื่องสุดแสนจะคลาสสิก
ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนเป็นพ่อสามีกับลูกสะใภ้ก็คงไม่ต่างกัน
แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่ได้จะมาเป็นสมาชิกจริงๆ ของตระกูลคาริโนเสียหน่อย และเรื่องนี้แม็กซิมัสก็รู้อยู่แก่ใจ
ดังนั้นไม่ว่ามองมุมไหน คงไม่ใช่เรื่องนี้ที่ทำให้เขามีท่าทีแปลกไปอย่างแน่นอน
แม้จะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นภายในครอบครัวนี้กันแน่
และถึงจะสงสัยใคร่รู้เพียงใด รัดเกล้าก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะเธอรู้ตัวว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองและเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปถามเขา
ที่สำคัญเมื่อถึงวันนั้น ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าวันไหน แต่มันต้องมาถึงในสักวัน...
วันที่เธอกับเขาและครอบครัวของเขาจะกลายเป็นเพียงคนที่เคยผ่านมาพบเจอกันก็เท่านั้น
ความคิดนี้นำพาความรู้สึกเจ็บจี๊ดเข้ามาสู่หัวใจจนรัดเกล้าต้องรีบปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว
_____________________
มาแล้วมาแล้ว
ความคิดเห็น