คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : บทที่ 8 ละครฉากใหญ่ (4)
“แม่มีลูกชายสามคนนะครับ” แม็กซิมัสท้วงเมื่อมารดาไม่ได้เอ่ยถึงลูกชายอีกคน
“ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่ารายนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว
ถึงแม้ว่าจะยังมีปัญหาอีกนิดหน่อยก็เถอะ”
มาดามเทเรซ่าว่าพลางถอนหายใจก่อนจะวกกลับมาเข้าเรื่องของลูกชายคนเล็ก “มีแต่เรานี่แหละ
หลังจากครั้งนั้น...” มาดามเทเรซ่าชะงักคำพูด
ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องฉับพลันเพราะสีหน้าของลูกชายที่ขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด “เข้าไปในบ้านเถอะจ้ะ
ทุกคนมาพร้อมแล้ว อาหารก็เกือบพร้อมแล้วด้วย”
มาดามเทเรซ่าว่าพลางดึงรัดเกล้าเข้าไปสู่ห้องโถงใหญ่ซึ่งมีพื้นหินอ่อน
พรมหลุยส์เก่าแก่ โคมระย้าคริสตัลมหึมา และบันไดเวียนขนาดใหญ่ทอดขึ้นสู่ชั้นสอง
สายตาทุกคู่ที่จ้องมองมาทำให้รัดเกล้าประหม่าและตึงเครียดไปพร้อมกัน
แน่ล่ะ! ก็เธอไม่ได้มาที่นี่ในฐานะสมาชิกคนใหม่ของตระกูล แต่มาในฐานะนักแสดงในบทสำคัญอย่างสะใภ้คนเล็กของคาริโน
และเหมือนแม็กซิมัสจะรู้ความรู้สึกของเธอเขาเอื้อมมือข้างหนึ่งมาที่เอวแล้วดึงเธอเข้าไปใกล้
แม้ว่าหลายวันมานี้เธอจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา
แต่การกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นได้อย่างประหลาด
คงเป็นเพราะในสถานที่แห่งนี้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่เธอพอรู้จักมักคุ้นด้วย
การแนะนำตัวเกิดขึ้นอีกครั้งโดยมีมาดามเทเราซ่าทำหน้าที่เป็นคนกลาง
รัดเกล้าส่งยิ้มขัดเขินให้กับหลายคนที่เข้ามาดึงเธอเข้าไปกอดและจูบแก้มเพื่อทักทาย
เป็นการต้อนรับที่แสนอบอุ่นและทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนจนแทบอยากจะหนีไปให้พ้นๆ โดยเฉพาะรอยยิ้มกว้างและดวงตาเจิดจ้าของมาดามเทเรซ่าที่ส่งให้เธอเป็นพักๆ
ที่เหมือนจะทำให้รู้สึกผิดกับสิ่งที่เธอกำลังทำเพิ่มพูนขึ้นไปอีก
หลังจากการแนะนำตัวเสร็จสิ้น
อาหารก็พร้อมจะขึ้นโต๊ะ สมาชิกในครอบครัวคาริโนพากันเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์
รัดเกล้าทิ้งกายลงบนเก้าอี้สวยๆ
บุด้วยฟองน้ำหนานุ่มที่ถูกเลื่อนให้ด้วยฝีมือสามีในนาม
ความรู้สึกแปลกประหลาดยังคงหมุนอยู่ในหัวไม่ได้ไปไหน
แต่ความเป็นสุภาพบุรุษของเขาก็ทำให้เธออดใจเต้นแรงไม่ได้แม้ว่าจะรู้ดีว่านั่นเป็นเพียงการเสแสร้งแกล้งทำเพื่อให้ละครฉากใหญ่ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดเท่านั้น
มื้ออาหารดำเนินไปพร้อมกับการพูดคุยด้วยเรื่องสัพเพเหระโดยมีนายหญิงแห่งตระกูลเป็นคนผูกขาด...
สำหรับรัดเกล้าทุกอย่างดูเหมือนฝันไปหมด
โดยเฉพาะสมาชิกของครอบครัวคาริโน ซึ่งแน่นอน นั่นเธอไม่ได้หมายรวมตัวเองเข้าไปนั้นด้วย...
แมทธิว คาริโน
เป็นผู้ชายวัยกลางคนที่ดูดีที่สุดที่เธอเคยเจอ เขามีดวงตาสีน้ำเงินดูดุดัน คมปลาบ
แสดงถึงความจัดเจนจากสนามธุรกิจ และก็ไม่ค่อยพูดคุยอะไรมากนัก ท่าทางที่ดูเคร่งขรึมจริงจังและน่าเกรงขามทำให้รัดเกล้าไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ชายวัยกลางคนคนนี้จะสามารถครอบครองธุรกิจมูลค่านับแสนๆ
ล้านทั่วโลกไว้ได้ในกำมือ และทุกครั้งที่เผลอไปสบตาด้วย รัดเกล้าจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังมองเธอด้วยสายตาบางอย่าง
ไม่ใช่ชอบพอ แต่ก็ไม่ได้เกลียดชัง มันคล้ายกับอีกฝ่ายกำลังสำรวจตรวจตราและประเมินอะไรสักอย่างมากกว่า
และเธอก็รู้สึกได้ว่าแม็กซิมัสเลี่ยงที่จะสนทนากับบิดาของเขา
และหากจำเป็นต้องพูดคุยด้วยเขาจะนิ่งขรึมและดูเป็นทางการขึ้นกว่าปกติเป็นเท่าตัว
รัดเกล้าละสายตาจากแมทธิวที่หันไปตอบคำถามของมาดามเทเรซ่าแล้วมองไปที่วาเลนไทน์
และเซเกรแทน
ก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างกายของเธอแวบหนึ่ง
ถ้าให้เลือกใครสักคนในพี่น้องคาริโนคงเป็นเรื่องยากเหมือนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแน่ๆ
พวกเขาดูมีเสน่ห์จนไม่สามารถละสายตาไปได้ ดวงตาสีน้ำเงินสามคู่ดูดุดันหากทว่ากลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด
เส้นผมสีน้ำตาล กรอบหน้าคมเข้ม
รูปร่างสูงใหญ่แบบชาวตะวันตกที่ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ
และรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่เขย่าหัวใจคนมองได้ทันทีที่เห็น แม้ว่าคนข้างกายเธอจะไม่เคยยิ้มแบบที่เรียกได้ว่ายิ้มจริงๆ
ก็เถอะ
แต่สิ่งที่เธออดไม่ได้ที่จะชื่นชมไม่ได้คือแววตาอ่อนโยนของเซเกรที่มองไปยังภรรยา
‘มีนรญา สว่างกิจ’ หญิงสาวหน้าหวานผู้มีดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกาย
และรอยยิ้มหวานที่ติดอยู่บนริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน
เธอดูมีความสุขจนรัดเกล้าอดที่จะอิจฉาไม่ได้
มีคนบอกว่า...ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามและสดใสเสมอ
แต่ไม่รู้เมื่อไรที่วันนั้นของเธอจะมาถึงเสียที
เรื่องเลวร้ายที่เกิดแทบจะรายวันทำให้เธอทดท้อ สิ้นหวัง
และแทบจะไม่อยากตื่นขึ้นมาเพื่อพบเจอกับวันใหม่
“คุณเกล้าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้รัดเกล้ารู้ตัวว่าตัวเองเผลอจ้องมองหญิงสาวที่มีอายุอานามใกล้เคียงกับตัวเองอยู่นาน
เธอส่งยิ้มขัดเขินให้อีกฝ่ายก่อนจะตอบเสียงเบา “เปล่าค่ะ”
“อยากเข้าห้องน้ำหรือเปล่า”
“คะ...ค่ะ”
รัดเกล้าหันไปมองแม็กซิมัสที่เอ่ยขึ้นอย่างงงๆ ก่อนจะตอบรับไปเมื่อเห็นบางอย่างที่ส่งผ่านมาทางสายตา
“เอาสิจ้ะ
ทุกคนอิ่มกันหมดแล้ว เดี๋ยวเราจะย้ายไปที่ห้องนั่งเล่นกันพอดี แม็กซ์ไปส่งน้องสิ มาครั้งแรกเดี๋ยวหลงทาง”
“ครับ” แม็กซิมัสลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีที่ตอบรับคำของมารดา
เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้แล้วดึงเธอให้ลุกขึ้นตาม
“ไปเถอะ
เราก็ย้ายไปที่ห้องนั่งเล่นกัน” มาดามเทเรซ่าพูดขึ้น
ดวงตาสีฟ้าเจิดจ้าทอประกายไปด้วยความสุขยามที่มองการกระทำอ่อนโยนของลูกชายคนเล็ก
และรอยยิ้มกว้างที่ส่งมาให้ก็ทำให้รัดเกล้ารู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเก่า
------------------------
อีบุ๊กมาไม่เกินกลางเดือนนี้จ้า อาจเร็วกว่านั้นเดี๋ยวเหมยเร่งคนจัดอาร์ตก่อนนะ
ความคิดเห็น