คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : บทที่ 7 คืนแรกในฐานะภรรยา(รับจ้าง) (5)
“หยุดสวดฉันสักที
ฉันเป็นแม่แกนะแกไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนฉัน ถ้าจะมาด่าฉันป่าวๆ
ก็มาช่วยฉันคิดดีกว่าว่าจะทำยังไง”
“จะทำอะไรได้อีกละคะ
ถ้าไปแจ้งตำรวจว่าโดนไอ้เสี่ยนั่นโกง เราสองคนได้หายไปจากโลกนี้แน่ๆ”
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น
แต่หมายถึงเรื่องที่ยายแกทำกับฉันต่างหาก”
“คุณยายทำอะไรคะ”
“ไม่รู้ว่าแก่จนเลอะเลือนหรือว่าบ้าเสียสติไปแล้ว
ทั้งบ้านทั้งสวนยกให้ยัยหลานนอกไส้นั่นคนเดียว
แกก็หลานเหมือนกันได้แค่เงินในบัญชีไม่กี่บาท ส่วนฉันลูกแท้ๆ
ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว”
“อะไรนะคะยกให้ยัยเกล้า”
“ใช่”
“ทั้งหมดเลยหรือคะ”
“ก็เออนะสิ
เพราะแกนั่นแหละตอนยัยแก่นั่นอยู่ไม่รู้จักออดอ้อนเอาอกเอาใจ
พอมันตายไปเลยได้แค่เศษเงินของมัน” ทิพย์มณฑาใช้สรรพนามเรียกผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างไม่สนใจว่านั่นคือมารดาผู้ให้กำเนิด
“จะโทษพิ้งค์คนเดียวได้ยังไงคะ
ถ้าคุณยายไม่ต้องใช้หนี้ให้แม่หลายต่อหลายครั้งจนท่านระอา แล้วก็คาดโทษว่าจะไม่ให้อะไรแม่อีกแม้แต่บาทเดียวเรื่องก็คงไม่เป็นอย่างนี้
นังเด็กเหลือขอนั่นก็คงไม่มาชุบมือเปิบเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของเราไป”
“แล้วฉันจะทำยังไงล่ะทีนี้
ตอนแรกก็นึกว่าจะรอดตัวแล้วเชียว” ทิพย์มณฑาสบถขึ้นอย่างคิดไม่ตก
ตอนแรกเธอก็คิดว่าเรื่องนี้จะจบลงง่ายๆ กับแค่ขายบ้านขายสวนที่ได้รับเป็นมรดกตกทอด
แต่เมื่อวานทนายความที่คอยดูแลเรื่องกฎหมายให้กับคุณนวลจันทร์ดันโผล่มาที่นี่บอกว่ามีพินัยกรรมจะต้องแจ้งให้ทุกคนทราบ
และต้องแจ้งตอนที่ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในพินัยกรรมอยู่กันครบ ถ้าตอนนั้นเธอไม่กระชากมันมาจากมือไอ้ทนายโง่เง่า
ที่ไม่รู้จะจงรักภักดีอะไรหนักหนากับอีแค่คนที่ตายไปแล้ว เธอก็คงไม่รู้หรอกว่าใครได้อะไรไปบ้าง
“หมายความว่ายังไงคะ
รอดตัว ก็ไหนว่าขายบ้านกับสวนนี่ก็ยังไม่พอจ่ายหนี้ให้เสี่ยสมภพไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่
แต่ไอ้เสี่ยนั่นมันดันมาถูกตาต้องใจยายเกล้า มันเลยยกหนี้ส่วนที่ขาดให้
แถมยังมีเงินให้อีก”
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ
หรือแม่กังวลเรื่องบ้านกับสวน แม่ก็เอาโฉนดไปให้เสี่ยสมภพแล้วก็ให้เสี่ยนั่นทำยังไงก็ได้ให้ยัยเกล้าเซ็นยกบ้านกับสวนให้กับเสี่ยด้วยตัวเอง
ก็หมดปัญหาแล้วนี่คะ”
“ฉันก็คิดอย่างแกนั่นแหละ
แล้วก็ทำไปแล้วด้วย”
“แล้วยังจะมีปัญหาอะไรอีก
แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นโชคดีของพิ้งค์นะคะที่ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวัน
ไม่งั้นคนที่ไอ้เสี่ยนั่นอยากได้อาจเป็นพิ้งก็ได้ แค่คิดพิ้งค์ก็ขนลุกแล้วค่ะ
ไอ้เสี่ยบ้านั่นโรคจิตจะตาย ไม่รู้ว่าตอนนี้ยัยเกล้าจะป่นปี้ขนาดไหน” เป็นถ้อยคำที่ไร้ความเห็นใจในน้ำเสียง
ชมพูนุชทำท่าขนลุกขนชันตามคำพูด เพราะเท่าที่เธอรู้มา นอกจากเสี่ยสมภพจะวิปริตแล้ว
เขายังทำธุรกิจค้าเนื้อสดอีกต่างหาก เธอไม่อยากจะคิด ถ้าหากว่าตัวเองต้องตกเป็นของใช้หนี้ของเสี่ยสมภพชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป
“เอ้า! แม่ ไปนอนได้แล้วค่ะจะมานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดให้แก่เร็วทำไม”
ชมพูนุชเอ่ยขึ้นอีกเมื่อเห็นหน้าของมารดาที่ไม่มีความโล่งใจเลยสักนิดทั้งๆ
ที่ทุกอย่างก็ลงตัวหมดแล้ว “หรือกลัวว่ายายเกล้าจะไม่ยอมโอนบ้านกับสวนให้เสี่ยสมภพ
ก็น่ากังวลอยู่หรอกค่ะแม่ทำกับมันขนาดนั้นยัยเกล้าคงยอมขายบ้านขายสวนเพื่อช่วยแม่หรอก”
“เรื่องนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร
ไอ้เสี่ยบ้ากามจอมขี้โกงนั่นคงมีวิธีจัดการของมันเอง”
“แล้ว?”
ชมพูนุชถามอย่างไม่เข้าใจความคิดของมารดา
“แกพอจะมีเงินสักสามล้านไหม”
“ตั้งสามล้านพิ้งค์จะเอาที่ไหนมาคะ
ว่าแต่แม่จะเอาเงินมากขนาดนั้นไปทำอะไร”
“เอาไปคืนเสี่ยสมภพ”
“คืน...คืนทำไมคะ”
“ก็ยายเกล้าน่ะสิไม่รู้ว่าไปมีผัวรวยตั้งแต่ตอนไหน
ผัวมันจ่ายหนี้ให้ห้าสิบล้าน แต่มันไม่ยอมจ่ายส่วนที่ฉันเอาที่ไอ้เสี่ยนั่นมาอีกสามล้าน
ตอนนี้ฉันเลยต้องเอาเงินไปคืน”
“อย่าบอกนะ
ว่าแม่ใช่เงินที่ไอ้เสี่ยนั่นให้มาหมดแล้ว”
“ใช่” คำตอบรับของทิพย์มณฑาหลุดออกมาไม่เต็มเสียง
“ขนาดนี้แล้วยังไม่เข็ดอีกหรือคะ
แทบจะเหลือแต่ตัวอยู่แล้ว นี่ก็ไม่รู้เมื่อไรที่ยัยเกล้าจะมาไล่เราออกจากบ้าน” ชมพูนุชขึ้นเสียงใส่มารดาอีกหนอย่างอดไม่ไหว
ไม่ต้องให้อีกฝ่ายบอกเธอก็รู้ว่ามารดาใช้เงินหลักล้านหมดภายในสามวันด้วยวิธีไหน
“ฉันก็คิดว่าจะเอาทุนคืนบ้างน่ะสิเสียไปตั้งเยอะ
แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องยัยเกล้าหรอก ยังไงมันก็ไม่กล้ามาไล่ฉันออกจากบ้าน”
“แม่ทำกับมันขนาดนั้นมันคงจะยอมให้แม่อยู่บ้านของมันหรอกค่ะ”
“ก็ลองมาไล่ดูสิฉันจะป่าวประกาศมันให้ทั่วว่าอีเด็กเหลือขอนั่นมันเนรคุณขนาดไหน”
“ว่าแต่ว่าใครกันคะที่มีเงินจ่ายหนี้แทนยัยเกล้าตั้งห้าสิบล้าน”
ชมพูนุชถามอย่างนึกขึ้นได้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย แค่เรื่องของตัวเองหัวฉันก็จะระเบิดอยู่แล้วไม่มีเวลาไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของใครหรอก
ว่าแต่แกมีเงินเท่าไรเอามาสิไหนว่าออกไปหาเงินมาไม่ใช่เหรอ”
“พิ้งค์มีแค่นี้”
ชมพูนุชว่าพลางหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้มารดา
“หมื่นเดียว
ฉันเป็นหนี้สามล้านหมื่นเดียวมันจะไปพออะไร” ทิพย์มณฑาตะคอกใส่ลูกสาวเสียงดัง
“ก็พิ้งค์หามาได้แค่นี้นี่ค่ะ
แล้วแม่จะมาตะคอกใส่พิ้งค์ทำไม
เงินสามล้านที่แม่ได้มาพิ้งค์ก็ไม่ได้สักบาท มีแต่แม่คนเดียวที่เอาไปถลุงในบ่อน”
“ถ้าไม่คิดจะช่วยก็หุบปากไปเลย
แล้วจะไสหัวไปไหนก็ไป”
“ไม่ต้องบอกพิ้งค์ก็ไม่อยู่หรอกค่ะ
ง่วงจะตายอยู่แล้ว” ชมพูนุชว่าพลางหมุนตัวเดินตรงไปยังบันไดขนาดใหญ่ที่ใช้ตรงขึ้นชั้นสองของบ้าน
“เดี๋ยวเอากุญแจรถแกมาด้วย”
“เอาไปทำไมคะ”
“ถามได้ก็เอาไปขายน่ะสิ”
“แล้วพิ้งค์จะเอารถที่ไหนใช้ล่ะคะ”
“เลือกเอาแล้วกันว่าแกจะให้ฉันขายรถ
หรือแกจะไปอยู่กับเสี่ยสมภพแทนยัยเกล้า”
ชมพูนุชมองมารดาอย่างไม่เชื่อสายตา
แต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังของอีกฝ่ายเธอก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย หยิบกุญแจรถขึ้นมาแล้ววางบนโต๊ะเล็กๆ
อย่างกระแทกกระทั้นก่อนจะก้าวฉับๆ ตรงไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยความผิดหวังและโกรธจัดกับคำพูดที่มารดายกขึ้นมาขู่
---------------------------------
ความคิดเห็น