คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 5 ไม่ได้ต่างกัน (4)
“ส่งเอกสารมาให้ฉัน
แล้วไปจัดการเรื่องไอ้พวกนั้นให้เรียบร้อย”
ประตูห้องที่ถูกเปิดออกด้วยมือหนาถูกชะงักก่อนที่คำสั่งจะถูกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดโดยผู้มีอำนาจสูงกว่า
แต่แทนที่ผู้อยู่ใต้อาณัติจะไปทำตามคำสั่งโดยดุษฎี กลับมีคำถามถูกยิงกลับมาแทน...
“แล้วถ้าจัดการเรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
แล้วเธอยังปฏิเสธล่ะครับ”
“เธอไม่มีทางเลือก
เพราะฉันจะเป็นคนทำให้เป็น...”
เสียงทุ้มชะงักลงเมื่อคู่สนทนาส่งสายตาที่สื่อความหมายบางอย่างมาให้ ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจที่ถูกขัดจังหวะการพูด
“มีอะไร?”
“เหมือนเธอจะรู้สึกตัวแล้วครับ”
“อืม...
ไปจัดเรื่องที่สั่งเถอะ” เสียงตอบรับในลำคอดังขึ้น ตามด้วยคำสั่งเดิมที่ถูกเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“ครับ”
ผู้อยู่ใต้อำนาจตอบรับพลางค้อมหัวลงอย่างนอบน้อม แม้จะยอมรับในคำสั่ง
แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า... ‘คุ้มกันงั้นเหรอกับผู้หญิงธรรมดาๆ
เพียงคนเดียวที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร?’ แต่บางอย่างก็ผุดขึ้นมาโต้แย้งทันทีที่เขาตั้งข้อสงสัยนั้นขึ้นมา
“ธรรมดาและไม่มีความสำคัญอะไรจริงเหรอ?” แต่ข้อสงสัยของเขาไม่ว่าจะเป็นข้อไหน
สิ่งเดียวที่จะช่วยพิสูจน์ได้ก็คือเวลาเท่านั้น...
ความหนักอึ้งที่ศีรษะทำให้รัดเกล้าแทบไม่อยากเปิดเปลือกตาตื่นขึ้นมาแม้แต่เพียงนิด
แต่เสียงพูดคุยที่ดังแว่วๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ เสียงเปิดปิดประตู และเสียงฝีเท้าหนักๆ
ทำให้เธอต้องฝืนบังคับตัวเองให้ตื่นจากห้วงนิทรา
“อื้อ...” เสียงหวานครางออกมาเบาๆ อาการวิงเวียนราวกับโลกหมุนทำให้เธอต้องหลับตาลงอีกหน
สูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนตัวเองอย่างที่สุดเพื่อเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นอีกครั้ง
ที่ไหนกัน?
คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดเมื่อภาพที่เห็นไม่คุ้นตาเอาเสียเลย
สมองที่เชื่องช้าประมวลเรื่องราวก่อนหน้านี้อย่างสับสน
และเมื่อความทรงจำกลับมาครบถ้วน ร่างเล็กก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียง
ภาพพร่ามัวในความทรงจำสุดท้ายทำให้ลมหายใจของรัดเกล้าสะท้าน
หญิงสาวตะลีตะลานสำรวจตัวเอง และพ่นลมหายใจออกมาเมื่อพบว่าตัวเองยังอยู่ในชุดเดรสแขนกุดสีดำชุดเดิมก่อนที่จะหมดสติไปและร่างกายก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร
นอกจากอาการปวดหัวตุบๆ และอาการอ่อนแรงที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกาย
“ใช่! อย่างที่คุณเข้าใจยังไม่มีใครทำอะไรคุณ คุณยังเหมือนเดิมทุกอย่าง”
เสียงยืนยันที่ดังขึ้นทำให้รัดเกล้าหันขวับไปมองทางต้นเสียง
ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึงว่าจะได้เจอเขาที่นี่
“คะ...คุณ!”
“ใช่ผมเอง”
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
แล้วที่นี่ที่ไหนคะ”
“ที่นี่บ้านเสี่ยสมภพ
ส่วนเรื่องที่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไม่สำคัญเท่าผมมาที่นี่ทำไม”
“แล้วคุณมาทำไม”
“ผมมาที่นี่เพราะ
เรายังคุยเรื่องข้อเสนอของผมไม่จบ”
“ฉันว่าเราคุยกันจบแล้วนะคะ
แล้วฉันก็บอกคุณไปแล้วว่าไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่รับข้อเสนอบ้าๆ ของคุณ
ต่อให้คุณจะเพิ่มเงินค่าจ้างอีกกี่หมื่นกี่แสน”
“ผมว่าคุณควรคิดใหม่”
“ทำไมต้องทำอย่างนั้น”
“เพราะตอนนี้คุณอยู่ในสถานะที่ไม่ได้มีทางให้เลือกมากนัก
คุณรู้ใช่ไหมว่าคุณมาที่นี่เพราะอะไร และต้องมาทำหน้าที่อะไร”
“ถ้าฉันรับข้อเสนอของคุณฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างจากกันตรงไหน”
“ต่างอย่างเห็นได้ชัด”
“ตรงไหนไม่ทราบ”
รัดเกล้าตอบเขาด้วยน้ำเสียงกรุ่นๆ ที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ข้อแรก
คุณจะได้ไม่ต้องเป็นของเล่นของผู้ชาย...”
“ก็ไม่เห็นต่างจากที่ฉันต้องเป็นให้คุณ”
ตอนนี้ความอดทนของเธอคงหมดสิ้นแล้วจริงๆ
เพราะเสียงที่เคยถูกข่มให้เรียบมันถึงกลายเป็นทั้งห้วนทั้งดัง แต่ถึงอย่างนั้นเสียงที่ตอบกลับมาก็ยังราบเรียบเย็นชาไม่ต่างจากเดิม
“ฟังให้จบก่อนแล้วค่อยพูด”
แม็กซิมัสสวนกับด้วยน้ำเสียงคุกคาม นัยน์ตาสีน้ำเงินดุดันจับจ้องไปที่ดวงตาสีนิลนิ่ง
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดต่อ... “คุณจะได้ไม่ต้องเป็นของเล่นของผู้ชายแก่คราวพ่อแถมยังโรคจิต
รู้ไหมว่าเสี่ยนั่นเตรียมของเล่นอะไรไว้ใช้กับคุณบ้าง” แม็กซิมัสลุกจากเก้าอี้หนาหนุ่มที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องนอน
สาวเท้ายาวๆ ไปยังตู้หลังใหญ่ที่กินพื้นที่ผนังฝั่งหนึ่งของห้อง “ของเล่นไอ้เสี่ยนั่นก็เยอะดีนะ มีกุญแจมือ แซ่
เทียนไข แล้วก็ยังมี...” แม็กซิมัสว่าพลางหยิบของที่เขาเอ่ยถึงขึ้นมาเพื่อให้หญิงสาวที่ยังนั่งอยู่กลางเตียงได้เห็นของที่เขาพูดถึง
______________________
ความคิดเห็น