คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : บทที่ 5 ไม่ได้ต่างกัน (2)
๘
“ลูกสาวคุณทิพย์สวยสมคำร่ำลือจริงๆ”
บทสนทนาถูกต่อขึ้นอีกครั้งหลังจากชะงักไป
“คนนี้เด็กที่บ้านเก็บมาเลี้ยงค่ะไม่ใช่ลูก”
ทิพย์มณฑาสะบัดเสียงอย่างไม่ชอบใจ
ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกเมื่อเห็นสายตาของเสี่ยสมภพที่มองร่างเล็กๆ
ของรัดเกล้าอย่างไม่ละสายตา แม้ว่าเด็กสาวจะหายลับไปจากสายตาแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ละสายตาจากจุดที่ร่างบอบบางลับหายไป
“สนใจหรือคะเสี่ย”
แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคาดคิด
เพราะทั้งแววตา ทั้งริมฝีปากที่แย้มขึ้น และคำพูดไม่อ้อมค้อมของอีกฝ่ายก็ทำให้ทิพย์มณฑารู้ว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิด
“ผมจะยินดีเป็นอย่างมากถ้าคุณทิพย์จะให้เด็กในบ้านมาใช้หนี้ในส่วนที่ขาดไปแทน
อืม...เอาอย่างนี้ดีกว่าผมจะให้เงินคุณทิพย์อีกสักก้อน เผื่อคุณทิพย์จะเอาไปทำทุนต่อ”
“มันจะดีเหรอคะ”
“ก็แค่เด็กในบ้านไม่ใช่เหรอ
จะต้องไปสนใจอะไร”
ทิพย์มณฑาถามเม้มปากแน่นอย่างไม่แน่ใจ
ไม่ใช่เพราะเธอห่วงใยกาฝากที่พี่ชายตัวเองเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก แต่เป็นเพราะ...
“ทิพย์กลัวตำรวจ”
“คิดว่าตำรวจจะทำอะไรผมได้งั้นเหรอ
คุณทิพย์ก็รู้ดีนี่ว่าไม่มีตำรวจหน้าไหนกล้ายุ่งกับผม ผมให้สองล้านถ้าคุณทิพย์ตกลง”
“ทิพย์ขอห้าล้านค่ะ”
สุดท้ายความโลภก็เข้าครอบงำปัดความกลัวในความผิดออกไปจนหมดสิ้น
“ผมให้ได้แค่สองล้านห้า”
“สองล้านห้ามันไม่น้อยไปหรือคะ
เพิ่มอีกหน่อยเถอะค่ะ”
“ไม่รู้จะคุ้มหรือเปล่าสินะสำหรับผู้หญิงคนเดียว”
“เสี่ยก็เห็นแล้วนี่ค่ะ
อีกอย่างของใหม่สดๆ ไม่เคยผ่านมือใครทำไมจะไม่คุ้ม”
“หลอกกันหรือเปล่าคุณทิพย์
โตขนาดนี้แล้วนะยังไม่เคย”
“ย่าเขาเลี้ยงมาอย่างคนสมัยก่อนค่ะ
รักนวลสงวนตัว กุลสตรีไทย แล้วที่รู้มาเด็กมันก็ไม่เคยนอกลู่นอกทาง
สามล้านนะคะเสี่ยสองล้านห้ามันน้อยไปจริงๆ” ทิพย์มณฑาร่ายสรรพคุณเด็กสาวนอกสายเลือดที่มีศักดิ์เป็นหลานตามที่มารดาเคยอวดอ้างสรรพคุณเอาไว้
แม้จะจงเกลียดจงชังเพียงใดแต่เพื่อเงินเธอทำได้ทุกอย่าง
แม้แต่พูดชื่นชมด้วยถ้อยคำที่เธอเคยบิดปากใส่เพราะความรำคาญเธอก็ยอม
“ผมจะถือว่าเห็นแก่คุณทิพย์ล่ะกัน
สามล้านก็สามล้าน แต่ผมต้องได้ตัวเธอตอนนี้นะ”
“ตอนนี้เหรอคะเสี่ย”
“หรือว่าไม่ได้”
“ได้น่ะได้แน่ค่ะเสี่ย
แต่เสี่ยคงต้องใช้กำลังนิดหน่อยนะคะ อย่างที่บอกเด็กมันไม่เคย”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา
คุณทิพย์ก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอว่าไม่มีอะไรที่เสี่ยสมภพทำไม่ได้”
“งั้นรอสักครู่นะคะเสี่ย”
ทิพย์มณฑาว่าพลางประสานสายตากับสมภพอย่างรู้กัน
แม้จะโมโหที่ถูกอีกฝ่ายโกงและอยากจะแจ้งความให้รู้แล้วรู้รอด
แต่สัญญากู้ยืมและอิทธิพลที่อีกฝ่ายมีก็ทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีทางชนะคดีแน่
ดีไม่ดีเธออาจจะตายและหาศพไม่เจอก็เป็นได้ ทำแบบนี้อย่างน้อยเธอก็ยังมีชีวิตรอด ได้ใช้หนี้
แถมยังมีเงินอีกสามล้านเอาไว้ตั้งตัว
ร่างบอบบางในชุดเดรสแขนกุดสีดำไว้ทุกข์ชุดเดิมเหมือนกับตอนที่กลับเข้ามาก้าวลงมาจากบันไดที่เดินขึ้นไปเมื่อห้านาทีก่อนด้วยท่าทางงุนงง
ที่ผ่านมาสำหรับทิพย์มณฑาแล้ว
เธอเป็นได้แค่อากาศธาตุที่ไร้ตัวตนในบ้านหลังนี้เท่านั้น หากมีความจำเป็นจริงๆ ก็นับคำได้ด้วยซ้ำที่อีกฝ่ายจะพูดกับเธอ
แต่วันนี้ผู้เป็นอากลับให้คนไปตามบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย
มันช่างเป็นเรื่องแปลกประหลาดและน่าสงสัยจนเธอปัดมันทิ้งไม่ได้ และยิ่งได้เห็นสายตาของชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาตัวยาวชุดเดียวกับทิพย์มณฑา
สายตาจาบจ้างที่คล้ายกับจะสำรวจและประเมินสินค้าอะไรบางอย่างก็ทำให้เธอแทบไม่อยากก้าวเท้าต่อเพื่อพาตัวเองเข้าไปใกล้คนทั้งสอง
สิ่งที่เธออยากทำคือการถอยหนีไปให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เป็นเพราะมารยาทที่ได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กๆ
และเสียงเรียกของผู้ที่มีศักดิ์เป็นอานั่นแหละที่ทำให้รัดเกล้าจำใจต้องสาวเท้าไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับทิศทางที่สัญชาตญาณสั่งอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“มานั่งนี่สิยัยเกล้า”
“ค่ะ”
รัดเกล้าตอบรับพลางสาวเท้าตรงไปนั่งโซฟาตัวเล็กๆ ที่ใช้สำหรับนั่งคนเดียว
“นี่เสี่ยสมภพ
สวัสดีเสี่ยเสียสิ”
“สวัสดีค่ะเสี่ย”
รัดเกล้าทำตามอย่างว่าง่าย
ทั้งๆ ที่ท่าทางและน้ำเสียงที่แปลกไปของทิพย์มณฑาแทบทำให้เธออยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลด้วยซ้ำ
“นี่รัดเกล้าค่ะเสี่ย
หลานสาวของฉันเอง”
รัดเกล้าหันควับกลับไปมองทิพย์มณฑาที่เรียกเธอว่าหลานด้วยแววตาสงสัย
อีกฝ่ายไม่เคยแนะนำเธอให้ใครรู้จักในสรรพนามนี้ ไม่สิ
ไม่เคยนับว่าเธอเป็นคนในครอบครัวเลยต่างหาก แต่เสียงของเสี่ยสมภพก็ทำให้เธอต้องละสายตาจากหญิงสาววัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นอาไปมองใบหน้ายิ้มกริ่มของเสี่ยสมภพอีกครั้ง
“สวัสดีจ้ะ
หนูเกล้า”
“คุณอามีเรื่องอะไรหรือเปล่าค่ะถึงให้คนไปตามเกล้ามาพบ”
รัดเกล้าเผยยิ้มบางๆ
อย่างมีมารยาทให้กับคำทักทายของเสี่ยสมภพก่อนถามขึ้นเพื่อจะได้พาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี่เร็วที่สุดและเพื่อเลี่ยงการประสานสายตากับดวงตาของชายกลางคนที่ทำให้เธอรู้สึกขนลุกชันไปทั้งตัว
“มีสิ
สำคัญมากด้วย”
“เรื่องอะไรคะ”
รัดเกล้ารีบเข้าเรื่องเพราะไม่อยากอยู่ตรงนี้นานนัก
“ดื่มน้ำส้มก่อนสิเดี๋ยวค่อยคุยกัน”
รัดเกล้ามองแก้วน้ำส้มเย็นเจี๊ยบที่ถูกเลื่อนมาตรงหน้า
เธอไม่กระหายเลยสักนิด แต่เพราะคำคะยั้นคะยอของทิพย์มณฑาและท่าทางว่าจะไม่ยอมพูดถึงเรื่องที่อีกฝ่ายเรียกให้เธอมาพบหากเธอไม่ยอมยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มทำให้รัดเกล้าจำใจต้องดื่มมัน
____________
อัปต่อค่ะ ใครรออยู่บ้าง???
ความคิดเห็น