คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 2 (3)
“พี่เอริคทำอะไรเนี่ย! ปล่อยรัตน์นะ! จะพารัตน์ไปไหน!”
เสียงโวยวายที่ดังมาตลอดทางชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อไร้เสียงอึกทึกของผู้คนและเสียงเพลงดังกระหึ่มของผับ ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจจะตอบกลับไป หรือแม้แต่จะหันกลับไปมอง มือหนาที่ยึดข้อมือเล็กกำแน่นขึ้นอีกเมื่อเธอพยายามทั้งบิดทั้งแกะเพื่อหาอิสรภาพของตัวเอง ร่างสูงก้าวเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ โดยที่แรงรั้ง และการดิ้นรนไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
พี่เอริค รัตน์บอกให้ปล่อยไง เป็นบ้าหรือไง” ด้วยช่วงขาที่ยาวกว่า คนถูกลากจึงต้องสาวเท้าบนส้นสูงถี่เร็ว จนเกือบเป็นการวิ่งเพื่อตามการก้าวเดินของเขาให้ทัน เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงได้ไถลไปตามพื้นแทน
พ่อฉันกับน้าผู้แสนดีของเธอรู้ไหมว่าเธอทำตัวแบบนี้” เพราะคนที่อยู่ด้านหลังเริ่มทำร้ายร่างกายเขาด้วยการจิกเล็บลงบนมือที่ยึดข้อมือเธอไว้ ทำให้เขาต้องหันกลับไปตอบเธอ
“รัตน์ทำตัวแบบไหนไม่ทราบ”
“ทำอะไรก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วนี่”
“ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูดกัน ปล่อย รัตน์จะกลับไปหาเพื่อน”
“เธอต้องกลับบ้านพร้อมฉัน และก็ต้องกลับเดี๋ยวนี้ด้วย”
“รัตน์ฉลองกับเพื่อนอยู่ไม่เห็นหรือไง เพื่อนยังไม่กลับรัตน์จะกลับได้ยังไง”
“เฮอะ อย่างกับว่าเพื่อนกลับแล้วเธอจะกลับ”
“แล้วทำไมรัตน์จะต้องไม่กลับด้วย”
“ก็เพราะคืนนี้เธอจะไปนอนห้องผู้ชายน่ะสิ”
“แล้วไงคะ”
“น้าเธอรู้เรื่องนี้ไหม”
“...”
“เงียบแบบนี้แปลว่าไม่รู้ หรือว่ารู้ แต่น้าเธอเห็นว่าเป็นเป็นเรื่องปกติ ของเคยทำ ถ้าลูกหลานจะทำบ้างก็คงเป็นเรื่องธรรมดาสินะ” ท่าทางยืนนิ่ง ไม่ตอบ แล้วก็เม้มปากแน่นทำให้เขาสรุปเอาเองเสร็จสรรพด้วยถ้อยคำดูแคลน
หน้าที่แดงอยู่แล้วเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แดงขึ้นอีกเพราะแรงอารมณ์ที่กำลังปะทุ มือเล็กถูกกำแน่น นัยน์ตากลมโตที่โตกว่าคนทั่วไปถลึงมองเขาด้วยประกายวาววับ ทว่าเขากลับไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด
“หยุดดูถูกน้ากานต์เสียทีเถอะ ยังไงท่านก็อายุมากกว่าคุณ มีศักดิ์เป็นแม่ของคุณ”
แล้วเป็นอย่างเช่นทุกครั้ง รัตน์วลีจะโกรธทุกครั้งที่เธอได้ยินเขาพูดถึงกานต์สินีในแง่ที่ไม่ดี และใจขณะที่กานต์สินีวางตัวนิ่งเฉยราวกับว่าเขาไม่ได้พูดอะไรออกไป รัตน์วลีจะตอบโต้เขากลับมาอย่างแสบสัน
“แม่ของฉันมีคนเดียว อีกอย่างคนแบบน้าเธอเป็นแม่ใครไม่ได้หรอก ทำตัวให้ดียังไม่ได้ แล้วจะเลี้ยงเด็กให้โตมาเป็นคนดีได้ยังไง” น้ำเสียงที่เคยเรียบนิ่ง แข็งกระด้างเมื่อต้องพูดถึงคนที่เกลียด “ตัวอย่างก็เห็นอยู่โต้งๆ แล้วนี่ ถามจริง มันให้เท่าไรล่ะ เงินที่เอาจากพ่อฉันมามันไม่พอหรือไงถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้” นัยน์ตาสีเทาที่เข้มข้นไปด้วยแรงอารมณ์และกวาดมองร่างเล็กอย่างดูแคลน
“รัตน์ไม่ได้เหมือนผู้หญิงของพี่นะ อย่าเอาผู้หญิงพวกนั้นของพี่มาเปรียบกับรัตน์ แล้วก็อย่าเอาเพื่อนรัตน์ไปเปรียบเทียบกับพี่” ใบหน้าหวานแดงจัดและบึ้งตึงเชิดขึ้นอย่างถือดี นัยน์ตากลมโตสบกับดวงตาของเขาอย่างไม่ยอมหลบ
“ฟรีว่างั้น”
“ถ้ารัตน์จะฟรีแล้วไงคะ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ...อื้ออออ”
เสียงหวานอดื้อดึงขาดหายไปในลำคอเมื่อเขาโฉบหน้าลงไปพร้อมกับเลื่อนมือเข้ายึดท้ายทอยของเธอ วินาทีที่ริมฝีปากของเขาแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มนิ่ม เลือดในกายของเขาก็เดือดพล่านราวกับไฟที่ตั้งไว้บนไฟร้อนแรง หัวใจเขาเขาเต้นรัวก้องในอก ความเดือดดาลก่อนหน้านี้ลดฮวบลง ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกซาบซ่านอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน
เธอหวานล้ำเหมือนขนมหวาน เค้ก หรือไม่ก็เหมือนผลไม้ที่กำลังสุกฉ่ำ เขาไม่รู้ว่าต้องเปรียบกับอะไรดี รู้แต่ว่าเขาชอบและหลงระเริงไปกับมัน
จนเมื่อเจ้าของริมฝีปากที่ทำให้เขาหลงลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างเริ่มหายใจไม่ทันนั่นแหละเขาถึงต้องค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก นัยน์ตาสีเทามองใบหน้านวลเนียนที่แดงก่ำ เธอหอบฮัก ริมฝีปากของเธอเห่อช้ำขึ้นเล็กน้อยเพราะแรงอารมณ์ของเขา
เธอทำให้เขาหลงลืมสิ้นทุกอย่าง ร่างกายของเขาเกร็งแข็งไปหมดทุกส่วน ซึ่งเขาหมายถึงทุกส่วนจริงๆ เขาไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองจะอยากได้ใครมากขนาดนี้
แต่นั่นเป็นเพียงความต้องการทางกายเท่านั้น ซึ่งความต้องการทางกายจะเป็นใครก็ได้ ทว่าคนคนนั้นต้องไม่ใช่คนที่จะก่อปัญหาให้เขาเมื่อทุกอย่างจบลง ซึ่งคนตรงหน้าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขนั้น...
สำนึกที่ผุดขึ้นทำให้เขาผละห่างออกมาแม้ว่าจะชอบรสชาติของริมฝีปากนุ่มนิ่มนั้นเพียงใด
และทันทีที่เขาถอยห่างออกมา เจ้าของริมฝีปากหวานล้ำที่เผลอไผลยินยอมให้เขาฉกชิมความหวานก็เหมือนจะตั้งสติได้ รัตน์วลีผละถอยห่างไป เธอดูตกใจ อับอาย และโกรธจัด
“เป็นบ้าอะไรของพี่” เสียงหวานตวาดลั่นไม่สนใจว่าใครจะหันกลับมามอง
“ก็เห็นว่าฟรี"
สิ้นคำถากถางที่หลุดออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน ฝ่ามือเล็กก็เงื้อขึ้นแล้วฟาดมาที่หน้าของเขา
เพี๊ยะ!!!
“ถึงรัตน์จะฟรีกับใคร มันก็ไม่เกี่ยวกับพี่”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อคนตบไม่ได้คิดจะออมแรง หน้าของเขาหันไปตามแรงปะทะนั้น ความรู้สึกแสบชาแล่นขึ้นมาตรงข้างแก้ม แต่เขากลับไม่ได้สนใจมัน ไม่ได้โกรธด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือถ้อยคำที่ถูกพูดออกมาทั้งๆ ที่เจ้าตัวยังหอบหายใจนั่นต่างหาก
ใช่ เธอจะทำอะไร กับใคร จะทำตัวเหลวแหลก จะดื่มเหล้า หรือจะขึ้นเตียงกับใคร มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาแม้แต่นิดเดียว เธอมันแค่... หลานสาวของผู้หญิงที่เขาเกลียด
ไม่มีการโต้เถียงกันแม้แต่เพียงคำเดียว มีเพียงสายตาสองคู่ที่มองกันอย่างไม่มีใครยอมหลบสายตา แต่ทว่า...
“มีอะไรกันเหรอคะ”
เสียงของเมริษาที่ดังขึ้นก็ทำให้เอริคต้องตัดการประสานสายตาแล้วหันกลับไปมองคนที่เดินมายืนข้างกาย หญิงสาวสอดมือเขามาคล้องแขนข้างหนึ่ง แล้วดึงให้เขาถอยห่างจากรัตน์วลี ขณะที่รัตน์วลีก็ถอยห่างจากเขาเช่นกัน ผลให้ข้อมือเล็กที่ถูกยึดเอาไว้หลุดออกไปจากมือหนา
“มีอะไรเหรอคะ” เมริษาถามย้ำเมื่อยังไม่ได้คำตอบ
“เปล่า ไม่ได้มีอะไร”
“แล้วนี่ใครคะ”
คำถามถูกถามขึ้นอีกเมื่อคำตอบก่อนหน้านี้ไม่ได้ไขข้อสงสัย แต่เขาไม่ทันได้ตอบคำถามของเมริษา อีกฝ่ายก็คิดออกเสียก่อน หลังจากขมวดคิ้วจ้องใบหน้าของรัตน์วลีเขม็งไม่ละสายตา
“อ้าวรัตน์นี่ แต่งหน้าแบบนี้สวยขึ้นจนพี่แทบจำไม่ได้แหนะ”
“ขอบคุณค่ะ” รัตน์วลีตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามกดให้เรียบ ทว่ามันก็ยังคงมีความคุกรุ่นโผล่ออกมาให้รับรู้
“มาเที่ยวเหรอ”
“ค่ะ รัตน์มาฉลองเรียนจบกับเพื่อน ขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบรัตน์วลีก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในผับ
และเป็นเพราะคำพูดนั้นของเธอ ‘ถึงรัตน์จะฟรีกับใคร มันก็ไม่เกี่ยวกับพี่’ เขาจึงไม่คิดจะห้าม หรือขัดขวางอีก
‘ซีรีส์ชุดไฟเสน่หา’ โดย ‘สุนิตย์’
1. ประกาศิตรักเทพบุตรมาร (E-book พร้อมให้โหลดแล้ว) >>>อุดหนุนอีบุ๊กคลิ๊ก<<<
2. ปรารถนารักจอมทมิฬ (E-book เพิ่งมาสดๆ ร้อนๆ) >>>อุดหนุนอีบุ๊กคลิ๊กเลย<<<
3. บัญชารักจอมเถื่อน (กำลังรีอัป E-book เร็วๆนี้)
ความคิดเห็น