ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เถื่อนรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 1 แอบอ้าง (4)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 64



              ไม่มีทางที่เกล้าจะเปลี่ยนใจ แถมเกล้าก็จะเกลียดรุจด้วย จะไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่รุจทำ

           รัดเกล้าพยายามข่มความหวั่นใจเอาไว้และยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าวิศรุจจะสนใจในสิ่งที่เธอพูด และคำพูดต่อมาของเขาก็ทำให้รัดเกล้าหมดความอดทนลงทันที

              เราไม่รู้หรอก เกล้าก็ไม่รู้ด้วยว่าผลที่ออกมาจะเป็นยังไง จนกว่าเรื่องมันจะเกิดขึ้นแล้ว

              เห็นแก่ตัว รัดเกล้าต่อว่าอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดดันร่างของวิศรุจออกห่าง เบี่ยงตัวไปกดหมายเลขชั้นที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง เธอทำได้สำเร็จก่อนที่วิศรุจจะดึงเธอออกห่างจากปุ่มควบคุมลิฟต์แล้วรวบร่างเล็กของเธอไว้จากทางด้านหลัง

              ใช่เรามันเห็นแก่ตัว แต่ก็เพราะเราไม่มีทางเลือกไง

              ทางเลือกมีเสมอ ไหนบอกว่ารุจรักเกล้าไง คนรักกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก รัดเกล้าพยายามควบคุมความโกรธและความกลัวของตัวเองไว้แล้วพูดกับเขาอย่างใจเย็นอีกครั้ง แต่คำพูดของเธอก็ไม่ได้ปลุกความถูกต้องที่เหมือนจะถูกฝั่งไว้ในส่วนลึกของหัวใจของวิศรุจขึ้นมาได้

    ใครว่าล่ะเกล้า คนรักกันเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น วันนี้เราจะเป็นของกันและกัน ไม่ต้องห่วงนะเกล้าเราจะรับผิดชอบเกล้าทุกอย่าง

    “แต่เราไม่ได้รักกัน เกล้าไม่ได้รักรุจ แล้วเกล้าก็มีคนรักอยู่แล้ว รุจจะทำแบบนี้กับเกล้าไม่ได้

    เราก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเกล้าเป็นของเราแล้วผู้ชายคนนั้นจะรับเกล้าได้ไหม

    คิดว่าคนรักของเกล้าจะสนใจกับการที่เกล้าโดน เพื่อนชั่วๆ ข่มขืนงั้นเหรอรัดเกล้าเน้นคำว่าเพื่อหนักๆ เพื่อมันจะซึมลึกเข้าไปปลุกจิตสำนึกของวิศรุจได้บ้าง แต่ก็เปล่าเลย มันไม่ได้ผล

    เดี๋ยวก็รู้ว่าคนนั้นของเกล้าจะสนไหม แต่รู้อะไรไหม มาจนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่เชื่อว่าเกล้าจะมีคนรักอยู่แล้ว

    รัดเกล้าเม้มปากแน่น อารมณ์ที่เพิ่งควบคุมได้เดือดจัดขึ้นอีกครั้ง เมื่อคนที่ทำให้เธอพยายามพูดให้คิดได้ไม่มีความสำนึกเลยสักนิด เธอไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าเพื่อนที่ดีกับเธอมาตลอดแบบวิศรุจจะคิดเรื่องแบบนี้และตั้งใจจะทำแบบนี้กับเธอได้

    ติ้ง!

    เสียงเตือนของลิฟต์ดังขึ้นอีกครั้งแล้วประตูก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดในชั้นที่รัดเกล้าพุ่งตัวไปกดหมายเลขไว้ก่อนหน้านี้ วินาทีนั้นสิ่งเดียวที่เธอคิดมีเพียงอย่างเดียวคือการพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์นี้ให้จงได้

    รัดเกล้ารวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายกระแทกรองเท้าส้นสูงของตัวเองไปยังรองเท้าหนังของอีกฝ่ายด้วยแรงทั้งหมดที่มี

    โอ้ย!!!

    เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของวิศรุจดังขึ้น แล้วรัดเกล้าก็ใช้วินาทีที่แขนทั้งสองข้างของเขาเผลอคลายออกจากร่างของเธอผลักเขาออกห่างแล้วพุ่งตัวออกจากลิฟต์ แต่วิศรุจก็ตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว เขาเอื้อมมือมาจับแขนเธอไว้แล้วลากเธอที่เพิ่งออกมาได้เพียงสองก้าวกลับเข้าไปลิฟต์ตัวเดิม ก่อนจะกระแทกมือไปยังปุ่มปิดลิฟต์แรงๆ เพื่อระบายอารมณ์

    รัดเกล้ามองประตูลิฟต์ที่ค่อยๆ เลื่อนปิดด้วยความหวาดกลัวและกระวนกระวาย เพราะรู้ดีว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายของเธอที่จะหนีรอด แต่ก่อนที่ทางรอดสุดท้ายของเธอจะดับวูบไป ในช่วงเวลาที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดสนิทเธอก็เหลือบเห็นผู้ชายคนหนึ่งเสียก่อน

    นะ... นั่นไง แฟนเกล้า รุจปล่อยนะ ไม่งั้นอย่าหาว่าเกล้าไม่เตือนรัดเกล้ากลั้นใจว่าพลางชี้มือไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยังสวมสูทผูกไทเต็มยศแม้ว่าจะล่วงเลยเวลาทำงานมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม ก่อนจะใช้ช่วงเวลาที่วิศรุจหันมองตามทิศทางที่เธอชี้และไม่ทันได้ตั้งตัวสะบัดตัวออกจากการจับยึดของอีกฝ่ายแล้วพุ่งไปกดปุ่มรัวๆ เพื่อให้ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง ก่อนจะกระโจนออกจากลิฟต์ วิ่งตรงเข้าไปหาร่างสูงสง่าที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะรู้ตัวว่ามีคนเอาตัวเองเข้าไปพัวพันในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ

    เธอไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร หรือหน้าตาเป็นยังไง เธอรู้แต่ว่าว่าเธอกำลังตกที่นั่งลำบาก แม้ว่าวิศรุจจะตัวใหญ่กว่าเธอไม่มาก แต่เขาก็ยังเป็นบุรุษเพศที่แข็งแรงกว่าเธอ ที่สำคัญเขากำลังโกรธจนลืมตัว เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีสติยั้งคิดพอที่จะคิดถึงผิดชอบชั่วดี คิดถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

    จะแอบอ้าง ชี้เลือกผู้ชายคนไหนก็ได้แล้วบอกว่าเขาเป็นแฟนเพื่อให้จบๆ ไปงั้นเหรอ ไม่มีทางหรอกเกล้าเราไม่ได้โง่ขนาดนั้น

    เปล่า ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนเกล้าจริงๆ

    ไม่เอาน่า รับรองว่าผมจะทำให้เกล้ามีความสุข และจะรับผิดชอบเกล้าด้วย

    เขาเป็นแฟนเกล้าจริงๆ เลิกคิดจะทำเรื่องบ้าๆ กับเกล้าเสียที

    รัดเกล้าว่าพลางจับยึดแขนเสื้อของชายหนุ่มแปลกหน้าในชุดสูทเนื้อดีไว้แน่น เธอได้แต่หวังว่าคนที่เธอคว้าแขนเสื้อเขาไว้จะไม่ปัดมือเธอออกเสียก่อน และก่อนที่เขาจะทำอย่างนั้นเธอต้องทำอะไรสักอย่าง...

    ช่วยฉันหน่อยนะคะ รัดเกล้าหมุนตัวเข้าไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่มร่างสูง เธอรีบสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นแตะริมฝีปากที่ปลายคางของเขาพร้อมกับกระซิบบอกเป็นภาษาอังกฤษเบาๆ ให้ได้ยินกันสองกัน ตอนแรกเธอตั้งใจจะหอมแก้มเขา แต่เพราะผู้ชายคนนี้สูงมากจนเธอเขย่งจนสุดปลายเท้า ริมฝีปากของเธอยังแตะได้แค่ปลายคางเขาเท่านั้น

            วินาทีนั้นเป็นวินาทีแรกที่เธอได้เห็นว่าผู้ชายที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับเธอหน้าตาเป็นยังไง และแวบหนึ่งที่เธอเหลือบขึ้นสบตากับดวงตาของคนที่เธอยังจรดริมฝีปากอยู่บนปลายคางของเขา เธอก็แทบลืมหายใจ หัวใจเต้นกระหน่ำรัว ทั้งเร็วและแรงอย่างที่เธอก็ไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรื่องโกหกที่เธอกำลังหลอกลวงวิศรุจอยู่ แต่เธอรู้ดีว่าสาเหตุหลักเป็นเพราะนัยน์ตาสีน้ำเงินคู่นั้นต่างหาก สายตาที่หลุบลงจ้องมองเธออย่างสงสัย สำรวจตรวจตรา และพิจารณาไปพร้อมๆ กัน\

    _____________________

    ช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย แต่จะพยายามมาให้ทุกวันนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×