คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 4 (3)
แม่งเอ้ย!
ตั้งแต่โตขึ้นมากพอจะรู้จักความต้องการอยากปลดปล่อยของผู้ชาย เขาไม่เคยต้องช่วยตัวเองเลยสักครั้ง แม้แต่จีบผู้หญิงเขายังไม่เคยทำ เพราะเขาไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ด้วยแรงดึงดูดทางเพศที่เอ่อล้นอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยมมันทำให้ผู้หญิงที่ได้พบเจอคลั่งไคล้ได้เพียงแค่ได้มองเห็น ยิ่งเมื่อรวมกับอำนาจ เงินทองที่เขามีอย่างเหลือเฟื้อ พวกเธอจะเป็นฝ่ายเข้าหาเขาเองโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรแม้แต่ชายตามอง
แต่ตอนนี้เขากลับต้องมาทำเรื่องที่ไม่เคยทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองกระชากประตูให้เปิดออก แล้วกระโจนเข้าขยำขยี้เรือนร่างน่าฟัดนั่นอย่างที่ใจต้องการเพื่อปลดเปลื้องอารมณ์ดิบเถื่อนที่ยังเดือดพล่านอยู่ในกายแม้ว่ามันจะถูกปลดปล่อยออกไปแล้ว ด้วยมือฝีมือของตัวเองครั้งหนึ่ง
ภาพเรือนร่างท่อนบนที่ขาวเนียนและอวบอิ่ม ความนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัส กลิ่นกายหอมยั่วยวน ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ และทำให้จินตนาการของเขาเตลิดไปไกล
ใช่! เขากำลังจินตนาการถึงท่อนล่างที่เขายังไม่ได้เห็นและยังไม่ได้สัมผัส จินตนาการนั้นก็ทำให้ร่างกายของเขาปวดร้าวไปหมด แรงปรารถนาดำมืดที่เกิดจากฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์โหมทวีขึ้นอีกจนสายน้ำไม่อาจยับยั้ง จนเขาต้องเลื่อนมือเขาไปกอบกุมสัดส่วนเร้าใจอีกครั้งพร้อมกับความหงุดหงิดที่ประทุขึ้นมาเมื่อต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำอีกครั้ง
“อ๊า” เสียงทุ้มแหบพร่าครางออกมาเมื่อนำพาตัวเองหลุดพ้นความทรมาน
ตึง! ตึง!
เสียงตึงตังที่แว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ ทำให้เอริครู้ว่าหญิงสาวยังไม่ได้ออกจากห้องที่มันกรรมสิทธิ์ของเขา เสียงนั้นทำให้จินตนาการของเขาเตลิดอีกครั้งพร้อมๆ กับความเร้าร้อนที่แล่นไปทั่วกระแสเลือดอย่างรุนแรงทั้งๆ ที่เพิ่งปลดปล่อยมันออกไปจากร่างสองครั้งแล้ว
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงไม่รอช้าที่จะโยนเธอขึ้นเตียง แต่เขารู้ดีว่าถ้าหากเขายุ่งเกี่ยวกับเธอเมื่อไรเรื่องวุ่นวายก็จะติดตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน และคงเป็นอย่างนั้นไปตลอดชีวิต เขาพอจะเดาออกว่าแผนต่อไปของกานต์สินีคืออะไร และต่อให้เขาต้องคลั่งตายอยู่ตรงนี้เขาก็ไม่มีทางให้แผนการนั้นดำเนินไปจนสำเร็จเป็นแน่
แกร็ก!
เสียงกลอนประตูถูกปลดล็อคที่ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาททำให้เขาต้องเอื้อมมือไปปิดน้ำ ความเงียบที่เกิดขึ้นส่งผลให้เสียงประตูถูกเลื่อนให้เปิดออกชัดเจนยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อคิดว่าประตูบานไหนที่ต้องเลื่อนถึงจะเปิดออกได้ ตอนที่เขาบอกให้เธอออกไปจากห้องของเขา เขาไม่รู้หรอกว่าเธอจะออกไปจากห้องของเขาด้วยวิธีไหน
แต่เขาไม่คิดว่าคนที่กลัวความสูงเป็นชีวิตจิตใจจะออกไปจากห้องของเขาโดยใช้ทางนี้!
หลังจากร่างกำยำเปลือยเปล่าสาวเท้าหายลับเข้าไปในห้องน้ำ รัตน์วลีก็ค่อยๆ พยุงร่างสั่นเทาขึ้น มือเล็กหยิบเสื้อผ้าขาดๆ ของตัวเองมาใส่ เธอใช้มือขึ้นหนึ่งรวบสาบเสื้อที่แยกห่างจากกันเพราะไม่มีกระดุมให้ติดเอาไว้ ก่อนจะเดินไปที่ตรงไปที่ประตูห้อง
สิ่งที่เขาทำกับเธอ คำพูดเต็มไปด้วยการหยามเหยียด มันสมควรให้เธอโกรธ สมควรให้เธอเกลียดเขา แต่จะโทษว่าเป็นความผิดเขาได้ยังไงในเมื่อคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไม่ใช่เขา เขาก็แค่เหยื่อเท่านั้น
เพราะโกรธเขาก็ไม่ได้ เกลียดก็ไม่ได้อีก ตอนนี้สิ่งที่เธอรู้สึกจึงมีแค่ความอับอายเท่านั้น
“เข้าไปในห้อง แล้วก็อยู่ในนั้นจนกว่าน้าจะเป็นคนมาเปิดประตู เข้าใจไหม”
ตอนนี้เธอเข้าใจคำสั่งแปลกๆ ก่อนจะถูกผลักเข้ามาในห้องๆ นี้แล้ว แต่ไม่ว่าจะคิดหาคำตอบกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมกานต์สินีถึงต้องทำแบบนี้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่จะให้เธอโกรธผู้เป็นน้าที่ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ เธอก็ทำไม่ได้ ทว่าจะให้เธอทำตามคำสั่งของผู้เป็นน้าเธอก็ทำไม่ได้เช่นกัน...
ตึง!
มือเล็กเอื้อมไปบิดลูกบิดแล้วกระชากประตูด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ประตูก็ไม่ได้เปิดออกอย่างที่เธอต้องการ
เขาไม่อยากให้เธออยู่ในห้องของเขา เธอก็ไม่อยากอยู่ในห้องนี้เหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรได้ ขนาดเขาที่ทั้งตัวใหญ่ และมีเรี่ยวแรงมากกว่าหลายเท่ายังไม่สามารถเปิดประตูที่ถูกล็อคไว้ได้ แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆ เธอจะทำได้อย่างไร แล้วถ้าเปิดประตูไม่ได้ เธอจะออกจากไปจากห้องนี้ก่อนที่เขาจะออกมาจากห้องน้ำได้ยังไง
ตึง!
หญิงสาวเอาหัวโขกกำแพงจนเกิดเสียงดัง ตอนที่เอริคออกมาจากห้องน้ำแล้วพบเธออยู่ในห้องของเขา ตอนนั้นเธอคิดว่า ‘ถ้าเอาหัวโขกประตูแล้วหายไปจากที่ตรงนี้ได้ สาบานว่าเธอจะทำอย่างนั้นแน่’ แต่ ณ เวลานี้ เธอกำลังทำมันจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีทางที่การเอาหัวโขกบานประตูที่ทำจากไม้แข็งๆ จะทำให้เธอออกจากห้องนี้ได้
“อ๊า”
เสียงครางเซ็กซี่ที่ชวนให้รู้สึกหวามไหวที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นทำให้ใบหน้าหวานร้อนจนแทบไหม้ หญิงสาวหันขวับไปมองยังที่มาของเสียงอย่างหวาดหวั่น แม้ว่าเธอจะยังเป็นสาวเวอร์จิ้น ซิง โสด ไม่เคยมีแฟน แต่เธอไม่ใช่เด็กสาวอายุสิบเอ็ดสิบสองที่จะไม่รู้ว่าเสียงที่เกิดขึ้นมันเกิดเพราะอะไร
‘น้ากานต์เอายาให้เขากินงั้นเหรอ’ ตอนไหนนะ หรือว่าตอนนั้น...
ความทรงจำตอนที่กานต์สินีกำลังจัดเตรียมแก้วน้ำและแก้วไวน์ไหลเข้ามาในความคิด ตอนนั้นเธอเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วเห็นกานต์สินีเอาบางอย่างใส่ลงไปในแก้ว เพราะเห็นแค่แวบเดียวเลยคิดว่าตัวเองมองผิดไป แต่พอจะเข้าไปช่วยกานต์สินีก็ตวาดใส่บอกให้ไปทำอย่างอื่น
ใช่ตอนนั้นหรือเปล่านะ แต่ไม่ว่าจะใช่ตอนนั้นหรือไม่ เธอก็ปล่อยให้แผนการนั้นดำเนินไปจนสำเร็จไม่ได้ เพราะสำหรับเธอ.. คนที่ไม่ได้รักกันยังไงก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้าต้องอยู่ร่วมกันเขาคงต้องทรมาน และเธอก็คงต้องเจ็บปวดเจียนตาย เธอเชื่อว่าน้าของเธอต้องมีเหตุผล แต่ไม่ว่าเหตุผลที่ว่าคืออะไรเธอก็ยอมให้แผนนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้จริงๆ
เสียงครางชวนหวิวที่เงียบไปแล้ว เสียงสายน้ำกระทบพื้นหินอ่อนยังดังต่อเนื่อง ประตูห้องน้ำยังคงปิดสนิท ทว่าพวกนั้นกลับไม่ได้ช่วยคลายความหวั่นใจของเธอลงได้เลยสักนิด เป็นประตูอีกบานที่ถูกม่านสีเทาเข้มบังไว้ต่างหากที่ทำให้ความหวาดหวั่นของเธอลดลง
หญิงสาวเดินไปที่เตียงกว้าง เธอดึงผ้าปูที่นอนออกจากเตียงม้วนมันไว้ในมือ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาประตูบานที่ทำจากกระจกบานใสทันที
แกร็ก!
มือบางแหวกม่านให้เปิดออกก่อนจะปลดล็อคประตู และทันทีที่บานประตูถูกเลื่อนให้เปิดออกความหวาดหวั่นที่เพิ่งลดลงจากการหาทางออกเจอก็กลับเข้ามาอย่างเต็มเปี่ยม
ถ้าเลือกได้ทางนี้คงเป็นทางสุดท้ายที่เธอจะเลือก แต่เพราะเลือกไม่ได้ เธอจึงต้องเลือก!
มาต่อให้แล้วจ้า
ความคิดเห็น