คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 4 (2)
แควก!!!
สิ้นเสียงของเธอเสียงผ้าขาดก็ดังขึ้น เมื่อฝ่ายหนึ่งพยายามกระชากลง แต่อีกฝ่ายหนึ่งพยายามยื้อเอาไว้
“กรี๊ด!!! ไอ้พี่บ้า หยุดเลยนะ” รัตน์วลีหวีดร้องลั่นอย่างตระหนก
แต่แทนที่เสียงนั้นจะปลุกสามัญสำนึกของเขาได้ ชายหนุ่มกลับก้มลงมาปิดเสียงของเธอเอาไว้ไม่ให้มันหลุดออกมาอีก
“อื้ออออ...อึก” รัตน์วลีครางประท้วงในลำคอพลางเลื่อนมือไปปกปิดสัดส่วนห่วงห้ามไว้แน่น ก่อนที่มือหนาจะทันได้แต่ต้องมัน แล้วพอสบโอกาสเธอก็กัดริมฝีปากของเขาจนรับรู้ได้ถึงรสชาติของเลือด
“บ้าฉิบ! ทำบ้าอะไรของเธอ”
“พี่นั่นแหละทำบ้าอะไร เอามือออกไปเลยนะ”
“ห้องผู้ชายก็เคยไปนอนแล้วนี่ ของก็เคยๆ อยู่แล้ว ก็แค่สนองให้ฉันอีกสักคนจะเป็นไรไป”
รัตน์วลีเม้มปากแน่น ไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้เธอก็ไม่คิดจะอธิบายให้เขาเข้าใจว่าวันนั้นเธอไม่ได้ไปนอนห้อง ‘โอม’ หรือ ‘ภูศิลป์’ อย่างที่ ‘น้ำตาล’ หรือ ‘ยลดา’ เข้าใจผิดไปเอง
ตอนแรกพอจบการเลี้ยงฉลองเรียนจบทุกคนก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านหรือกลับไปนอนที่หอพักของตัวเอง แต่เพราะภูศิลป์คิดว่ามันอันตรายที่คนเมาจะขับรถหรือนั่งแท็กซี่กลับค่ำๆ มืดๆ โดยเฉพาะผู้หญิงเลยเสนอให้ไปนอนที่คอนโดของตัวเองที่อยู่ใกล้กับผับ ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะรู้ว่ากานต์สินีไม่ชอบให้เธอออกนอกลู่นอกทาง แต่ยลดาก็บังคับให้เธอลองโทรดูก่อน แล้วผลก็เป็นอย่างที่เธอคิด ผู้เป็นน้าไม่อนุญาต แถมยังให้พร้อมพงศ์มารอรับที่หน้าผับเพราะกลัวว่าเธอจะไม่ยอมกลับบ้านอย่างที่รับปาก
“ที่เข้ามาในห้องฉัน ไม่ใช่เพราะเธออยากนอนกับฉันหรือไง”
“รัตน์ไม่ได้...” รัตน์วลีชะงักคำพูดเมื่อบางอย่างผุดขึ้นมาในความคิด ใช่! เธอไม่ได้ต้องการให้เขาทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้กับตัวเอง แต่น้าของเธอไม่ใช่
“เฮอะ! แผนของน้าเธอล่ะสิ แล้วเธอก็ยังทำตาม คนหนึ่งก็เลว อีกคนก็หน้าไม่อาย สมกับเป็นน้าหลานกันจริงๆ”
และดูเหมือนอีกฝ่ายจะคิดเหมือนกัน ถ้อยคำด่าทอหยามหยันเหล่านั้นจึงได้หลุดออกมา พร้อมกับร่างหนาที่ถอยห่างออกไป ร่างบางรูดลงไปนั่งบนพื้นเพื่อชายหนุ่มถอยห่างออกไป เธอชันเข่าขึ้นแล้วกอดร่างของตัวเองไว้แน่นเพราะนั่นคือวิธีเดียวที่เธอจะปิดปิดสัดร่างกายของตัวเองจากสายตาของเขาได้
“หยุดว่าน้ากานต์สักที ถ้าอยากจะด่าก็ด่ารัตน์คนเดียว”
“ทำไมฉันจะด่าไม่ได้ ก็น้าเธอมันเลวจริงๆ” เสียงทุ้มต่ำกดลึกนั้นน่ากลัวกว่าเสียงตวาดหลายเท่านักตั้งแต่รู้จักเอริคมา ไม่เคยมีคราไหนที่เธอกลัวเขาเท่านี้มาก่อน น้ำตาใสๆ เอ่อขึ้นจนกรอบตาเปียกชื้น แต่เธอก็ซ่อนมันไว้ด้วยการหลุบตาต่ำ
เอริคนิ่วหน้า ทั้งๆ ที่เขารู้แล้วว่าสองน้าหลานต้องการจะทำอะไร แต่ทำไมเขาถึงยังหยุดความต้องการที่มีต่อร่างบางสั่นเทาที่นั่งกอดตัวเองอยู่บนพื้นนั่นเลยสักนิด เขารู้สึกร้อนไปหมดราวกับร่างจะลุกเป็นไฟ ส่วนกลางกายตื่นตัวเหยียดขยายจนรู้สึกปวดร้าวและอยากปลดปล่อย
“แม่ง!”
เสียงสบถที่ดังขึ้นทำให้ร่างสั่นเทาที่กอดตัวเองไว้แน่นสะดุ้งตัวโยน แต่เอริคกลับไม่ได้สนใจใยดีกับท่าทางหวาดกลัวของเธอเลยสักนิด ‘มันก็สมควรแล้วที่เธอจะต้องกลัว!’
“อย่าคิดว่าฉันพิศวาสเธอล่ะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก เพราะถ้าไม่ใช่เพราะน้าเธอเอายาบ้าๆ นั่นให้ฉันกิน ฉันคงไม่ทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้แน่” อารมณ์คุกรุ่นเดือดดาลขึ้นอีกเมื่อเริ่มประติดประต่อท่าทางแปลกๆ ของผู้มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงที่โต๊ะอาหาร กับอาการประหลาดของร่างกายตอนนี้ได้ “แต่เธอก็คงรู้อยู่แล้วสินะ” เสียงที่ตะคอกออกไปควรดังและแข็งกร้าวแต่เสียงของเขากลับมีความสั่นเทาไม่มั่นคงปะปนอยู่อย่างชัดเจน ร่างกายของเขายังร้อนผ่าวไปหมด จนเขากลัวว่าตัวเองจะกระโจนเข้าหาร่างเปลือยเปล่าสั่นเทาอีกครั้ง
“น้าเธอยังมีแผนอะไรอีก”
“...”
“ถึงเธอจะไม่พูด แต่ฉันก็รู้ว่ามันคงไม่ใช่อะไรที่คนดีๆ เขาคิดทำกันแน่ ออกไปจากห้องของฉัน ก่อนที่ฉันจะออกมาจากห้องน้ำ” ตะโกนจบชายหนุ่มก็ผละตรงไปที่ห้องน้ำ แล้วกระชากประตูให้ปิดลงทันที
ความคิดเห็น