ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE LEGEND (One Direction FanFIc)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 58





    ขอบฟ้าเริ่มทอแสงสีม่วงอ่อน รัศมีสีส้มอบอุ่นค่อยๆฉายบนแผ่นฟ้าสีเข้ม ดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า ความหนาวเย็นของค่ำคืนค่อยๆมลายหายไป


    พรรณพืชสีเขียวชอุ่ม ดอกไม้น้อยใหญ่ผลิบานรับแสงยามเช้า ส่งกลิ่นหอมหวานอบอวลทั่วบริเวณ น้ำค้างที่ยอดหญ้าทอประกายล้อแสงยามรุ่งอรุณ แว่วเสียงพร่ำเพรียกของนกน้อยเริ่มดังแว่วในหมูแมกไม้ ก่อนจะตีปีกโผบินออกหากินในเวลาเช้าตรู่

    สัตว์โลกตื่นจากนิทรา ออกหากิน ดำเนินชีวิตของตนไปตามวิถีทางชีวิต

     

    ใจกลางป่าใหญ่ ณ จุดที่แสงสว่างทอดลงมามากที่สุด ลำแสงสีทองสาดลงมายังพื้นหญ้าเขียงชอุ่ม ละอองแสงสีขาวก่อกายรวมตัวเป็นแสงเจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์ดวงน้อย ก่อนที่แสงนั้นจะค่อยๆดับลง ปรากฏให้เห็น..

     

    เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ร่างกายห่อหุ้มด้วยผ้าไหมนุ่มเบาสีทองทอประกาย เส้นผมสีทองสุกสว่างราวกับแสงตะวัน เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบ จมูกโด่งเชิดเป็นสันได้รูป ดวงตาสีฟ้าสว่าง ผิวกายสีขาวสะอาด ริมฝีปากอวบอิ่ม และเมื่อเขาคลี่รอยยิ้มกว้าง ปรากฏให้เห็นฟันขาวเจิดจ้า

    เขาช่างดู..

    ราวกับดวงอาทิตย์

     

    ไนออล  เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ กลางวัน และการหยั่งรู้พยากรณ์


     

    “สวัสดี เราเจอกันอีกแล้ว ท้องฟ้า” เสียงนุ่มเบาเอ่ยรำพึงรำพันกับตนเอง



    รัศมีสว่างเจิดจ้าแผ่รอบกายขาวนวล แพขนตากระพริบเบาๆ มองไปรอบกาย พืชพรรณต่างๆพากันผลิบานรับแสงตะวัน บรรยากาศอุ่นสบายแผ่ไปทั่วบริเวณ


    ความอบอุ่นของกลางวัน


     

    “ไหนดูซิ เมื่อคืนที่เราไม่อยู่ มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง” ริมฝีปากขยับเบาๆ พลางหลับตาลง แพ่งจิตไปยังห้วงเวลาความมืดมิดที่ปกคลุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ค้นเข้าไปในอดีตที่ล่วงเลยมาแล้ว


    ภาพต่างๆไหลเข้ามาในดวงจิตของเทพเจ้า ราวกับเขาได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง ภาพของสัตว์เดรัจฉานที่ถูกทารุณโดยนายของตน ภาพค้างคาวตัวใหญ่โผบินไปในท้องฟ้ามืดครึ้ม ภาพเหยื่อผู้โชคร้ายที่ถูกสังเวยแด่ปีศาจ และภาพ..ของเทพเจ้าสององค์ที่ประพฤติทราม

     

    ทิวทัศน์โบสถ์ร้างหยุดค้างอยู่ในหัว กริยาการกระทำของทั้งสองยังฉายชัด อาภรณ์ที่กองอยู่บนพื้น มงกุฎที่ถูกถอดวางไว้ ร่างทั้งสองที่เกี่ยวกระหวัดเป็นหนึ่งเดียว..

     

    ดวงตาสีสว่างลืมขึ้นช้าๆ....ของเหลวสีทองสุกสว่างเอ่อคลอหน่วย ค่อยๆไหลร่วงลงบนพวงแก้มเนียน หยดฉ่าลงบนพื้นหญ้าเขียวชอุ่ม ลุกไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านสีขุ่น

     

     

    ก้อนเนื้อในทรวงอกเจ็บปลาบราวกับถูกมีดกรีด ใจที่เคยสดใสถูกแทนที่ความความคับแค้นเจ็บปวด

     

    “เซน... ทำไมท่านทำกับเราอย่างนี้”




    ใบหน้างามบิดเบี้ยว คิ้วเรียวขมวดแน่นเป็นปม น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย หยดลงแผดเผาผืนดินจนไหม้เกรียม รัศมีความร้อนค่อยๆแผ่ออกจากร่างบาง มากขึ้น มากขึ้น จนเปลวไฟลุกลามขึ้นที่ต้นไม้ใกล้ๆ ก่อเป็นเปลวเพลิงที่เผาไหม้ป่าบริเวณนั้นจนหมดสิ้น



    “เซน เรารักท่านมากกว่าเขา แต่ทำไม..” เทพเจ้าทรุดตัวลงกับพื้น ยกมือขึ้นกุมอกหัวเองที่เจ็บแปลบ

     


    เขาหลงรักรัตติกาล

    กลางวัน กลับหลงใหลในกลางคืน

     

    แม้จะผิด แต่เมื่อรักไปแล้ว จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้

    ไนออลสารภาพความรู้สึกที่มีให้เซน

     

    แต่เทพแห่งความมืดมิด กลับปฏิเสธเขาอย่างไม่ใยดี

    เพื่อไปหา ผู้งดงามคนนั้น คนที่ช่วงชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเขาไปครอบครอง

     


    แฮร์รี่ ได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการไป



    เขาเกลียดเทพองค์นี้ เขาจงเกลียดจงชังความรัก


     

    เสียงกรีดร้องหวีดขึ้นเบาๆ มือเรียวกำแน่นจนเล็บจิกลงในเนื้อเนียนเพื่อระบายความเจ็บปวดในอก แสงเรืองทอออกจากร่างบอบบางนั้น เจิดจ้าจนแทบมองดูไม่ได้ ก่อนจะระเบิดวาบหายไป เหลือไว้เพียงเศษเถ้าถ่านที่ลุกไหม้เป็นจุณ



                ท้องฟ้าในวันนั้น มืดหม่นอึมครึมทั้งวัน..



     

    “เซน เรื่องระหว่างเรากับท่าน มันจะเป็นความลับตลอดไปใช่ไหม”   ริมฝีปากแดงสดราวกับกลีบกุหลาบเอ่ยถามร่างโปร่งที่ทอดกายอยู่ข้างตน แสงสว่างไม่สามารถทอดลงมายังใต้ต้นโอ๊คขนาดใหญ่ได้ เงามืดของมันทอดยาวแผ่กิ่งก้านไปทั่ว บดบังร่างทั้งสองที่นอนพิงพาดกันอยู่ที่โคนต้น

    สถานศักดิ์สิทธ์เก่าผุตั้งบดสายตาคนภายนอก ป้ายหินสุสานตั้งเรียงรางอยู่ด้านหลังโบสถ์เก่าแห่งนี้ ต้นโอ๊คถูกปลุกไว้ที่ด้านข้างสุสานฝังศพ ราวกับจะให้ร่มเงาแก่คนตาย



    “ข้าจะไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ที่รักของข้า หากมันผู้ใดล่วงรู้ ข้าจะเป็นคนพรากชีวิตของมันไปเอง” เสียงแหบทุ้มตอบกลับไป ดวงตาสีนิลเหม่อมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่เริ่มมีร่องรอยสีม่วงเข้ม ดวงตะวันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว..

     

    “ข้าจะไม่ยอมให้ใครทำอะไรเจ้า แฮร์รี่ ข้าขอสัญญาด้วยเกียรติ” รัตติกาลโน้มตัวลงจุมพิตลงบนกระหม่อมทุยสวยของอีกฝ่าย ก่อนจะกระชับอ้อมแขนที่โอบรัดร่างบางให้แน่นยิ่งขึ้น ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะมลายหายไป

     

    หากมีใครที่ล่วงรู้ความสัมพันธ์อันน่ารังเกียจของเขาทั้งสอง โทษทัณฑ์ที่จะตามมานั้นช่างหนักหนานัก สมดุลของโลกของจะกลับตาลปัตร และเทพทั้งสององค์อาจถูกเนรเทศ หรือทำลายให้สิ้นซากด้วยเทพด้วยกันเองได้

     

    แม้แต่เทพแห่งความตาย ก็ยังหวาดกลัวการสูญเสีย

     

    สำหรับตัวเขาแล้ว เขาไม่กลัวใครที่จะกล้ำกรายตน แต่สำหรับอีกคนที่แสนจะบอบบางนั้น มันช่างน่าหวั่นเกรง กลัวว่าใครจะมาทำอันตรายดวงใจ  กลัวว่าทัณฑ์นั้นจะทำลายคนรักไม่มีชิ้นดี..

     


    “ท่านจะให้คำสัตย์กับเราได้หรือไม่ เซน ว่าท่านจะปกป้องเรา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” ดวงหน้างามเงยขึ้นสบตาเทพแห่งความตาย สายตาเว้าวอนด้วยความกลัวอันตรายที่อาจมาถึงตน


    สายตาสอดประสานกัน ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้อีกฝ่าย จดจ้องกันปานแทบจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว จ้องมองด้วยความรัก ความเสน่หา และความเทิดทูนบูชาจากใจจริง

     

    “ข้าให้คำสัตย์กับเจ้า ว่าข้าจะปกป้องจากภัยอันตรายทั้งปวง ข้าจะดูแลเจ้าด้วยปีกของข้า ข้าจะรักษาเจ้าให้ปลอดภัย ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”

     

    ท้องฟ้าส่งเสียงครืนครานเป็นการรับคำ ถ้อยคำสัตย์สาบานของเทพเจ้าเกิดขึ้นอีกข้อหนึ่งแล้ว..

     



    “ใกล้รุ่งสางแล้ว ได้เวลาที่ข้าต้องไปเสียที” เซนเอ่ยเบาๆก่อนจะชันตัวลุกขึ้น ทำให้อีกคนต้องลุกขึ้นตาม ปีสีดำค่อยๆกางออกเตรียมพร้อมโผบิน แสงเรืองรองที่เส้นขอบฟ้าเร่งเร้าให้จากไปเต็มที แม้ใจจะอยากอยู่แค่ไหนก็ตาม

     

    เขาอยู่ในเวลากลางวันไม่ได้.. มันไม่ใช่ที่ของเขา

    เขาจำเป็นต้องไป

     

    “แล้วพบกัน เมื่อราตรีมาถึง ยอดรักของข้า” เทพแห่งความตายก้มลงคุกเข่าอีกครั้ง เอื้อมมือคว้ามือขาวของอีกคนมาประทับจุมพิตเช่นเคย รู้สึกได้ถึงสัมผัสจากมืออีกข้างบนศรีษะของตน สัมผัสที่แสนอ่อนโยนนุ่มเบา เปราะบางราวกับจะแตกสลายได้ด้วยความรุนแรงเพียงน้อยนิด แต่มันช่างแสนอบอุ่นเหลือเกิน

     

    ความรักกำลังปลอบประโลมเขาอยู่..

     

    “เราจะรอท่าน เซน” เสียงหวานเอ่ยเบาๆ ร่างโปร่งชันตัวขึ้นยืนตรง ค้อมหัวเล็กน้อย และหันหลังโผบินจากไปในท้องฟ้ารุ่งอรุณ

     

    ดวงตาสีมรกตสุกสว่างมองไปยังร่างที่บินไปไกลจนลับสายตา รอยยิ้มเบาบางปรากฏขึ้นบนริมฝีปากสมบูรณ์แบบ มือขาวเนียนยกขึ้นเสยเส้นผมของตน ก่อนจะกางปีกสีขาวบริสุทธ์ของตน โผบินลาลับจากไปเช่นกัน ทิ้งไว้เพียงร่องรอยของความเสน่าหาและราคะ ที่ฝากฝังไว้ในสถานศักดิ์สิทธ์แห่งนี้..ตลอดกาล


    จบบทที่2


    **************************************************************************************************


    MP's Talk

    หวัดดีค่าาาา มะปรางไงจำไม่ได้เหรอ คิดถึงกันมั้ยเอ่ย (ไม่) มาต่อให้แล้วกับบทที่3ของนิทานเล่มนี้ ดองยาวมาก เป็นอาทิตย์เลย เราขอโทษT T หวังว่าจะยังรออ่านกันอยู่นะคะ เพราะช่วงนี้เราไม่ว่างจริงจังเลย แต่จะพยายามมาอัพให้บ่อยที่สุดนะคะ//ไหว้

    ตอนนี้สั้นหน่อยนะ ขอบอกเลยว่า"ตัน"ค่ะ ไม่รู้ว่าถ่ายทอดเรื่องออกมายังไดี ณ จุดนี้ยอมรับเลยว่าไม่รู้จะเล่ายังไงดีเหมือนกัน จะเห็นว่าตอนนี้เนื้อหาน้อยมาก น้ำจะเยอะไปไหน(ก็เขียนเองนี่หว่า) ถ้าไม่สนุกหรือไม่พอใจ มะปรางขอโทษนะคะT^T

    เป็นไงบ้างเอ่ย ไนออลน้อยของเราเป็นเทพเฟรชดวงอาทิตย์เชียวนะ!! มีไอเท็มหยั่งรู้ได้อีก คะแนนตีบวกเต็มๆ(เดี๋ยวๆ)

    แต่...ดันมีซัมติงรองกับท่านเซนของเราซะอีก เอาแล้ว ความวุ่นวายมันเริ่มเยอะขึ้นแล้ว ก็ท่านเทพดันไม่ยอมรับรักเขานี่นา เห็นแล้วนะว่าดวงอาทิตย์น่ากลัวขนาดไหนเวลาโกรธ อย่าแหยมกับนุ้งไนล์..

    คาเรกเตอร์ไนออลเป็นอะไรที่ยากเหมือนกันนะ เพราะเรามี2คู่ให้เห็นแล้ว ไนออลจะมาในฐานะอะไร เราต้องมาดูกัน


    เทพก็มีความเจ็บปวดได้นะ เทพก็มีความรักใคร่ได้นะ อย่างที่ไนออลมี เซนมี และแฮร์รี่มี มันไม่ต่างกับมนุษย์เลย


    เอาล่ะ!! เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของนิทานเท่านั้น ผู้อ่านทุกคนโปรดติดตามในบทต่อๆไป ว่ามันจะมีอะไรที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้ไม่ธรรมดาบ้าง มารอดูกันนะคะ^^

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมาติดตามไปด้วยกัน มะปรางดีใจนะที่ฟิคเรื่องนี้มีคนสนใจ ขอบคุณจริงๆค่ะ สัญญาว่าจะพยายามทำให้ฟิคเรื่องนี้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ขอบคุณนะคะ:)

    สำหรับตอนต่อไป"ใบ้ให้ว่ามันจะมีซัมติงรอง"


    รัก
    Twitter @maprang_tym นิ้วกลางคุณทอมลินสัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×