คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมูบ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง มีชายหญิงคู่หนึ่งมีความรักใคร่ต่อกัน และหวังจะได้แต่งงานครองคู่กันไปตลอดกาล
ตัวชายหนุ่มเป็นผู้มีฐานะยากจน ทำอาชีพเกษตรกรปลูกพืชผักทั่วไป แทบไม่มีทรัพย์สมบัติเงินทองใดๆติดตัว หากแต่เขามีรูปกายที่งดงามและจิตใจที่สูงส่งเมตตา
ส่วนหญิงสาวมีรูปโฉมที่แสนงดงาม เรือนผมสีน้ำตาลหยิกสลวยและดวงตาสีมรกตส่องสว่าง ฝ่ายบิดาของเธอเป็นเศรษฐีพ่อค้าร่ำรวยในหมู่บ้าน มีเงินทองมากมายจากการค้าขาย แต่พ่อของเธอนั้นดูถูกผู้ด้อยกว่า เหยียดหยามผู้ยากจนเฉกเช่นชายหนุ่ม และกีดกันไม่ให้ทั้งสองได้ครองคู่กัน แม้ทั้งสองจะรักกันมากก็ตาม
ชายหนุ่มพยายามทุกวิธีทางเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะได้แต่งงานกับลูกสาวของเขา ไม่ว่าจะด้วยการอ้อนวอนขอร้อง หรือพยายามแสดงตนให้เห็นทุกวี่วัน
เศรษฐีจึงยื่นข้อเสนอให้ ถ้าหากเขาสามารถหาทองคำหนึ่งหีบมาให้เศรษฐีได้ เศรษฐีจะยอมยกลูกสาวของตนให้ โดยมีข้อแม้ว่าหากชายหนุ่มไม่สามารถทำตามข้อเสนอได้ภายใน30ราตรี ทั้งสองจะต้องไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย
เมื่อได้ฟังดังนั้น ความหวังที่เหมือนจะมอดดับไปแล้วถูกจุดขึ้นมาใหม่ ชายหนุ่มพยายามตรากตรำทำงานหนักเช้ายันค่ำ เพียงเพื่อหาเหรียญทองคำวันละไม่กี่เหรียญ แต่เพื่อที่จะได้สมรสครองคู่กับคนที่เขารักแล้ว เขายินยอมทำด้วยความยินดี
หีบใหญ่ถูกตั้งอยู่บนโต๊ะน้ำชาในกระท่อมหลังเล็ก มันค่อยๆถูกบรรจุด้วยเหรียญทองคำสุกสว่างวันละเหรียญสองเหรียญ ด้วยความเพียรตั้งใจของชายผู้มีจิตใจมั่นคงแน่วแน่
จนกระทั่ง ในวันที่29ของการหาสมบัติ
มารดาเฒ่าของชายหนุ่มเกิดล้มป่วยด้วยโรคร้ายจากในป่า กำลังจะสิ้นใจด้วยความชราและความเจ็บป่วยที่รุมเร้า
ชายหนุ่มหมดสิ้นหนทางที่จะทำให้มารดาของเขาหายดี นอกจากจะใช้เงินทองที่เขาหามาได้เพื่อเป็นค่าหมอรักษา อีกทั้งเหรียญทองที่มีก็ยังไม่เต็มหีบ หากนำไปรักษามารดา วันพรุ่งนี้เขาก็จะไม่มีทรัพย์สมบัติใดไปให้แก่เศรษฐีเป็นแน่
ว่ากันว่าเมื่อคนเราถึงทางแยก เทพเจ้าจะคอยกระซิบบอกทางเลือกให้เราเสมอ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน..
ด้วยความจนปัญญา ชายหนุ่มร้องขอต่อเทพเจ้าแห่งความตายผู้ชี้เป็นชี้ตายชะตาชีวิตมนุษย์ หากเทพเจ้าสามารถทำให้มารดาของเขาหายจากโรคร้าย และให้เขามีเหรียญทองมากพอที่จะไปสู่ขอหญิงสาวที่ตนรัก เขาจะยอมทำงานรับใช้พระองค์แต่โดยดี
ข้อเสนอที่เย้ายวนใจถูกเรียกมาเช่นนี้ มีหรือที่ความตายจะปฏิเสธ
“เซน”ปรากฏตัวต่อหน้าชายผู้อาภัพ และตกลงยอมรับข้อเสนอนั้น ว่ามารดาของชายหนุ่มจะกลับมาแข็งแรง และเขาจะมีเงินทองมากมายดั่งที่ใจหวัง
เลือดถูกหลั่งรดลงบนแท่นหินสักการะในวิหารบูชา เป็นการทำสัญญาที่แสนจะโง่เขลาและเสียเปรียบ แต่เพื่อสิ่งที่ตนต้องการ ชายหนุ่มยินดีทำ
เช้าวันที่30
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ก็พบกับหญิงชราดูสดใสแข็งแรง กำลังหุงหาอาหารเช้าอย่างขะมักเขม้น ร่องรอยความเจ็บไข้ที่เคยเด่นชัดเมื่อคืนหายไปเสียหมดสิ้น ใบหน้าเหี่ยวย่นยิ้มแย้มด้วยความสุข
ที่บนโต๊ะ หีบขนาดใหญ่เปิดอ้าอยู่ ในนั้นเต็มไปด้วยเหรียญทองคำทอประกาย ข้างๆหีบยังมีถุงกระสอบอีกใบ ที่บรรจุไปด้วยเพชรนิลจินดามากมายจนปริ่มปากกระสอบ
คำขอของเขาสัมฤทธิ์ผลแล้ว
ด้วยความดีใจ สองเท้ารีบวิ่งอย่างลิงโลดออกจากบ้านหลังน้อย ตรงไปยังคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ริมเนินเขา สองมือหอบเอาหีบใบใหญ่ที่บรรจุเหรียญทองจนล้น หวังจะเอาไปให้เศรษฐีดู ว่าเขาทำได้แล้ว เขาสามารถหาเงินทองมาสู่ขอนางผู้เป็นที่รักของเขาได้แล้ว
แต่หารู้ไม่ ว่าความตาย ช่างเจ้าเล่ห์นัก..
ต้นไม้สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุมเส้นทางที่จะไปคฤหาสน์ แสงสว่างแทบส่องเล็ดลอดลงมายังพื้นดินไม่ได้ แต่สิ่งที่ปรากฏแก่สายตานั้น แจ่มชัดยิ่งกว่าสิ่งใดที่เขาเคยเห็น
ร่างไร้วิญญาณของสตรีนางหนึ่งนอนอยู่ที่ริมถนนอันไร้ผู้คน เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกฉีกทิ้งเป็นริ้วกองอยู่ที่พื้นดิน ของมีค่าถูกถอดเอาไปหมด เหลือเพียงกายหยาบเปลือยเปล่าซีดเซียว คราบโลหิตสีแดงคล้ำไหลออกจากช่องทางที่หว่างขา ร่องรอยแห่งความบอบช้ำขึ้นทั่วผิวกายขาว
เส้นผมสีน้ำตาลและดวงเนตรสีมรกตนั้นช่างแสนคุ้นตา
ทรัพย์สมบัติถูกปล่อยทิ้งลงดินอย่างไม่ใยดี
ชายหนุ่มโผเข้าโอบกอดร่างซีดเซียวของนางผู้เป็นที่รัก
เสียงกรีดร้องดังโหยหวนไปทั่วบริเวณ
บัดนั้น เงามืดพาดผ่านไป ปรากฏเป็นร่างของบุรุษที่มีปีสีดำขลับและมงกุฏเพชร เนตรสีเข้มมองมายังภาพตรงหน้าอย่างเฉยชา ริมฝีปากขยับเอ่ยถ้อยคำ
“ข้อตกลงของเราลุล่วงแล้ว เราทำให้มารดาของเขาหายดี เจ้ามีทรัพย์สินมากมายตามที่เจ้าขอ แต่การจะขอชีวิต จำต้องแลกด้วยชีวิต”
ไม่มีใครผิดสัญญากับความตายได้
แม้ชายหนุ่มจะปลิดชีพตนตามคนรักไป แต่เซนยังคงสัญญานั้นไว้ โดยเปลี่ยนให้เขากลายเป็นผู้มีชีวิตหลังความตายที่น่าสังเวช ดำรงชีพด้วยเลือดมนุษย์เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงเลือดที่เขาได้หลั่งทำสัญญาไป เขาจะอยู่เป็นอมตะ ไม่มีวันแก่เฒ่าลง เป็นดั่งปีศาจที่ดุร้ายและมีพลังอำนาจ คอยอยู่รับใช้เทพแห่งความตายตลอดชั่วนิรันดร์...
หัวใจของชายหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยเมตตา กลับกลายเป็นด้านชาและโหดเหี้ยม
เขากลายเป็นปีศาจร้ายที่น่าหวั่นเกรง..
แสงสุดท้ายของวันดับลง แทนที่ด้วยผืนฟ้าสีครามเข้ม พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงเรืองๆ ดวงดาวเริ่มทอแสงบนฟากฟ้ายามราตรี ค่ำคืนมืดมิดกำลังมาเยือน
ปีกเป็นมันเรียบลื่นโผบินไปบนแผ่นฟ้ายามราตรี ลมเย็นเยียบไหลผ่านปีกกว้าง เบื้องล่างเป็นทิวทัศน์ของหมู่บ้านน้อยๆที่หลับไหลไปตามแสงจันทร์ ดวงตาสีฟ้ากระจ่างเพ่งมองผ่านความมืด เขี้ยวสีงาช้างคู่เล็กเปรอะเปื้อนคราบสีแดงเข้ม
หอคอยรกร้างตั้งตระหง่านท่ามกลางหมู่แมกไม้ที่ขึ้นบดบังมันให้ไกลจากสายตาผู้คน ยอดหอคอยสูงกว่าร้อยฟุต ที่บัดนี้ผุเก่า ก้อนอิฐหลายก้อนหลุดจากผนัง หล่นกองอยู่กับพื้นดิน เถาวัลย์เลื้อยปกคลุมรอบฐาน เศษไม้คานที่หลุดร่อนแตกกระจาย ประตูทางเข้าถูกปิดตายด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ ทางเข้าออกเดียวมีเพียงหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดอ้าอยู่ที่ยอดหอคอย
ครั้งหนึ่งหอคอยนี้เคยเป็นที่พำนักของราชินีผู้เลอโฉม แต่นางกลับหลงรักตนเอง และหลงไหลในความงามที่ตนมี จนวันหนึ่งที่โรคระบาดมาเยือนอาณาจักร นางจึงสั่งสร้างหอคอยสูดเสียดฟ้า และขังตนเองไว้ในนั้นเพื่อหลบเลี่ยงโรคร้ายที่แพร่ระบาดบนพื้นดิน เฝ้ามองประชาชนของนางที่ล้มตายอยู่เบื้องล่างทุกๆวันอย่างไม่ใยดี
สุดท้าย โรคร้ายนั้นก็ลามมาถึงนาง และนางตายโดยปราศจากมิตร และผู้เป็นที่รัก มีเพียงรูปกายอัปลักษณ์ที่นางรังเกียจ หอคอยนี้กลายเป็นที่รกร้างที่ไม่มีใครอยากจะเข้ามากล้ำกราย
พญาค้างคาวบินร่อนลงตรงช่องหน้าต่าง สอดแทรกตัวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่รกร้างผู้คน
ทันใดนั้น ในชั่วพริบตา ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนหนึ่งก็มาแทนที่พญาค้างคาวตัวนั้นแล้ว
ไหล่กว้างสง่าผ่าเผย ผิวกายสีขาวซีดราวน้ำนม เส้นผมสีน้ำตาลเข้ม และดวงดวงสีฟ้าซีดที่ไม่ว่าใครจ้องมองก็ราวกับต้องมนต์สะกด
ริมฝีปากบางแสยะออก เผยให้เห็นเขี้ยวขนาดใหญ่สองซี่ ลิ้นแลบเลียความหอมหวานที่ยังติดตรึงอยู่ที่ริมฝีปาก
ลูอิส ผู้เป็นที่เล่าขานของตำนานการบูชาความรักด้วยความตาย
ปีศาจที่กระหายเลือดยามค่ำคืน
แวมไพร์..
ดวงตาคมกริบกวาดไปมาในห้องโถง บัลลังห์ทองคำที่ขึ้นหยากใย่ กระจกเงาบานใหญ่ที่ตั้งเรียงรายเพื่อส่องเงาความงดงามของราชินี แต่บัดนี้สถานที่นี้กลายเป็นที่พำนักของปีศาจตนนี้เสียแล้ว
ช่วงขายาวก้าวเดินไปยังบัลลังห์นั้น ก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงถอนหายใจหลุดออกจากริมฝีปากสวย คิ้วขมวดมุ่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจ
“ข้า..ขอโทษ ข้าขอโทษจริงๆ”
เสียงงึมงำแผ่วเบาราวกับพูดกับตนเอง ร่างสูงรำพึงรำพันถ้อยคำขออภัยอย่างนี้คืนแล้วคืนเล่า ให้กับชีวิตที่สังเวยให้ความกระหายของตน
เลือดมนุษย์ที่เขาดื่มกินเข้าไปทุกวัน
ความผิดยังคงตราตรึงใจใจของปีศาจตนนี้ ความผิดต่างๆนาๆที่ตนเคยทำไว้ในชาติที่แล้ว ความผิดในชาตินี้ ที่ตนต้องคร่าชีวิตทุกค่ำคืน ความผิดที่โง่เขลา...จนพลาดพลั้งทำสัญญากับซาตาน
เขาฆ่าคนรักของตัวเอง เพื่อช่วยมารดา
หากวันนั้นเขาไม่อับจนปัญญาจนสิ้นคิด “เฮริน่า”ก็คงไม่ตาย
หากเขารู้จักหาทางออกที่ดีกว่านี้ เขาคงไม่ต้องกลายเป็นปีศาจ
หากเขายอมเลือกทางใดทางหนึ่ง เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น
แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมาเนิ่นนานกว่าร้อยปี แต่ความโศกเศร้านี้ยังคงไม่จางหายไปไหน กลับยิ่งฝังรากลึกในหัวใจที่หยุดเต้นของปีศาจตนนี้
ลูอิสต้องทนอยู่ไปอย่างทรมาน เซนยังคงสัญญาที่เขาทำไว้ บ่อยครั้งที่งานส่งวิญญาณที่ตายลงถูกส่งต่อให้เขา เขาต้องนำพาดวงจิตที่ล่วงลับนั้นไปยังสุขคติ เพื่อไปยังการเวียนไหว้ตายเกิดต่อๆไป
แต่ เขาจะไม่มีวันได้ไปไหน
เขาจะไม่แก่ ไม่ป่วย
และจะไม่มีวันตาย
ทัณฑ์ของเขาจะอยู่ไปชั่วกัปชั่วกัลป์
เสียงเห่าหอนดังแว่วมาแต่ไกล สะท้อนกึกก้องในป่ายามวิกาล เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาบริเวณตีนหอคอย ก่อนจะเป็นเสียงตะกุยตะกายแผ่นหินสูงชันขึ้นมาใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น..
ร่างขนาดใหญ่ปีนขึ้นมาถึงหน้าต่าง ก่อนจะกระโดดลงมาคุดคู้อยู่ที่พื้นพรมหน้าแท่นบัลลังห์ หมอบต่ำราวกับกำลังทำความเคารพแก่แวมไพร์รูปงาม
ร่างเนื้อปกคลุมด้วยเส้นขนสีดำสนิท ช่วงขากำยำหนั่นแน่นด้วยกล้ามเนื้อ อุ้งเท้าทั้งสี่มีกรงเล็บแหลมคม จมูกยาวยืดออกจากส่วนกะโหลกศรีษะ เขี้ยวยาวโง้งขนาดใหญ่พร้อมฉีกกระชากเหยื่อผู้โชคร้าย
สุนัขป่าขนาดยักษ์กำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าลูอิส
หากแต่มีเพียงส่วนหนึ่ง ที่แปลกประหลาด
ดวงตาสีน้ำตาลที่ทอประกายคู่นั้น ไม่ใช่ตาของสุนัข มันมีแก้วตาขาว และรูม่านตาที่แจ่มชัด..
ตาของมนุษย์
เมฆหมอกเคลื่อนตัวบังแสงจันทราที่ส่องลงมา ส่งให้ร่างนั้นเริ่มบิดเร่าด้วยความทรมาน กลับกลายร่างเป็นร่างเดิม
แขนขายืดขาวขึ้น ขนสีดำหลุดร่วงกลายเป็นผิวหนังเปล่าเปลือยสีแทน สันหลังบิดขึ้นตั้งฉากกับพื้นอย่างน่าเจ็บปวด ศรีษะเปลี่ยนรูปร่าง จมูกหดกลับเข้าไปชิดส่วนกะโหลก เขี้ยวยาวโง้งแปรเปลี่ยนเป็นฟันทู่ๆสีขาว กรงเล็บกลายเป็นนิ้วเรียวยาวที่สกปรก เส้นผมสีเข้มสั้นเตียน และดวงตาสีน้ำตาลที่ทอประกาย
มนุษย์หมาป่า
“นายท่าน” แสบกระซิบแหบพร่าดังขึ้นจากผู้มาเยือนที่ยังคงหมอบราบกับพื้น
“เลียม” เสียงเย็นเยียบตอบรับคำผู้เป็นทาส..แก่ตน
หลังจากที่เซนเปลี่ยนลูอิสเป็นแวมไพร์ เขาค้นพบว่าตนเองหวาดกลัวแสงอาทิตย์กว่าสิ่งอื่นใด มันทำให้เขาปวดแสบปวดร้อนราวถูกไฟเผา ลูอิสจึงขังตังเองอยู่ในหอคอยร้างแห่งนี้นานหลายปี หิวโหยและปราถนาจะดื่มกินเลือด แต่เขากลับอดทนและไม่กล้ำกรายออกไปไกลหอคอย
แต่ความกระหายก็เอาชนะเขาได้
วันหนึ่ง ขณะที่ลูอิสกำลังออกล่าเหยื่ออยู่ที่เบื้องล่างหอคอยนั้น เขาพบสัตว์เดรัจฉานตัวนี้เข้า และด้วยความกระหายและยอมจำนนต่อความหิวโหย ลูอิสหวังจะฆ่าและดื่มเลือดหมาป่าตัวนี้ แต่ทันใดนั้น มันกลับกลายร่างเป็นมนุษย์และอ้อนวอนขอชีวิตจากเขา
"หากเก็บมันไว้ เราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อีกมาก"
แวมไพร์หนุ่มยอมไว้ชีวิตมนุษย์หมาป่า หากแต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าจะต้องมาเป็นทาสรับใช้ตนไปจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
สัญญาได้ถูกทำขึ้นมาอีกข้อแล้ว...
“ข้ามีข่าวมาแจ้งให้ทราบ” อมนุษย์ก้มหน้ามองดิน เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความครั่นคร้ามแก่ปีศาจที่อยู่เบื้องหน้าตน
“เล่ามา มีอะไรเจ้าถึงดั้นด้นขึ้นมาหาข้าถึงที่นี่” ดวงเนตรสีซีดมองไปยังผู้ที่คุดคู้อยู่เบื้องหน้าอย่างหน่ายเหนื่อย เรื่องราวน่าเบื่อสารพัดที่ทาสผู้นี้เล่ามาไม่เคยมีอะไรดีสักอย่าง
“เรื่องของท่านแฮร์รี่ กับท่านเซน นายท่าน..”
ร่างบนบัลลังห์กระตุกเล็กน้อย เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างหมกมุ่น ตาคู่สวยไหววูบด้วยอารมณ์
เขาเกลียดชื่อนั้น ชื่อของคนที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้..
แต่อีกชื่อที่ถูกกล่าวมา กลับดึงให้หัวใจที่แห้งเหี่ยวกระตุกราวกับมันกลับมาเต้นอีกครั้ง..
“ที่โบสถ์ร้างที่ฟากของหมู่บ้าน ข้า..ข้าเห็น..” เสียงแหบพร่าดังตะกุกตะกักด้วยความหวั่นกลัว หวั่นกลัวสิ่งที่ตนจะพูดออกไป
“เห็นอะไร..” แวมไพร์หนุ่มพูดด้วยเสียงเด็ดขาด ร่างทั้งร่างเกร็งขมึง เพราะตนรู้อยู่แล้ว ว่าสิ่งที่ได้ยินจะเป็นเช่นไร
แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ตนอยากได้ยินเลยก็ตาม
“เขาทั้งสอง...สมสู่กันต่อหน้าไม้กางเขน นายท่าน”
รอยยิ้มเย็นถูกจุดขึ้นที่มุมปาก แต่เนตรคู่นั้นกลับไม่มีแววขบขันเลยแม้แต่น้อย
“งั้นรึ....เขาทำแบบนั้นรึ”
"นายท่า--"
“แล้วเจ้า....มาบอกข้าทำไม...เอาข่าวบัดสีนี้มาบอกข้าทำไม.. เจ้าโง่!!” ดั่งมีหมุดแหลมปักอก ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ดวงตาฉายแววโทสะ ร่างสูงลุกจากบัลลังห์ เดินมาทั้งผู้เป็นทาสที่คุดคู้ตัวสั่น
ขาง้างสุดแรง และเตะอัดลงที่หน้าท้องของทาสรับใช้อย่างเต็มกำลัง ส่งให้ร่างนั้นกลิ้งไปตามพื้นพรมฝุ่นจับ เขาเดินตามไปกระทืบซ้ำลงที่หน้าอกของมนุษย์หมาป่า เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังระงม
“นายท่าน! โปรดเมตตา เมตตาด้วย!” เลียมงอตัวด้วยความเจ็บปวด สองมือยกขึ้นป้องกันไม่ให้ตนถูกทำร้ายอีก น้ำตาไหลนองใบหน้า
เสียงกระดูกลั่นกรอบที่หลังบ่งบอกว่าคงมีชิ้นใดชิ้นหนึ่งแตกร้าวเป็นแน่
“ไป! ไปซะก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า ไอ้เดรัจฉานไร้สมอง!!” เสียงตวาดลั่นจากริมฝีปากบาง ดวงหน้าหล่อเหลาแข็งกร้าวราวกับหิน
สายตาดุดันกวาดไปมาอย่างมีโทสะ
“นายท่าน..โปรดเมตตา”
เลียมพยุงร่างของตนไปยังหน้าต่างอย่างทุลักทุเล ก่อนจะโดดลงไปยังเบื้องล่าง กลับกลายร่างเป็นหมาป่าวิ่งหนีไป หลังของมันบิดเบี้ยวเป็นองศาที่น่ากลัว
ร่างสูงเดินกลับมานั่งลงที่เดิม โทสะที่เคยพลุ่งพล่านเมื่อครู่หายไปแทบหมดสิ้น เหลือเพียงความเศร้าสลดใจและความโหยหาอาทร
ความเจ็บปวด ที่เขาไม่คิดว่าเขาจะยังคงมี..
เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไร และเป็นไปได้อย่างไร แต่ในคืนหนึ่งที่เขาออกหากิน เขามองเห็นแสงสีขาวเรืองจากในป่า ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พญาค้างคาวจึงร่อนลงไป ณ ที่ใกล้กัน เปิดหาที่มาของแสงนั้น จนได้พบกับ”ท่าน”
ครั้งแรกที่เขาได้เห็นเทพแห่งความรักองค์นี้ ราวกับเขากลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
เพราะเส้นเกศาสีน้ำตาลเข้มนุ่มสลวย ดวงตาสีมรกตคู่นั้น
และรอยยิ้ม ที่เฉิดฉายดั่งแสงตะวันนั่น
ช่างเหมือนกัน กับเฮริน่า หญิงสาวที่เขาหลงรักและหวังจะแต่งงานด้วย
ช่างเหมือนกัน
ปีศาจตนนี้ หลงรักเทพเจ้าในทันใด
หากแต่เมื่อเขาค้นพบว่า ผู้เป็นนายของเขา กับเทพองค์นี้ กลับรักใคร่ซึ่งกันและกัน และแอบสมสู่กันอย่างผิดจารีตอย่างที่สุด
ราวกับเขาถูกดึงลงนรกโลกันต์
ความเกลียดชังพุ่งขึ้นในอก ความเคียดแค้นที่พอกพูนมากขึ้นเท่าไร ทำให้ปีศาจหนุ่มเพิ่มความพยาบาทแด่ซาตานมากขึ้นเท่านั้น
เซนคร่าชีวิตผู้หญิงที่เขารัก เซนช่วงชิงความสุขที่เขาควรได้รับ เซนช่วงชิงชีวิตของเขาไป เปลี่ยนให้เขากลายเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่มีวันตาย และตอนนี้ ผู้ที่เขาหลงใหล เซนกลับได้ไปครองอีกเช่นกัน
ความตายนั้นช่างไม่ยุติธรรม..
ไม่เคยยุติธรรม
เขาจะไม่ยอมให้เซนได้ทุกสิ่งทุกอย่างไป
มันต้องมีซักทาง ที่เขาจะทำให้เทพแห่งความตายองค์นี้ รู้สึกเกรงกลัวความตายเช่นกัน..
แต่แฮร์รี่ช่างสูงส่งกว่าเขานัก เป็นเพียงปีศาจ จะหลงรักเทพเจ้านั้นก็เป็นความผิดใหญ่หลวงแล้ว
เพชรที่เจิดจรัสงดงาม จะลงมาคลุกคลีกับเถ้าธุลีดินได้อย่างไร
ความเจ็บ บวกกับความแค้นนี้ มันติดอยู่ในใจมานานแสนนาน และมันจะไม่มีวันจางหายไปไหนเด็ดขาด
แต่หากปีศาจร่ำไห้ได้ เสียงสะอื้นคงดังระงมหอคอยแห่งนี้แล้ว..
จบบทที่1
*****************************************************************************
MP's Talk
สวัสดีผู้อ่านนิทานทุกคนนะคะ มะปรางเอง ก่อนอื่นเลยขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิทานเล่มนี้กัน อย่างที่เห็นว่ามันไม่ใช่นิทานก่อนนอนธรรมดาๆแล้วสิ
มะปรางดีใจมากที่ได้เป็นคนเล่านิทานเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง มันอาจจะไม่สนุกเร้าใจ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ใครๆอย่างฟังหรืออยากอ่าน แต่มันมีอะไรมากกว่าสิ่งที่เราฟังก่อนนอน แล้วลืมมันไปในเช้าวันต่อมา มะปรางอยากให้ลองเปิดใจกับนิทานเรื่องนี้ดู เพราะมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ
เราเลิกจริงจังกันดีกว่ามั้ย..
โอเคคคคค มาเข้าสู่โหมดสบายๆ มะปรางขอบคุณทุกคนจริงๆนะคะที่เข้ามาอ่านฟิค(หรือนิทาน)เรื่องนี้ อยากจะบอกว่ามันเป็นฟิคยาว"เรื่องแรก"ของมะปรางเลย เพราะส่วนตัวเป็นคนที่"ดอง"งานนานมาก และไม่คิดว่าตัวเองจะแต่งเรื่องยาวได้ ต้องขอบคุณพี่คนนึงที่มะปรางเคารพ เขาเป็นคนให้พลอตเรื่องนี้กับมะปรางมา และเป็นแรงผลักดันอะไรหลายๆอย่างในฟิคเรื่องนี้ ถ้ามะปรางทำได้ดีไม่เท่าที่ควร มะปรางขอโทษค่ะT T*กราบ*
เข้าเนื้อหากัน
ในบทนำ เราได้รู้จักกับเซนและแฮร์รี่แล้ว ได้คีพลุคเทพเจ้ากันไปเต็มๆ จะเห็นว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน ทำยังไงกัน(?) มาบทนี้มะปรางจะขอเกริ่นเรื่องของลูอีของเราบ้างดีกว่า จะเห็นว่ามะปรางใช้ชื่อ"ลูอิส" ในนิทาน เพราะมันให้อารมณ์ที่โบราณมากกว่า จะหลุยส์ ก็คงไม่ดี..
มาถึงเลียม อันนี้มะปรางว่ามะปรางทำร้ายเลียมไปหน่อย...มั้ง อย่าโกรธเรานะ5555 คาเรกเตอร์ลูอิสกับเลียมอาจจะไม่ชัดเท่าสองคนแรก เพราะสองคนนี้เคยเป็นมนุษย์ อารมณ์อะไรเขาก็จะไม่เหมือนกัน(แถนี่หว่า)
เอาล่ะ
ไนออลไปไหน..
มาตอนหน้าแน่ๆค่ะ อันนี้รับรอง55555555
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ มะปรางอาจจะอัพช้า ดอง อันนี้ขอโทษล่วงหน้าจริงๆ เพราะส่วนตัวไม่ว่างเลย แต่จะอัพทุกอาทิตย์แน่ๆค่ะ สัญญา//เกี่ยวก้อย
พล่ามมายาวแล้ว ขอให้ทุกคนสนุกกับฟิคเรื่องนี้นะคะ ถ้ามีอะไรอยากแนะนำ หรืออยากเข้ามาพูดมาเล่นกัน เข้ามาคุยกันได้ในทวิตเตอร์ @maprang_tym ชื่อแอค นิ้วกลางคุณทอมลินสัน ได้เลยนะคะ
วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ:)
อย่าลืมคอมเม้นให้กำลังใจนะจ๊ะเบ่เบ๋<3
รัก
ความคิดเห็น