ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] Love hostel อลวนรักหอพักเมี้ยวๆ (จบ)

    ลำดับตอนที่ #67 : ตอนที่ 65 คนขี้โกง (โดย จูเนียร์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.86K
      38
      10 พ.ค. 61


    ตอนที่ 65

    คนขี้โกง โดย จูเนียร์


     

    “อะ มาร์คฮยองกับยูคยอมมาพอดี”

    บุรุษหนุ่มผู้มีเรือนผมสีบลอนด์สว่างเอ่ย ดวงตาชั่วร้ายมองไปทางคนมาใหม่ ริมฝีปากแย้มยิ้มเผยให้เห็นแผงฟันอันน่าสะพรึงกลัว จอมมารอิมยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องรับแขกที่ยกโต๊ะออกไป แผ่ออร่าโหดร้ายออกมาอย่างต่อเนื่อง

    “ตกลงว่าฮยองมีอะไรเหรอฮะ” เด็กชายจากแดนไกลถามอย่างไร้เดียงสา

    “มีเรื่องต้องบอกให้พวกนายรู้น่ะ” จอมมารอิมแสยะยิ้ม

    “เอ่อ” เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งที่เพิ่งเข้ามา พร้อมชายผมแดงยกมือชี้ไปยังมุมห้อง “แล้วทำไมจูเนียร์ฮยองต้องไปยืนกอดแจกันอยู่ตรงนั้นด้วยอะ”

    ผมที่กำลังบรรยายภาพฉากอันน่าหวาดหวั่นภายในห้องนี้สะดุ้ง แล้วรีบเบียดตัวเข้าชิดแจกันทรงสูงของยองแจเข้าไปอีก จะชี้มาทำไม หมอนั่นอุตส่าห์ลืมฉันไปแล้ว อย่าไปบอกสิ ฉันมาเป็นผู้สังเกตการณ์เฉยๆ

    “หมอนั่นกำลังหลอกตัวเองว่าจะรอดจากเรื่องนี้อยู่ ฉันเลยปล่อยให้ทำใจไปก่อน” จอมมารที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์(หอพักเมี้ยวๆ)พูด

    “เรื่องอะไรวะ” ตัวเกรียนประจำหอถาม สายตามองผมเหมือนเห็นตัวประหลาด “ฉันว่าเนียร์มันเหมือนคนไม่เต็มเต็งเข้าไปทุกทีแล้วนะ ไอ้หน้าตาท่าทางแบบนั้นปกติต้องเป็นของยองแจมันไม่ใช่หรือไง”

    “ขอโทษเถอะฮยอง ผมไม่เคยยืดกอดแจกันตัวสั่นงันงกเหมือนคนเป็นโรคประสาทแบบนั้นหรอกนะ” ยองแจพูดเรียบๆ

    ผมเม้มปากเข้าหากัน ไอ้พวกนี้เห็นผมเงียบหน่อยเล่นกันยาวเลย ฝากไว้ก่อนเถอะ รอให้จบเรื่องนี้ก่อน

    “จินยอง” เสียงเรียกทำสะดุ้ง รีบเบียดตัวเข้าไปจนแทบจะหลบอยู่หลังแจกันทั้งตัว “จะออกมาดีๆ หรือจะให้ตัวเองดูเสียสติไปมากกว่านี้” เอาแจกันทุ่มหัวไอ้จอมมารอิมมันเลยแล้วกันจะได้จบๆ ไป ขณะกำลังคะเนน้ำหนักแจกัน จู่ๆ จอมมารอิมที่ว่าก็เดินมาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือผมแล้วกระชากให้ออกมา

    “ม่ายยย!!!” ผมแหกปาก

    “ม่ายยย!!!” ยองแจแหกปาก

    ผมคว้าแจกันเป็นที่ยึดไว้อย่างเหนียวแน่น แต่แจกันไม่ใช่ของที่หนักอะไรมากมันเลยเอียงตามแรงดึงของผมทันทีจนหลุดมือ แจกันควรจะล้มคว่ำแตกไปแล้วถ้าว่ากันตามจริง แต่ก่อนที่มันจะกระแทกพื้น ยองแจที่แหกปากโหยหวนก็กระโดดจากโซฟา พุ่งไถลตัวนอนลงไปรับมันไว้อย่างงดงามและรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนในห้อง

    ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว แม้กระทั่งผมกับแจบอมที่ยื้อยุดกันอยู่ยังนิ่งค้างอ้าปากมองกันทั้งแบบนั้น

    “มายก้อด!” เสียงใครสักคนอุทาน

    “ผมบอกแล้วใช่ไหมให้ระวังๆ เวลาจับของพวกนี้!” คนที่เพิ่งวาดลีลาอย่างกับหลุดมาจากหนังเฉินหลงกอดแจกันเงยหน้าว่าผม “เกือบแตกแล้วเห็นไหม!

    “เอ่อ ขอโทษที” ผมพูดทั้งที่ยังอึ้ง

    “ใบนี้พี่สาวผมซื้อให้ด้วย” เจ้าของแจกันบ่นไป ลุกขึ้นจับแจกันวางอย่างทะนุถนอมไป

    “ยองแจ แกทำแบบเมื่อกี๊ได้ไงวะ” แจ็คสันถามตาโต

    “ทำอะไร” ยองแจถามกลับงงๆ

    “ไอ้ที่กระโดดเฟี้ยว ฟึ้บ ฟิ้ว แล้ววิ้วอะ”

    “เฟี้ยวฟึ้บบ้าอะไรของฮยองเนี่ย”

    “เอ่อ ผมขอตอบแทนนะฮะ” แบมแบมที่นั่งอยู่ข้างแจ็คสันบนโซฟายกมือ “เมื่อกี๊ด้วยความตกใจมาก ยองแจฮยองคงอะดีนาลีนหลั่ง เหมือนเวลาไฟไหม้บ้านแล้ววิ่งแบกตู้เย็นออกมา อะไรแบบนี้สินะฮะ”

    “โห เจ๋งว่ะ วันหลังฉันจะเอาไฟไปจุดตูดนาย เผื่อนายจะฟิ้วเฟี้ยวฟ้าวอีก”

    “จุดตูดฮยองเองสิ จะบ้าเหรอ!” ยองแจเดินไปหยิบหมอนอ๊คแคทเขวี้ยงใส่แจ็คสัน

    “เอ้าพอๆๆ จบเรื่องเอาไฟไปจุดตูดยองแจก่อน” แจบอมปรบมือ ยองแจหันไปหยิบหมอนตุ๊กตาอีกตัวเขวี้ยงใส่ ในขณะที่ยูคยอมยืนหัวเราะจนตัวงอ “เข้าเรื่องๆ ฉันมีธุระจะคุยกับพวกนายนะ ที่เรียกมาเนี่ย เลิกเล่นก่อน ยองแจนั่งลง”

    คนถูกสั่งให้นั่งแยกเขี้ยวใส่คนสั่ง ก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงข้างแบมแบมเหมือนเดิม

    “นี่ก็ไม่ต้องเนียนเลย นายนั่นแหละเป็นคนพูด ตกลงกันแล้วไง” แจบอมหันมาจับตัวผมที่กำลังตั้งท่าจะย่องหนี ผลักออกไปยืนตรงกลาง

    สายตาทุกคนในห้องมองมาที่ผมเป็นจุดเดียว เห็นสีหน้าตั้งใจฟังของทุกแล้วใจก็เต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ขาเหมือนจะสั่นขึ้นมา ผมกลืนน้ำลายเอื้อก หันไปมองแจบอม หมอนั่นก็ทำแค่กอดอกพยักเพยิดหน้าบอกให้พูดไปสิ

    พูดไปสิ พูดอะไรเล่า จู่ๆจะให้ฉันพูดยังไง

    “เอ่อ...คือ” เสียงผมยิ่งทำให้สมาชิกทุกคนตั้งใจฟัง “คือ... ฉัน... ฉัน... ฉันกับ... คือว่า... ฉัน”

    “โว้ย จะฉันๆๆ อะไรนักหนาวะ ลุ้นฉี่จะราดแล้ว!” แจ็คสันโวย “มีไรก็พูดมาดิ!

    “ก็พยายามอยู่นี่ไงเล่า!” ผมตอกกลับ

    “พยายามบ้าอะไรวะ เอ่อๆ คือๆ อยู่นั่น!” เจ้ามันพูด สีหน้ารำคาญอย่างเห็นได้ชัด เห็นแบบนั้นผมก็โกรธขึ้นมา

    “ก็พยายามพูดไง ไม่ให้กำลังใจก็อย่ามาขัดสิ!” ตะโกนกลับ

    “ถ้าฉันไม่ขัด นายก็คือๆ อยู่นั่นแหละไม่รู้เรื่องสักที!

    “ถ้านายไม่ขัด ฉันพูดจบไปตั้งนานแล้ว!

    “แล้วไอ้ที่จะพูดมันเรื่องอะไรล่ะวะ!

    “ก็เรื่องฉัน!

    “ฉันอะไร!

    “ฉันชอบแจบอมไง!

    กริบ เงียบกริบ

    แจ็คสันอ้าปากค้าง ส่วนผมก็อ้าปากตาโตตกใจตัวเองเหมือนกัน

    “หะ!” เป็นยูคยอมที่อุทานขึ้นมา หลังจากเงียบกันไปหลายวิ “จูเนียร์ฮยองชอบเจบีฮยองเหรอ” เจ้าลูกหมายักษ์มองผมอึ้งๆ “ละ แล้ว แล้วยองแจฮยองทำไงอะ ยองแจฮยองก็ชอบเจบีฮยอง”

    “หะ!” แบมแบมหันไปมองยองแจตาโต “ยองแจฮยองชอบเจบีฮยองเหรอ!

    “มะ ไม่ๆ คือ ไม่” ยองแจพยายามปฏิเสธ “ตอนนี้...”

    “งี้ก็เป็นรักสามเส้าสิ!” เจ้าเด็กไทยสรุปด้วยสีหน้าสุดอึ้ง

    “ไม่ใช่ไปกันใหญ่แล้ว” แจบอมตะโกนแทรก “ไหงกลายเป็นงี้วะ ที่พวกฉันจะบอกก็แค่ฉันกับจูเนียร์ฮยองของพวกนายคบกัน เป็นแฟนกัน แค่นั้นโว้ย!

    “หา!” แบมแบมอ้าปากกว้างขึ้นไปอีก

    “แล้วฉันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย” ยองแจรีบพูด “เรื่องชอบเจบีฮยองนั่นน่ะ นั่น... นั่น... ฉันหายแล้ว!

    “หายแล้ว?” ยูคยอมทำหน้างง

    “ก็เหมือนยังไงล่ะ” พ่อครัวประจำหอทำหน้าเลิ่กลั่ก พยายามคิดหาคำอธิบาย “เหมือนฉันหลงผิดไปวูบหนึ่งอะ หลงทางไปหาอบายมุขแต่ตอนนี้หายแล้วไง”

    “อะไรนะ?!” แจบอมถามเสียงดัง “นี่นายเปรียบฉันเป็นอบายมุขเหรอ”

    “ก็ให้เห็นภาพอะฮยอง”

    “เห็นภาพอบายมุขเนี่ยนะ!

    ในขณะที่แจบอมกำลังโวยวายใส่ยองแจ ผมกับแจ็คสันก็ยังคงอ้าปากจ้องหน้ากันเหมือนถูกกดพอสไว้อย่างนั้น

    “ไอ้เนียร์” เพื่อนตัวเกรียนคำรามเสียงต่ำ

    “เหะ” ผมสะดุ้งก้าวถอยหลัง

    “เรื่องนี้ใช่ไหม เรื่องนี้ใช่ไหมที่แกปิดฉันตอนนั้น!

    “ว้ากกก” ทันทีที่มันยิ้มเหี้ยม ผมก็แหกปากวิ่งหนีไอ้ตัวเกรียนที่แปลงร่างเป็นอสูรกายทันที แต่ไม่ทัน โดนมันกระโจนเข้ามาบีบคอก่อน

    “แกเรื่องนี้ใช่ไหมที่ปิดบังฉันตั้งแต่ตอนนั้น หา!” แจ็คสันจับคอผมเขย่า

    “เห้ยแจ็คสัน ทำบ้าอะไรวะ ปล่อยจินยองนะเว้ย” แจบอมรีบเข้ามาแยก

    “ไม่ต้องเลยแกก็เหมือนกัน ตอนนั้นทำเนียนให้ฉันเป็นไอ้โง่วิ่งไปวิ่งมาอยู่คนเดียว!

    แจบอมชะงัก “ฉันไปทำเนียนอะไรตอนไหนวะ”

    “แค่คบกันแค่นี้ต้องปิดบัง แล้วแม่งดูพูดแต่ละอย่างกับฉันตอนนั้น ตัวเองมีแฟนมุ้งมิ้ง ชีวิตมีความสุขแต่มาพูดจาโหดร้ายกับฉันแบบนั้น ไอ้ ไอ้ ไอ้คนไม่มีหัวใจ!” แจ็คสันแหกปากว่าแจบอมไปจับผมเขย่าไป

    “เห้ยไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันเพิ่งมาเคลียร์กันได้ก่อนหน้านี้แป๊บเดียวเอง” แจบอมพยายามอธิบาย

    “ไม่ต้องเลย พวกแกแม่งรวมหัวกันปิดบังฉัน ไอ้ยองแจก็รู้ใช่ไหมเรื่องนี้ ใช่สิ ฉันมันไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียวนี่!” แจ็คสันโวยวายลั่น จับคอผมเขย่าไม่หยุด

    “อุบ อ่อก จะอ้วก” ผมพูดอย่างยากลำบาก ตาเริ่มลาย

    “แบมฮยอง แบมฮยอง” ยูคยอมจับตัวแบมแบมเขย่า แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเล็กจะสมองเออเร่อไปแล้ว

    “แจ็คสันฮยอง จูเนียร์ฮยองหน้าเขียวแล้ว!” ยองแจรีบวิ่งเข้ามาช่วยแยก

    “ไปเลย แกมันไอ้น้องทรยศ!” ตัวเกรียนสติแตก น้อยใจคนทั้งโลก ยกขาจะถีบยองแจ

    “แจ็คสันพอได้แล้ว” ขนาดมาร์คฮยองที่ยืนมองเงียบๆ อยู่นานยังทนไม่ไหวเข้ามาช่วยอีกแรง

    “ฮยองก็ไม่ต้องเลย รู้เรื่องเหมือนกันใช่ไหมล่ะ มีแต่ผมแหละที่ไม่รู้อะ ตอนนั้นที่ผมเข้าไปถามเรื่องเนียร์ ฮยองก็ไม่บอก!” แจ็คสันตะโกนใส่

    “แน่ใจนะว่าอยากยกเรื่องตอนนั้นมาพูด” พี่ชายผมแดงพูดเสียงเหี้ยม

    ไอ้เกี๊ยวเสียสติชะงัก หยุดเขย่าผม

    “อยากยกขึ้นมาอีกใช่ไหม” คนอายุมากสุดในนี้ถามย้ำเสียงเย็น

    แจ็คสันหุบปาก จับผมหมุนมายืนคั่นระหว่างตัวเองกับมาร์คฮยอง นี่มันเอาผมเป็นเกราะกำบังเหรอ

    “ปล่อยจูเนียร์”

    มือมัจจุราชของตัวเกรียนปล่อยจากคอผมทันที มีการหลบตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อีก พอพูดถึงความผิดตัวเองล่ะทำเนียน

    “ไอ้บ้านี่ ไม่รู้จักฟังอะไรชาวบ้านเลย จินยองหน้าซีดหมดแล้วเห็นไหม!

    “อั่ก” ผมกำลังยืนมึนๆ จู่ๆ ตัวก็ปลิวหวือไปตามแรงใครสักคนกระแทกเข้ากับหน้าอกแข็งๆ เออ เอาให้ตายไปเลย วันนี้ไม่ต้องไว้ชีวิตกันหรอก แค่จะมาประกาศว่ามีแฟน เอาเข้าไป

    “แบมฮยอง แบมฮยอง ฮยองช่วยด้วย แบมฮยองนิ่งไปแล้ว!

     

    กว่าทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติและกว่าเรื่องจะจบลงได้ พวกเราต้องมานั่งล้อมวงคุยกันอีกยกใหญ่ว่าอะไรเป็นมายังไง ผมฟุบหน้าลงกับโต๊ะอาหารที่นั่งล้อมวงกันอยู่ตลอดการสนทนา ทั้งเหนื่อยทั้งอาย ปล่อยให้แจบอมกับยองแจเป็นคนอธิบายกันไปแค่สองคน แต่ถึงจะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย อย่างน้อยเหตุการณ์ในคราวนี้ก็ทำให้พวกเราได้กินข้าวด้วยกันเป็นมื้อสุดท้าย ก่อนมาร์คฮยองจะบิน ก็นะ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องดีไปโดยปริยาย

     

     

    ก๊อกๆๆ

    ผมลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินไปเปิดประตู

    “นอนแล้วเหรอ” รูมเมทที่ตอนนี้ควบตำแหน่งแฟนถาม

    “นอนแล้ว” ผมตอบ ที่จริงก็ยังไม่ได้เข้านอนซะทีเดียว แค่นอนพักคิดเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นเฉยๆ

    “ยังโกรธอยู่เหรอ” คำถามที่ได้ทำเอาเบือนสายหนีอัตโนมัติ “จินยองอ่า”

    ผมเอียงตัวหนีมือที่ยื่นมาจะจับ หันเดินกลับเข้าไปในห้อง

    แจบอมถอนหายใจเฮือก

    “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันวุ่นวายขนาดนี้” เดินตามมาพูด “แค่อยากให้นายบอกออกไปด้วยตัวเอง ยังไงซะเจ้าพวกนั้นก็เป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วอีกอย่างมาร์คฮยองก็จะไปพรุ่งนี้แล้วด้วย ถ้าไม่บอกพร้อมกันตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสแล้ว”

    “แต่นายบังคับฉัน แล้วก็ไม่ช่วยอะไรฉันเลย ปล่อยให้ฉันถูกกดดันอยู่คนเดียว” ผมหันหลังให้ พูดเคืองๆ

    “ขอโทษๆ แค่เผลอคิดไปว่าตอนนั้นนายน่ารักดีก็เลย...”

    “หา!” ผมหันขวับกลับไป “นายเห็นฉันที่กำลังย่ำแย่เป็นเรื่องตลกเหรอ ดูนี่ ดูคอฉันยังเป็นรอยมือไอ้มันดูบ้าอยู่เลย” ผมชี้รอยช้ำที่คอตัวเอง ไอ้เจ้าบ้าแจ็คสันบีบคอผม เขย่าซะแทบเอาชีวิตไม่รอด

    “ขอโทษ” แจบอมพูดแล้วเอียงคอมอง จับมือผมที่กำลังชี้คอตัวเองออก เห็นหน้าหมองๆ นั่นแล้วใจก็อ่อนยวบ ไม่อยากถือโทษอะไรอีก 

    ผมถอนหายใจ ยกมือขึ้นกอดอกมองไปทางอื่น

    “เอาเถอะ ฮะ” พูดยังไม่ทันจบประโยคก็ต้องหลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็โน้มตัวมากดจูบลงที่คอ ตรงที่ผมเพิ่งชี้บอกว่ามีรอยช้ำ

    “เจ็บมากหรือเปล่า” แจบอมพูดคลอเคลียอยู่ตรงลำคอ มือจับเอวผมดึงเข้าไปใกล้ก่อนจะกอดไว้

    ผมยืนตัวเกร็ง ตอบอะไรไม่ถูก ลมหายใจอุ่นของคนที่พูดอยู่เป่ารดลำคอจนใจสั่นไปหมด และทั้งๆ ที่ผมยังไม่ตอบ แจบอมก็ไม่ได้ทวงถาม ริมฝีปากหยักกดจูบที่คอผมอีกครั้งก่อนจะไล้ขึ้นแล้วจูบที่คาง ไปที่แก้ม จูบเรื่อยไปจนถึงขมับ จมูกโด่งปัดผ่านปลายจมูกผม ตอนที่มือคู่นั้นประคองจับหน้าผมให้สบตาแล้วส่งยิ้มให้ รอยยิ้มของแจบอมในระยะประชิด ผมแทบละลายตายอยู่ตรงนั้น ทั่วทั้งหน้าคงแดงก่ำไปหมด

    ขี้โกง ทั้งๆ ที่ใจฉันเต้นแรงจนแทบจะระเบิด แต่นายกลับยิ้มสบายๆ แบบนี้ได้ยังไง อิมแจบอม นายมันขี้โกงที่สุดเลย

    คนขี้โกงยิ้มขำเมื่อเห็นผมหน้างอนิดๆ สายตามองต่ำไปที่ริมฝีปาก ก่อนจะค่อยๆ ขยับริมฝีปากตัวเองเข้าไปแตะ เหมือนเด็กที่ได้ชิมอมยิ้มรสหวานครั้งแรก แตะแล้วถอยออกมา แล้วเข้าไปลิ้มลองอีกครั้ง จนในที่สุดก็ต้านทานความปรารถนาตัวเองไม่ได้ ถาโถมเข้าหารสหวานนั้น เชยชมอย่างมูมมาม

    รสจูบรุนแรงปนวาบหวาม ยิ่งผมตอบโต้ไปแบบเงอะงะยิ่งเหมือนปลุกเร้าให้อีกฝ่ายต้องการมากขึ้น ลมหายใจกระชั้นถี่ ลำตัวเบียดชิด อุณหภูมิในร่างกายพุ่งสูง แจบอมผละริมฝีปากออกในตอนที่ผมเริ่มหายใจไม่ทันมาจ้องมอง เสียงลมหายใจที่เป่ารดกับสายตาที่มองมา ทุกอย่างเต็มไปด้วยความต้องการอย่างเปิดเผย

    “พะ พรุ่งนี้” ผมพูดพลางหลบตา “ต้องไปส่ง... อะ”

    คำพูดถูกกลืนหาย อิมแจบอม ไม่ได้สนใจคำตอบตั้งแต่ต้น และผมเองก็ไม่สามารถต้านทานใดๆ ได้ หมดทั้งหัวใจมันยอมไปตั้งแต่ถูกจู่โจมด้วยรอยยิ้มระยะประชิดนั่นแล้ว...

     

    -------------------------------------------------------------------------

     

    “จินยอง”

    “ไม่ต้องมายุ่ง”

    “จินยองอ่า”

    “บอกว่าไม่ต้องมายุ่ง”

    “คุณจินยองคร้าบ”

    “บอกว่าไม่ต้อง โอ๊ย” ผมเหวี่ยงแขนฟาดไอ้คนนิสัยเสียทั้งที่นอนคว่ำหน้าอยู่ แต่เหวี่ยงแรงไปหน่อยมันเลยกระเทือน

    แจบอมยิ้มหวานใส่ผมที่ทำหน้างอง้ำ

    ฟอด

    “ย่าห์” อุตส่าห์ตีหน้าดุ ไอ้คนหน้ามึนยังมาจับหอมแก้มอีก ยัง ยังจะมายิ้มหวานให้ “ไปไกลๆ เลย” ไอ้รอยยิ้มล่อลวงแบบนี้อะ ไปให้ไกลๆ เลย

    “หายงอนเถอะน่า”

    ผมหันกลับมาฟุบหน้าลงบนหมอน

    “โอเค ฉันขอโทษ คราวหน้าฉันจะฟังที่นายพูดทุกอย่าง” แจบอมที่นั่งอยู่บนเตียงข้างตัวผมพูด

    “ไม่มีคราวหน้าแล้ว” ผมตอบเสียงสะบัด

    “ไม่ได้นะโธ่ จินยอง จินยองจ๋า” พูดเสียงอ่อนเสียงหวานน่าขนลุกไม่พอ เจ้าตัวยังทาบตัวลงมากอด ทำตัวมุ้งมิ้งแบบที่โคตรไม่ใช่อิมแจบอม “จินยอง หืม”

    ผมมุดหน้าหนีไปอีกทาง แค่มาพูดข้างๆ มาคลอเคลียใกล้ๆ แค่นี้ก็ร้อนไปทั้งหน้า เกลียดตัวเองสุดๆ เลย ทำไมต้องแพ้ทุกทีเลยนะ

    “ฉันบอกให้พอก็ไม่ฟัง” ผมพูดเสียงอู้อี้ พูดไปก็อายไปจนอยากจะมุดทะลุเตียงหนีหายไปเลย

    เงียบ ไม่มีเสียงแจบอมตอบกลับมา ทั้งสัมผัสที่กอดผมก็หายไป ผมผงกหัวขึ้นหันไปมอง อิมแจบอมย้ายไปนั่งกอดอกเต๊ะท่าอยู่ตรงโต๊ะเขียนหนังสือของผม

    “ไปทำอะไรตรงนั้น”

    “ทำตัวเป็นเด็กดีไง”

    “หะ”

    “ถ้ายังอยู่ใกล้ๆ นาย” แจบอมพูด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถึงจะเช้าแล้วก็เถอะ ต้องอดใจไม่ไหวแน่ๆ”

    ผมถลึงตาใส่คนที่ยังทำเป็นนั่งกอดอกหน้าตาเคร่งเครียด “ฉันจริงจังนะ” แกล้งอยู่ได้

    “ฉันก็จริงจัง”

    “แจบอม”

    “อ่า” เจ้าของชื่อทำหน้าอ่อนใจ ลุกขึ้นเดินมานั่งข้างผมบนเตียงอีกครั้ง “นายเป็นยังไงบ้าง โอเคหรือยัง” ถามพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ

    “ยัง”  ผมตอบงอนๆ

    “จินยองอ่า รักนะ” งั้นโอเคแล้วก็ได้

    “ง่วงอะ”

    “ง่วงก็นอนซะ ฉันไม่กวนละ”

    “แจบอม” หันไปเงยหน้าถามตอนเห็นร่างสูงลุกขึ้น

    “หืม”

    “ปวดหัว”

    “ปวดหัวเหรอ ไหนดูซิ” คนตัวสูงก้มมาจับหน้าผาก “ตัวอุ่นๆ จะไม่สบายหรือเปล่า”

    “ไม่รู้ กินยากันไว้ดีไหมอะ”

    ไม่มีคำตอบกลับมา แจบอมจ้องหน้าผม จ้อง จ้อง จ้องนานเกินไปแล้ว กลืนน้ำลายด้วย

    “อิมแจบอม!

    “หะ โอ๊ะ เออ อะไรนะ”

    “นายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเหรอ”

    “เอ่อ” แจบอมอึกอักก่อนจะถอนหายใจ “นายก็อย่ามาช้อนตามองแบบนั้นสิ ตาแป๋วๆ กับแก้มแดงๆ นั่นอีก อ๊า ฉันต้องเป็นบ้าตายเร็วๆ นี้แน่” เจ้าตัวยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองสองสามที “ทำยังไงดี หลงนายสุดๆ เลย”

    “บ้า” ผมมุดหน้าลงกับหมอนอีกรอบ

    “ฉันไปหาอะไรมาให้กินนะ นายจะได้กินยาแล้วพักผ่อน”

    “อือ” ผมพยักหน้าทั้งที่ซบอยู่กับหมอน ฉันสิควรต้องถามว่าทำยังไงดี รักนายจะตายอยู่แล้ว คนบ้า อิมแจบอม

     

     

    “จูเนียร์ฮยองไม่สบายเหรอ แล้วจะไปส่งมาร์คฮยองไหวไหมอะ” เสียงคนคุยกันจากด้านนอกดังลอดเข้ามา

    ผมพลิกตัวนอนหงาย ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ดีขึ้นแล้ว หลังจากกินยาและนอนพักไปก็ดีขึ้นมาก เลยลุกจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่แล้วเปิดประตูออกไป

    “อ้าวฮยอง ออกมางี้ไม่เป็นไรแล้วเหรอ” ยองแจหันมาถาม หน้าห้องผมตอนนี้มียองแจ แจ็คสันแล้วก็แจบอมยืนอยู่ด้วยกัน

    “ไม่เป็นไรแล้ว” ผมตอบพลางยิ้มให้ “ไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ” บอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ

    ตอนออกมาทั้งสามคนก็ยังยืนอยู่ที่เดิม

    “กี่โมงแล้วอะ” ผมถาม

    “บ่ายสามแล้ว” ยองแจเป็นคนตอบ “ฮยองไม่เป็นไรแล้วแน่นะ” พ่อครัวประจำหอเดินมาจับแขนผมสำรวจอุณหภูมิ

    “อื้อ ไม่เป็นไรแล้ว”

    “แล้วไหงจู่ๆ ไข้ขึ้นได้วะ” แจ็คสันถาม “แปลกๆ นะ” ตาคมเหล่มองแจบอมที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วพอเห็นแบบนั้นปุ๊บมุมปากตัวเกรียนก็ยกยิ้ม “หึ”

    เสียงหัวเราะทำเอาผมหน้าแดงวาบ รู้แล้วสินะ รู้แล้วใช่ไหม หาอะไรมาทุบหัวให้สมองเสื่อมเลยดีไหม

    “ฮยองหน้าแดงๆ นะ ยังไม่หายดีปะเนี่ย” ยองแจเอียงคอมอง จับหน้าผมพลางถามด้วยความเป็นห่วง

    “ฉันไม่เป็นไร แล้วมาร์คฮยองอะ” ผมตอบแล้วเลี่ยงไปถามเรื่องอื่น

    “เห็นว่าไปทำธุระข้างนอก เดี๋ยวกลับมา แทคยอนฮยองก็กลับมานะ บอกว่าจะไปส่ง” ยองแจตอบ “เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวผมไปทำอะไรให้ฮยองกิน แล้วจะได้กินยาอีกรอบ รอแป๊บหนึ่งนะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบผลุนผลันออกจากห้องไป

    เหลือกันอยู่สามคน แจ็คสันยังคงมองมาที่ผมยิ้มๆ

    “มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น” ผมพูดหน้างอ

    “พูดได้หรา” ไอ้เจ้ามันดูตัวแสบทำเสียงสุดกวน

    “นายจะพูดอะไร”

    “หึหึ” แจ็คสันเหล่มองแจบอมที่ยืนข้างกัน “ไอ้เสือ”

    “พอเลย มานี่เลยนายอะ” คนถูกเรียกว่าไอ้เสือคว้าล็อกคอตัวแสบลากไปทางประตู

    “อะไรวะ ไปไหน ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แหมๆ”

    “เงียบเลย”

    “ไม่นะ จะพาฉันไปไหน เนียร์ช่วยด้วย ไม่นะ เขาจะทำอะไรฉันไหม อ๊ายๆๆ”  

    เจ้าเกี๊ยวบ้าทำท่าสะดีดสะดิ้งไปจนพ้นประตู ทิ้งให้ผมยืนกัดปากหน้าแดงก่ำอยู่ที่เดิมคนเดียว

    อิมแจบอม ความผิดนายชัดๆ เลย!


    -------------------------------------------------------------------------------------------------TBC


    ก่อนอื่น แจ็คสัน นั่นยองแจนะ ไม่ใช่บั้งไฟ จะได้เอาไฟไปจุดแล้วเฟี้ยวฟ้าว (ฮา) ส่วนบีเนียร์ โนคอมเม้น ให้รีดเม้นละกัน ฮ่าๆๆ


    เห็นมีคนถามเรื่องราคาฟิค ชุดฟิคหอพักมี 3 เล่ม แต่ละเล่มมีจำนวนหน้าราวๆ 450+ หน้า ราคา 750 บาทต่อหนึ่งชุดค่ะ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×