ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : (Exo x You) NEW BORN : ตอนที่ 2
RED WINGS
เฮือก!!!!
ฉันสะดุ้งตื่นจากเตียงพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ไหลท่วมตัว เมื่อกี๊ฉันฝันร้าย... ฝันว่ามีมนุษย์กลายพันธุ์คนหนึ่งที่มีพลังเหมือนกับงู เขาฆ่าคนได้ด้วยการสัมผัสผิวหนังและทำให้ร่างของคนๆนั้นเป็นขี้เถ้าได้ด้วยมือเปล่า นัยน์ตาสีเหลืองจ้องมองมาที่พ่อของฉัน แล้วหลังจากนั้นร่างของพ่อก็ค่อยๆไหม้กลายเป็นขี้เถ้า......
"ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
หมอและพยาบาลพากันวิ่งเข้ามาในห้องอย่างตื่นตระหนก พวกเขาพยายามจับฉันที่กำลังจะลุกหนีจากเตียง
"ปล่อยฉัน!!! พวกแกเป็นใคร!!! มาจับฉันไว้ทำไม!!!"
"คนไข้ฟื้นแล้ว รีบแจ้งผู้กองด่วน" หมอผู้ชายหันไปสั่งกับพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้กองคือใคร? แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
"ที่นี่ที่ไหน!!! พวกแกจับฉันมาที่นี่ทำไม!!!"
ฉันสะบัดพยาบาล 3-4 คนออกจากตัวสุดแรงเกิด เพราะพวกเขาพยายามจะเข้ามามัดฉันไว้กับเตียง จนหมอผู้ชายเดินมากดตัวฉันให้นอนลงไปอย่างแรง
"ใจเย็นๆเข้าไว้คุณไอริ...แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย"
หมอผู้ชายหยิบเข็มฉีดยาอะไรซักอย่างขึ้นมาตรงหน้าฉัน แต่ฉันผลักเขากระเด็นไปติดกำแพงก่อนที่เขาจะได้ทันลงมือ
"ออกไปให้พ้นจากฉัน!!!!!!!!"
ฉันวิ่งหนีไปที่ประตู หมอผู้ชายหันไปกดปุ่มสัญญาณเตือนฉุกเฉินทันที และรีบวิทยุแจ้งให้พวกที่อยู่ข้างนอกช่วยกันจับตัวฉันไว้
"คนไข้หมายเลข 310 หนีออกไปทางฝั่งตะวันตก ขอกำลังเสริมช่วยจับกุมด้วย!..."
ที่นี่มันที่ไหน.... นี่มันกองทัพหรือศูนย์บัญชาการกันแน่? ทำไมมีแต่พวกที่แต่งตัวเหมือนทหารเดินเต็มไปหมด ฉันหันไปมองซ้ายมองขวาอย่างสับสน
"เฮ้ๆ คนสวย...จะรีบไปไหนหรอจ๊ะ" ผู้ชายร่างเตี้ย ผมสีบลอนด์เดินมาดักหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ในมือของเขาถือที่ชอร์ตไฟฟ้าอยู่ ฉันตัดสินใจหันหลังวิ่งกลับไปอีกทางนึง
"อยู่นิ่งๆ อย่าขยับดีกว่านะคนสวย...ไม่งั้นเธออาจจะกลายเป็นอัมพาตชั่วคราวได้นะจ๊ะ" ผู้ชายผมสีเขียวอีกคนนึงเดินมาดักฉันอีกฝั่ง เขาควงที่ชอร์ตไฟฟ้าในมือไปมาอย่างยียวน
"หลีกไป...ไม่งั้นฉันจะทำให้พวกนายสองคนกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิตเลย"
นายสองคนนั่นหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างขำขัน
"อัมพาตตลอดชีวิตหรอ ฮ่าๆๆๆ เธอไม่รู้หรอกว่าเธอกำลังพูดอยู่กับใคร"
"อ๋อใช่..." ฉันเลื่อนสายตาไปทางป้ายชื่อของหมอนั่นที่ติดอยู่บนเสื้อ "ฉันรู้ว่านายชื่อแบคฮยอน"
"โอ๊ยยย!!!!!!"
ฉันเตะเข้ากลางเป้าของหมอนั่นทีเผลออย่างแรง ก่อนจะหันไปหานายหัวเขียวอีกคนนึง
"ส่วนนายก็ชื่อไคล่ะซิใช่มั้ย"
"อ๊ากกกกก!!!!!!"
สองคนนั่นลงไปนอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้น นายผมบลอนด์ที่ชื่อแบคฮยอนอะไรนั่นหันมาชูนิ้วกลางให้ฉัน
"อย่าให้จับตัวได้นะยัยบ้า!!!!! ฉันจะตัดนิ้วเธอออกมาแล้วโยนให้หมาหน้าประตูกินซะ!!!!!"
แฮ่กๆ.... ฉันวิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง หน้าประตูมีสัญลักษณ์รูปนกฟีนิกซ์สีแดงสลักอยู่ตรงกลาง และมีตัวอักษรใต้ปีกนกฟีนิกซ์เขียนเป็นคำว่า.....
"...Red Wings?..."
"เธออยู่ตรงนั้น!"
พวกหมอและพยาบาลวิ่งตามมาเจอฉันแล้ว ฉันตัดสินใจหันหลังวิ่งกลับไปอีกทางนึง แต่กลับชนเข้ากับใครคนนึงที่มายืนขวางทางอยู่ตรงหน้า
"เกิดอะไรขึ้น"
เสียงเย็นชาหันไปถามพวกหมอและพยาบาลที่วิ่งตามฉันมาด้านหลัง ท่าทางพวกเขาดูหวาดกลัวผู้ชายคนนี้ชอบกล แต่ละคนหันไปมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
"คนไข้พยายามวิ่งหนีออกมาจากห้องครับผู้กอง"
ผู้กองหรอ? ฉันหันกลับมามองคนตรงหน้าฉันอีกครั้ง หรือว่าหมอนี่...จะเป็นคนสั่งให้คนพวกนี้จับตัวฉันมา
"กลับขึ้นไปที่เตียงซะ"
หมอและพยาบาลวิ่งเข้ามาช่วยกันจับตัวฉันอีกรอบ ฉันพยายามผลักพวกเขาออกไปให้พ้นจากตัวฉัน
"ไม่!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! พวกนายเป็นใคร!!! แล้วจับฉันมาไว้ที่นี่ทำไม!!!"
"อย่าทำตัวมีปัญหา...ฉันไม่มีเวลาทั้งวันมาเล่นวิ่งไล่จับเธอหรอกนะ" เขาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
"นายไม่มีสิทธิ์มาจับฉันไว้ที่นี่!!! นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!!! ฉันเป็นลูกสาวของท่านประธานาธิบดีนะ!!! ฉันจะเอาพวกนายเข้าคุกให้หมด ถ้าพวกนายไม่พาฉันกลับบ้าน!!!"
นายคนที่พวกเขาเรียกว่าผู้กองอะไรนั่นแค่นหัวเราะ
"กลับบ้านงั้นเหรอ...ได้ซิ ถ้าอยากตายนักก็เชิญกลับไปได้เลย"
หมอนั่นสั่งให้พวกหมอพยาบาลปล่อยตัวฉัน ก่อนจะกดปุ่มเปิดประตูทางออกผ่านเครื่องอะไรซักอย่างที่ดูคล้ายกับโทรศัพท์มือถือให้ฉันอย่างกวนๆ ฉันมองหน้าเขาอย่างไม่ไว้ใจ
"ไปซิ"
ฉันวิ่งหนีจากคนพวกนั้นมาอย่างไม่คิดชีวิต มุ่งตรงมาที่ประตูทางออก แต่หลังจากที่ประตูเปิดสู่โลกภายนอก ฉันกลับยืนชะงักเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนไปตลอดกาล.......
รอบๆตัวฉันมีแต่ความว่างเปล่า ตึกรามบ้านช่องถูกทำลายหมด ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในบริเวณนี้เลยแม้แต่อย่างเดียว ผู้คนหายไปไหนกันหมด?
"ไง ยังอยากจะกลับบ้านอยู่อีกมั้ย" เสียงประชดของหมอนั่นดังขึ้นจากข้างหลัง ฉันยืนขาแข็งทำอะไรไม่ถูก
"มันเกิดอะไรขึ้น...คนอื่นหายไปไหนกันหมด" ฉันหันไปถามหมอนั่นที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างหลังด้วยท่าทางสบายๆ เขาดูพอใจที่เห็นฉันเริ่มหวาดกลัว
"คิมซูโฮสูบวิญญาณจากผู้คนจนเกือบหมดเมืองเพื่อรักษาร่างกายตัวเอง เราอพยพคนที่เหลือให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่ไกลจากที่นี่ ยกเว้นพวกเด็กๆอย่างเธอ...ที่เป็นเป้าหมายของมัน"
เขาโยนบุหรี่ที่สูบจนหมดมวนแล้วทิ้งลงไปที่พื้น ก่อนใช้เท้าบดขยี้มันจนเหลือแต่ขี้เถ้า
"หมายความว่ายังไง..."
หมอนั่นเดินมาใส่กำไลข้อมือสีเงินไว้ที่แขนฉัน
"ยินดีต้อนรับสู่ 'Red Wings' กลับเข้าไปข้างในได้แล้ว ถ้าไม่อยากกลายเป็นขี้เถ้าไปอีกคน..."
ฉันเดินตามผู้ชายคนนั้นเข้ามาในสถานที่ที่เขาเรียกว่า Red Wings อีกครั้ง และเพิ่งสังเกตว่ามีเด็กคนอื่นๆที่อยู่ที่นี่เหมือนกับฉันด้วย พวกเขาพากันมองและชี้มาที่ชั้นอย่างเกลียดชังตลอดทางที่ฉันเดินผ่าน บางคนสบถคำสาปแช่งใส่ฉัน หาว่าพ่อของฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาต้องตาย
"ออกไป! ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างเธอ! ยัยลูกฆาตรกร!"
"ใครเชิญยัยขยะนี่เข้ามาเนี่ย...เอายัยนี่ไปทิ้งซะ!"
"ไสหัวไปให้พ้นซะ! ยัยลูกฆาตรกร!"
ฉันเดินหลบคนพวกนั้นที่ขว้างปาสิ่งของใส่ฉันไปตลอดทาง อะไรกันเนี่ย... ทำไมพ่อฉันถึงได้กลายเป็นฆาตรกรในสายตาของทุกคนไปแล้ว ทำไมพวกเขาถึงได้โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของพ่อฉัน ทั้งที่จริงๆแล้วคนที่ฆ่าคนไปตั้งเยอะแยะมากมาย คือคิมซูโฮไม่ใช่เหรอ!
"ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่...พาฉันออกไปจากตรงนี้ที!"
ฉันเอามือปิดหูเพราะไม่อยากได้ยินคำพูดพวกนั้นอีกแล้ว เขาหันกลับมามองฉันโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะดึงมือฉันเดินฝ่าฝูงชนออกไปดื้อๆ โดยไม่แคร์สายตาคนอื่นๆที่เอาแต่จ้องมาที่ฉันกับเขาอย่างเกลียดชังเลยซักนิดเดียว
"นี่ห้องของเธอ" เขาพาฉันมาส่งที่ห้องพักอะไรซักอย่าง ก่อนยื่นกระเป๋าที่ดูเหมือนสัมภาระให้ฉันรับไว้
"ถ้าหายดีแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปรวมกับคนอื่นๆข้างล่างซะ คิดซะว่าที่นี่คือบ้านอีกหลังนึงของเธอก็แล้วกัน"
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินกลับไป
"นี่ไม่ใช่บ้านฉัน...ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่" ฉันยืนกรานเสียงแข็ง เขาเดินกลับมาหาฉันอีกครั้งพลางขมวดคิ้ว
"ฟังให้ดีนะคุณหนู...เธอไม่มีสิทธิ์เลือก และทุกคนที่นี่ก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเหมือนกับเธอเช่นกัน เธอมีหน้าที่ที่จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อ ส่วนฉันก็มีหน้าที่ตามจับไอ้ปีศาจนั่นมาลงโทษให้ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่มีเวลาให้เธอมาเอาแต่ใจตัวเองที่นี่ ถ้าพ่อของเธออยากให้ฉันดูแลเธอ เธอก็ต้องเชื่อฟังฉัน...เข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย"
"ว่าไงนะ? พ่อฉันน่ะเหรอขอร้องให้นายดูแลฉัน?" ฉันถามกลับอย่างไม่เชื่อหู
"ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเธอ" เขาตัดบทสั้นๆอย่างรำคาญ "หน้าที่ของเธอที่ต้องทำ มีแค่ 3 ข้อในระหว่างที่อยู่ที่นี่...ข้อแรก อย่าพาคนนอกเข้ามาที่นี่โดยที่ฉันไม่อนุญาต ข้อสอง อย่าเข้าไปยุ่มย่ามกับการทำงานของ KSR ที่ชั้นบน และข้อสาม อย่าคิดหนีออกไปจากที่นี่เด็ดขาด เพราะถ้าถูกจับได้...เธอก็จะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเช่นกัน"
"ทำไมฉันต้องทำตามกฎงี่เง่าบ้าบอของนายด้วย ฉันไม่ใช่ลูกน้องของนายซะหน่อย! และอีกอย่าง...ฉันดูแลตัวเองได้! ไม่จำเป็นต้องขอให้ใครมาดูแลด้วย!"
ฉันปิดประตูใส่หมอนั่นดังปัง! เพราะไม่อยากฟังเขาพล่ามอะไรที่ฉันรับไม่ได้ออกมาอีกแล้ว ฉันได้ยินเสียงหมอนั่นสบถออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะยอมเดินกลับไปเพราะไม่อยากเถียงกับฉันอีก เฮอะ! ให้ตายเถอะ! ทำไมพ่อถึงได้ขอร้องให้เขามาดูแลฉัน ทั้งๆที่ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนเลยเนี่ยนะ! ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ! แล้วนี่ฉันต้องทนอยู่กับที่บ้าๆแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันเนี่ย!
"...เฮ้ๆ พวกนายได้ยินข่าวมั้ย! เขาว่ากันว่าพวกเด็กๆที่ไปดูคอนเสิร์ท EDM เมื่อวานนี้หายตัวไปกันหมดล่ะ!"
ฉันได้ยินเสียงเด็กกลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านมาคุยกันดังลอดเข้ามาในห้อง พวกนั้นพูดถึงเรื่องคอนเสิร์ทงั้นหรอ
"หายตัวไปงั้นเหรอ ก็แสดงว่าซูโฮฆ่าพวกเขาตายหมดแล้วซิ!" เสียงเด็กผู้หญิงอีกคนนึงถามกลับ
"ไม่...ฉันได้ยินพวก KSR พูดกันว่า ถ้าพวกเขาถูกซูโฮฆ่าตาย ร่างของพวกเขาจะเหลือแต่ขี้เถ้า แต่นี่ไม่มีใครพบร่างของพวกเขาเลยซักคน ก็แสดงว่าซูโฮจับคนพวกนั้นไปเป็น New Born หมดแล้วน่ะซิ!"
"หา...จริงเหรอ! ถ้างั้นพัคชานยอล พี่ชายของยัยโรเซ่ก็ด้วยน่ะซิ!"
ฉันที่เอาหูแนบฟังกับประตูถึงกับตกใจ จริงซิ...ชานยอล เฉิน ซิ่วหมิน พวกเขาขโมยบัตรคอนเสิร์ทของคยองซูไปนี่ แล้วที่เด็กพวกนั้นบอกว่าซูโฮจับพวกเขาไปเป็น New Born คืออะไรกัน? และที่นายผู้กองเมื่อกี๊พูดด้วยว่าพวกเราคือเป้าหมายของซูโฮ ....ตกลงมันหมายความว่าไงกันแน่?
"เดี๋ยวก่อน!" ฉันเปิดประตูออกไปเรียกเด็กพวกนั้นก่อนที่พวกเขาจะเดินหนีไป พวกเขาหันมามองหน้าฉันอย่างสงสัย
"พวกเธอรู้มั้ยว่าห้องทำงานของพวก KSR ไปทางไหน"
เซฮุนเดินกลับมาที่ห้องบังคับการของ KSR เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านนอกโยนไปที่โซฟาอย่างหงุดหงิด เหลือไว้แต่เสื้อยืดสีดำด้านในที่มีสัญลักษณ์ของ KSR ติดอยู่ที่หน้าอกซ้าย
"หงุดหงิดอะไรมาหรอเซฮุน" ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นเอ่ยทักเขาขณะกำลังค้นข้อมูลอยู่ที่แล็ปท็อปตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ
"กำลังหงุดหงิดกับยัยนั่นมาซินะ ผมบอกแล้วว่าพี่น่ะเอายัยนั่นไม่อยู่หรอก ผมได้ยินมาจากด็อกเตอร์ว่าก่อนที่ยัยนั่นจะมาที่นี่ ยัยนั่นกับเพื่อนสนิทที่ชื่อคยองซูทำเรื่องแสบๆเอาไว้เยอะ" แบคฮยอนที่นั่งถัดจากศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นทำเสียงเยาะเย้ย เขายังไม่หายเจ็บจากที่โดนไอริเตะกลางเป้ามาหมาดๆนี้เอง
"หุบปากน่ะ...ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่" เซฮุนตัดบท
"หน้าที่อะไรกัน พี่ไม่จำเป็นต้องทำตามคำขอในเมล์นั่นก็ได้นี่ ยังไงตอนนี้ท่านประธานาธิบดีก็ตายไปแล้ว ช่างหัวยัยนั่นปะไร คนอย่างยัยนั่นน่ะเอาตัวรอดได้อยู่แล้วล่ะ"
"นั่นซิ...ขืนให้ยัยนั่นอยู่ต่อ เดี๋ยวก็สร้างปัญหามาให้เราอีก แค่ลำพังเด็กอีก 500 กว่าคนที่เราต้องดูแลก็เยอะมากพอแล้ว เราส่งยัยนั่นไปให้หน่วยอื่นดูแลไม่ดีกว่าหรอพี่" ไคเห็นด้วย
"ไม่ได้หรอก...ไอริเป็นคนเดียวที่รอดมาได้จากการที่ถูกซูโฮทำให้เป็นขี้เถ้า เธอรอดมาโดยที่ไม่มีบาดแผลในตัวซักจุด มันแปลกมาก เราต้องนำเลือดเธอมาตรวจ DNA เพื่อหาสาเหตุ" ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นกล่าว แบคฮยอนกับไคหันไปมองหน้ากันพลางยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
"เธอไม่ยอมให้ตรวจ...แต่ผมจะหาทางอีกทีก็แล้วกัน"
เซฮุนถอนหายใจ เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ปลายสายคือเจสัน ลูกน้องที่เขาส่งไปตรวจหาผู้รอดชีวิตที่งานคอนเสิร์ทตามคำสั่งท่านรองประธานาธิบดีโทรกลับมา
"ว่าไงเจสัน...เจออะไรบ้างมั้ย"
"มันแปลกมากเลยครับพี่...เราไม่พบสิ่งมีชีวิตซักอย่างเดียวเลย นอกจากรอยเท้าที่ดูเหมือนรอยของหมีกริซลี่ย์ ซึ่งมันไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้เลยครับ"
"หมีกริซลี่ย์หรอ"
"ครับพี่...ผมก็ไม่แน่ใจ อ๊ะ ตรงนี้มีรอยเลือดด้วยครับ..."
เจสันลองเอานิ้วจิ้มรอยเลือดที่พื้นขึ้นมาดูอย่างแปลกใจ
"รอยเลือดนี่ยังดูใหม่ๆอยู่เลย..."
"หมายความว่ายังไง"
ฟึ่บ!
อะไรบางอย่างวิ่งผ่านด้านหลังของเจสันไปด้วยความเร็ว เจสันหันไฟฉายไปมองก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากความมืด
"มีอะไรหรอเจสัน" เซฮุนถามออกมาเพราะเสียงของเจสันเงียบไป
"เปล่าครับพี่...ผมน่าจะตาฝาดไปเอง บริเวณอัฒจรรย์ไม่พบอะไรเลยครับ"
"แล้วนายเข้าไปสำรวจตรงเวทีหรือยัง"
"กำลังไปครับ แต่..." เจสันลุกขึ้นเดินไปที่ด้านล่างของอัฒจรรย์ แต่เขาเผลอทำไฟฉายหล่นลงไปติดอยู่ที่เก้าอี้ของผู้ชมตรงไหนซักแห่ง เขารีบตามลงไปเก็บมัน ก่อนจะพบว่ามีใครบางคนมายืนดักหน้าเขาไว้
"นายเป็นใคร..."
เจสันเอ่ยถามร่างสูงผมดำที่ยืนอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาของหมอนั่นเบิกโพลงเป็นสีขาวดำราวกับปีศาจ กรงเล็บงอกออกมาจากนิ้วมือทั้งสองข้าง ก่อนพุ่งเข้าใส่เจสันโดยไม่ทันตั้งตัว ปลายสายหลุดจากการติดต่อกระทันหัน
"เกิดอะไรขึ้น! เจสัน! เจสัน!"
"ตื๊ดๆๆๆๆ..."
สัญญาณถูกตัดขาด ทุกคนที่อยู่ในห้องทั้งหมดหันมามองหน้ากัน
"แจ้งทุกหน่วยให้ไปที่คาโรซูกิลตอนนี้เลย!"
เสียงรถหลายสิบคันพุ่งออกไปอย่างเร็วจากด้านนอก เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ? หรือว่าพวกเขาตามหาตัวซูโฮได้แล้ว
ฉันแอบหลบเข้ามาที่ห้องบังคับการของพวกเขาโดยที่ไม่มีใครเห็น ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่นี่เลยแม้แต่คนเดียว โชคดีชะมัด ฉันเปิดประตูย่องเข้าไปในห้องทำงานของใครคนนึง ที่น่าจะดูเหมือนเป็นห้องของไอ้ผู้กองบ้าคนนั้น
"...โอเซฮุน...หัวหน้าหน่วย KSR และหัวหน้าหน่วยฝ่ายอารักขาท่านประธานาธิบดี..." ฉันอ่านข้อความบนเหรียญเกียรติยศและถ้วยรางวัลบนตู้ชั้นหนังสือของเขา ฉันเบ้ปากอย่างสะอิดสะเอียน
"เซฮุนเริ่มเข้ามาทำงานกับหน่วย KSR ตั้งแต่อายุ 24 ด้วยความสามารถทางยิงปืนและสอบได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วย KSR ในเวลาเพียง 2 ปี และยังได้รับเหรียญกล้าหาญจากท่านประธานาธิบดีคิมมุนแจ จากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่บลูเฮาส์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา..."
หา... ฉันอ่านข้อความบนหนังสือพิมพ์พร้อมกับขยี้ตาแรงๆอีกครั้ง
" 'ผมเป็นหนี้ชีวิตเขา'...ประธานาธิบดีคิมมุนแจกล่าว 'ถ้าเป็นคนอื่นคงจะตัดสินใจช่วยผมและตัวประกันออกไปเป็นอย่างแรก แต่มันอาจทำให้พวกเราถูกจับได้ก่อนและอาจถูกพวกมันฆ่าทิ้งทั้งหมด แต่เซฮุนเขากลับบุกเดี่ยวเข้ามาฆ่าพวกมันเรียบ และช่วยพวกเราออกมาได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นผมไม่ลังเลเลยที่จะบอกว่าเขาคือคนที่กล้าหาญและซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาในชีวิต'...ให้ตายเถอะ พ่อต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!"
ฉันโยนหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวของหมอนั่นกลับไปที่เดิมพร้อมกับมองบนอย่างอึ้งๆ เพราะแบบนี้เองซินะ พ่อถึงไว้ใจขอร้องให้หมอนั่นดูแลฉัน! เฮอะ ฉันอยากจะเอาหัวโขกกำแพงแรงๆซักสิบที เผื่อจะได้ตื่นจากฝันร้ายบ้าๆนี่ซะที
"กริ๊งงงงง!!!!!!" อยู่ดีๆเสียงโทรศัพท์ในห้องของเซฮุนก็ดังขึ้นมาจนฉันสะดุ้ง บ้าเอ๊ย! ใครดันโทรมาตอนนี้เนี่ย! เสียงฝีเท้าใครบางคนกำลังเดินมาอยู่ด้านนอก ฉันรีบก้มตัวหลบไปซ่อนอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขา
"ฮัลโหล...ผู้กองไม่อยู่ มีอะไรฝากไว้มั้ย" เสียงนี่มัน...ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นนี่ ศาสตราจารย์ก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?
"อะไรนะ? มีเด็กอีกคนหนีออกมาจากห้องพยาบาลอีกแล้วเหรอ เฮ้อ...ฉันบอกแล้วไงว่าให้ฉีดยานอนหลับให้พวกเขาก่อนฉีดยาระงับประสาท คราวนี้หนีไปทางไหนอีกแล้วล่ะ...ได้ๆ...เดี๋ยวฉันไปตามกลับมาเอง"
ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นวางสายก่อนรีบผลุนผลันเดินออกไป เขาทำอะไรบางอย่างหล่นลงมาจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ของตัวเอง
"อะไรเนี่ย..." ฉันหยิบ Thumb Drive ที่ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นทำตกไว้ขึ้นมาจากพื้นอย่างสงสัย มันอาจจะมีอะไรอยู่ข้างในนี้ก็ได้ ฉันตัดสินใจเอามันมาเสียบกับแล็ปท็อปของเซฮุนที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับ New Born ก็โผล่ขึ้นมาเต็มหน้าจอ
ข้อมูลของสัตว์ที่ถูกขนย้ายมาจากสนามบินอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งรายชื่อของสัตว์ทั้งหมดที่อยู่ที่สถาบันวิจัยและเพาะพันธุ์สัตว์สูญพันธุ์และหายาก พ่อเป็นคนอนุมัตินำเข้ามาทั้งหมด โดยมี 'พัคคังลิม' รองประธานาธิบดีและพ่อของชานยอลกับโรเซ่ เป็นคนจัดหามาให้ รวมทั้งเขาเองก็เป็นคนจัดหาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านพันธุกรรมมาทดลองด้วยเช่นกัน
ฉันเปิดเข้าไปดูรายชื่อสัตว์ทั้งหมดที่พวกเขานำมาทดลอง แต่กลับไม่พบอะไรเลย นอกจากซูโฮคนเดียวที่สันนิษฐานว่าเขาอาจจะได้รับ DNA ของบาซิลิสก์ งูยักษ์ในตำนานที่ฆ่าคนได้ด้วยการมอง ส่วนสัตว์ตัวอื่นๆที่นำเข้ามา และซูโฮได้เซรุ่มไปแล้ว ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร และตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน
ฉันนึกถึงชั้นใต้ดินที่บลูเฮาส์ที่พ่อเคยพูดไว้
...หรือพวกมันจะถูกซ่อนไว้อยู่ที่นั่น!!!?
ฉันรีบดึง Thumb Drive เก็บเข้ากระเป๋า แล้วรีบหาทางออกไปจากที่นี่เพื่อไปที่บลูเฮาส์ให้ได้
"โอ๊ย! เดินประสาอะไรของเธอ! ไม่มีตาดูหรือไง!"
ฉันเดินมาชนกับยัยโรเซ่หน้าห้อง จนทำ Thumb Drive หล่นลงไปที่พื้น ให้ตายเถอะ!
"อ๋อ แกนี่เอง...ยัยลูกฆาตรกร คิดว่าหลบซ่อนตัวจากทุกคนแล้วเรื่องทั้งหมดจะหายไปเองหรือไง น่าสมเพช" ยัยโรเซ่ยิ้มเยาะ ฉันผลักยัยนั่นออกไปคว้า Thumb Drive ที่พื้นก่อนที่ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นจะเห็นมันเข้า แต่ยัยนั่นขัดขาฉันล้ม
"แกไม่ควรเสนอหน้ามาอยู่ที่นี่ แกกับพ่อแกมันเป็นฆาตรกร! ถ้าพี่ชายฉันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา แกไม่ตายดีแน่นังไอริ!"
"พี่ชายเธออยากเสนอหน้าไปคอนเสิร์ทเองนี่ เขาขโมยบัตรจากคยองซูไป มันไม่ใช่ความผิดของฉัน!"
"ทำไมจะไม่ใช่! ไม่ใช่พ่อแกหรอกเหรอที่สร้างอสุรกายขึ้นมาทำคนตายไปทั้งเมือง พ่อแกน่ะสมควรตายแล้ว!"
ฉันตบยัยบ้านั่นไปอย่างแรง จนยัยนั่นเซล้มไปกองกับพื้น ยัยโรเซ่อ้าปากค้าง
"ถ้าขืนกล่าวหาพ่อฉันอีกรอบ คราวนี้หน้าเธอได้มีรอยนิ้วเพิ่มอีก 5 นิ้วแน่!" ฉันยกมืออีกข้างขึ้นขู่ ยัยโรเซ่ลุกขึ้นมาจะตบฉันคืน แต่มีใครบางคนวิ่งมาชนยัยนั่นหน้าคะมำไปซะก่อนที่เธอจะได้เงื้อมือ
"โทษที! พวกเธอรู้มั้ยว่าทางออกที่นี่ไปทางไหน! แฮ่กๆ..."
"คยองซู!!!" ฉันอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง หมอนั่นอยู่ในชุดคนไข้เหมือนกับฉันตอนที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ที่นี่ ที่หัวเขามีผ้าพันแผลปิดไว้จากที่ถูกซูโฮบังคับร่างเขาไปชนกับกระจก เขาหันมามองฉันด้วยความช็อค
"ไอริ!!! ให้ตายซิ!!! เป็นไปได้ยังไงกันเนี่ย!!!"
ฉันกับหมอนั่นวิ่งมากอดกันด้วยความดีใจ
"ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ!!! ฉันนึกว่าเธอเสร็จไอ้บ้าซูโฮนั่นไปแล้วซะอีก!!! ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้างน่ะ ฉันได้ยินว่าท่านประธานาธิบดีคนปัจจุบันตอนนี้คือพัคคังลิม หมายความว่าไง...."
ฉันอึดอัดใจที่จะพูด ฉันไม่อยากจะกลับไปนึกถึงเรื่องวันนั้นอีกแล้ว โชคดีที่ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นเดินมาพอดี เขาหันไปมองโรเซ่ที่นอนกรี๊ดลั่นอย่างเจ็บใจอยู่ที่พื้น พร้อมกับหันมามองพวกเราสองคน
"เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ"
"ก็ไอ้พวกนี้ซิคะศาสตราจารย์! มันรวมหัวกันทำร้ายหนู! คอยดูนะ...พ่อฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!"
"ขอโทษนะคะศาสตราจารย์ พอดีหนูนึกขึ้นได้ว่าต้องไปหาอะไรซักอย่างที่ห้องสมุด หนูขอตัวก่อนนะคะ..." ฉันรีบลากคยองซูหนีออกมาด้วยกันทันที ศาสตราจารย์ยืนงงเป็นไก่ตาแตก
"เดี๋ยวก่อน! คยองซู! นั่นเธอยังไม่ได้เจาะเลือดเลยนะ! คยองซู!"
เซฮุนพร้อมหน่วย KSR กระจายกำลังเข้าตรวจค้นบริเวณลานคอนเสิร์ท แต่รอบๆเต็มไปด้วยขยะและเศษกระป๋องน้ำอัดลมตกอยู่ทั่วบริเวณ พวกเขาต้องเคลียร์พื้นที่และเปิดไฟฉายค้นหาร่างของเจสันและหน่วย KSR คนที่เหลืออย่างยากลำบาก ซูโฮคงตัดระบบไฟทั้งหมดก่อนจะสังหารหรือย้ายร่างพวกเขาไปไว้ที่ไหนซักแห่ง
"ชั้นที่ 1 เคลียร์" เซฮุนวิทยุรายงานคนอื่นๆในทีม ก่อนย้ายการค้นหาลงมาที่ชั้นที่ 2 ของอัฒจรรย์
"ชั้นที่ 2 เคลียร์" แบคฮยอนรายงานกลับมาหลังจากเซฮุนไม่นาน เหลือแค่ไคที่เหมือนจะตรวจพบอะไรบางอย่างอยู่ที่พื้นตรงบริเวณชั้น 3 ของอัฒจรรย์
"หัวหน้าครับ...ผมเจอแว่นตาของเจสันตกอยู่ แต่...ตรงนี้ไม่เจอร่างของเขาครับ"
"แกแน่ใจหรอ ลองตรวจดูให้ทั่วอีกทีซิ"
ไคส่องไฟฉายไปรอบๆบริเวณอีกครั้งแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรเลยนอกจากความมืด
"แน่ใจครับพี่...เอ๊ะ รอยเลือดตรงนี้มัน..."
ไคยกเท้าขึ้นมาหลังจากเหยียบรอยเลือดที่พื้นไปเมื่อครู่ เขาก้มลงเอามือไปแตะมันขึ้นมาดู ก่อนที่จะมีรอยเลือดอีกหยดหนึ่งหยดลงมาบนไหล่ของเขา
ไคค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปดูอย่างกล้าๆกลัวๆ.....
"อ๊ากกกกกก!!!!!!!!! หัวหน้าครับ!!!!!!!!! หัวหน้า!!!!!!!"
เซฮุนกับคนอื่นๆในทีมรีบวิ่งมายังจุดที่เขายืนอยู่อย่างรวดเร็ว
"มีอะไร! เกิดอะไรขึ้น!"
ไคชี้มือสั่นระริกไปที่เหนือศีรษะของตัวเอง เซฮุนและคนอื่นๆเงยหน้าขึ้นไปดู ร่างของเจสันที่ลำตัวถูกอะไรบางอย่างกัดขาดจนเละ ห้อยโตงเตงอยู่ด้านบนคานเหล็กอย่างน่าสยดสยอง
"เจสัน!!!!!" แบคฮยอนร้องลั่นพลางเอามือปิดตาตัวเอง
แต่เซฮุนหันไปสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนคานเหล็ก สิ่งนั้นผลักร่างไร้วิญญาณของเจสันให้ตกลงมาพร้อมกับกระโจนเข้าใส่หนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วย KSR ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
"มะ...มนุษย์หมาป่า!" ไคแหกปากร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ สิ่งนั้นหันกลับมาที่เขาก่อนพุ่งกระโจนใส่อย่างรวดเร็ว เซฮุนหยิบปืนขึ้นยิงไปที่ลำตัวของมันไม่ยั้ง จนมันเสียหลักตกจากอัฒจรรย์ลงไปที่ด้านล่างเวที
"ไปๆๆๆ!!!!! ไปเร็ว!!!!!"
เซฮุนโบกมือให้เจ้าหน้าที่ KSR ทุกคนวิ่งตรงไปที่ประตูทางออก ส่วนเขาคอยประกบอยู่ข้างหลังรอยิงหากมันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง มนุษย์หมาป่าวิ่งอ้อมไปดักรอพวกเขาอยู่ที่ประตูทางออก เซฮุนตะโกนสั่งให้พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางไปที่ประตูหนีไฟแทน ซึ่งมันอยู่ด้านหลังของเวที
"พวกแกไปถึงข้างในแล้วทิ้งระเบิดควันเอาไว้ตามทางเดิน มันจะช่วยพรางตัวพวกแกไว้ รีบไป!"
"แล้วพี่จะไปไหนครับ!" แบคฮยอนดึงแขนเซฮุนไว้
"ฉันจะไปรอต้อนรับมันอยู่ที่หน้าประตูเอง" เซฮุนกำระเบิดเอาไว้ในมือแล้วรีบกระโดดลงจากอัฒจรรย์วิ่งไปที่ประตูทางออก
"เฮ้!"
เขาผิวปากเรียกมันอย่างกวนๆ มนุษย์หมาป่าวิ่งตามเสียงของเขาจนมาเจอเซฮุนยืนดักรอมันอยู่ที่หน้าประตู
"แกหิวใช่มั้ย...ฉันเตรียมน้อยหน่าไว้ให้แกเรียบร้อยแล้ว"
"...กรรรรรจ์!!!!!!!!!..."
"เอาไปกินซะ!"
มนุษย์หมาป่าพุ่งกระโจนใส่เขาด้วยความโกรธที่ถูกยั่วประสาท เซฮุนขว้างระเบิดเข้าไปในปากมัน ก่อนจะกระโดดเข้าไปหลบในท่อที่อยู่ใต้เท้าของเขา
"ตี๊ดๆๆๆๆๆ.....บึ้มมมม!!!!!!"
ร่างของมนุษย์หมาป่าแหลกละเอียดเหมือนกับแตงโมที่ถูกระเบิด เศษชิ้นส่วนของมันกระจัดกระจายไปทั่วทางเดิน เซฮุนโผล่ขึ้นมาจากท่ออย่างหอบๆ เขาหันมาถ่มน้ำลายใส่เศษซากของมันที่ติดอยู่บนเสื้อเขาอย่างสมเพช
"ตรงนี้เคลียร์แล้ว"
เซฮุนวิทยุบอกแบคฮยอนกับไคที่กำลังพาคนอื่นๆหนีออกไปยังทางหนีไฟ แบคฮยอนกับไคถอนหายใจอย่างโล่งอกที่หัวหน้าของเขาจัดการกับมนุษย์หมาป่าได้ ขณะที่เซฮุนรีบวิ่งตามพวกลูกน้องของเขาไป เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าซากชิ้นเนื้อที่พื้นมันกำลังหล่อหลอมกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้งนึง
"เฮ้! ไอ้แบคฮยอน! แกอยู่แถวนี้หรือเปล่าน่ะ! ไฟฉายฉันเหมือนจะแบตหมดซะแล้ว!" ไคพยายามเคาะไฟฉายกับมือไปมาอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องมาเสียอะไรตอนนี้ด้วยวะเนี่ยยย
"ฉันอยู่ทางนี้! ของฉันก็ใกล้จะแบตหมดเหมือนกัน! รอแป๊บนึงนะ...ขอฉันลองหาถ่านก่อน" แบคฮยอนเดินไปนั่งพักบนเก้าอี้หน้าห้องพักของศิลปิน บนกำแพงมีรูปกราฟฟิตี้ลายกิ้งก่ายักษ์สีส้มสลักอย่างสวยสด เขาพยายามควานหาถ่านในกระเป๋าอย่างหงุดหงิด
"ฉันจำได้ว่าฉันเอามันใส่กระเป๋ามาแล้วไม่ใช่เหรอวะ..."
กึก!
แบคฮยอนล้วงไปล้วงมา เขาเกิดไปแตะโดนอะไรซักอย่างที่มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ เหมือนกับขาของตัวอะไรซักอย่างเข้า
"อ๊ากกกกกกก!!!!!!!!!!!"
แบคฮยอนสะดุ้งโหยงจากเก้าอี้ เมื่อหันไปเห็นว่ารูปบนกำแพงด้านหลังที่เขานั่งพิงไม่ใช่รูปวาดจริงๆ แต่เป็น New Born ในร่างของกิ้งก่ายักษ์คาเมเลี่ยน ที่พรางตัวหลบซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน มันแผ่แผงคอของมันขณะใช้แขนทั้งสองข้างรัดคอแบคฮยอน
"ช่วย....ด้วย...!!!!!!"
ปัง!
เซฮุนยิงไปที่หัวของมัน ทำให้แบคฮยอนหลุดจากการตรึง สีลำตัวของมันเปลี่ยนไปจากเดิมกลายเป็นสีเทาควันที่เหมือนกับระเบิดควันที่พวกเขาวางไว้เพื่ออำพรางตัว
"เมื่อกี๊มนุษย์หมาป่า...แล้วคราวนี้เป็นมนุษย์กิ้งก่าหรอวะ!" ไควิ่งมาสมทบกับพวกเขา เซฮุนจำได้ว่าเขาเห็นกิ้งก่าตัวนี้ในสถาบันวิจัยและเพาะพันธุ์สัตว์ที่พวกเขาเอามาสต๊าฟไว้
"กิ้งก่าคาเมเลี่ยน พรางตัวเก่งที่สุดในโลก"
"อะไรนะพี่..."
New Born ในร่างของมนุษย์ครึ่งกิ้งก่ายักษ์กระโจนหลบกระสุนของเซฮุนและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆอย่างว่องไว ด้วยสีของมันที่กลมกลืนกับควันทำให้พวกเขาเล็งไปที่มันได้อย่างยากลำบาก มันกระโจนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ KSR สองนายที่พลาดท่ายิงมันไม่โดน ลิ้นของมันตวัดปืนของพวกเขาทิ้ง ก่อนตวัดหางของมันรัดคอเจ้าหน้าที่สองนายจนขาดใจตายอย่างรวดเร็ว
"เอาไงดีครับพี่! ขืนเป็นแบบนี้พวกเราเสร็จมันหมดแน่!"
แบคฮยอนร้องถามเซฮุนขณะหลบซ่อนตัวอยู่หลังตู้ เซฮุนมองไปที่มันพร้อมกับพยายามคิดหาทางออก
'ถ้ามันพรางตัวได้...เราก็ต้องให้มันพรางตัวให้เราจับได้เหมือนกัน'
"ล่อมันไปที่เวที"
"หา?"
"ทำตามที่ฉันบอก! เร็วเข้า!"
แบคฮยอนพยักหน้ารับคำอย่างลวกๆ แม้จะยังไม่เข้าใจแผนของหัวหน้าเขาเท่าไหร่นัก เขาจุดดอกไม้ไฟวิ่งถือล่อมันออกไปบนเวที New Born มนุษย์ครึ่งกิ้งก่าหลงกลหันกลับไปวิ่งไล่ล่าเขาแทนตามแผนของเซฮุน
"แล้วเอาไงต่อครับพี่!!!!" แบคฮยอนตะโกนถามเซฮุนอย่างจนตรอก ไอ้กิ้งก่าบ้านั่นมันวิ่งตามเขามาติดๆแล้ว โชคร้ายที่เขาเกิดพลาดท่าสะดุดขาตัวเองล้มลงไปกับพื้น
"เชี่ย!!!!!"
ลิ้นยาวๆของมันตวัดออกมาเลียใบหน้าของเขาราวกับมันกำลังชอบใจ แบคฮยอนหลับตาปี๋ด้วยความขยะแขยง ก่อนที่มันจะชูแผงคอขึ้นมาพร้อมจู่โจม
"หัวหน้าาาา!!!!!!!"
พรึ่บ!
เซฮุนสับสวิตช์ไฟทุกดวงบนเวที ให้ส่องไปที่มนุษย์กลายพันธุ์ตัวนั้น และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเล็งไปที่เป้าหมายพร้อมกันทันที
"ฉันเห็นแกแล้ว...ยิง!!!!!!"
แบคฮยอนหมอบลงไปกับพื้น ขณะเจ้าหน้าที่ KSR ทั้งหมดสาดกระสุนไปที่มนุษย์กลายพันธุ์ มนุษย์ครึ่งกิ้งก่าหนีไม่ทัน ร่างของมันเละเป็นพรุนกระจัดกระจายเปรอะเปื้อนไปทั่วเวที แบคฮยอนลืมตาขึ้นมาเจอซากของมันเลอะเต็มตัวเขาไปหมด เขาถึงกับกรีดร้องลั่น
"นี่แกเป็นตุ๊ดหรือไงเนี่ย" ไคเดินมาหัวเราะเยาะที่เห็นแบคฮยอนกรี๊ดลั่นอย่างกับผู้หญิง
"หุบปากไปเลยไอ้บ้า! ตอนแกเจอศพไอ้เจสัน แกก็กรี๊ดลั่นเหมือนกันล่ะน่า!"
"ตรงนี้เคลียร์แล้ว เราจำเป็นต้องเผาที่นี่ทิ้งซะ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก" เซฮุนหันมาสั่งพวกเขาทุกคน พวกเขาพยักหน้ารับคำ
เจ้าหน้าที่หน่วย KSR ช่วยกันราดถังน้ำมันไปทั่วบริเวณทางเดิน เซฮุนจุดบุหรี่สูบก่อนโยนไฟแช็คเข้าไปในฮอลล์ จากนั้นทั้งฮอลล์ก็กลายเป็นทะเลเพลิงไปในชั่วพริบตา
"จบเรื่องซะที ทีนี้เราก็กลับกันได้แล้วใช่มั้ยครับพี่" แบคฮยอนถอนหายใจอย่างโล่งอก
ไคหันไปสังเกตเห็นใครคนหนึ่งกำลังวิ่งฝ่าทะเลเพลิงออกมาที่ประตูทางออก
"เดี๋ยวก่อน...นั่นใครน่ะ"
เซฮุนหันหลังกลับไปมองอย่างแปลกใจ ผู้ชายร่างสูง ผมสีชมพู หน้าตาหล่อเหลา เขาวิ่งฝ่าเปลวเพลิงออกมาก่อนล้มฟุบอย่างหมดแรงอยู่ที่หน้าประตู
"ช่วยผมด้วยครับ...ผมกลัว...พวกเพื่อนของผมกลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ไปหมดแล้ว!"
เซฮุนสังเกตลักษณะท่าทางของเขาพลางขมวดคิ้ว หมอนี่ยังดูเป็นมนุษย์ นัยน์ตาของเขายังดูเป็นปกติ ไม่ใช่ New Born
"นายชื่ออะไร"
เขาเงยหน้าขึ้นมามองเซฮุน ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเขม่าควันระล่ำระลักตอบออกมาอย่างหมดแรง
"ชานยอล...พัคชานยอล"
"เธอจะบอกว่าพัคคังลิมอาจอยู่เบื้องหลังทั้งหมดงั้นเหรอ?"
คยองซูกระซิบถามฉันอย่างไม่อยากเชื่อ หลังจากที่ฉันเพิ่งเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังไปเมื่อกี๊ ฉันล้วงหยิบ Thumb Drive ของศาสตราจารย์ฮอว์กิ้นส์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เขาดู
"นี่ไงล่ะ ฉันได้มันมาจากศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้น ในนี้มีหลักฐานบอกว่าพัคคังลิมเป็นคนจัดหาผู้ป่วยและสัตว์ประหลาดพวกนี้มาทำการทดลอง ถ้าเขามีแผนที่จะสร้างมนุษย์กลายพันธุ์พวกนี้มาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ แล้วหลอกใช้พ่อฉันเป็นเครื่องมือ อ้างว่าเพื่อต้องการช่วยโลก"
คยองซูมองหน้าฉันเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากประตูทางเข้า พวกเซฮุนคงจะกลับมาแล้ว
"หลีกทางหน่อย! มีคนเจ็บ! รีบตามหมอมาด่วน!"
คนเจ็บหรอ? ฉันกับคยองซูมองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนจะรีบออกไปดูข้างนอกว่ามีอะไรเกิดขึ้น
"พี่ชานยอล!!!"
โรเซ่วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้อง แว๊บแรกที่เธอเห็นหน้าคนเจ็บที่เซฮุนกับไคพยุงเข้ามา เธอก็รีบวิ่งไปกอดเขาทันที
"พี่ชานยอล!!! พี่ชานยอลจริงๆด้วย!!! ฮือ... พี่หายไปไหนมา!!! ฉันกับพ่อให้คนออกตามหาพี่ไปทั่วเลย!!!"
ชานยอลลูบหัวโรเซ่ที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเบาๆเพื่อปลอบใจเธอ
"ฉันไม่เป็นไรแล้ว...แค่บาดเจ็บนิดหน่อยเท่านั้นเอง"
ชานยอลเงยหน้ามองฉันที่กำลังจ้องมาที่เขาอย่างสงสัย เขากระตุกยิ้มที่มุมปากเบาๆเหมือนที่เคยทำ นัยน์ตาของเขายังดูเป็นปกติ
"ชานยอลต้องถูกตรวจเลือด เพื่อนของเขาอีกสองคนที่เราเจอกลายเป็น New Born ไปแล้ว ถึงเขาจะไม่ได้กลายร่าง แต่เขาก็มีความเสี่ยงที่อาจจะถูกติดเชื้อได้" เซฮุนหันมาพูดกับโรเซ่ เธอกรีดร้องใส่เขาอย่างไม่พอใจ
"พี่ชานยอลไม่ได้เป็น New Born ซะหน่อย!!! ทำไมเขาต้องถูกตรวจเลือด!!! พี่ก็เห็นอยู่ว่าเขาไม่ได้กลายร่าง!!! เขายังเป็นมนุษย์ปกติดี!!!"
"ทุกคนที่เข้ามาอยู่ที่นี่ต้องได้รับการตรวจเลือดไม่มีข้อยกเว้น...เพื่อความปลอดภัยของทุกคน" เซฮุนสั่งให้ศาสตราจารย์ฮอว์สกิ้นพาเขาไปที่ห้องพยาบาล แต่มีใครบางคนเข้ามาขัดจังหวะไว้
"ไม่จำเป็นต้องตรวจหรอกผู้กอง"
เซฮุนและคนอื่นๆหันกลับไปมองตามต้นเสียง พัคคังลิมพร้อมกับการ์ดยืนอยู่หน้าประตู พวก KSR คนอื่นๆหลีกทางให้เขาด้วยความเคารพ
"ท่านประธานาธิบดี..." เซฮุนโค้งคำนับเล็กน้อยตามมารยาท
"ทั้งลูกชายและลูกสาวของผม ได้รับการฉีดเซรุ่มต่อต้านการกลายพันธุ์ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประชุมสหประชาชาติซะอีก ผมเป็นคนให้ด็อกเตอร์โชฉีดให้กับพวกเขาเอง ในวันที่พวกเขาได้รับเชิญให้เข้าไปดูการซ้อมทดลองจริง ถ้าพวกเขาคนใดคนหนึ่งเป็น New Born พวกเขาก็คงจะกลายร่างไปตั้งนานแล้ว"
พัคคังลิมกระตุกยิ้มที่มุมปาก แต่เซฮุนมองหน้าเขาอย่างไม่ไว้ใจ
"แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเซรุ่มนั่นได้ผลจริง คุณได้ทดลองมันกับตัวเองแล้วหรือยังล่ะ"
พัคคังลิมหันกลับมาที่ฉัน เขาเม้มปากอย่างไม่พอใจขณะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
"ฉันแน่ใจว่าลูกชายฉันไม่ได้เป็น New Born มากกว่าเธอที่มายืนปากดีอยู่ตรงนี้แน่...ทั้งที่เป็นคนเดียวที่รอดมาได้จากบลูเฮาส์ขณะที่คนอื่นๆตายหมด"
พัคคังลิมจ้องไปที่แผลที่ลำคอของฉัน มันถูกผ้าพันแผลปิดไว้อยู่
"ผมมีธุระด่วน ต้องรีบไปเคลียร์ทุกอย่างที่บลูเฮาส์ก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่ในวันพรุ่งนี้ ฝากผู้กองดูแลลูกชายและลูกสาวของผมด้วยแล้วกัน...ผมขอตัว"
พัคคังลิมหันกลับมามองฉันอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากประตู
"แล้วเจอกัน...ไอริ"
ฉันกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ เซฮุนเดินมาจ้องหน้าฉันเหมือนจะรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่
"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ อย่าพยายามทำอะไรที่มันไม่เข้าท่าล่ะ"
เขาบอกฉันแค่นั้นก่อนจะพากันเดินไปที่ห้องพยาบาล ชานยอลแอบหันมายิ้มให้ฉันอย่างสะใจ
"ฉันแน่ใจว่าพัคคังลิมต้องอยู่เบื้องหลังการสร้าง New Born ทั้งหมดนี่แน่ๆ! ฉันจะหาหลักฐานเปิดโปงเขาให้ได้!"
"แล้วเธอจะทำอะไรได้...ตอนนี้หมอนั่นกลายเป็นประธานาธิบดีไปแล้วนะ"
"ฉันจะกลับไปที่บลูเฮาส์อีกครั้ง"
"หา!!!!!" คยองซูร้องลั่น "บ้า...ฉันไม่เอาด้วยหรอก"
ฉันดึงเสื้อหมอนั่นที่กำลังจะเดินหนีกลับมาอย่างแรง
"ฟังนะ พัคคังลิมจะต้องไปทำลายหลักฐานทุกอย่างที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องคืนนี้แน่ นายอย่าลืมว่าพวกสัตว์ประหลาดที่พวกเขานำเข้ามา ตอนนี้มันหายไป แล้วถ้าพวกเขาเอามันไปซ่อนไว้ที่ชั้นใต้ดินล่ะ"
คยองซูมองหน้าฉันพลางขมวดคิ้ว
"อย่าบอกนะว่า...."
ไอริมีแผนอะไร ? แล้วจะหาเรื่องปวดหัว
มาให้เซฮุนเข้าไปช่วยอีกหรือเปล่านะ
ตอนหน้าสนุกแน่ค่าาา อย่าลืมติดตามน้าาา
ทีม AGENT ทีม NEW BORN
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่าาา~♡
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น