ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the past satan ไขปริศนาข้อหาคดีปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #1 : intro

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 56


    วิ่งอย่าหยุด

    วิ่งต่อไป

                    ไม่ไหวละ แล้วฉันหอบอย่างเหนื่อยล้า พลางกำลังจะล้มตัวถอดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้า แต่ก็ต้องออกแรงวิ่งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ จะอะไรหนักหนานะ!

                เฮ้ย มันอยู่นั้น!” เสียงชายหนึ่งในสามคนตะโกน เมื่อเห็นฉันวิ่งหนี พวกนั้นมีกันสาม ฉันมีแค่คนเดียว แถบยังเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปสู้อะไรกับมันได้ บอกฉันทีเถอะนี้มันเรื่องอะไร?! ทำไมมีคนตามล่าฉัน? แล้วคนพวกนั้นน่ะธรรมดาที่ไหน แต่งตัวอย่างกับหลุดออกมาจากเกมส์!

                สองขาของฉันเริ่มล้า แล้วคิดดู ฉันใส่รองเท้าส้นสูงวิ่ง หน้าไม่แหกก็บุญแล้วค่ะพระเจ้า! และแล้วฉันก็ตัดสินใจ เอาหวะ! ฉันหยุดวิ่ง ยืนปลายเท้าสองข้างชิดกัน ก่อนจะล้มตัวลงถอดรองเท้าส้นสูง

                    จับตัวมัน!” หนึ่งในกองทหาร(ให้ฉันเดาอ่ะนะ)สั่ง อีกสองคนทำท้าจะเดินเข้ามา แต่ฉัคงจะไม่ยอมโดนให้ก็ไม่ผู้มาจับเนื้อต้องตัวคนอย่างฉันง่ายๆหรอกนะ

                    เดี๋ยว พวกแกเป็นใครฉันถามออกไปตรงๆ แล้วแกรู้มั้ยฉันเป็นใคร?ได้ทีฉันรีบตั้งสองในร้อยๆคำถามที่อยารู้ มาจับฉันทำไม? ทำไมพวกนายแต่งตัวอย่างนี้?  เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? แต่เอาเถอะ สองคำถามนั้นดูจะกว้างที่สุดแล้ว

                    สองนายทหารหันหน้าไปมองผู้ออกคำสั่ง ประมาณว่า เอาไงต่อดีครับนาย คนที่เป็นหัวหน้าเดินออกมาข้างหน้า มอบตัวซะ! โทษนักจะได้กลายเป็นเบา!”

                เดี๋ยวนะคำพูดนี้มันเป็นคำพูดยอดฮิตตลอดกาลของตำตรวจไม่ใช่เหรอ? หรือไอ้สามคนนี้จะเป็นตำรวจ เฮ้ยไม่สิตำรวจเขามีเวลามาแต่งองค์ทรงเครื่องชุดแบบนี้ซะที่ไหน เสื้อเกราะแบบในหนังโรมัน สวมหมวกโลหะปิดบังใบหน้า มีผ้าคาดเอว และอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด และที่สำคัญ พวกนั้นถือหอก!

                “เอ่อพวกนายเป็นใคร แล้วอีกอย่างนายเข้าใจภาษาอังกฤษดีใช่มั้ย? ไอ้คำพูดที่นายพูดเมื่อกี้มันเป็นคำพูดเวลาตำรวจอยากให้คนร้ายมอบตัวอ่ะนะ แล้วพวกนายมาจากประเทศไหน? ให้ฉันพาไปส่งสถานภูตมั้ย?” ฉันพูดอะไรออกไป!  

                    สองคนนั้นทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้ฉันเพิ่มอีก นี่! เข้าใจภาษาฉันมั้ยเนี่ย! ” ฉันได้แต่โวยวาย ทำไงได้อ่ะ มันถึงทางตันแล้ว(ไม่งั้นฉันไม่หยุดวิ่งหรอก) ฉันได้แต่เดินถอยหลังไปจนหลังติดกำแพง ตรงมุมมีถังขยะอยู่สองใบ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์เลยในตอนนี้ เอาไงดี สองคนนั้นเดินใกล้ถึงตัวฉันแล้วด้วย

                แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีสิ่งของบางอย่างอยู่ในมือ

                “โอ๊ยเสียงนายทหารคนซ้ายร้อง

                    อย่าเข้ามาเชียวนะของในมือฉันถูกปาออกไปอีกข้าง ร้องเท้าส้นสูงนั่นเองแต่มันมีกันสามคน แล้วไอ้รองเท้าก็ทำอะไรมันไม่ได้นัก เพราะมันมีหอก!

                คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าคนมาหาฉัน โดยส่งสัญญาณบอกลูกน้องให้ถอยไปก่อน เขาเป็นผู้ชาย(อันนี้แน่ชัดอยู่แล้ว)ร่างสูง และยอมรับ เขาดูดีราศีจับ ไม่เหมือนสองคนนั้น เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น เผยให้เห็นว่าเครื่องแต่งกายของเขาต่างจากสองคนนั้น ดูหรูหรากว่า และเขาไม่ได้ปิดบังใบหน้า ดวงตาสีนิลจับจ้องมาที่ฉัน มันเหมือนทะเลลึกที่ไม่มีวันสิ้นสุด ใบหน้าคมเข้มที่ยังดูหนุ่มของเขาจัดว่าหล่อใช่ได้  ท่วงท่างามสง่าดุจเจ้าชาย ถ้าไม่ติดว่าเขาหันปลายหอกมาทางฉันอ่ะนะ

                    ดะเดี๋ยวดิ นายต้องการอะไรกันแน่!” ความกลัวเกาะกุมจิตใจฉันแล้วซิ

                    อย่ามาทำไขสือ! คนทำผิดก็พูดอย่างเธอทุกคน!” มันตะคอกฉันความหล่อหายไปในพลิบตาเลย

                    ฉันตัดสินใจพูดออกไปอีกรอบ(ถึงแม่มันจะบอกว่าฉันไขสืออีก็ตาม) ฟังนะ ฉันไปทำอะไรให้พวกนาย ฉันไปผิดกฎหมายข้อไหนไม่ทราบ นายมาวิ่งไล่ฉันทั้งที่ฉันไม่รู้ความผิดของตัวเอง พวกนายเป็นใครฉันยังไม่รู้เลย และอีกอย่างฉันจะไม่มอบตัวจนกว่าฉันจะไม่รู้ว่าฉันผิดอำร เคลียร์นะ!”

                สายตาของไอ้หล่อที่จ้องฉันทวีความน่ากลัวขึ้น มันจะฆ่ามั้ยเนี่ยTT ฉันยังไม่อยากตายทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดน้า

                    ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ไม่ใช่แค่คนเดียวซะด้วย

                    ปรากฏด้วยเป็นกองทหารแต่งตัวอย่างไอ้สามคนนี้อีกสามคน!!!

                “ได้ตัวผู้ต้องหาแล้วหรือครับทหารที่มาใหม่ถาม

                    ก็ยืนอยู่ตรงหน้าฉันไงเขาตอบแบบไม่หันหน้าไปมองผู้ถาม สายตาเขาจับจ้องมาที่ฉันอย่างกับจะกลัวฉันหนี โถ่ พ่อคุณ ถ้าฉันเดินทะลุกำแพงหนีไปได้ฉันไม่มายืนตัวเกรงให้นายจ้อหอกอยู่หรอกนะ

                    แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันบอกว่าฉันคือผู้ต้องหา!

                “เฮ้ย ไม่ใช่เว้ย ฉันไม่ใช่ผู้ต้องหา!”

                เอาไงดี เอาไงดี ฉันถอยหลังจนชิดกำแพงแล้ว หนี้ไปพ้นแน่ๆ

                    เอาว่ะ!!!

                ด้วยความเป็นคนเลือดร้อน และใจกล้าบ้าบิ่น ถึงแม้รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันจะไม่ได้ผลก็ตาม แต่ฉันไม่ยอมอยู่เฉยๆให้มันจับตัวฉันไปได้หรอก ยังไงก็ต้องดิ้นรนจนวิชาทีสุดท้ายฉันพยายามจะวิ่งฝ่าไป แต่ก็นั้นแหละ มันไม่มีทางได้ผล มันคว้าแทนฉัน แล้วกระชากไปที่เดิม รุนแรงชะมัด!

                สักพักขาทั้งสองข้างของฉันเดินอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ราวกับว่ามันกำลังจะสลายหายไป ฉันบังคับมันไม่ได้ ฉันล้มลงแล้ว ภาพที่เห็นรอบกายจากชัดเจนถึงแม้ว่าจะมืดมาก แต่ตอนนี้เหมือนทุกอย่างเริ่มเลือนรางลง ภาะท้องฟ้าค่อยๆละลายหายไป ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ แค่นี้


    .................................................................................................

    กราบสวัสดีนักอ่านทุกท่านคร้าบผม จบไปแล้วกับบทนำ มันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ไรเตอร์จะพยายามให้เต็มที่นะ^^ บทต่อไปไรเตอร์ยังไม่ได้เริ่มแต่งเบยย รอกันนะๆ  ใกล้ปิดเทอมแล้ว ไรเตอร์จะมาอัพให้อ่านกัน^^

     

     

               

     

    Ha .ha
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×