คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ◊ Chapter 1 ◊
Chapter 1
ต้นเดือนพฤศจิกายน 20XX
อากาศยามเช้าของปลายฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวเริ่มย่างเข้ามาใกล้เสียทุกที อากาศเริ่มเย็นลงบ้างนิดหน่อย พอเหมาะที่จะให้ร่างบนเตียงหลับต่อได้อีกหนึ่งตื่น มือหยาบปัดป่ายไปหาคนรักที่คิดว่านอนอยู่ข้างตน ที่เหลือแต่ความว่างเปล่า
“อือ.. มินกิ ไปไหนแต่เช้าเนี่ย”
พอลืมตาขึ้นมาก็พบคำตอบบนกระดาษเล็กๆที่ติดอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูของตน เขาหยิบขึ้นมาอ่านละอมยิ้มอยู่คนเดียว ความหงุดหงิดก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ก่อนจะหย่อนมันลงในลิ้นชักใกล้ๆ และผละออกจากเตียงเริ่มทำงานของเขาเองบ้างเสียที
‘ ถึงคุณอารอนที่รัก Y
ผมมีถ่ายแบบตอนสิบโมง
ขนมปังปิ้งกับกาแฟวางอยู่บนโต๊ะรีบๆไปกินล่ะ
เดี๋ยวมันจะเย็นชืดซะก่อน ^^
ปล. ผมน่าจะเสร็จงานบ่ายสาม อย่าลืมมารับผมนะ ปย๊ง
จาก เร็น ’
แสงแฟลชวูบวาบสะท้อนบนร่างบางในเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นฤดูหนาว รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าหวานอย่างร่าเริง ผมสีบลอนด์นทองถูกมัดรวบเป็นหางม้าเล็กๆไว้ด้านหลัง ซึ่งเหมาะเจาะกับหมวกสีครีมอันเล็กที่เทินอยู่ด้านบน เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่เข้ากับกางเกงสีเลือดหมูลายจุด บนไหล่บางก็มีผ้าพันคอพันหลวมๆ มองเผินๆแล้วชเวมินกิคนนี้น่ารักราวกับตุ๊กตาแถมยังตากลมโตเหมือนตากวาง ริมฝีปากสีสวยรูปกระจับ ผิวขาวเนินราวกับหิมะแรกของฤดูหนาว..
“พักกองได้! อีกสิบห้านาทีเจอกัน เตรียมนายแบบนางแบบชุดต่อไปให้พร้อม!”
สิ้นเสียงของสไตล์ลิสต์คนสวย ทุกคนก็กระจัดกระจายกันไปทำหน้าที่ของตนทันที มินกิถอนใจน้อยๆอย่างโล่งอกที่งานวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนจะถูกดึงตัวไปจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่เตรียมจะกลับบ้าน
เขาก็ไม่ใช่นายแบบชื่อเสียงโด่งดังอะไรหรอก เพียงแค่อาศัยคุณอารอนติดต่อหางานให้ก็เท่านั้น..
“ความจริงแล้วน้องเร็นน่ะเป็นนายแบบมืออาชีพได้เลยนะจ๊ะ ได้ข่าวว่ามีหลายค่ายเข้ามาติดต่อนี่..”
ร่างบางถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งหน้าหน้ากระจก เพื่อที่จะลบเครื่องสำอางที่บดบังใบหน้าขาวใสให้บางลงโดยเมคอัพอาร์ตทิสต์ชั้นดี หล่อนก็ชวนคุยประสาคนอัธยาศัยดี ใช่ว่ามินกิจะเป็นนายแบบโนเนมซะที่ไหน ในวงการนายแบบนางแบบรู้ดีว่าชเวมินกิมีโฉมที่งดงามขนาดไหน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดเขาจึงไม่ยอมเป็นนายแบบค่ายใดเสียที
“อ๋อ ความจริงแล้วผมก็สนใจอยู่ แต่สุขภาพผมไม่ค่อยดีน่ะครับ คุณอารอนเลยไม่อนุญาต”
เปล่าหรอก.. เขาโกหก สุขภาพของเขาน่ะปกติดีทุกอย่าง เพียงเพราะผู้มีบุญคุณของเขาอยากเก็บเขาไว้ดูคนเดียวก็แค่นั้น กว่าจะได้ออกมาทำงานก็อ้อนไม่รู้กี่อาทิตย์ บทจะใจอ่อนก็อ่อนยวบยาบ บทจะใจแข็งก็ไม่ยอมซะท่าเดียว..
“เร็นครับ เสร็จรึยังเอ่ย”
มินกิสะดุ้งเล็กน้อยเนื่องจากกำลังหลับตาให้ช่างแต่งหน้าเช็ดอายแชร์โดว์ออก แต่เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ใบหน้าหวานหันไปยิ้มให้เหมือนเคย รอยยิ้มแสนสวย
“อ้ะ! คุณอารอน มารอนานหรือยังเนี่ย”
“เพิ่งมาเองน่า ไม่ต้องรีบๆ”
อารอนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใกล้ๆ มองคนสวยของเขาผ่านกระจกบานโต เขาเป็นชายหนุ่มอายุขึ้นเลขสี่ได้หมาดๆ แต่หน้าตาของเขากลับหยุดอยู่ที่วัยสามสิบ เป็นโชคดีของเขาเหลือเกิน ถึงแม้อายุจริงของเขาจะมากกว่าเร็นเกือบเท่าตัว แต่ก็ไม่เคยมีใครดูออก
“ผมซื้อขนมมาฝากทุกคน เป็นการขอบคุณที่ดูแลแฟนของผมเป็นอย่างดีนะครับ”
“คะ.. คุณอารอน”
“ขอบคุณเสี่ยมากนะค๊า”
อารอนยิ้มขำกับพวงแก้มขาวที่แดงระเรื่อของแฟนเด็กของตน เร็นมักจะแสดงท่าทีเขินอายทุกครั้งที่เขาพยายามเปิดเผยความสัมพันธ์ให้คนอื่นรู้
น่ารักเสียจริง..
“คุณอารอน วันนี้ผมเหนื่อยมากเลย เปลี่ยนชุดตั้งห้าชุดแน่ะ”
ถึงแม้จะบ่นแต่ริมฝีปากสวยยกยิ้มอย่างเริงร่าขัดกับประโยคที่เอ่ยออกมาอย่างสิ้นเชิง มือเล็กประสานกับมือหยาบไว้แน่นก่อนจะเหวี่ยงไปมาอย่างสุขใจ ทำเอาคนที่มองอยู่ข้างกายพลอยยิ้มตามไปด้วย
“แน่ะทำบ่น.. หนีฮยองไปทำไมตั้งแต่เช้าหืมเด็กน้อย”
มือหยาบยีลงบนหัวจนกลุ่มผมบลอด์นฟูฟ่อง เรียกใบหน้างอง้ำของมินกิได้เปราะหนึ่ง แต่มันก็หายไปแทนที่ด้วยรอยยิ้มแสนสวยนั่นอีกครา
“ผมเห็นคุณอารอนหลับสบายนี่นา ก็เลยไม่อยากกวน ลุกออกไปเงียบๆดีกว่า”
“พอตื่นมาไม่เห็นเรา ฮยองตกใจแทบแย่แน่ะ”
“ผมเขียนโน๊ตแปะไว้ให้แล้วนี่!”
“เห็นแล้วน่า เห็นแล้ว...”
ทั้งสองยิ้มให้กันแล้วจูงมือกันไปตามโถงทางเดินของคอนโดยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง ผู้คนมากมายต่างก็ต้องจับจ้องไปยังคนทั้งสองเมื่อเดินผ่าน ชายหนุ่มรุ่นใหญ่อย่างควัก อารอน อายุถึงจะขึ้นเลขสี่แล้วแต่ก็ยังดูดีแถมยังดีกรีเด็กนอก นี้สินะที่เขาว่ากัน ผู้ชายยิ่งแก่ยิ่งหล่อ... กับหนุ่มน้อยอย่างชเวเร็นนายแบบผู้มีชื่อเสียงอยู่ในหมู่วัยรุ่นเสียมากกว่าคนวัยอย่างอารอนซะอีก
เพียงแต่เสน่ห์ของเด็กน้อยคนนี้ไปถูกตาต้องใจของควักอารอนเท่านั้นเอง.....
.
.
.
“อย่างเธอน่ะ ไม่เหมาะจะเป็นนายแบบของคอลเลคชั่นนี้หรอกนะ”
น้ำเสียงเชิงดูถูกเหยียดหยามดังขึ้นจากริมฝีปากที่เคลือบด้วยสีแดงสด พร้อมกับดวงตาคู่โตของหญิงวัยกลางคนจ้องมองมายังหนุ่มน้อยผมสีบลอนด์หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อยราวกับตุ๊กตา ที่นั่งตัวลีบอยู่เก้าอี้ตัวโต
ไม่ใช่เพราะหน้าดีไม่ดีหรอก แค่ลุคไม่เหมาะสมกับคอลเลคชั่นที่ว่าเท่านั้นละ หนุ่มน้อยเม้มปากเข้าหากันด้วยความผิดหวังเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงปกปิดใบหน้าแห่งความผิดหวัง เขาไม่อยากให้ใครที่ไหนเห็นมัน แต่ก่อนที่เรียวขาสวยจะก้าวเดินออกไปจากตรงนั้น เสียงปริศนาก็ได้ดังขึ้น..
เสียงที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล..
“เด็กผมเอง เขาไม่เหมาะกับคอลเลคชั่นนี้ตรงไหนเหรอครับ?” เรียวขาก้าวออกมาจากมุมห้องที่อับแสง ดวงตากลมของคนตัวเงยขึ้นมอง บุรุษแปลกหน้าผู้ออกมาจากความมืดดั่งอัศวินดำก็ว่าได้
“คนของคุณอารอนเหรอคะ ต้องขอโทษจริงๆที่เสียมารยาท” สีหน้าที่ชอบดูถูกของผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเจอชายหนุ่มปริศนาที่โผล่เข้ามาร่วมในวงสนทนา แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าคำพูดของเขาที่อ้างว่าตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวของเขาหรอก
“คอลเลคชั่นเซตนี้ มันดูค่อนข้าง Aggressive แทนที่ว่าจะมาโทษนายแบบ ทำไมไม่รู้จักโชว์ฝีมือเมคอัพอาร์ตทิสต์ชั้นดีที่เคยโอ้อวดซะล่ะ?”
ชายหนุ่มผู้มีนามว่าอารอนกล่าวพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ แถมยังพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว เขาคงไม่ใช่แค่คนเกาหลีธรรมดาจริงๆนั่นละ...
และนี่ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น...
.
.
.
“อ้ะ...อื้อ...” ริมฝีปากนุ่มถูกบดขยี้เบาๆ ก่อนจะค่อยๆเพิ่มความร้อนแรงขึ้น ไหล่เล็กถูกกดลงบนเตียงกว้าง แขนแกร่งสอดมือประคองเอวคอดไว้อย่างทะนุถนอม แต่ก็ได้ไม่นานหรอกเมื่อมือซนค่อยเลือนขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบเบาๆอย่างหยอกล้อ บวกกับเสียงอู้อี้จากริมฝีปากเล็กก็ยิ่งทำให้บรรยากาศมันเร่าร้อนเสียไปหมด
“คนสวยของฮยอง…” อารอนถอนปากออกมาจากอีกฝ่าย เอ่ยคำพูดหวานชวนใจละลายหวังว่าอีกคนจะระทวยในอ้อมอกเขาอย่างที่เคย แต่แล้วกิจกรรมเร่าร้อนที่รออยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มวัย 40 ก็ชะงักด้วยน้ำมารคอหอยประจำตัวของเขาหรือลูกชายแท้ๆของเขานั่นเอง
“พ่อ!”
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ ทันทีที่ร่างสูงโปร่งปรากฏตัวขึ้น ดวงตาคมก็จับจ้องไปยังบุคคลทั้งสองบนเตียงที่กำลังจะเริ่มทำกิจกรรมแนบเนื้อกัน
“อะไรวะ” ผู้ถูกเรียกสบถอย่างเสียอารมณ์ เลื่อนใบหน้าออกจากใบหน้าสวยที่นอนอยู่บนเตียง ร่างบางที่อยู่บนเตียงทำหน้าเลิ่กลั่กทันที ดวงตาคมจ้องมองไปยังผู้มาใหม่พร้อมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
“ขอเงินหน่อย” เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะโดยไม่รอให้ผู้เป็นพ่ออนุญาต ร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำอ่อนสลวย ติดยุ่งเหยิงนิดหน่อย ซึ่งดูเหมือนว่าพึ่งจะตื่นนอน แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ใบหน้าคมที่แอบแฝงไปด้วยความสง่าราวกับเจ้าชายลดน้อยลงเลย แต่ก็ใช่ว่าเจ้าชายองค์นี้จะตื่นสายหรอก เพียงแต่พ่อของเขากลับถึงบ้านเช้าเท่านั้นเอง..
“ที่ให้ไปเมื่ออาทิตย์ก่อนไปไหนหมด”
“หมดแล้ว”
“ฮะหมดแล้ว? นี่แกเอาเงินที่ฉันให้ไปสร้างบ้านอยู่หรือยังไง”
ผู้เป็นพ่อชินชาแล้วที่ลูกชายไม่เอาไหนของเขาชอบมาแบมือขอตังค์ทุกวี่ทุกวัน แถมยังชอบโผล่มาในช่วงเวลาที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มทุกที
อารอนควักกระเป๋าตังค์ใบหรูออกจากกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรออกมาจำนวนหนึ่ง คิดอย่างมักง่ายว่าให้เงินไปตามที่ลูกขอจะได้ไม่มากวนอารมณ์อีก แต่ไม่ยังทันที่เขาจะยื่นธนบัตรจำนวนนั้นให้ มือเรียวของลูกชายตัวดีขอดึงกระเป๋าใบนั้นออกจากมือของผู้เป็นพ่อไปเลย ทิ้งให้อารอนอ้าปากค้างมองการกระทำของลูกชาย
“มินฮยอน! ไอ้ลูกเวร!”
ก่อนที่เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินออกไปหันเขาก็หันกลับมา ชายตามองคนที่ขึ้นชื่อเป็น ‘อีหนู’ กำลังนอนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่บนเตียง ดวงตาคมมองใบหน้าสวยรูปนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย เช่นเดียวกับดวงตากลมของมินกิที่พยายามหลบ
ไม่ใช่เพราะเกลียด แต่คิดว่ามันแปลกๆเสียมากกว่าที่พ่อแท้ๆของตัวเองมีอีหนูอายุมากกว่าตนไม่กี่ปี ให้เรียกเป็นพี่ยังได้ แต่ถ้าวันดีคืนดี ‘อีหนู’ ที่ว่าถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็น ”แม่” แทนละก็ คงจะพิลึกน่าดูเลยล่ะ
เขาไม่ใช่เป็นคนที่จะมีปัญหากับครอบครัวตัวเองนักหรอก ไม่ได้ซีเรียสหรือเอาตัวเองมาวุ่นวายให้พ่อเขารำคาญใจ ออกแนวที่จะปล่อยมากกว่า เพราะอย่างน้อยอารอนเองก็ไม่ได้เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตของเขาอยู่แล้ว ดีเสียอีก..
เหรอ?
เรียวขายาวก้าวมาหยุดอยู่ร้านหนังสือการ์ตูนใกล้บ้านที่นานๆเขาจะแวะมาที ไม่ได้เป็นคนชอบอ่านนักแต่แค่วันนี้รู้สึกเบื่อๆ เลยจะมาถลุงเงินพ่อในกระเป๋าพ่อก็เท่านั้น เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปในร้านการ์ตูนที่ว่า
ร้านนี้เขาเคยเข้ามาซื้อของเล่นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่ถูกปรับปรุงเปลี่ยนใหม่ไปหมด ดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม คงเป็นเพราะขยายพื้นที่ แถมยังตกแต่งใหม่จนร้านน่าเดินน่าหยิบจับมากขึ้น มีของเพิ่มมากขึ้น แทนที่ว่าจะมีแค่หนังสือการ์ตูน แต่ก็มีหุ่นโมเดล, ชุดคอสเพลย์ และของจิปาถะมากมายถูกใจเหล่าเด็กๆที่เรียกว่าโอตาคุ
ทำให้มีเด็กและผู้ใหญ่มากมายที่เข้ามาเยี่ยมชมหนาตาพอควร แต่นั่นก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไรจากมินฮยอนได้มากนักหรอก เขาแค่อยากจะหาหนังสือการ์ตูนสนุกๆซักเรื่องอ่านก็เท่านั้นเอง
มินฮยอนเดินเข้าไปในโซนกลางของร้าน โซนที่เขามักจะเข้าเป็นประจำเพราะว่ามีหนังสือการ์ตูนที่เขาชอบอ่าน จะให้หลับตาเดินชี้ว่าโซนไหนเป็นหนังสืออะไรยังได้ แต่วันนี้แลดูแปลกไปเพราะว่าทุกครั้งที่มา โซนนี้มักจะมีแต่เด็กผู้ชายยืนเลือกอยู่ แต่วันนี้กลับมีแต่เด็กผู้หญิงเนี้ยสิ..
เดี๋ยวนี้เด็กผู้หญิงก็อ่านการ์ตูน ผู้หญิง x ผู้หญิง กันแล้วเหรอ?
ก่อนที่เขาจะได้ละสายจากไปยังชั้นหนังสือการ์ตูนที่ว่า เขาก็รู้สึกถึงเสียงซุบซิบที่ดังมาจากเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง พอเขามองไปรอบตัว ก็เห็นสายตากำลังที่จับจ้องมายังเขาเป็นทางเดียวกันหมด เด็กผู้หญิงบ้างก็ทำหน้างง บ้างก็ยิ้มขำ บ้างก็ทำหน้าเขินอาย แต่บางคนก็กล้าพอที่จะเดินมาเอ่ยปากพูดกับเขาโดยตรง
พระเจ้าช่วยบอกผมที ว่าเด็กผู้หญิงพวกนี้เขาเป็นอะไร!
“พี่มินฮยอนชอบอ่านการ์ตูนแนวนี้เหรอคะ?”
เรียกเขาว่า’พี่’แสดงว่าคงรู้จักเขาสินะ แถมยังรู้จักชื่อด้วยนี่.. อาจจะอยู่โรงเรียนเดียวกันมั้ง เขาคิดแบบนั้น มินฮยอนมองกลุ่มเด็กสาวกลุ่มนี้ที่ชักสีหน้าตกใจราวกลับเห็นผีหรืออะไรเทือกๆนั้น
ผู้ชายอ่านการ์ตูนหญิง x หญิงมันแปลกด้วยเหรอ?
“ใช่… ก็อ่านแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”
“ตั้งนานแล้วเหรอคะ...” เด็กผู้หญิงในกลุ่มคนนึงทวนคำพูดของเด็กหนุ่มแล้วค่อยๆหันกลับไปมองเพื่อนสาวในกลุ่ม สีหน้าตื่นตระหนกก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นยิ้มหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ เขาไม่เข้าใจเด็กผู้หญิงพวกนี้เลยจริงๆ...
“พี่มินฮยอนเป็นเหรอคะ?” และก็ยังไม่ที่เขาจะได้ตอบคำถาม เด็กผู้หญิงอีกคนยิงคำถามต่อมา มินฮยอนไม่เข้าใจคำถามก็ได้แต่ทำหน้างง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เป็นอะไร หมายถึงอะไร?
“เป็นอะไร?”
“ก็เป็น…”
“นูน่า! ทำไมตรงนี้กลายเป็นการ์ตูนเกย์ไปแล้วละครับ!!”
เดี๋ยวนะ การ์ตูน...?
เกย์?
!!!!!!!!!!
มินฮยอนเบิกตากว้าง หลังจากสมองประมวลผลจบ ใบหน้าคมหันกลับไปมองชั้นหนังสือการ์ตูนโซนประจำทันทีที่ได้ยินเสียงเด็กข้างนอกโวยวายเฉลยทุกข้อสงสัยในหัวให้หมดแล้ว ตาคมกวาดสายตาไปทั่วจดจ้องไปยังสันหนังสือ เพียงอ่านแค่ชื่อเรื่องก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลซะแล้ว...
“เป็นแบบนี้ไงคะ” เด็กผู้หญิงในกลุ่มดึงหนังสือการ์ตูนหนึ่งเล่มออกมาจากชั้น เป็นภาพของผู้ชายสองคนกำลังกอดนัวเนียกัน และมันคงไม่ใช่การ์ตูนแอคชั่นคู่หูคู่ฮาอะไรแบบนั้นแน่นอน..
“ร้านพึ่งเปลี่ยนโซนวางการ์ตูนน่ะเจอาร์.. ทำโวยวายเสียงดังไปได้” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นตรงต้นของโซนที่ว่า เธอกำลังอธิบายให้กับเด็กผู้ชายตัวเล็กอีกคนที่กำลังทำสีหน้าหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่พอใจสุดๆ ในมือหอบหนังสือการ์ตูนเต็มไปหมดจนล้น เด็กหนุ่มผมสีดำ ผิวสีแทนผุดผ่องราวกับสีน้ำผึ้ง ปากบางสีชมพูเชิดขึ้นอย่างขัดใจ จมูกรั้นๆแสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้ดื้อพอควร
“ผมตกใจนะ เข้ามาก็เห็นการ์ตูนเกย์เต็มไปหมด”
“นู่น่าก็บอกไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่ ว่าจะจัดร้านใหม่” เด็กน้อยยังคงบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ก่อนสายตาจะเหลือบมาเห็นผู้ต้องหาของกลุ่มเด็กสาวที่กำลังถูกสอบปากคำกันหลายคำถาม พอได้สบตากับชายหนุ่มก็หันไปร้องทุกข์กับนูน่าเจ้าของร้านทันที
“นูน่าดูดิ เห็นมั้ย มีพวกโฮโมเหมือนกับหนังสือการ์ตูนพวกนี้มาซื้อด้วย”
ด้วยความเป็นเด็กขี้โวยวาย จงฮยอนชี้นิ้วไปทางมินฮยอนที่ยังยืนอึ้งอยู่ เขาเอ่ยออกมาอย่างเสียงดังไม่เกรงใจคนในร้านจนทำให้ถูกกล่าวถึงอย่างมินฮยอนร้อนตัวหันกลับไปมอง กลุ่มเด็กผู้หญิงชักสีหน้าเลิ่กลั่กเมื่อเห็นเพื่อนของตนเองไปชี้หน้าพี่มินฮยอนของพวกเธอแบบนั้น
“ว่าไงนะไอ้เปี๊ยก?” มินฮยอนหรี่ตามองไปทางเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่กำลังกล่าวหาเขา จงฮยอนก็ไม่วายสู้หน้าจ้องมองอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตากลมของเด็กน้อยหรี่ตามองกลับเหมือนเคยเห็นคนตรงหน้านี้ที่ไหนมาก่อน
“เจอาร์หยุดนะ นี่พี่มินฮยอนนะ!” และแล้วคำเฉลยก็ออกมาจากกลุ่มเพื่อนสาวตะโกนบอกเขา นั้นยิ่งทำให้จงฮยอนทำหน้ายี้เข้าไปใหญ่
“หูว.. พี่มินฮยอนคนดังเป็นเกย์เหรอ ว้าว.. อะเมซซิ่งสุดๆ เด็กผู้หญิงในโรงเรียนคงใจสลายกันเป็นแถว”
“ไม่ได้เป็นเว้ย!” ชายหนุ่มมองซ้ายขวาซึ่งเริ่มมีผู้คนในร้านให้ความสนใจกับเหตุการณ์ในร้านมากขึ้น เรียวขายาวจึงก้าวไปทางเด็กปากดีอย่างไม่รอช้าเมื่อได้ยินคำถามที่แอบแฝงไปด้วยความสบประมาทแบบนั้น
“เป็นแน่ๆ ไม่งั้นจะเข้ามาตรงนี้ทำไม”
“เงียบนะไอ้เปี๊ยก!”
“เรียกใครเปี๊ยกพูดให้มันดีๆนะ!”
“เด็กๆ อย่าตีกันสิคะ! หนูหาการ์ตูนหญิง x หญิงกันใช่มั้ยลูก ทางนู้นลูก” เจ้าของร้านรีบดึงตัวคนตัวเล็กกว่าออกห่างเมื่อจงฮยอนทำท่าจะเดินเข้าใส่มินฮยอนอย่างเอาเรื่อง กับขนาดตัวและส่วนสูงนี่เอามาล้อเจ้าเด็กนี่ไม่ได้จริงๆ
“นูน่าก็ดูดิ มีอย่างที่ไหนมาเรียกหนูไอ้เปี๊ยกอ่ะ”
“อุ!.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวนะ.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“หัวเราะอะไรไม่ทราบ!!”
“โอ้ยโทษทีนะ.. คึ.. ฮ่าๆๆ หนูอะไรตัวโตขนาดนี้ ตายจริงนี่ฉันยืนคุยกับเด็กอนุบาลสามเหรอเนี่ย เอาอมยิ้มมั้ยหนู เดี๋ยวพี่ซื้อให้ คึคึฮ่าๆๆๆๆ”
“หนอย.. ไอ้เจ้าบ้านี่..”
“โอ๊ะ.. เจอาร์ เลือกเสร็จแล้วใช่มั๊ย เราไปจ่ายตังค์ตรงนู้นกันเถอะเนอะๆ อย่ามีเรื่องเลยเนอะๆ”
กลุ่มนักเรียนหญิงที่ยืนคุยกับมินฮยอนก่อนหน้านี้ รีบมาดึงจงฮยอนออกอีกแรงเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กของตนออกห่างจากรุ่นพี่ในโรงเรียน ที่เหลือในกลุ่มก็ก้มหัวขอโทษขอโพยมินฮยอนเป็นการใหญ่
“อย่าถือสาเพื่อนหนูเลยนะคะพี่มินฮยอน ขอโทษจริงๆค่ะ”
มินฮยอนยังคงทำท่าหัวเราะท้องคดท้องแข็ง พร้อมกับโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ขำอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก แค่แกล้งทำให้เจ้าเปี๊ยกนั่นอายแล้วก็โกรธจนหัวเหวี่ยงก็เท่านั้น..
น่ารักและก็ตลกดี..
“เอาเวลาหัวเราะคนอื่นไปเขียนคิ้วเถอะไป๊!”
ขอถอนคำพูดเมื่อกี๊..
ไอ้เด็กเวร...
- TBC -
Interview
Q: ถ้ามินฮยอนไม่เข้ามาเงินคุณอารอน จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปคะ?
supeREN: มินฮยอนก็จะไม่มีตังค์ซื้อหนังสือการ์ตูนน่ะสิคะ..
mewsofia: ก็จะเกิดมหกรรม ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ *ลุกขึ้นเต้น*
supeREN: *ตบ*
Q: ถ้าสมมุติวันนั้นเร็นไม่ได้ถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นหน้าหนาว จะให้เร็นเปลี่ยนไปถ่ายคอลเล็กชั่นไหน?
supeREN: ถ่ายนู้ดเลยค่ะ เอาเปลือยๆ เสื้อผ้าน้อยชิ้น -..-
mewsofia: เอิ่ม จุดนี้ต้องเรียกเสี่ยอารอนมาถ่ายด้วยกันค่ะ.. แล้วก็จะเกิดมหกรรม ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ อีกครั้ง 5555555
supeREN: -_-
Q: ถ้าสมมุติไรเตอร์ได้มีโอกาสเป็นนูน่าขายหนังสือการ์ตูนในวันนั้น ถึงฉากที่เจอาร์โวยวาย นูน่าจะจัดการเด็กขี้โวยวายคนนี้ยังไง?
supeREN: หามีดแถวนั้นมาเสียบปากไอ้เด็กนั่น ให้หยุดโวยวาย
mewsofia: ตบหัวทิ่ม
Q: ถ้าตอนนั้นมินฮยอนโมโหมาก เผลอไปตบหัว 'ไอ้เปี๊ยก' ที่ว่า เจอาร์จะตอกกลับมินฮยอนด้วยวิธีใด?
supeREN: ให้เจอาร์วิ่งไปหาเก้าอี้มาค่ะ แล้วปีนขึ้นไปตบคืน เอาแรงๆ 5555555
mewsofia: ตบจูบค่ะ!
supeREN: แต่เจอาร์เกลียดเกย์ไม่ใช่เหรอ?
mewsofia: ฉันเป็นไรเตอร์ มันน้องทำตามที่ฉันบอก!
supeREN: เออ เอาที่แกสบายใจ - -
Q: ช่วยสปอยตอนต่อไปหน่อยค่ะ
mewsofia: แต่งเองดิ *โดนตบ*
supeREN: ไม่มีทางค่ะ!! ต้องรอติดตาม
ขอจบการสัมภาษณ์ช่วงจับเข่า Talk With Writers เพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับการติดตาม แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ใครมีคำถามเด็ดๆก็ทิ้งกันไว้ได้นะ เราจะเลือกมาตอบ อิอิ อย่าไปลืมไปพูดคุยในทวิตเตอร์แท๊ก #ฟิคกรงแก้วสีชา กันนะคะ
◊
ความคิดเห็น