ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [NU'EST] กรงแก้วสีชา #BaekRen,MINJ

    ลำดับตอนที่ #2 : ◊ Chapter 1 ◊

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 57




     Chapter 1



     

    ต้นเดือนพฤศจิกายน 20XX

     

    อากาศยามเช้าของปลายฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวเริ่มย่างเข้ามาใกล้เสียทุกที อากาศเริ่มเย็นลงบ้างนิดหน่อย พอเหมาะที่จะให้ร่างบนเตียงหลับต่อได้อีกหนึ่งตื่น  มือหยาบปัดป่ายไปหาคนรักที่คิดว่านอนอยู่ข้างตน ที่เหลือแต่ความว่างเปล่า

     

    “อือ.. มินกิ ไปไหนแต่เช้าเนี่ย”

     

    พอลืมตาขึ้นมาก็พบคำตอบบนกระดาษเล็กๆที่ติดอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูของตน เขาหยิบขึ้นมาอ่านละอมยิ้มอยู่คนเดียว ความหงุดหงิดก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ก่อนจะหย่อนมันลงในลิ้นชักใกล้ๆ และผละออกจากเตียงเริ่มทำงานของเขาเองบ้างเสียที

     

     

     

    ‘ ถึงคุณอารอนที่รัก Y

    ผมมีถ่ายแบบตอนสิบโมง

    ขนมปังปิ้งกับกาแฟวางอยู่บนโต๊ะรีบๆไปกินล่ะ

    เดี๋ยวมันจะเย็นชืดซะก่อน ^^

    ปล. ผมน่าจะเสร็จงานบ่ายสาม อย่าลืมมารับผมนะ ปย๊ง

                                                            จาก เร็น 

     

     

     

     

    แสงแฟลชวูบวาบสะท้อนบนร่างบางในเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นฤดูหนาว รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าหวานอย่างร่าเริง ผมสีบลอนด์นทองถูกมัดรวบเป็นหางม้าเล็กๆไว้ด้านหลัง ซึ่งเหมาะเจาะกับหมวกสีครีมอันเล็กที่เทินอยู่ด้านบน เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่เข้ากับกางเกงสีเลือดหมูลายจุด บนไหล่บางก็มีผ้าพันคอพันหลวมๆ มองเผินๆแล้วชเวมินกิคนนี้น่ารักราวกับตุ๊กตาแถมยังตากลมโตเหมือนตากวาง ริมฝีปากสีสวยรูปกระจับ ผิวขาวเนินราวกับหิมะแรกของฤดูหนาว..

     

    “พักกองได้! อีกสิบห้านาทีเจอกัน เตรียมนายแบบนางแบบชุดต่อไปให้พร้อม!

     

    สิ้นเสียงของสไตล์ลิสต์คนสวย ทุกคนก็กระจัดกระจายกันไปทำหน้าที่ของตนทันที มินกิถอนใจน้อยๆอย่างโล่งอกที่งานวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนจะถูกดึงตัวไปจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่เตรียมจะกลับบ้าน

     

    เขาก็ไม่ใช่นายแบบชื่อเสียงโด่งดังอะไรหรอก เพียงแค่อาศัยคุณอารอนติดต่อหางานให้ก็เท่านั้น..

     

    “ความจริงแล้วน้องเร็นน่ะเป็นนายแบบมืออาชีพได้เลยนะจ๊ะ ได้ข่าวว่ามีหลายค่ายเข้ามาติดต่อนี่..”

     

    ร่างบางถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้แต่งหน้าหน้ากระจก เพื่อที่จะลบเครื่องสำอางที่บดบังใบหน้าขาวใสให้บางลงโดยเมคอัพอาร์ตทิสต์ชั้นดี หล่อนก็ชวนคุยประสาคนอัธยาศัยดี ใช่ว่ามินกิจะเป็นนายแบบโนเนมซะที่ไหน ในวงการนายแบบนางแบบรู้ดีว่าชเวมินกิมีโฉมที่งดงามขนาดไหน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดเขาจึงไม่ยอมเป็นนายแบบค่ายใดเสียที

     

    “อ๋อ ความจริงแล้วผมก็สนใจอยู่ แต่สุขภาพผมไม่ค่อยดีน่ะครับ คุณอารอนเลยไม่อนุญาต”

     

    เปล่าหรอก.. เขาโกหก สุขภาพของเขาน่ะปกติดีทุกอย่าง เพียงเพราะผู้มีบุญคุณของเขาอยากเก็บเขาไว้ดูคนเดียวก็แค่นั้น กว่าจะได้ออกมาทำงานก็อ้อนไม่รู้กี่อาทิตย์ บทจะใจอ่อนก็อ่อนยวบยาบ บทจะใจแข็งก็ไม่ยอมซะท่าเดียว..

     

    “เร็นครับ เสร็จรึยังเอ่ย”

     

    มินกิสะดุ้งเล็กน้อยเนื่องจากกำลังหลับตาให้ช่างแต่งหน้าเช็ดอายแชร์โดว์ออก แต่เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ใบหน้าหวานหันไปยิ้มให้เหมือนเคย รอยยิ้มแสนสวย

     

    “อ้ะ! คุณอารอน มารอนานหรือยังเนี่ย”

     

    “เพิ่งมาเองน่า ไม่ต้องรีบๆ”

     

    อารอนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใกล้ๆ มองคนสวยของเขาผ่านกระจกบานโต เขาเป็นชายหนุ่มอายุขึ้นเลขสี่ได้หมาดๆ แต่หน้าตาของเขากลับหยุดอยู่ที่วัยสามสิบ เป็นโชคดีของเขาเหลือเกิน ถึงแม้อายุจริงของเขาจะมากกว่าเร็นเกือบเท่าตัว แต่ก็ไม่เคยมีใครดูออก

     

    “ผมซื้อขนมมาฝากทุกคน เป็นการขอบคุณที่ดูแลแฟนของผมเป็นอย่างดีนะครับ”

     

    “คะ.. คุณอารอน”

     

    “ขอบคุณเสี่ยมากนะค๊า”

     

    อารอนยิ้มขำกับพวงแก้มขาวที่แดงระเรื่อของแฟนเด็กของตน เร็นมักจะแสดงท่าทีเขินอายทุกครั้งที่เขาพยายามเปิดเผยความสัมพันธ์ให้คนอื่นรู้

     

    น่ารักเสียจริง..



     



     

    “คุณอารอน วันนี้ผมเหนื่อยมากเลย เปลี่ยนชุดตั้งห้าชุดแน่ะ”

     

    ถึงแม้จะบ่นแต่ริมฝีปากสวยยกยิ้มอย่างเริงร่าขัดกับประโยคที่เอ่ยออกมาอย่างสิ้นเชิง มือเล็กประสานกับมือหยาบไว้แน่นก่อนจะเหวี่ยงไปมาอย่างสุขใจ ทำเอาคนที่มองอยู่ข้างกายพลอยยิ้มตามไปด้วย

     

    “แน่ะทำบ่น.. หนีฮยองไปทำไมตั้งแต่เช้าหืมเด็กน้อย”

     

    มือหยาบยีลงบนหัวจนกลุ่มผมบลอด์นฟูฟ่อง เรียกใบหน้างอง้ำของมินกิได้เปราะหนึ่ง แต่มันก็หายไปแทนที่ด้วยรอยยิ้มแสนสวยนั่นอีกครา

     

    “ผมเห็นคุณอารอนหลับสบายนี่นา ก็เลยไม่อยากกวน ลุกออกไปเงียบๆดีกว่า”

     

    “พอตื่นมาไม่เห็นเรา ฮยองตกใจแทบแย่แน่ะ”

     

    “ผมเขียนโน๊ตแปะไว้ให้แล้วนี่!

     

    “เห็นแล้วน่า เห็นแล้ว...”

    ทั้งสองยิ้มให้กันแล้วจูงมือกันไปตามโถงทางเดินของคอนโดยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง ผู้คนมากมายต่างก็ต้องจับจ้องไปยังคนทั้งสองเมื่อเดินผ่าน ชายหนุ่มรุ่นใหญ่อย่างควัก อารอน อายุถึงจะขึ้นเลขสี่แล้วแต่ก็ยังดูดีแถมยังดีกรีเด็กนอก นี้สินะที่เขาว่ากัน ผู้ชายยิ่งแก่ยิ่งหล่อ... กับหนุ่มน้อยอย่างชเวเร็นนายแบบผู้มีชื่อเสียงอยู่ในหมู่วัยรุ่นเสียมากกว่าคนวัยอย่างอารอนซะอีก

    เพียงแต่เสน่ห์ของเด็กน้อยคนนี้ไปถูกตาต้องใจของควักอารอนเท่านั้นเอง.....

    .

    .

    .

     “อย่างเธอน่ะ ไม่เหมาะจะเป็นนายแบบของคอลเลคชั่นนี้หรอกนะ

     

    น้ำเสียงเชิงดูถูกเหยียดหยามดังขึ้นจากริมฝีปากที่เคลือบด้วยสีแดงสด พร้อมกับดวงตาคู่โตของหญิงวัยกลางคนจ้องมองมายังหนุ่มน้อยผมสีบลอนด์หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อยราวกับตุ๊กตา ที่นั่งตัวลีบอยู่เก้าอี้ตัวโต

     

    ไม่ใช่เพราะหน้าดีไม่ดีหรอก แค่ลุคไม่เหมาะสมกับคอลเลคชั่นที่ว่าเท่านั้นละ หนุ่มน้อยเม้มปากเข้าหากันด้วยความผิดหวังเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงปกปิดใบหน้าแห่งความผิดหวัง เขาไม่อยากให้ใครที่ไหนเห็นมัน แต่ก่อนที่เรียวขาสวยจะก้าวเดินออกไปจากตรงนั้น เสียงปริศนาก็ได้ดังขึ้น..

     

     

    เสียงที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล..

     

     

    เด็กผมเอง เขาไม่เหมาะกับคอลเลคชั่นนี้ตรงไหนเหรอครับ?”   เรียวขาก้าวออกมาจากมุมห้องที่อับแสง ดวงตากลมของคนตัวเงยขึ้นมอง บุรุษแปลกหน้าผู้ออกมาจากความมืดดั่งอัศวินดำก็ว่าได้  

     

    คนของคุณอารอนเหรอคะ ต้องขอโทษจริงๆที่เสียมารยาทสีหน้าที่ชอบดูถูกของผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเจอชายหนุ่มปริศนาที่โผล่เข้ามาร่วมในวงสนทนา แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าคำพูดของเขาที่อ้างว่าตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวของเขาหรอก

     

    คอลเลคชั่นเซตนี้ มันดูค่อนข้าง Aggressive แทนที่ว่าจะมาโทษนายแบบ ทำไมไม่รู้จักโชว์ฝีมือเมคอัพอาร์ตทิสต์ชั้นดีที่เคยโอ้อวดซะล่ะ?”

     

    ชายหนุ่มผู้มีนามว่าอารอนกล่าวพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ แถมยังพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว เขาคงไม่ใช่แค่คนเกาหลีธรรมดาจริงๆนั่นละ...

     

     

     

    และนี่ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น...

    .

    .

    .

     “อ้ะ...อื้อ...”   ริมฝีปากนุ่มถูกบดขยี้เบาๆ ก่อนจะค่อยๆเพิ่มความร้อนแรงขึ้น ไหล่เล็กถูกกดลงบนเตียงกว้าง แขนแกร่งสอดมือประคองเอวคอดไว้อย่างทะนุถนอม แต่ก็ได้ไม่นานหรอกเมื่อมือซนค่อยเลือนขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบเบาๆอย่างหยอกล้อ บวกกับเสียงอู้อี้จากริมฝีปากเล็กก็ยิ่งทำให้บรรยากาศมันเร่าร้อนเสียไปหมด

    คนสวยของฮยอง…” อารอนถอนปากออกมาจากอีกฝ่าย เอ่ยคำพูดหวานชวนใจละลายหวังว่าอีกคนจะระทวยในอ้อมอกเขาอย่างที่เคย แต่แล้วกิจกรรมเร่าร้อนที่รออยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มวัย 40 ก็ชะงักด้วยน้ำมารคอหอยประจำตัวของเขาหรือลูกชายแท้ๆของเขานั่นเอง

     

    พ่อ!”

     

    ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ ทันทีที่ร่างสูงโปร่งปรากฏตัวขึ้น ดวงตาคมก็จับจ้องไปยังบุคคลทั้งสองบนเตียงที่กำลังจะเริ่มทำกิจกรรมแนบเนื้อกัน

     

    อะไรวะผู้ถูกเรียกสบถอย่างเสียอารมณ์ เลื่อนใบหน้าออกจากใบหน้าสวยที่นอนอยู่บนเตียง ร่างบางที่อยู่บนเตียงทำหน้าเลิ่กลั่กทันที ดวงตาคมจ้องมองไปยังผู้มาใหม่พร้อมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

     

    ขอเงินหน่อยเด็กหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะโดยไม่รอให้ผู้เป็นพ่ออนุญาต ร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำอ่อนสลวย ติดยุ่งเหยิงนิดหน่อย ซึ่งดูเหมือนว่าพึ่งจะตื่นนอน แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ใบหน้าคมที่แอบแฝงไปด้วยความสง่าราวกับเจ้าชายลดน้อยลงเลย แต่ก็ใช่ว่าเจ้าชายองค์นี้จะตื่นสายหรอก เพียงแต่พ่อของเขากลับถึงบ้านเช้าเท่านั้นเอง..

     

    “ที่ให้ไปเมื่ออาทิตย์ก่อนไปไหนหมด”

     

    “หมดแล้ว”

     

    “ฮะหมดแล้ว? นี่แกเอาเงินที่ฉันให้ไปสร้างบ้านอยู่หรือยังไง”

     

    ผู้เป็นพ่อชินชาแล้วที่ลูกชายไม่เอาไหนของเขาชอบมาแบมือขอตังค์ทุกวี่ทุกวัน แถมยังชอบโผล่มาในช่วงเวลาที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มทุกที

     

    อารอนควักกระเป๋าตังค์ใบหรูออกจากกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรออกมาจำนวนหนึ่ง คิดอย่างมักง่ายว่าให้เงินไปตามที่ลูกขอจะได้ไม่มากวนอารมณ์อีก แต่ไม่ยังทันที่เขาจะยื่นธนบัตรจำนวนนั้นให้ มือเรียวของลูกชายตัวดีขอดึงกระเป๋าใบนั้นออกจากมือของผู้เป็นพ่อไปเลย ทิ้งให้อารอนอ้าปากค้างมองการกระทำของลูกชาย

     

    มินฮยอน! ไอ้ลูกเวร!”

     

    ก่อนที่เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินออกไปหันเขาก็หันกลับมา ชายตามองคนที่ขึ้นชื่อเป็น อีหนูกำลังนอนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่บนเตียง ดวงตาคมมองใบหน้าสวยรูปนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย เช่นเดียวกับดวงตากลมของมินกิที่พยายามหลบ

     

    ไม่ใช่เพราะเกลียด แต่คิดว่ามันแปลกๆเสียมากกว่าที่พ่อแท้ๆของตัวเองมีอีหนูอายุมากกว่าตนไม่กี่ปี ให้เรียกเป็นพี่ยังได้ แต่ถ้าวันดีคืนดี อีหนูที่ว่าถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็น แม่แทนละก็ คงจะพิลึกน่าดูเลยล่ะ

     

    เขาไม่ใช่เป็นคนที่จะมีปัญหากับครอบครัวตัวเองนักหรอก ไม่ได้ซีเรียสหรือเอาตัวเองมาวุ่นวายให้พ่อเขารำคาญใจ ออกแนวที่จะปล่อยมากกว่า เพราะอย่างน้อยอารอนเองก็ไม่ได้เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตของเขาอยู่แล้ว ดีเสียอีก..

     

    เหรอ?


     

     
     

    เรียวขายาวก้าวมาหยุดอยู่ร้านหนังสือการ์ตูนใกล้บ้านที่นานๆเขาจะแวะมาที ไม่ได้เป็นคนชอบอ่านนักแต่แค่วันนี้รู้สึกเบื่อๆ เลยจะมาถลุงเงินพ่อในกระเป๋าพ่อก็เท่านั้น เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปในร้านการ์ตูนที่ว่า

     

    ร้านนี้เขาเคยเข้ามาซื้อของเล่นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่ถูกปรับปรุงเปลี่ยนใหม่ไปหมด ดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม คงเป็นเพราะขยายพื้นที่ แถมยังตกแต่งใหม่จนร้านน่าเดินน่าหยิบจับมากขึ้น มีของเพิ่มมากขึ้น แทนที่ว่าจะมีแค่หนังสือการ์ตูน แต่ก็มีหุ่นโมเดล, ชุดคอสเพลย์ และของจิปาถะมากมายถูกใจเหล่าเด็กๆที่เรียกว่าโอตาคุ

     

    ทำให้มีเด็กและผู้ใหญ่มากมายที่เข้ามาเยี่ยมชมหนาตาพอควร แต่นั่นก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไรจากมินฮยอนได้มากนักหรอก เขาแค่อยากจะหาหนังสือการ์ตูนสนุกๆซักเรื่องอ่านก็เท่านั้นเอง

     

    มินฮยอนเดินเข้าไปในโซนกลางของร้าน โซนที่เขามักจะเข้าเป็นประจำเพราะว่ามีหนังสือการ์ตูนที่เขาชอบอ่าน จะให้หลับตาเดินชี้ว่าโซนไหนเป็นหนังสืออะไรยังได้ แต่วันนี้แลดูแปลกไปเพราะว่าทุกครั้งที่มา โซนนี้มักจะมีแต่เด็กผู้ชายยืนเลือกอยู่ แต่วันนี้กลับมีแต่เด็กผู้หญิงเนี้ยสิ..

     

     

    เดี๋ยวนี้เด็กผู้หญิงก็อ่านการ์ตูน ผู้หญิง x ผู้หญิง กันแล้วเหรอ?

     

     

    ก่อนที่เขาจะได้ละสายจากไปยังชั้นหนังสือการ์ตูนที่ว่า เขาก็รู้สึกถึงเสียงซุบซิบที่ดังมาจากเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง พอเขามองไปรอบตัว ก็เห็นสายตากำลังที่จับจ้องมายังเขาเป็นทางเดียวกันหมด เด็กผู้หญิงบ้างก็ทำหน้างง บ้างก็ยิ้มขำ บ้างก็ทำหน้าเขินอาย แต่บางคนก็กล้าพอที่จะเดินมาเอ่ยปากพูดกับเขาโดยตรง

     

     

    พระเจ้าช่วยบอกผมที ว่าเด็กผู้หญิงพวกนี้เขาเป็นอะไร!

     

     

    พี่มินฮยอนชอบอ่านการ์ตูนแนวนี้เหรอคะ?”

     

    เรียกเขาว่า’พี่’แสดงว่าคงรู้จักเขาสินะ แถมยังรู้จักชื่อด้วยนี่..  อาจจะอยู่โรงเรียนเดียวกันมั้ง เขาคิดแบบนั้น มินฮยอนมองกลุ่มเด็กสาวกลุ่มนี้ที่ชักสีหน้าตกใจราวกลับเห็นผีหรืออะไรเทือกๆนั้น

     

     

    ผู้ชายอ่านการ์ตูนหญิง x หญิงมันแปลกด้วยเหรอ?

     

     

    ใช่ ก็อ่านแบบนี้มาตั้งนานแล้ว

     

    ตั้งนานแล้วเหรอคะ...” เด็กผู้หญิงในกลุ่มคนนึงทวนคำพูดของเด็กหนุ่มแล้วค่อยๆหันกลับไปมองเพื่อนสาวในกลุ่ม สีหน้าตื่นตระหนกก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นยิ้มหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ เขาไม่เข้าใจเด็กผู้หญิงพวกนี้เลยจริงๆ...

     

    พี่มินฮยอนเป็นเหรอคะ?”   และก็ยังไม่ที่เขาจะได้ตอบคำถาม เด็กผู้หญิงอีกคนยิงคำถามต่อมา มินฮยอนไม่เข้าใจคำถามก็ได้แต่ทำหน้างง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เป็นอะไร หมายถึงอะไร?

     

    เป็นอะไร?”

     

    ก็เป็น…”










     

    นูน่า! ทำไมตรงนี้กลยเป็นการ์ตูนเกย์ไปแล้วละครับ!!”

     

     

    เดี๋ยวนะ การ์ตูน...?

     

     

    เกย์?

     

     

    !!!!!!!!!!

    มินฮยอนเบิกตากว้าง หลังจากสมองประมวลผลจบ ใบหน้าคมหันกลับไปมองชั้นหนังสือการ์ตูนโซนประจำทันทีที่ได้ยินเสียงเด็กข้างนอกโวยวายเฉลยทุกข้อสงสัยในหัวให้หมดแล้ว ตาคมกวาดสายตาไปทั่วจดจ้องไปยังสันหนังสือ เพียงอ่านแค่ชื่อเรื่องก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลซะแล้ว...

     

    เป็นแบบนี้ไงคะเด็กผู้หญิงในกลุ่มดึงหนังสือการ์ตูนหนึ่งเล่มออกมาจากชั้น เป็นภาพของผู้ชายสองคนกำลังกอดนัวเนียกัน และมันคงไม่ใช่การ์ตูนแอคชั่นคู่หูคู่ฮาอะไรแบบนั้นแน่นอน..

     

    ร้านพึ่งเปลี่ยนโซนวางการ์ตูนน่ะเจอาร์.. ทำโวยวายเสียงดังไปได้เสียงของหญิงสาวดังขึ้นตรงต้นของโซนที่ว่า เธอกำลังอธิบายให้กับเด็กผู้ชายตัวเล็กอีกคนที่กำลังทำสีหน้าหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่พอใจสุดๆ ในมือหอบหนังสือการ์ตูนเต็มไปหมดจนล้น เด็กหนุ่มผมสีดำ ผิวสีแทนผุดผ่องราวกับสีน้ำผึ้ง ปากบางสีชมพูเชิดขึ้นอย่างขัดใจ จมูกรั้นๆแสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้ดื้อพอควร

     

    ผมตกใจนะ เข้ามาก็เห็นการ์ตูนเกย์เต็มไปหมด

     

    “นู่น่าก็บอกไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่ ว่าจะจัดร้านใหม่” เด็กน้อยยังคงบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ก่อนสายตาจะเหลือบมาเห็นผู้ต้องหาของกลุ่มเด็กสาวที่กำลังถูกสอบปากคำกันหลายคำถาม พอได้สบตากับชายหนุ่มก็หันไปร้องทุกข์กับนูน่าเจ้าของร้านทันที

     

    นูน่าดูดิ เห็นมั้ย มีพวกโฮโมเหมือนกับหนังสือการ์ตูนพวกนี้มาซื้อด้วย

     

    ด้วยความเป็นเด็กขี้โวยวาย จงฮยอนชี้นิ้วไปทางมินฮยอนที่ยังยืนอึ้งอยู่ เขาเอ่ยออกมาอย่างเสียงดังไม่เกรงใจคนในร้านจนทำให้ถูกกล่าวถึงอย่างมินฮยอนร้อนตัวหันกลับไปมอง กลุ่มเด็กผู้หญิงชักสีหน้าเลิ่กลั่กเมื่อเห็นเพื่อนของตนเองไปชี้หน้าพี่มินฮยอนของพวกเธอแบบนั้น

     

    ว่าไงนะไอ้เปี๊ยก?” มินฮยอนหรี่ตามองไปทางเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่กำลังกล่าวหาเขา จงฮยอนก็ไม่วายสู้หน้าจ้องมองอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตากลมของเด็กน้อยหรี่ตามองกลับเหมือนเคยเห็นคนตรงหน้านี้ที่ไหนมาก่อน

     

    เจอาร์หยุดนะ นี่พี่มินฮยอนนะ!” และแล้วคำเฉลยก็ออกมาจากกลุ่มเพื่อนสาวตะโกนบอกเขา นั้นยิ่งทำให้จงฮยอนทำหน้ายี้เข้าไปใหญ่

     

    หูว.. พี่มินฮยอนคนดังเป็นเกย์เหรอ ว้าว.. อะเมซซิ่งสุดๆ เด็กผู้หญิงในโรงเรียนคงใจสลายกันเป็นแถว

     

    ไม่ได้เป็นเว้ย!” ชายหนุ่มมองซ้ายขวาซึ่งเริ่มมีผู้คนในร้านให้ความสนใจกับเหตุการณ์ในร้านมากขึ้น เรียวขายาวจึงก้าวไปทางเด็กปากดีอย่างไม่รอช้าเมื่อได้ยินคำถามที่แอบแฝงไปด้วยความสบประมาทแบบนั้น

     

    เป็นแน่ๆ ไม่งั้นจะเข้ามาตรงนี้ทำไม

     

    เงียบนะไอ้เปี๊ยก!”

     

    “เรียกใครเปี๊ยกพูดให้มันดีๆนะ!

     

    เด็กๆ อย่าตีกันสิคะ! หนูหาการ์ตูนหญิง x หญิงกันใช่มั้ยลูก ทางนู้นลูก”  เจ้าของร้านรีบดึงตัวคนตัวเล็กกว่าออกห่างเมื่อจงฮยอนทำท่าจะเดินเข้าใส่มินฮยอนอย่างเอาเรื่อง กับขนาดตัวและส่วนสูงนี่เอามาล้อเจ้าเด็กนี่ไม่ได้จริงๆ

     

    “นูน่าก็ดูดิ มีอย่างที่ไหนมาเรียกหนูไอ้เปี๊ยกอ่ะ”

     

    “อุ!.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวนะ.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     

    “หัวเราะอะไรไม่ทราบ!!

     

    “โอ้ยโทษทีนะ.. คึ.. ฮ่าๆๆ หนูอะไรตัวโตขนาดนี้ ตายจริงนี่ฉันยืนคุยกับเด็กอนุบาลสามเหรอเนี่ย เอาอมยิ้มมั้ยหนู เดี๋ยวพี่ซื้อให้ คึคึฮ่าๆๆๆๆ”

     

    “หนอย.. ไอ้เจ้าบ้านี่..”

     

    “โอ๊ะ.. เจอาร์ เลือกเสร็จแล้วใช่มั๊ย เราไปจ่ายตังค์ตรงนู้นกันเถอะเนอะๆ อย่ามีเรื่องเลยเนอะๆ”

     กลุ่มนักเรียนหญิงที่ยืนคุยกับมินฮยอนก่อนหน้านี้ รีบมาดึงจงฮยอนออกอีกแรงเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กของตนออกห่างจากรุ่นพี่ในโรงเรียน ที่เหลือในกลุ่มก็ก้มหัวขอโทษขอโพยมินฮยอนเป็นการใหญ่

     

    “อย่าถือสาเพื่อนหนูเลยนะคะพี่มินฮยอน ขอโทษจริงๆค่ะ”

     

    มินฮยอนยังคงทำท่าหัวเราะท้องคดท้องแข็ง พร้อมกับโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ขำอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก แค่แกล้งทำให้เจ้าเปี๊ยกนั่นอายแล้วก็โกรธจนหัวเหวี่ยงก็เท่านั้น..

     

     

    น่ารักและก็ตลกดี..

     

     

    “เอาเวลาหัวเราะคนอื่นไปเขียนคิ้วเถอะไป๊!

     

    ขอถอนคำพูดเมื่อกี๊..

     



















     

    ไอ้เด็กเวร...



     

    - TBC -




















     

    Interview


     

    Q: ถ้ามินฮยอนไม่เข้ามาเงินคุณอารอน จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปคะ?

    supeREN: มินฮยอนก็จะไม่มีตังค์ซื้อหนังสือการ์ตูนน่ะสิคะ..

    mewsofia: ก็จะเกิดมหกรรม ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ *ลุกขึ้นเต้น*

    supeREN: *ตบ*

    Q: ถ้าสมมุติวันนั้นเร็นไม่ได้ถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นหน้าหนาว จะให้เร็นเปลี่ยนไปถ่ายคอลเล็กชั่นไหน?

    supeREN: ถ่ายนู้ดเลยค่ะ เอาเปลือยๆ เสื้อผ้าน้อยชิ้น -..-

    mewsofia: เอิ่ม จุดนี้ต้องเรียกเสี่ยอารอนมาถ่ายด้วยกันค่ะ.. แล้วก็จะเกิดมหกรรม ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ อีกครั้ง 5555555

    supeREN: -_-

    Q: ถ้าสมมุติไรเตอร์ได้มีโอกาสเป็นนูน่าขายหนังสือการ์ตูนในวันนั้น ถึงฉากที่เจอาร์โวยวาย นูน่าจะจัดการเด็กขี้โวยวายคนนี้ยังไง?

    supeREN: หามีดแถวนั้นมาเสียบปากไอ้เด็กนั่น ให้หยุดโวยวาย

    mewsofia: ตบหัวทิ่ม

    Q: ถ้าตอนนั้นมินฮยอนโมโหมาก เผลอไปตบหัว 'ไอ้เปี๊ยก' ที่ว่า เจอาร์จะตอกกลับมินฮยอนด้วยวิธีใด?

    supeREN: ให้เจอาร์วิ่งไปหาเก้าอี้มาค่ะ แล้วปีนขึ้นไปตบคืน เอาแรงๆ 5555555

    mewsofia: ตบจูบค่ะ!

    supeREN: แต่เจอาร์เกลียดเกย์ไม่ใช่เหรอ?

    mewsofia: ฉันเป็นไรเตอร์ มันน้องทำตามที่ฉันบอก!

    supeREN: เออ เอาที่แกสบายใจ - -

    Q: ช่วยสปอยตอนต่อไปหน่อยค่ะ

    mewsofia: แต่งเองดิ *โดนตบ*

    supeREN: ไม่มีทางค่ะ!! ต้องรอติดตาม


     

    ขอจบการสัมภาษณ์ช่วงจับเข่า Talk With Writers เพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับการติดตาม แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ใครมีคำถามเด็ดๆก็ทิ้งกันไว้ได้นะ เราจะเลือกมาตอบ อิอิ อย่าไปลืมไปพูดคุยในทวิตเตอร์แท๊ก #ฟิคกรงแก้วสีชา กันนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×