คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สินบน - Chapter 2
2
“ปล่อยฉัน!!”
“มานี้!” แขนเล็กถูกกระชากให้ออกห่างจากประตู ถึงมินกิจะดูบอบบ่างบวกกับใบหน้าสวยแล้ว เขาก็ไม่ได้แรงน้อยสมกับใบหน้าเลย อารอนออกแรงผลักร่างของมินกิจนกระแทกเข้ากับโต๊ะใหญ่หน้าชั้นเรียน
“หึ” อารอนหัวเราะในลำคอเบาๆ สายตาไม่น่าไว้วางใจมองสำรวจไปทั่วร่างบางอย่างกระหาย มินกิผู้ที่ถูกมองอยู่พยายามหลบเลี่ยงสายตาอีกคน เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว มีเพียงหนทางเดียวที่เขาจะรอดออกไปได้ก็แค่ประตูบานนั้นเท่านั้น เขาจะต้องวิ่งออกไป
“อย่าพึ่งหนีไปไหนสิครับ ก็บอกแล้วไง พวกผมขอเอาตัวเข้าแลกติดสินบนบ้าง...” เขาไม่อยากจะเชื่อหูตนเองเมื่อคนที่เอ่ยปากพูดเป็นดงโฮไม่ใช่อารอน
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนพิงกับโต๊ะนักเรียนค่อยๆยุนตัวขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาร่างบางช้าๆ มินกิเบิกตากว้างมองอีกฝ่ายโดยไม่ปริปากพูดอะไร มือหนาค่อยๆสัมผัสลงบนแก้มใส มินกิหลบสายตาของอีกคนแต่ใบหน้าสวยก็ถูกเชิดด้วยมือของชายหน่มให้ประจันหน้า
“ดงโฮ ปล่อยฉัน”
มินกิพยายามข่มความกลัวของตนเองไว้ ถ้ายิ่งแสดงออกอีกฝ่ายก็ยิ่งจะได้ใจ ดวงตากลมมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่แข็งกร้าว แต่แบคโฮรู้จักมินกิดียิ่งกว่าใคร ภายใต้หน้ากากนั่นแอบแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
อารอนเห็นดังนั้นจึงแปลกใจ เขาไม่คิดว่าแบคโฮจะเห็นดีเห็นงามด้วยกับเรื่องแบบนี้ คิดว่าจะถูกห้ามด้วยซ้ำ ชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจ มองภาพเพื่อนสนิทของตนเริ่มรุกร่างบาง เหมือนเสือที่กำลังจ้องจะตะครุบกระต่ายน้อยไร้ทางสู้
“อย่า ปล่อยฉันนะ!” สันจมูกโด่งเริ่มจู่โจมซอกคอขาว มือหนาโอบกอดร่างอีกฝ่ายไว้แน่น สูดดมกลิ่นหอมเต็มปอด กลิ่นหอมที่ไม่เคยเปลี่ยน หลายๆครั้งที่จะดมกลิ่นเหล่านั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งตอนเดินด้วยกัน หรือแม้กระทั้งเดินผ่าน
“อย่าสนุกอยู่คนเดียวสิ แบคโฮ” ชายหนุ่มหยุดชะงักลง เขาลืมไปเลยว่าไม่ได้มีแค่เขากับมินกิที่อยู่ในห้อง ก่อนที่เขาจะผละออกจากร่างบาง ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่างออก มันจะเป็นบทเรียนให้กับมินกิได้ดีเลยทีเดียว บทเรียนสำหรับการติดสินบนครั้งนี้
บางครั้งการติดสินบนมันก็ไม่คุ้มเสมอไปหรอกนะ
แต่สำหรับบางคน มันเยี่ยมยอดไปเลยละ...
แบคโฮดันร่างบางให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเรียน มินกิเริ่มรู้สึกความไม่ชอบมาพากลจึงพยายามดันอกแกร่งของอีกฝ่ายออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อชายหนุ่มบีบไหล่เล็กแน่นจนอีกฝ่ายออกอาการถึงความเจ็บปวดทางใบหน้า
“บอกให้ปล่อยยังไงละ!”
“พอได้แล้ว”
มินกิตะโกนเสียงดังใส่หน้าชายหนุ่มอย่างเหลืออด เขากัดฟันกรอดถลึงจามองอีกฝ่าย แต่แบคโฮดูจะไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย แต่เขากลับยิ้มเสียด้วยซ้ำ
“เลิกดีแต่ปากซักทีมินกิ” คนตัวเล็กยังคงจ้องมองอีกฝ่ายแต่ในใจน่ะหล่นไปถึงตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว เขากลัวแบคโฮ กลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ กลัวแม้กระทั้งอดีตตนเอง เขาไม่เข้าใจทำไมแบคโฮต้องอัดคลิปแบคเมล์เขาไว้ แต่สิ่งที่อยู่ในคลิปนั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขากับแบคโฮถึงได้ห่างกันมานับแต่นั้น
“นายมันก็ดีแต่ปาก ดีแต่เสียงดัง ทั้งที่ในใจนะ กลัวจนตัวสั่น” วาจาร้ายกาจกระแทกเบ้ากับใบหน้าหวาน สิ่งที่แบคโฮพูดมันเป็นความจริง ยิ่งด้วยกับตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้มันยิ่งทำให้เขาได้ใจและหลงระเริงไปกับอำนาจ
แต่ดูเหมือนว่าอำนาจของเขาจะควบคุมบุรุษทั้งสองในห้องนี้ไม่ได้แล้วซักนิดเดียว ...
“ฮยอง อยากสนุกไม่ใช่เหรอ”
ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่ออารอนเข้าประชิดตัวร่างของเขาอย่างรู้งาน มือหนาคว้าข้อมือเล็กทั้งสองข้างแล้วจับไขว้ไว้ด้านหลัง ก่อนที่ริมฝีปากบางจะได้กรีดร้อง ก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากหนาของชายหนุ่มซะแล้ว
อารอนออกแรงกดจูบเร่าร้อนลงบนริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่าย มือหนาบีบแก้มใสแรงๆให้เผยอปากออกจนสีหน้าของมินกิเริ่มบูดเบี้ยว เสียงอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากร่างบางอย่างข่มขืน แบคโฮมองการแสดงตรงหน้าอย่างสำราญใจ
“อื้อ” ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าในโพรงปากบาง กวาดความหอมหวานโลมเลียลิ้นเล็กอย่างกระหาย มือหนาที่จับข้อมือเล็กไขว้กันอยู่นั้นคอยๆปล่อยออก เปลี่ยนมาเป็นประคองใบหน้าหวานแทน มินกิหยุดดิ้นทันที่เมื่ออารอนประคองใบหน้าของเขาไว้ เริ่มคล้อยตามไปกับรสจูบของชายหนุ่มอย่างว่าง่าย จนชายหนุ่มพอใจ
“โอ้ย!!”
อารอนผละออกจากร่างของมินกิ มือกุมปากตัวเองแน่น มินกิกัดลิ้นเขา คนตัวเล็กถลึงตาดุๆใส่เขาบ่งบอกถึงความก้าวร้าวและไม่เกรงกลัว อารอนกัดฟันกรอดด้วยความแค้น
“อยากโดนดีรึไง”
“ฮยอง ใจเย็นๆ เดี๋ยวมินกิคนสวยก็ช้ำกันพอดี”
แบคโฮเอ่ยเตือนเพื่อนของเขาด้วยท่าทีที่ใจเย็น แต่แอบแฝงไปด้วยความรู้สึกประหลาดๆที่มินกิไม่ชอบใจแม้แต่น้อย เขาไม่มีทางรอด คนทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าเข้าในขณะนี้ ดิ้นรนให้ตายก็ไม่มีทางรอด จะให้ก้มหน้ารับชะตากรรมตัวเขาก็ไม่อยาก เขา ทำอะไรไม่ได้เลย
“พูดพร่ำทำเพลงอยู่ได้ เสียเวลาชะมัด จัดการเลยดีกว่า”
“อย่าดื้อสิ” แบคโฮเข้าประชิดตัวร่างของมินกิ แขนแกร่งล็อกตัวร่างบางเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น มินกิสะดุ้งมือพยายามแกะชายหนุ่มออกจากตนแต่ก็ถูกโจมตีโดยชายอีกเสียแล้ว
อารอนกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวอีกฝ่ายจนกระดุมหลุดกระเด็นออกมา เผยให้เห็นกายขาวน่าสัมผัสที่เล็ดลอดออกมาจากเนื้อผ้าเล็กน้อยชวนฝัน
“อ้ะ..อื้อ” ลิ้นริ้นโลมเลียลงบนยอดอกผ่านเส้นใยผ้าตัวบาง ดูดเลียเสียจนเสื้อตัวบางชุมไปด้วยน้ำลายจนเห็นยอดอกนูนขึ้นมาจากเนื้อผ้า เห็นแบบนี้แล้วมันยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่
“อ้ะ..อื้อ..ไม่” อารอนเปิดเสื้ออีกฝ่ายออกจนหมด เผยให้เห็นกายขาวเรียนนุ่มอย่างชัดเจน จุดสองจุดนี้สีชมพูเตะตาเขายิ่งนัก ชายหนุ่มเลียริมฝีปากตนเองเบาๆ ก่อนที่ก้มหน้าลงซุกไซรืกับแผงอกบาง กดจูบพร้อมกับงับแรงๆตามแรงอารมณ์ที่พุ่งแรงขึ้นทุกทีเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของร่างบางดังออกมาเรื่อยๆ
แบคโฮโอบกอดร่างบางในอ้อมแขนแน่นขึ้นราวกลับว่ากลัวเขาจะหายไป สันจมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอขาวเนียนอย่างหลงใหล สูดกลิ่นหอมหวานเข้าเต็มปอด ปากหนาใบหูอีกฝ่ายเบาๆจนคนตัวเล็กสะดุ้ง บวกกับสัมผัสที่คนตรงหน้ากำลงมอบให้เข้าอยู่ ถึงใจจะไม่ชอบยังไง แต่ร่างกายมันก็ปฎิเสทไม่ได้ ปฎิเสทไม่ได้ว่าสัมผัสเหล่านี้มันสุขสมแค่ไหน
“อ้ะ...อื้มมม” มินกิกัดริมฝีปากตนเองเมื่อท่อนล่างของตนถูกสัมผัสผ่านกางเกงนักเรียน มือหนาค่อยบีบนวดเบาๆกระตุ้นอารมณ์ ดวงตากลมหลับตาพริ้มอย่างเผลอไผล สุขสมไปกับสัมผัสนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ชายหนุ่มร่างสูงยืนฟังอยู่หน้าห้องอยู่นานแล้ว ถ้าไม่ใช่แบคโฮเขาก็ไม่มีทางได้ตาสว่าง ตำแหน่งที่ควรจะเป็นของเขากลับกลายเป็นของคนอื่นที่มักง่ายหวังในอำนาจ ใช้วิธีสกปรกเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้มันมา
มือใหญ่กำมัดแน่นอย่างเคียดแค้น มินฮยอนพยายามจะทำใจเย็นลงเพราะยังไงเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว และอีกอย่างตอนนี้มินกิก็กำลังได้รับบทเรียนอันสาสมอยู่ ความจริงเขาก็อยากจะเข้าไปร่วมแจมกับแบคโฮและอารอนนะ แต่แค่นี้ก็สาสมพอแล้วละมั้ง? อีกอย่าง ดูเหมือนมินกิจะพอใจในสองคนนั้นเสียด้วย
หึ...คนอะไรสกปรกจริงๆ..
มินฮยอนเดินกลับเข้าไปในห้องข้างๆ เขาพาจงฮยอนพามาอีกนี้เพราะคิดว่าจงฮยอนควรได้รับโทษน้อยกว่าสองคนนั้น เขาแค่ถูกพบยืนอยู่กับดงโฮและอารอนเฉยๆ เขาไม่ได้สูบบุหรี่ด้วยซ้ำ ดูจากสภาพแล้ว จงฮยอนก็ไม่ใช่เด็กเกเรอะไรด้วย
แต่จงฮยอนก็ยังคงถูกกักตัวไว้ เขาอยากจะมาขออนุญาตมินกิเพื่อให้จงฮยอนได้กลับก่อนเวลาอันควรเพราะเห็นความดีในตัวเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาคงไม่ได้คุยกับมินกิไปอีกนานเลย..
“ว่ายังไงบ้าง”
ทันทีที่มินฮยอนก้าวเข้ามาในห้อง จงฮยอนที่นั่งเบื่อหนายอยู่ที่โต๊ะก็เอ่ยทักเขาทันที มินฮยอนไม่พูดอะไร เขาเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะหน้าห้อง ทิ้งให้คนตัวเล็กมีแค่คำถามอยู่ในใจ
“มินกิว่ายังไงบ้าง?”
“มินกิไม่ว่างคุยน่ะ...”
“อะไรกันน่ะ ไหนนายบอกจะไปถามให้ไง” จงฮยอนชักสีหน้าไม่พอใจจรากลับเด็กเอาแต่ใจ มินฮยอนหลุดขำออกมาเบาๆ ก่อนเขาจะยิ้มน้อยๆให้อีกฝ่าย
“อะไรเล่า..”
“ยิ้มแบบนั้น น่ารักดี..” มินฮยอนเอ่ยชมอีกคนเบาๆด้วยรอยยิ้มที่จงฮยอนไม่เคยได้เห็นมาก่อน มินฮยอนเป็นคนที่ไม่ค่อยยิ้มด้วยซ้ำ เขามักจะเคร่งเครียดกับงานเสียมากกว่า แต่ตอนนี้เขากลับยิ้มให้จงฮยอน
“อ่ะ..เอ่อ แต่ฉันไม่อยากมีชื่อยู่ในแบล็คลิสต์” จงฮยอนพยายามเปลี่ยนเรื่อง เขาหลบสายตาของมินฮยอน ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหลบทำไม สายตาเย็นขาที่แอบแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและใจดี..
“บอกแล้วไง คนที่มีอำนาจในเรื่องนั้นก็คือมินกิ” อำนาจสกปกรก...
จงฮยอนไม่อยากให้ตัวเองมีประวัติด่างพร้อย เขาพยายามทำตัวดีมาคลอดแต่เพื่อนอย่างแบคโฮและมารอนมักจะพาซวยเสมอ แต่ถ้าจะให้เลิกคบมันก็กระไรอยู่
มินฮยอนนั่งคิดถึงเรื่องของมินกิที่ดงโฮพูดเมื่อครู่นี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เขาน่ะพยายามทำตัวดีมาตลอด แต่คนดีนี้มันอยู่ยากจริงๆ รุ่นพี่เจสันก็ช่างน่าสมเพช หลงใหลไปในความสวยและมารยาของมินกิจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วก็ยกตำแหน่งที่ควรจะเป็นของเขาให้กับมินกิไปเสียง่ายๆ
“ฉันยอมทำทุกอย่างเลยนะ ช่วยฉันทีสิมินฮยอน”
จงฮยองเอ่ยขึ้นพรางมองชายหนุ่มอย่างมีความหวัง ดวงตากลมเป็นประกายน่าเอ็นดู แต่ถ้าเป็นมินกิทำละก็ มันคือมารยาดีๆนี้เอง แต่นี้เป็นจงฮยอน เขาก็อยากช่วย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย...
“ติดสินบน เอาตัวเข้าแลก”
คำพูดนี้แล่นเข้ามาในสมองของมินฮยอน เขายิ้มมุมปากพร้อมกับครุ่นคิด ในเมื่อมินกิทำได้ เขาก็ต้องทำได้ และดูเหมือนว่าจงฮยอนก็ไม่ต้องการให้ประวัติตนเองด่างพร้อย
ครั้งเดียวคงไม่เสียหายอะไรนักหรอก.....
“มันก็พอมีอยู่วิธีนึง”
“อะไรเหรอ ว่ามาเลย ฉันยอมทำทุกอย่าง”
มินฮยอนยิ้มกว้างให้กับคนตัวเล็กตรงหน้า จงฮยอนยิ้มตอบด้วยความตื่นเต้นและมีความหวัง แต่ก็ไม่รู้ว่า จะยิ้มอีกนานเท่าไหร่ ดวงตาคมของชายหนุ่มมองสำรวจคนตัวเล็กอีกครั้งจนจงฮยองเริ่มสงสัยขึ้นมา
“จงฮยอน....”
TBC.
ความคิดเห็น