ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] BABY BABY ◤ BJin ◢

    ลำดับตอนที่ #33 : ◤ Chapter 29 ◢ END

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.16K
      7
      16 ก.ค. 57

    Chapter 29



     

     

    ในที่สุดทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเหมือนอย่างที่เคยเป็น
     

    มันกลายเป็นหน้าที่ของจินฮวานไปแล้วที่ทุกเช้าเขาจะต้องตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารให้กับเจ้าของห้อง ก่อนที่จะออกไปเรียน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ทำหน้าที่ส่งเขาถึงมหาลัยก็หนีไม่พ้นพี่ฮันบิน รายนั้นน่ะดูมีความสุขยิ่งกว่าเดิมซะอีก คงเป็นเพราะว่าพอได้คุยกับคนในครอบครัวอีกครั้งจนเรื่องลงตัวแล้ว ทุกคนไม่ได้มีปัญหาอะไร และนั่นก็รวมไปถึงครอบครัวของตัวจินฮวานเองด้วย
     

    เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนพี่ฮันบินพาเขาขึ้นเครื่องไปเชจูโดยไม่บอกกันล่วงหน้าซักคำ ทำเอาเขากลัวแทบแย่ เพราะถึงจะรู้อยู่แล้วว่าพ่อกับแม่คงไม่ว่าอะไร แต่ที่เขากลัวจริงๆน่ะคือพี่สาวสุดที่รักต่างหาก... พี่ฮันบินไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเขามีพี่สาวอีกหนึ่งคน เพราะตอนที่พ่อกับแม่แยกทางกัน พี่เซยอนก็ตามไปอยู่กับพ่อด้วย พอได้เจอหน้ากันเท่านั้นแหละ... แทบจะเป็นสงครามประสาทย่อมๆจากความไม่ลงรอยกันเลยทีเดียว
     

    ยังดีที่แม่ของเขาเข้ามาช่วยคุยให้ด้วย พี่เซยอนก็เลยต้องยอมในที่สุด แถมยังบอกอีกว่าจะแวะเข้ามาเยี่ยมที่โซลบ่อยๆเพราะว่าเป็นห่วง ให้มันได้อย่างนี้สิ... แต่จินฮวานก็เข้าใจดีนะถ้าพี่สาวของเขาจะยังรู้สึกไม่ค่อยยอมรับเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่แยกกันไปอยู่กับพ่อและแม่จนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาก็สนิทกับพี่สาวที่อายุห่างกันสี่ปีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย พี่เซยอนคงกลัวว่าเขาจะรักพี่ฮันบินมากกว่า
     

    พอนึกถึงเรื่องในวันนั้นแล้วมันก็ทำให้เด็กหนุ่มมีความสุขจนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้จริงๆ
     

    “กำลังคิดอะไรอยู่อะ” เพื่อนตัวสูงของเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ขณะลู่คิ้วตกด้วยความสงสัย
     

    “เปล่าหรอก” จินฮวานตอบกลับไป ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังนั่งอยู่ในตึกคณะตัวเอง แล้วอยู่ๆแทฮยอนมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง “มีธุระอะไรรึเปล่า เพิ่งเลิกเรียนหรอ?”
     

    “อื้ม เห็นว่าปีสามมีเรียนวิชาอะไรซักอย่างที่ตึกนี้อะ เลยจะแวะมาหาพี่มินโฮ”
     

    “มาหาเนี่ยนะ?” นั่นยิ่งทำให้เด็กหนุ่มแปลกใจเข้าไปใหญ่ เพราะปกติแล้วแทฮยอนไม่น่าจะเป็นฝ่ายมาหาพี่มินโฮถึงที่ได้ขนาดนี้
     

    “ทำไมอะ มาหาไม่ได้หรอ? ก็... เสียดายเค้กนี่นา”
     

    “หืม?”
     

    “อันนี้ของจินฮวานนะ” เจ้าของมือเรียวยื่นถุงที่บรรจุกล่องอะไรบางอย่างมาให้เขา “มีคนบอกว่าร้านเค้กที่อยู่หลังมหาลัยอร่อยมาก ก็เลยลองไปซื้อมา”
     

    “อ่อ...”
     

    “ไปห้องปีสามเป็นเพื่อนหน่อยดิ”
     

    “ห้ะ?” แทบไม่ต้องรอให้เขาได้พูดอะไรต่อ เพื่อนรักอย่างแทฮยอนก็จัดการคว้ามือเขาให้รีบลุกขึ้นจนเขาเกือบหยิบกระเป๋ามาสะพายไม่ทัน
     

    เด็กหนุ่มร่างเล็กมองแผ่นหลังเพื่อนคนสนิทที่กำลังเดินนำหน้าอยู่นั้น ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ดูก็รู้ว่าแทฮยอนแค่หาข้ออ้างมาหาพี่มินโฮเท่านั้นเอง แต่จะให้ล้อเพื่อนนี่ก็คงไม่ใช่นิสัยของจินฮวานอีกนั่นแหละ เพราะงั้นการที่ได้มองเจ้าตัวทำท่าลุกลี้ลุกรนสำหรับเขาแบบนี้น่ะมีความสุขกว่าเยอะเลย
     

    ทั้งสองคนพากันเดินขึ้นไปขึ้นลิฟต์ที่มาจอดรออยู่พอดี ภายในลิฟต์นั้นมีเด็กหนุ่มร่างสูงอีกคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็เป็นคนที่จินฮวานรู้จักเป็นอย่างดีซะด้วย พวกเขาส่งยิ้มให้กันเล็กน้อยก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง
     

    “สวัสดีครับพี่ซึงยุน” เขาและแทฮยอนกำลังทักทายอีกฝ่ายไปตามปกติ ...ช่วงหลังๆมานี่จินฮวานยอมรับว่าไม่ค่อยได้เจอหน้ารุ่นพี่คนนี้ซักเท่าไหร่เลย อย่างมากก็เจอกันแค่ในชมรม และถึงจะคุยกันอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่การปรึกษาเรื่องเรียนเท่านั้น
     

    เขารู้ว่าพี่ฮันบินไม่ชอบให้เขาสนิทกับรุ่นพี่คนนี้มากจนเกินไป เพราะงั้นเขาจึงเว้นระยะห่างไว้พอสมควร โชคดีที่ดูเหมือนพี่ซึงยุนจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาเช่นกัน ก็เลยไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเรื่องนี้จะทำให้พี่ฮันบินไม่สบายใจ
     

    ตราบใดที่เขาไม่เอ่ยชื่อพี่ซึงยุนออกมา พี่ฮันบินก็ไม่ว่าอะไรนี่นะ...
     

    “เลิกเรียนแล้วหรอ?”
     

    “ครับ แล้วพี่ล่ะ?”
     

    “เหลืออีกวิชานึงน่ะ พี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน” รุ่นพี่ของเขาพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะออกไปจากลิฟต์ที่หยุดลงยังชั้นห้าพอดี
     

    จะว่าไปแล้วเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าห้องเรียนที่แทฮยอนบอกว่าพี่มินโฮมาเรียนที่ตึกนี้น่ะคือห้องไหน แต่ก็เอาเถอะ ตอนนี้เขาคงมีหน้าที่ตามแทฮยอนไปอย่างเดียวเท่านั้น
     

    จนกระทั่งลิฟต์มาหยุดลงอยู่ที่ชั้นเจ็ด เจ้าของร่างโปร่งอย่างแทฮยอนก็รีบก้าวขาพร้อมกับลากเขาออกไปทันที ...นักศึกษารุ่นพี่หลายคนกำลังทยอยเดินออกมาจากห้องเรียน คงเป็นเพราะว่าถึงเวลาเลิกเรียนพอดี หวังว่าพวกเขาจะมาทันนะ
     

    ระหว่างที่แทฮยอนกำลังเดินเข้าไปหาใครบางคนที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลนัก จินฮวานเองก็รีบเดินตามไปติดๆเช่นกัน ตรงหน้าเขาในตอนนี้คือรุ่นพี่ผู้ชายที่ตัวสูงมากกว่าเขาเล็กน้อย แต่หน้าตาจัดว่าดูดีมากในระดับหนึ่ง ส่วนอีกคนอย่าให้เขาพูดเลยว่าดูดีขนาดไหน ถ้าไม่ได้ยืนมองตัวเป็นๆอยู่ตรงนี้และในเวลานี้ จินฮวานคงคิดว่ารุ่นพี่ตัวสูงความหล่อระดับท็อปเท็นนี่เป็นพระเอกที่หลุดออกมาจากการ์ตูนซักเรื่อง
     

    “หืม? นายมีเรียนที่ตึกนี้ด้วยหรอแทฮยอน” แจ็คสันหวังเอ่ยปากถามทันทีด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องในเอกมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
     

    “เปล่าครับ พอดีผมมีธุระนิดหน่อย”
     

    “นายมาหาพี่ใช่มั้ยล่ะ?” เจ้าตัวว่าพลางยักคิ้วไปสองสามที
     

    “น้องเค้าจะมาหามึงทำไมวะแจ็คสัน? พูดไม่รู้จักคิด เออ ถ้ามาหากูก็ว่าไปอย่าง” รุ่นพี่ตัวสูงดีกรีเดือนคณะที่ทนฟังไม่ไหว ถึงกับมองเพื่อนตัวเองด้วยความหมั่นไส้
     

    “คือผมมาหาพี่มินโฮน่ะครับ...”
     

    “ไงล่ะ... น้องเค้าไม่ได้มาหามึงด้วยว่ะมาร์ค ทำใจซะเหอะ” แจ็คสันที่กำลังกลั้นหัวเราะได้แต่ยกมือขึ้นมาตบบ่าเพื่อนเบาๆ ก่อนจะหันหน้าไปอีกทางเพื่อมองหาเพื่อนรักอีกคน “เฮ้ย มินโฮ!! เด็กมึงมาหาแน่ะ!!
     

    จินฮวานเดาว่าถ้าแทฮยอนไม่เสียดายและกลัวว่าเค้กที่อยู่ในมือจะเละ ป่านนี้มันคงได้ถูกฟาดคนตรงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว...
     

    ไม่นานนักร่างสูงเจ้าของผิวสีเข้มก็รีบวิ่งมาจนถึงจุดที่พวกเขายืนอยู่ จินฮวานทักทายอีกฝ่ายไปตามระเบียบ ในขณะที่หันไปเห็นว่ารุ่นพี่แจ็คสันกำลังลากคอรุ่นพี่มาร์คออกจากตรงนั้นไปพอดี
     

    “มีอะไรรึเปล่าแทฮยอน อยู่ๆก็มา ไม่โทรบอกกันก่อนเลย”
     

    “ผมแค่เอาเค้กมาฝาก” เด็กหนุ่มร่างโปร่งว่าพลางยัดถุงในมือให้อีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็วด้วยความเขินอาย หรือความรู้สึกอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เขาร้อนที่ใบหน้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
     

    “ให้พี่จริงดิ? ขอบใจนะ”
     

    “ที่จริงจะมาบอกพี่ด้วยว่าวันนี้ผมไม่เข้าชมรมนะ ผมไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว วันนี้เลยว่าจะกลับซักหน่อย”
     

    “อ่อ ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็ว่าจะกลับเหมือนกัน งั้นกลับด้วยกันเลยดิ”
     

    “หา? ไม่เอาอะ ผมเกรงใจ”
     

    “ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง ว่าแต่นายจะกลับด้วยมั้ยจินฮวาน?” ซงมินโฮที่ดูท่าทางใจดีและอารมณ์ดีมากกว่าปกติหันมาถามเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆด้วย
     

    “อ่า... วันนี้ผมไม่กลับหรอกครับ เดี๋ยวออกจากมหาลัยไป ก็คงตรงกลับคอนโดเลย” จินฮวานเอ่ยพลางยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาไปด้วย เมื่อเช้านี้พี่ฮันบินบอกกับเขาว่าจะกลับไว เขาจึงตั้งใจว่าจะรีบกลับไปเตรียมอาหารมื้อเย็นรออีกฝ่ายเช่นกัน
     

    “งั้นให้พี่ไปส่งคอนโดก็ได้ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”
     

    “พี่นี่ชอบพูดเองเออเองตลอดเลย” เสียงบ่นงึมงำจากแทฮยอนทำให้พี่มินโฮหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และถึงจะบ่นไปงั้น สุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งสามคนก็มานั่งอยู่บนรถยนต์คันเดียวกันอยู่ดี
     

    แทฮยอนไม่ยอมนั่งหน้ารถ แต่กลับมานั่งด้านหลังเป็นเพื่อนจินฮวาน พวกเขาพากันคุยเรื่องสัพเพเหระกันไปตลอดทาง และเนื่องจากการเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก ล้อรถจึงมาหยุดอยูที่หน้าคอนโดภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น ก่อนที่เด็กหนุ่มร่างเล็กจะบอกลาเพื่อนพร้อมกับไล่ให้ลงไปนั่งข้างหน้าได้แล้ว ซึ่งแทฮยอนก็ยอมฟังเขาแต่โดยดี
     

    เขาหันไปลาพี่มินโฮอีกนิดหน่อย แล้วจึงรีบเดินเข้าไปภายในคอนโดเพื่อขึ้นห้องทันที ในหัวของเขามีเรื่องที่กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้พี่ฮันบินกิน เมื่อหลายวันก่อนเขาลองเปิดดูเมนูใหม่ๆที่อยากทำดูในอินเตอร์เน็ต แต่ยังเลือกไม่ถูกเลยว่าควรทำเมนูไหน
     

    กว่าจะตัดสินใจอะไรได้ ร่างเล็กก็มาถึงห้องซะแล้ว
     

    น่าแปลกที่ไฟในห้องถูกเปิดใช้งานอยู่ ซึ่งเมื่อเขาลองเดินเข้ามาจนถึงภายในห้องนั่งเล่นแล้วถึงได้รู้ว่ามีคนอยู่ด้วยจริงๆ ...พี่ฮันบินกลับมาเร็วกว่าที่เขาคิดอีกแฮะ แถมยังมีใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆนั่นด้วย
     

    จินฮวานไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน เธอน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ฮันบินหรือไม่ก็คงเด็กกว่า ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอทั้งสวยแล้วก็ดูดีมากๆภายในชุดสูทรัดรูปแบบสาวทำงานอย่างนี้ ทรงผมสั้นๆกับสไตล์การแต่งหน้าที่คมเฉี่ยวนั่นทำให้จินฮวานพอจะรู้ว่าเธอคงเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจสูงมากเลยทีเดียว แต่อย่างน้อยเธอก็สวยล่ะนะ...
     

    “อ้าว กลับมาแล้วหรอ ...นี่เพื่อนที่ทำงานของพี่เอง” ร่างสูงอธิบายให้เขาฟังเมื่อเห็นว่าเขากำลังทำหน้าสงสัย
     

    “นายมีน้องชายด้วยหรอ? ไม่ยักรู้มาก่อน” ผู้หญิงคนนั้นถามพี่ฮันบินทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามาข้างใน
     

    ส่วนคนที่ถูกถามซึ่งนั่งอยู่ข้างๆกันบนโซฟานั้นก็หันมามองจินฮวานเช่นกัน ...พี่ฮันบินยิ้มให้เขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พี่ฮันบินหันกลับไปยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นด้วย แต่ก็ไม่ยอมพูดออกมาอีกอยู่ดี
     

    ยอมรับเลยว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่จินฮวานคิดเอาไว้... ความเงียบที่พี่ฮันบินเลือกเป็นคำตอบ ทำให้เขาตัดสินใจเลือกที่จะเดินหายเข้าไปในครัวเงียบๆเพียงลำพัง ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่... เขาบอกกับตัวเอง... เพราะถึงยังไงก็ควรให้พี่สาวคนนั้นเข้าใจว่าเขาเป็นน้องชายน่ะถูกต้องแล้ว
     

    จะสถานะไหนก็เหมือนๆกันนั่นแหละ... แค่รู้ว่าพี่ฮันบินคิดยังไงกับเขาก็พอ
     

    ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ดูเหมือนว่าจินฮวานจะไม่มีกะจิตกะใจในการทำอาหารเลยซักนิด เขาไม่กล้าชะโงกหน้าเข้าไปดูภายในห้องนั่งเล่นด้วยซ้ำว่าพี่ฮันบินกำลังทำอะไรอยู่ ตั้งแต่กลับมาถึงที่นี่ ไม่เห็นพี่ฮันบินเข้ามาคุยกับเขามากไปกว่านั้นเลย
     

    เริ่มไม่สบอารมณ์ซะแล้วสิ...
     

    “โอ๊ย!!” คงเพราะมัวแต่ใจลอย เลยเกิดเรื่องขึ้นจนได้ มีดที่กำลังหั่นผักอยู่ดันโดนนิ้วมือเขาเองเสียนี่ โชคดีที่มันไม่ได้บาดลึกมากมายอะไร แต่พอเห็นเลือดแล้วก็รู้สึกเจ็บๆขึ้นมาเหมือนกันแฮะ
     

    “เกิดอะไรขึ้น!?
     

    เขาควรจะดีใจมั้ยที่พี่ชายร่างสูงถึงกับวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเป็นห่วงอย่างนี้ สีหน้าที่ดูเป็นห่วงเป็นใยของอีกฝ่ายมันทำให้เขาเกือบลืมเรื่องที่แอบเคืองไปตอนแรกซะสนิทเลย
     

    “ไม่มีอะไรหรอกครับ มีดบาดแค่นิดเดียวเอง”
     

    “ไหนมาให้พี่ดูหน่อย”
     

    “...” ยังไม่ทันจะยื่นมือออกไป พี่ฮันบินก็รีบคว้ามือเขายกขึ้นไปดูอย่างรวดเร็ว
     

    “เลือดออกตั้งขนาดนี้ ...เดี๋ยวพี่ทำแผลให้”
     

    “ไม่เป็นไรครับ-...”
     

    “มีอะไรกันหรอคะ?” เสียงหวานจากหญิงสาวดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเธอ และทันทีที่ดวงตากลมโตคู่นั้นมองเห็นบาดแผลบนนิ้วของจินฮวาน เธอก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “ตายจริง นั่นเลือดออกนี่”
     

    “ก็เลือดน่ะสิยัยบ๊อง”
     

    “แล้วทำไมต้องทำท่าหัวเสียขนาดนั้นด้วยอะ นายนี่ดูจะรักน้องชายมากเลยนะ เห็นจับมือไม่ยอมปล่อยเลย” เธอพูดในขณะยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากด้วย บางทีเธอก็ดูน่ากลัวแปลกๆนะ ...จินฮวานคิดว่างั้น
     

    “ใช่น้องชายแท้ๆซะที่ไหนกันล่ะ”
     

    “แล้ว?”
     

    จินฮวานเป็นแฟนฉันเอง
     

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    คนตัวเล็กชักไม่แน่ใจว่าเขาหูฝาดไปรึเปล่า แต่ที่แน่ๆคือเขากำลังเบิกตากว้างมองพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความตกใจ ใครจะไปคิดว่าพี่ฮันบินจะกล้าพูดออกมาตรงๆอย่างนี้ แถมยังต่อหน้าผู้หญิงที่เป็นเพื่อนร่วมงานนี่อีก ทั้งที่ตอนแรกก็ไม่ได้มีท่าทีที่อยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเลยด้วยซ้ำ... บ้าไปแล้ว พี่ฮันบินต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
     

    “ทำเป็นยึกยักนะ บอกมาตั้งแต่แรกก็จบป่ะ” รอยยิ้มของพี่สาวคนนี้ชักเริ่มน่ากลัวขึ้นทุกที ดูเธอจะไม่ตกใจกับคำพูดของพี่ฮันบินเท่าไหร่เลยด้วย
     

    “รู้แล้วยังจะ... ช่างเถอะน่า หมดธุระแล้วก็รีบๆกลับไปเลยไป”
     

    “ก็ไม่อยากจะอยู่เป็นก้างขวางคอซักเท่าไหร่หรอก ยังไงก็อย่าลืมส่งไฟล์งานมาด้วยล่ะ” เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยขณะย้ำเตือนเรื่องงานให้อีกฝ่าย ก่อนจะหันมามองทางเด็กหนุ่มร่างเล็ก “นายชื่อจินฮวานสินะ น่ารักไม่เบาเลยแฮะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพักหลังๆมานี้ฮันบินถึงได้ดูอารมณ์ดีขึ้นทุกวัน เมื่อก่อนนะ หมอนี่ชอบทำหน้าบึ้งใส่ลูกน้องตลอดอะ ดีจังที่นายทำให้หมอนี่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ไว้วันหลังพี่จะซื้อขนมมาฝาก นายชอบกินอะไร-...”
     

    “ย่าห์! กลับไปได้แล้ว!
     

    “นี่ก็ไล่กันจัง กลับก็ได้ย่ะ!” เธอแยกเขี้ยวใส่เพื่อนร่วมงานด้วยความหมั่นไส้ และส่งยิ้มให้จินฮวานที่ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้นอีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินออกไป...
     

    นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่จินฮวานปล่อยให้สติของเขาหลุดลอยไปพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่ปลายนิ้ว กว่าจะรู้ตัวอีกที พี่ฮันบินก็พาเขาไปล้างมือที่อ่างเรียบร้อยแล้ว
     

    “ยังเจ็บอยู่มั้ย...”
     

    “ไม่แล้วครับ” ร่างเล็กตอบกลับไปขณะเงยหน้ามองอีกฝ่าย “พี่ฮันบิน...”
     

    “ว่าไง?”
     

    “ทำไมพูดออกไปอย่างนั้นล่ะครับ... ไม่กลัวว่า-...”
     

    “นี่พี่คงทำให้นายคิดมากอีกแล้วล่ะสิ” ชายหนุ่มว่าพลางช้อนตัวน้องชายอุ้มขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์ครัว ก่อนจะแทรกตัวเข้าไประหว่างเรียวขาเล็กทั้งสองข้าง พร้อมกับวาดแขนโอบไปรอบเอวบางนั้น “ไม่เป็นไรหรอก ยัยนั่นไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว”
     

    “แต่ตอนแรกพี่ฮันบินเหมือนไม่อยากบอกพี่สาวคนนั้น...”
     

    “ก็ไม่อยากน่ะสิ ไม่เห็นรึไงว่ายัยนั่นพูดอะไรออกมาบ้างตอนที่พี่บอกความจริงไป” พอนึกแล้วก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ ...จริงๆวันนี้ที่ฮันบินเลิกงานไวเป็นเพราะเขาต้องกลับมาเคลียร์ไฟล์งานนี่แหละ แล้วเพื่อนร่วมงานของเขาก็จำเป็นต้องติดสอยห้อยตามมาด้วย ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากจะลากเธอมากนักหรอก ทำงานด้วยกันมาตั้งหลายปี ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอชื่นชอบเรื่องอะไรทำนองนี้อยู่แล้ว...
     

    “...”
     

    “ก่อนหน้านั้นพี่กลัวว่านายจะอึดอัดก็เลยยังไม่อยากพูดอะไร นี่นายคงไม่ได้โดนมีดบาดเพราะมัวแต่คิดมากอยู่ใช่มั้ย?”
     

    “ป..เปล่านะครับ”
     

    “พี่คงเชื่ออยู่หรอก...” ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปเพื่อกดจูบเบาๆหนึ่งที “แทนคำขอโทษนะ”
     

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงจินฮวานก็เป็นผู้ชาย เจ็บแค่นี้ไม่สะเทือนหรอกครับ”
     

    ดวงตาคมหรี่มองร่างเล็กตรงหน้า พลางหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าน้องชายตัวเล็กของเขากำลังเม้มปากแน่น เจ้าตัวคงรู้สึกอายหน่อยๆที่ถูกเขาจับได้ “นายรู้มั้ยว่ามันทำให้พี่นึกถึงอะไรบางอย่าง”
     

    “อะไรครับ?”
     

    “วันที่นายงอแงใส่พี่เพราะจูเนียลไง”
     

    “นานขนาดนั้น ใครจะไปจำได้กันเล่า”
     

    “พี่ไงจำได้... แต่ถ้านายลืมไปแล้ว งั้นเรามาทบทวนความจำกันหน่อยดีมั้ย?”










     


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ย้อนกลับไปอ่านที่ตอน 9 ค่ะ แอร๊ยยยย #โดนโบก

    เปิดวาร์ปในทันที รหัสเดิม เอาให้จำวันเกิดพี่จินได้กันไปข้าง รับรองไม่มีทางลืม อิอิ
    http://mewkiie.tumblr.com/post/91942623995/fic-win-baby-baby-chapter-29-cut


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------









     


    ร่างสูงยังคงโอบอุ้มน้องชายตัวเล็กของเขาเอาไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาวางลงบนไหล่ของอีกฝ่ายและหอบหายใจถี่รัว ริมฝีปากหยักขยับกระซิบคำว่ารักให้อีกฝ่ายซ้ำๆ ก่อนที่เขาจะกดจมูกโด่งฝังลงไปบนแก้มเขาเนียนตรงหน้า
     

    “...เหนื่อยมั้ยครับ?” คงเพราะใบหน้าที่ชื้นเหงื่อของเขา จินฮวานถึงได้อะไรแบบนั้นถามออกมา ยิ่งช่วงหลังๆมานี้ ดูเหมือนเจ้าตัวจะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกายเขามากว่าปกติ โอเค... เขาเข้าใจว่าน้องคงคิดว่าเขาอายุมากเกินกว่าจะทำเรื่องพวกนี้แล้ว แต่เขาเพิ่งจะสามสิบสองเองนะ แค่นี้น่ะทำอะไรคนแข็งแรงอย่างเขาไม่ได้หรอก
     

    “ไม่...”
     

    “แน่ใจนะครับว่าไม่เหนื่อย”
     

    “ไม่... พี่ยังไม่อิ่มเลย”
     

    สีหน้าเหวอแหละตกใจของจินฮวานเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะดูอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ ชายหนุ่มกดจูบลงไปบนริมฝีปากหยักนุ่มเบาๆ ก่อนจะผละออกมาแนบหน้าผากติดกันพร้อมกับยิ้มกริ่ม
     

    “พี่ฮันบินบ้า แรงเยอะนักรึไง...” เสียงบ่นพึมพำจากน้องชายตัวเล็กไม่ได้น่ากลัวสำหรับเขาเลยซักนิด ตรงกันข้าม ใบหน้าที่แดงระเรื่อและดวงตาคู่เล็กที่กำลังหลุบต่ำเพราะไม่กล้าสบตานั้นกลับดูน่ารักจนเขาแทบอดใจไม่ไหว
     

    “ก็เยอะพอจะทำให้นายลุกไม่ไหวแล้วกัน”
     

    !!!
     

    “วันข้างหน้า... เมื่อนายโตขึ้นกว่านี้ และเมื่อพี่เริ่มแก่ลงไปเรื่อยๆ... นายจะเบื่อพี่มั้ยจินฮวาน? นายจะยังอยากอยู่กับพี่เหมือนเดิมรึเปล่า-...”
     

    ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ริมฝีปากนุ่มนิ่มก็แนบลงมากดทับและบดจูบเขาอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เรื่องบ่อยนักหรอกที่จินฮวานจะกล้าเริ่มด้วยตัวเองแบบนี้ เพราะงั้นเขาจึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายจูบเขาต่อไปเรื่อยๆทั้งอย่างนั้น จนกระทั่งน้องผละตัวออกมาเอง
     

    “...ต่อให้พี่ฮันบินเป็นยังไง จินฮวานก็จะอยู่กับพี่ฮันบิน หรือต่อให้พี่ฮันบินไล่ จินฮวานก็จะไม่ยอมไปไหน เพราะงั้นอย่าถามอะไรอย่างนั้นอีกเลยนะครับ”
     

    “ขอบใจนะ... พี่รักนายจริงๆ”
     

    “จินฮวานก็รักพี่ฮันบินที่สุดเลย”
     

    หลังจากที่ผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย กว่าจะรู้ใจตัวเองก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงป่านนี้ ฮันบินได้เข้าใจแล้วว่าการปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองไม่ใช่ทางออกหรือการแก้ปัญหาที่ดีเลย ซ้ำยังเป็นการทำร้ายคนที่เขารักอีก เพราะงั้นจากนี้ไป สิ่งที่เขาต้องการเพียงอย่างเดียวคือทำให้จินฮวานมีความสุขที่สุด ให้สมกับความรักที่จินฮวานมอบให้เขา และจากนี้ไป ไม่ว่าจะเรื่องอายุหรือว่าเรื่องอะไร ก็คงไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

     


     

    ใครว่าเขากินเด็กกัน?

    เด็กคนนี้น่ะมาให้เขากินเองต่างหาก


     

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
    #ฟิคฮันบินกินเด็ก จบแล้วนะคะ Happy Ending~ ในที่สุด!! ><
    หลังจากที่ตอนที่แล้วแอบปล่อยให้ค้างคา ตอนนี้เลยส่งท้ายซะหน่อย 55555555
    ช่างเป็นฟิคใสใสเสียนี่กะไร // ยังจะกล้าพูดนะ -..-
    ฟิคที่เหมือนจะใสแต่ไม่ใส เหมือนจะดราม่าก็ดราม่าไม่สุดซะที
    ไม่รู้จัดอยู่ในหมวดไหนกันแน่ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี เย่ๆ

    หนักหนาสาหัสมากอะค่ะ เพราะไม่เคยแต่งฟิคยาวขนาดนี้มาก่อนเลย โฮกกกกกก
    ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นคอมเม้นท์หรือแท็ก ทุกคนช่วยให้ฟิคเรื่องนี้จบได้จริงๆ
    ยังคงมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเม้นท์ เพราะได้เห็นคนฟินไปกับเรา T///T
    ขอบคุณบอททุกคนด้วย ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ เพราะบางคนก็รู้จักฟิคเราเพราะบอท
    ดีใจที่ได้คุยกับทุกคนนะ รักมากค่ะ *ปาหัวใจ* 55555555555

    สำหรับโปรเจ็คเรื่องต่อไป... จริงๆแอบมีอยู่นะ กะจะเปิดให้โหวตกันไปเลยว่าจะเอาพล็อตเรื่องไหน
    ยังรักเด็ก ยังรอเด็ก ก็จะแต่งฟิคแก้คิดถึงต่อไปแบบนี้เรื่อยๆอะค่ะ แม้จะอู้เป็นบางเวลาก็ตาม 5555
    แต่ตอนนี้... คงขอเบรกก่อนแล้วกันนะคะ กลัวฟิคมันยังไม่จบจะไม่จบสมชื่อ 555555 ต้องปั่นๆ

    สุดท้ายเรื่องรวมเล่ม รายละเอียดมาแล้วนะคะ สามารถอ่านดูได้ที่ตอนต่อไปเลย
    อีกครั้งนึงแล้วกัน อยากขอบคุณทุกคนจริงๆที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ TwT



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×