คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ◤ Chapter 13 ◢
Chapter 13
“จินฮวาน!”
ฮันบินยังคงตะโกนเรียกชื่อน้องชายอย่างเสียงดังขณะที่วิ่งตามไปด้วย เรียวขาเล็กนั้นก้าวอย่างรวดเร็วไปทางด้านหลังบ้านจนฮันบินชักจะเริ่มกลัวว่าถ้าหากน้องยังไม่ยอมหยุดวิ่งคงต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะถัดจากพื้นที่โล่งไปอีกแค่นิดเดียวก็จะเข้าเขตป่าแล้ว
แต่ไม่ว่าเขาจะตะโกนเรียกซักแค่ไหน จินฮวานก็ไม่ยอมหยุด เห็นตัวเล็กแค่นั้นกลับวิ่งเร็วใช่เล่น สุดท้ายแล้วมันก็เป็นอย่างที่ฮันบินคิด... จินฮวานวิ่งผ่านพุ่มไม้ที่เป็นเขตสิ้นสุดของรั้วบ้านแล้วตรงเข้าไปในป่ารกทึบที่เต็มไปด้วยต้นไม้ หากเป็นตอนกลางวัน ฮันบินอาจจะกังวลน้อยกว่านี้ แต่นี่มันค่ำแล้ว... และข้างในนั้นก็มืดมากด้วย
ตอนนี้เขารู้ดีว่าตัวเองทำผิดร้ายแรงมากแค่ไหน ถ้าจินฮาวานจะโกรธขนาดนั้นก็คงไม่แปลกหรอก แต่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ... ไม่ได้คิดจะให้จินฮวานรู้ด้วยวิธีนี้เลยจริงๆ...
พลั่ก!
“โอ๊ย!!”
เสียงเล็กนั้นดังขึ้นหลังจากที่ฮันบินวิ่งผ่านพุ่มไม้มาได้ไม่ไกลนัก ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องลงมา... เขามองเห็นน้องชายฟุบลงไปนั่งอยู่บนพื้นไม่ไกล ดังนั้นขายาวจึงรีบวิ่งเข้าไปประชิดตัวอีกฝ่ายในทันที
“จินฮวาน!! นาย...” เมื่อเห็นว่าฝ่ามือเล็กๆกำลังกุมข้อเท้าของตัวเองอยู่ ฮันบินก็นั่งลงแล้วค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปแตะเบาๆ
“อ๊ะ!”
“เจ็บมากรึเปล่า?”
“...” ดวงตาคู่เรียวที่รื้นไปด้วยหยาดน้ำใสกำลังมองไปยังรากไม้ที่ตนเพิ่งสะดุดล้มก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
ไม่อยากแม้แต่มองหน้าเขาเลยออย่างนั้นหรอ... แต่มันก็สมควรอยู่หรอกคิมฮันบิน... กี่ครั้งแล้วล่ะที่ทำให้น้องเสียใจ กี่ครั้งแล้วล่ะที่น้องต้องร้องไห้ก็เพราะเขา... เมื่อไหร่เขาถึงจะหยุดทำร้ายน้องได้ซักที
“พี่จะพากลับบ้านนะ...” ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะตามมาคุยให้รู้เรื่อง แต่ตอนนี้การพาจินฮวานกลับไปทำแผลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
ทว่า... ทันทีที่ร่างสูงทำท่าจะเข้าไปช่วยพยุง เด็กชายตัวเล็กกลับขืนตัวออกและไม่ยอมให้เขาแตะต้องแม้แต่น้อย ...พอเห็นอีกฝ่ายพยายามจะยืนขึ้นด้วยขาเล็กๆของตัวเอง ฮันบินก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะตัดสินใจทิ้งตัวทั้งหมดไปพิงต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง
เขามองดูอยู่เฉยๆและปล่อยให้น้องพยายามต่อไปอีกซักพัก แต่ไม่ว่าจะทำยังไงร่างเล็กๆนั่นก็ไม่สามารถยืนขึ้นได้เลย แหงล่ะ... ก็ข้อเท้าบวมซะขนาดนั้น... จนกระทั่งความอดทนของฮันบินสิ้นสุดลง แขนแกร่งทั้งสองข้างจึงถูกยื่นออกมารวบตัวร่างเล็กเอาไว้พลางยกตัวขึ้นมาวางบนตักอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าจินฮวานดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขาตลอดเวลา แต่เขาก็ยังพยายามกอดน้องชายเอาไว้อย่างนั้น จนในที่สุดคนในอ้อมแขนก็เริ่มสงบลงได้เสียที... ขาเรียวเล็กทั้งสองข้างถูกพาดไปที่ต้นขาด้านขวาของเขา สายตาคมจ้องมองข้อเท้าที่บาดเจ็บนั่นก่อนจะเอื้อมมือไปแตะดูอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้ใบหน้าหวานซุกลงมาที่คอของพี่ชายเพราะความเจ็บปวด ฝ่ามือเล็กกำชายเสื้อของตนเองเอาไว้ขณะที่กำลังหลับตาแน่น
“พี่ขอโทษ...” เสียงทุ้มนั้นกระซิบแผ่วเบา แต่จินฮวานก็ยังได้ยินมันอย่างชัดเจน... “เรื่องนั้น... นายคงได้ยินแล้ว...”
“...” พลันหัวใจก็รู้สึกราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆอีกครั้งเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ยินมาเมื่อครู่นี้ “...ที่ไหน”
“หืม?”
“ตั้งสองปี... พี่ฮันบินจะไปเรียนต่อที่ไหน” ใบหน้าเล็กเงยขึ้นถามตรงๆขณะที่นัยน์ตาใสก็เริ่มสั่นระริก
“...อเมริกา”
พอได้ยินดังนั้นน้ำตาที่เก็บเอาไว้ตั้งนานก็ไหลรินออกมาทันที... อเมริกาอยู่ตั้งไกล... แถมยังกว้างอีกต่างหาก... แล้วอย่างนี้เวลาที่คิดถึงจะไปหาได้ยังไง...
“พี่ฮันบินโกหก...ฮึก”
“...”
“ไหนเคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งจินฮวานไง... พี่ฮันบินคนโกหก ฮืออออออ...” น้ำเสียงที่พยายามเปร่งออกมาแต่ละคำนั้นทำให้ฮันบินรู้สึกผิดเต็มๆ ยิ่งพอเห็นน้องร้องไห้หนัก ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขานี่มันแย่จริงๆ ใช่... เขาเคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งจินฮวานไปไหน เพราะว่ามันเป็นเรื่องตั้งแต่ตอนที่น้องยังเด็ก ฮันบินก็เลยไม่คิดว่าน้องจะยังจำได้
กำปั้นเล็กๆกำลังทุบลงมาบนแผงอกแกร่งขณะที่พยายามขืนตัวออกอีกครั้ง
“พี่...”
“ฮึก... พี่ฮันบินใจร้าย! จินฮวานไม่รักพี่ฮันบินแล้ว!!”
“!!!” ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางอก ...คำพูดที่ไม่คิดว่าจะยินจากปากของจินฮวาน วันนี้เขากลับได้ยินมันอย่างชัดเจน ไม่คิดเลยว่ามันจะส่งผลกับหัวใจของเขาได้รุนแรงถึงขนาดนี้... เขารู้สึกสับสนจนอยากให้สิ่งที่เพิ่งได้ยินนั้นเป็นแค่ความฝัน
แต่ร่างเล็กที่ยังคงดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาทำให้เขารู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในความเป็นจริง เมื่ออีกฝ่ายยิ่งดิ้น ฮันบินก็ยิ่งรวบเอวเล็กเข้ามากอดเอาไว้แน่น
“จินฮวาน!” อยู่ๆร่างสูงก็ตวาดเสียงดังจนคนตัวเล็กถึงกับชะงักไป ...ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักช้อนขึ้นมาสบตากับเขาอีกครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มพรั่งพรูคำพูดออกมา
“ปล่อย... ฮึก.. จินฮวานไม่อยากอยู่กับพี่ฮันบินแล้ว พี่ฮันบินใจร้าย พี่ฮันบินโกหก ฮึก... คนผิดสัญญา นิสัยไม่ดีเลย... ฮือออ...” ฝ่ามือเล็กยังคงพยายามดันตัวเองออกขณะที่พูดไปพร้อมๆกับการร้องไห้อย่างนั้น แต่ดูเหมือนไม่นานนักเจ้าตัวก็เริ่มจะหมดแรง ร่างเล็กหยุดทุบตีแล้วกำเสื้อยืดของเขาเอาไว้แน่น “...พี่ฮันบินไม่เคยรักจินฮวานเลยใช่มั้ย”
“พี่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้นายคิดแบบนั้นหรอกนะ แต่ก็ลองคิดดูเอาเองแล้วกัน... ถ้าพี่ไม่รักนาย พี่คงไม่มาอยู่กับนายที่นี่ตอนนี้หรอก” ร่างสูงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ฮันบินคิดว่าตัวเองคงทนฟังคำพูดของจินฮวานต่อไปได้อีกไม่นานนักหรอก แค่บอกว่าไม่รักเขาแล้วนั่นก็เจ็บเกินพอ แล้วนี่ยังมาพูดว่าเขาไม่รักอีก... งั้นที่ผ่านมามันคือะไรล่ะ? “ถ้าพี่ไม่รัก ไม่ห่วง... พี่จะคอยดูแล คอยอยู่ข้างๆนายมาตลอดได้ยังไง”
“แต่พี่ฮันบินก็รักแบบน้องชายใช่มั้ย...” คนตัวเล็กที่ก้มหน้านิ่งอยู่ในอ้อมกอดเม้มปากแน่น เพราะไม่แน่ใจว่านั่นเป็นสิ่งที่ตัวเองควรถามออกมาหรือเปล่า...
“...ใช่”
ยังไงคำตอบนั้นมันก็แน่นอนและชัดเจนอยู่แล้ว...
“พาผมกลับบ้านที... ผมเหนื่อย...”
“จินฮวาน...” ในเมื่อน้องยอมแล้ว เขาก็ควรจะลุกขึ้นแล้วอุ้มน้องกลับไปได้ซักที ...แต่ตอนนี้ฮันบินกลับรู้สึกว่าภายในใจของเขามันช่างหนักอึ้งซะเหลือเกิน ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ แต่แววตาและน้ำเสียงแข็งกร้าวที่เปลี่ยนไปนั่น มันกลับทำให้ฮันบินเริ่มกลัว... เขาคิดมาตลอดว่าการทำแบบนี้มันอาจจะดีกับพวกเขาทั้งคู่ โดยที่เขาก็ลืมคิดไปเลยว่าจินฮวานจะรู้สึกยังไง...
ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าเล็กเอาไว้ ฮันบินใช้นิ้วเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนแก้มใสให้ออกไปเบาๆ เมื่อเขาจ้องมองร่างเล็กในอ้อมแขน... อีกฝ่ายก็กำลังมองเขาตอบกลับมาเช่นกัน... เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ฮันบินเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาตัดสินใจทำอะไรลงไป... แต่เมื่อรู้ตัวอีกที ใบหน้าของเขาก็โน้มเข้าไปกดจูบลงบนริมฝีปากหยักนุ่มนั่นเสียแล้ว...
ความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นภายในใจของทั้งคู่มีเพียงความว่างเปล่า... เพราะไม่อยากจะรับรู้เรื่องถูกผิดอะไรอีกต่อไป ก็เลยได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามอย่างที่หัวใจต้องการ ...ดวงตาคู่เรียวเล็กนั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจในตอนแรกก่อนจะปิดลงไปพร้อมๆสัมผัสที่ตนได้รับ ขณะที่ฝ่ามือเล็กก็ทำได้เพียงคว้าคอเสื้อยืดของพี่ชายมากำเอาไว้แน่น
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอียงคอลงเล็กน้อยพลางค่อยๆขบเม้มเรียวปากนุ่มอย่างอ่อนโยน พอเริ่มส่งลิ้นร้อนกวาดต้อนเข้าไปในโพรงปากเล็ก เขาก็รู้สึกได้ถึงความหอมหวานที่เพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก แม้จะมีว่ารสเค็มปร่าของน้ำตาจะติดอยู่ที่ปลายลิ้นนั้นด้วยก็ตาม ...ยิ่งรุกเข้าไปมากขึ้นเท่าไหร่ ลิ้นเล็กก็ยิ่งถดถอยหนีราวกับเด็กไร้เดียงสาที่ไม่เคยมีประสบการณ์
แน่ล่ะ... ก็จินฮวานเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง
พอคิดได้ดังนั้น ฮันบินก็กดจูบย้ำๆลงไปอีกสองสามครั้งก่อนที่เขาจะตัดสินใจผละตัวออกมา
ครืนนนนนนนนนน
ดูเหมือนว่าคืนนี้ฝนคงจะตกอย่างที่แม่เขาบอกจริงๆ... เพราะตอนนี้เริ่มมีเสียงฟ้าร้อง แถมลมก็กำลังพัดแรงขึ้นด้วย ทางที่ดี... เขาควรรีบพาน้องออกไปจากที่นี่เสียที
ร่างสูงค่อยๆพยุงตัวน้องชายให้ลุกขึ้นยืนแล้วตัวเองก็หันหลังเพื่อให้น้องปีนขึ้นมาได้อย่างสะดวก ...ทั้งสองพากันออกจากป่ามาโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ และขณะที่กำลังมองเห็นตัวบ้านอยู่ไกลๆ ฝนก็เทสาดลงมาพอดี เรียวขายาวจึงเร่งก้าวให้ไวขึ้น
ที่ประตู... แม่ของเขายืนรออยู่แล้ว ข้างๆกันนั้นคือฮันบยอลที่คอยชะเง้อคอมองอย่างเป็นห่วง ฮันบินส่งตัวน้องชายที่เปียกโชกอยู่บนหลังให้กับแม่ โดยที่แม่เองก็ไม่ได้ปริปากถามอะไรเขาซักคำ ทั้งยังช่วยพยุงจินฮวานเข้าไปในบ้าน ช่วยทำแผล พาอาบน้ำ และเข้านอน
ซึ่งสุดท้ายแล้ว... เรื่องที่เกิดขึ้นในป่านั้นก็กลายเป็นสิ่งที่เข้ามารบกวนจิตใจของฮันบินตลอดทั้งคืน เพราะว่าเขายังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้องซักที ก็เลยได้แต่ปล่อยให้มันค้างคาต่อไป
แต่ดูเหมือนว่าเขาคงจะปล่อยเอาไว้นานเกินไปซะแล้ว ในเมื่อวันพรุ่งนี้เป็นวันเดินทาง แต่เขากลับยังไม่ได้เจอกับจินฮวานเลยนับตั้งแต่กลับมาจากแคมป์ครั้งนั้น
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮันบินมัวแต่วุ่นอยู่กับการจัดเอกสารเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อ ไหนจะต้องเคลียร์งานที่ค้างเอาไว้ก่อนไปอีก กว่าจะทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็วันนี้นี่แหละ
จริงๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปคุยกับจินฮวานตั้งแต่วันที่กลับมาแล้ว แต่เพราะเห็นว่าน้องดูเหนื่อยๆ แถมมารู้ทีหลังว่าเจ้าตัวไข้กลับเพราะดันเล่นน้ำและยังตากฝนในคืนนั้นด้วย... เลยสรุปได้ง่ายๆว่าเขาต้องทำงาน ส่วนจินฮวานก็ป่วย สุดท้ายจึงไม่มีโอกาสได้เจอกันซักที
และท่าทางวันนี้ก็อาจจะไม่ได้เจอกันด้วย...
‘จินฮวานเพิ่งออกไปบ้านฮันบินเมื่อกี้นี้เองนะจ้ะ’
นั่นคือคำตอบที่เขาได้รับหลังจากแวะไปหาจินฮวานมาเมื่อครู่นี้ จริงๆจะบอกว่าสวนทางกันมันก็ออกจะแปลกไปหน่อย เพราะว่าเขาก็เพิ่งเดินมาจากทางเดียวกัน แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าตัวเล็กเลยซักนิด
ดังนั้นแทนที่ฮันบินจะตรงดิ่งกลับบ้าน เขาจึงเลือกเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามเด็กเล่นซึ่งเป็นสถานที่คิดว่าน้องชายน่าจะอยู่
ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลย...
ร่างเล็กๆที่ฮันบินคุ้นเคยเป็นอย่างดีกำลังนั่งไกวเท้าอยู่บนชิงช้า และทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าหวานก็เงยขึ้นมาสบตากับเขาอย่างจังก่อนจะผงะไปชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าชิงช้าที่ข้างๆยังคงว่างอยู่ ฮันบินจึงทิ้งตัวลงไปนั่งพลางโยกตัวไปมาเล็กน้อย
ระหว่างพวกเขามีเพียงความเงียบเท่านั้น นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ทั้งสองคนแกว่งชิงช้าไปมาโดยไม่พูดอะไรกันเลย ...แต่ในที่สุด คนเป็นพี่ก็ตัดสินใจเริ่มบทสนทนานั้นก่อน
“พรุ่งนี้พี่จะไปแล้วนะ...” เป็นการเริ่มต้นที่ไม่สวยเลยจริงๆ
“...รู้แล้วครับ”
“งั้นหรอ...” คราวนี้ฮันบินคิดว่าอีกฝ่ายคงรู้มาจากฮันบยอลอย่างแน่นอน
“...ไม่ไปส่งนะ”
“ทำไมล่ะ”
“ส่งที่ไหนพี่ฮันบินก็ต้องไปอยู่ดี... งั้นลาตรงนี้เลยไม่ได้หรอครับ”
ความจริงแล้วจินฮวานก็แค่ไม่อยากไปร้องไห้กลางสนามบินเท่านั้นเอง... แค่คิดว่าจะต้องเห็นแผ่นหลังกว้างของพี่ชายเดินจากไป... มันก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
“อืม... มันก็ได้อยู่หรอก”
คราวนี้ความเงียบเริ่มกลับเข้ามาครอบคลุมพื้นที่บริเวณนั้นอีกครั้ง ก่อนที่ฮันบินจะสังเกตเห็นเด็กเล็กๆแถวนั้นกำลังวิ่งเล่นตำรวจจับคนร้ายผ่านไป ...มองอย่างนั้นแล้วก็นึกถึงภาพในอดีตขึ้นมาทันที วันที่เขาได้เล่นสนุกกับน้องๆ วันที่เขาได้วิ่งไล่จับจินฮวานกับฮันบยอลไปทั่วบ้าน มันเป็นความทรงจำที่อยู่ในหัวของเขามาตลอด
ไม่สิ... มันอยู่ในหัวใจต่างหาก...
“พี่ฮันบิน...”
“ว่าไง”
“วันนั้นพี่ฮันบินจูบจินฮวานทำไม”
“...” นั่นสินะ... ทีแรกเขาก็กะจะมาคุยเรื่องนี้แหละ แต่ไปๆมาๆก็ดันเงียบซะจนน้องต้องเป็นฝ่ายถามขึ้นมาซะเอง แล้วยังไงต่อล่ะ? จนถึงตอนนี้ฮันบินเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะตอบคำถามนั้นได้หรือเปล่า “แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ”
“ไม่รู้...”
“นี่ฟังนะจินฮวาน... ความรู้สึกที่นายมีให้กับพี่น่ะ... ความจริงมันก็ไม่ต่างจากที่พี่รู้สึกกับนายหรอก...”
“...” นัยน์ตาใสจ้องมองกลับมายังร่างสูงด้วยความไหวหวั่น... ก็ในเมื่อรู้สึกเหมือนกันแล้วทำไมที่ผ่านมาพี่ฮันบินต้องตีตัวออกห่างเขาอยู่ตลอด
“พี่รักนายนะจินฮวาน... แต่พี่ก็ไม่อยากทำร้ายนายด้วยความเห็นแก่ตัวของพี่เอง พี่เลยอยากให้เราหยุดทุกอย่างซะตั้งแต่ตอนนี้... ก่อนที่มันจะ-…”
“ไม่เห็นเข้าใจเลย...” ในเมื่อพี่ฮันบินยังพูดแบบนี้แล้วตกลงว่าตอนนั้นจะมาจูบเขาเพื่ออะไรกัน
“บางทีตอนนี้นายอาจจะยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจ”
“หมายความว่าถ้าจินฮวานโตขึ้นมากๆกว่านี้ พี่ฮันบินถึงจะยอมรับใช่มั้ย...”
“คืออันที่จริง มันก็...”
“ตกลงนะ” ร่างเล็กลุกพรวดขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแทบจะในทันที “จินฮวานจะรีบๆโต พี่ฮันบินรอจินฮวานด้วยนะ”
นิ้วก้อยเล็กๆถูกยื่นออกมาด้านหน้า ดวงตาคมของฮันบินมองมันอยู่อย่างนั้นซักพักก่อนที่เขาจะตัดสินใจยื่นนิ้วของตนเข้าไปเกี่ยวพร้อมกับประทับตราเอาไว้ด้วย “เอ่อ... ก็ได้ แต่ระหว่างสองปีที่พี่ไม่อยู่... นายลองกลับไปคิดทบทวนดูให้ดีๆแล้วกันนะ พอพี่กลับมาอีกที นายอาจจะลืมพี่ไปแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้...”
“ไม่มีทางหรอก จินฮวานจะลืมพี่ฮันบินได้ไง”
“ก็...นะ”
ฮันบินยิ้มให้น้องเล็กน้อยพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดูเหมือนว่าวันนี้จินฮวานจะไม่ได้ปั่นจักรยานมาด้วย ฮันบินจึงอาสาจะเดินไปส่งที่บ้าน ซึ่งจินฮวานก็พยักหน้าตอบรับเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นมาจับกุมมือของเขาเอาไว้แน่น
“พี่ฮันบิน”
“...”
“...”
“มีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่าหรอกครับ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาสบตาก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆให้กับเขาหนึ่งที “แค่จะบอกว่า... เดินทางปลอดภัยนะครับ”
นั่นเป็นคำอวยพรที่ดีที่สุดสำหรับเขาเลยทีเดียว...
แต่ฮันบินไม่รู้และไม่เคยเอะใจมาก่อนเลยว่าหลังจากวันนั้น... เขาจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่แสนน่ารักนั่นไปอีกหลายปี...
...6 ปีผ่านไป...
เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนที่คนเราทำแต่งานจนไม่ลืมหูลืมตา... ใช่แล้ว... ฮันบินกำลังรู้สึกอย่างนั้นเลย...
ถ้าหากจะถามเขาว่าเพราะอะไร ฮันบินก็อาจจะหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เช่นกัน... บางทีการที่เขาเอาแต่โหมงานหนักขนาดนี้ก็เพื่อที่จะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้ฟุ้งซ่านล่ะมั้ง นั่นคงรวมถึง... การคิดถึงใครบางคนด้วย
และการที่ชายหนุ่มโสดมาได้ 32 ปีแบบนี้มันไม่น่าเกิดขึ้นได้เลย ความจริงเขาควรเริ่มต้นสร้างครอบครัวได้แล้ว เพราะงานการที่ทำอยู่นี่ก็มั่นคงซะจนหลายๆคนต่างพากันอิจฉา แน่ล่ะว่าการประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังเป็นหนุ่มหน้าตาดี ทำให้ฮันบินมีสาวๆคอยเข้ามาคุยด้วยอยู่ตลอดเวลา
แต่เขาก็ไม่สนใจ...
บางทีอาจเป็นเพราะฮันบินมีใครอยู่ภายในใจแล้วก็ได้... ใครคนนั้นที่บอกให้ฮันบินรอ... แต่กลับหายตัวไปซะดื้อๆตั้งหลายปี
หลังจากกลับมาจากอเมริกา... คนๆแรกที่ฮันบินนึกถึงนอกจากครอบครัวก็คือคิมจินฮวาน... เด็กชายตัวเล็กที่คอยตามเขาต้อยๆเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ใครจะไปคิดว่าเขาต้องกลับมาพบกับความว่างเปล่าที่เจ้าตัวทิ้งเอาไว้ให้อย่างนี้...
‘จินฮวานเอ่อ... ย้ายไปอยู่กับคุณพ่อแล้วค่ะ พอพี่ฮันบินไปปุ๊ป จินฮวานก็ไปเหมือนกัน... หนูนึกว่าจินฮวานจะบอกแล้วซะอีก แหะๆ’
นั่นเป็นคำบอกเล่าคร่าวๆจากน้องสาวสุดที่รัก ที่คอยช่วยเพื่อนปกปิดที่อยู่มาโดยตลอด... เหอะ ทีตัวเองจะไปทำไมถึงไม่ยอมบอกกันบ้างนะ... แต่เท่าที่ฮันบินรู้มา ดูเหมือนว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของจินฮวานจะคืนดีกันแล้ว ครอบครัวนั้นก็เลยย้ายกลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเคย นั่นเป็นช่วงก่อนที่ฮันบินจะไปอเมริกาพอดี...
แล้ววันนั้นที่คุยกัน... ทำไมจินฮวานถึงได้เอาแต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้ล่ะ... แถมยังไม่ยอมติดต่อกับเขาเลยซักครั้ง แต่ดันติดต่อกับฮันบยอลและนัมแทฮยอนไอ้เด็กข้างบ้านนั่นอยู่ตลอด ฮันบินจำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึงที่เขากดรับโทรศัพท์แทนน้องสาว และหลังจากนั้นปลายสายก็เงียบไป ถ้าเดาไม่ผิด... ฮันบินคิดว่าคงเป็นน้องชายตัวดีนั่นแหละ
พอคิดจะแอบไปขโมยเบอร์ ก็ดันถูกฮันบยอลลบทิ้งไปซะก่อนเพราะรู้ทัน
มีอีกครั้งที่จดหมายชื่อแปลกส่งมาถึงที่บ้านพร้อมจ่าหน้าซองถึงฮันบยอล... แค่ดูเผินๆก็รู้ว่าเป็นของจินฮวานแน่นอน ต้นทางนั้นมาจากเกาะเชจู... ทีนี้เขาก็เลยรู้ว่าน้องแอบไปหลบอยู่ที่ไหน ถ้าจะให้ตามไปหาซะเดี๋ยวนั้นฮันบินก็ทำได้ เพียงแต่เขาเพิ่งจะรู้สึก... บางทีการที่จินฮวานทำแบบนี้อาจมีเหตุผลอะไรบางอย่าง...
จินฮวานอาจจะไม่อยากเจอหน้าเขาล่ะมั้ง... ถ้าน้องอยากเจอเขา เดี๋ยวก็คงกลับมาเอง...
ฝ่ามือหนาจัดการหักพวกมาลัยรถเพื่อเลี้ยวเข้าซอยอย่างเคยชิน... ถึงนานๆทีจะกลับมาที่นี่บ้าง แต่ใครจะลืมทางกลับบ้านของตัวเองได้กันล่ะ?
สามปีก่อนฮันบินซื้อคอนโดเอาไว้หนึ่งห้องใกล้ๆกับที่ทำงาน เพราะว่ามันสะดวกกว่าเดินทางไปกลับจากที่บ้าน ดังนั้นเขาจึงมักจะได้กลับมาบ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือถ้าช่วงไหนงานหนักก็อาจจะไม่ได้กลับเลย
และวันนี้ก็เป็นวันหยุด แถมแม่ยังโทรมาเซ้าซี้ว่าถึงยังไงเขาก็ต้องกลับมาให้ได้เพราะหายตัวนานเกินไปแล้ว เพราะงั้นลูกชายที่ดีอย่างเขาจึงรีบบึ่งรถกลับมานี่ยังไงล่ะ
พอเลี้ยวอีกทีซอยหน้าก็ถึงพอดี...
เขาคิดว่าตัวเองไม่น่าจะมาบ้านผิดหลังนะ... แต่ไหงถึงได้เห็นคนแปลกหน้ามายืนด้อมๆมองๆอยู่ที่หน้าบ้านอย่างนั้นล่ะ ใส่ชุดนักเรียนม.ปลายอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนฮันบยอลน่ะ!!
ดูเหมือนอาการหวงน้องจะกำดริบขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทางของเด็กหนุ่มคนนั้นดูมีพิรุธจนฮันบินต้องรีบจอดรถแถวๆหน้าบ้านก่อนจะลงไปสำรวจทันที
“นี่นาย...” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยเรียกให้อีกฝ่ายต้องหันกลับมามองด้วยสีหน้าที่ตกใจสุดชีด
เจ้าของใบหน้าหวานซีดลงทันที ดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นมองตรงมาที่เขาพร้อมกับเบิกกว้าง อย่าว่าแต่เด็กคนนี้เลย... ฮันบินเองก็ตกใจไม่แพ้กัน... ร่างกายที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานซักแค่ไหนก็ยังคงดูเล็กในสายตาของเขาอยู่เสมอ ยิ่งเห็นจุดสีดำเล็กๆบนข้างแก้มนั่นก็ช่วยยืนยันกับเขาได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ได้กำลังเข้าใจผิดไป
“พ..พี่ฮันบิน”
“จินฮวาน...”
--------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุด... ในที่สุดน้องก็โตแย๊ววววววว TwwwwwT
หลังจากนี้ฟิคเรื่องนี้จะยังคงใสใสตามคอนเซ็ปมั้ยเนี่ย 55555555
คือแค่ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกไม่ใสละเบาๆ... เอาน่า!! ยังไงเราก็ต้องคงคอนเซ็ปเดิมต่อไปให้ได้(หรอ) 55555
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะที่ติดตามและคอมเมนต์ให้กันตลอด >///<
ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าเหลือกี่ตอนถึงจะจบ แต่คิดว่าคงอีกไม่นานเท่าไหร่แล้วค่ะ
ไม่ค่อยได้อัพถี่เหมือนเดิม ต้องขอโทษจริงๆ แต่ก็จะพยายามมาเรื่อยๆ ไม่หายไปไหน
สุดท้ายนี้... เลิ้บทุกคนเล๊ย~ *ปาหัวใจรัวๆ* <3 #ฟิคฮันบินกินเด็ก
ความคิดเห็น