คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF] Touchy ♬ BJin
[SF] Touchy
[Couple] BJin
บรรยากาศที่กำลังมาคุๆอยู่นี่มันคืออะไร...
เช้าวันนี้หลังจากที่ผมตื่นนอนและกำลังเดินโซเซๆมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยความงัวเงีย ฮันบินก็เปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินออกมาพอดี ผมหาววอดๆหนึ่งทีก่อนจะทักทายร่างสูงตรงหน้า
“อรุณสวัสดิ์”
ไร้เสียงตอบรับใดๆ... ผมจึงได้แต่ยกมือขึ้นมาขยี้ตาเบาๆแล้วปล่อยให้เขาเดินกลับเข้าห้องนอนไปทั้งอย่างนั้น
ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะปกติฮันบินก็ชอบทำหน้านิ่งๆจนน่ากลัวอยู่แล้ว แต่มันดูแปลกไปจากทุกครั้งก็ตรงที่เขายังคงทำหน้าหงิกงออยู่จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนบ่าย ลองได้เป็นแบบนี้แสดงกว่ากำลังไม่พอใจอะไรซักอย่างมากๆแน่
ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่ 25 ธันวาคม... วันคริสต์มาสเชียวนะ!! บรรยากาศภายในหอพักของพวกเราควรจะครื้นเครงกว่านี้ไม่ใช่หรอ? แต่นี่มันอะไรกัน... ทั้งยุนฮยอง จุนฮเว รวมไปถึงดงฮยอกต่างก็พากันกลัวรังสีอำมหิตจากลีดเดอร์ของเราจนไม่กล้าส่งเสียงเอะอะโวยวาย
อย่าว่าแต่พวกนั้นเลยครับ... ผมกับบาบิเองก็ปิดปากเงียบกริบเหมือนกันอะตอนนี้ =___________=
และในขณะที่ฮันบินกำลังหมกตัวอยู่ในห้องนอน พวกเราก็เลยรีบจัดประชุมลับกันอย่างเร่งด่วน ก่อนที่เจ้าของหัวข้อประชุมจะเดินออกมาแล้วทำให้อะไรๆมันแย่ลงไปมากกว่าเดิม
“ฮยอง เมื่อคืนนี้ฮยองออกไปดินเนอร์กับฮันบินมาไม่ใช่หรอ?” ร่างสูงเจ้าของฟันกระต่ายเริ่มบทสนทนาเป็นคนแรก
ใช่แล้วครับ เมื่อคืนนี้คริสต์มาสอีฟ ผมกับฮันบินก็เลยพากันออกไปหาอะไรกินข้างนอกตามประสาคนเป็นแฟนกัน อ่า...เรื่องนี้สมาชิกทุกคนต่างก็รู้ดี แต่ขอเหอะ...ทำไมต้องมุ่งประเด็นนี้มาที่ผมด้วยล่ะ!?
“อืม ก..ก็แค่ไปร้านอาหารเอง ไม่เห็นมีอะไรซักหน่อย”
“ฮยองแน่ใจนะว่าตอนที่ไปด้วยกัน ฮันบินฮยองยังอารมณ์ปกติอยู่” พอจุนฮเวถามออกมาอย่างนั้นผมก็เลยนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
คือมันก็ปกตินะ... พวกเราแค่เข้าไปนั่งในร้านอาหารอิตาเลี่ยน ช่วยกันเลือกเมนูที่ชอบแล้วสั่งมาก่อนจะนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากนั้นผมกับฮันบินก็เดินทางกลับหอมาด้วยกัน...จบ
“แน่ใจดิ...” มั้ง...
“หรือว่าฮยองแอบลืมวันสำคัญอะไรป่ะ นึกดิ๊นึก” ผมหันไปมองทางยุนฮยองที่กำลังเร่งเร้าให้ผมใช้ความคิด
แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงผมก็คิดไม่ออก ทั้งวันเกิดเอย วันครบรอบเอย วันสำคัญพวกนั้นมันไม่ได้ใกล้เคียงช่วงนี้เลยนี้นะ
“ก็ไม่ได้ลืมนะ...”
“อ่า...” ผมเห็นดงฮยอกถอนหายใจออกมาด้วยความสิ้นหวัง
โธ่! ก็คนมันไม่ได้ลืมจริงๆนี่หว่า หรือว่าจะแอบลืมวะ?... =”=
แกร๊ก...
อยู่ๆเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พวกเราสบตากันด้วยความตกใจ และหลังจากนั้นกลุ่มประชุมลับๆของสมาชิกทั้งห้าก็สลายตัวไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้นัดหมาย...
“ผมกับจุนฮเวเพิ่งนึกได้ว่าจะไปซื้อของข้างนอก ไปก่อนนะครับ!” ดงฮยอกพูดอย่างเสียงดังฟังชัดพลางลากร่างหนาของจุนฮเวติดมือไปด้วย ทิ้งให้ผมกับบาบิและยุนฮยองยืมมองตาปริบๆ
โชคดีที่ฮันบินคงไม่ได้สนใจว่าพวกนั้นจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็เลยเดินหน้ามุ่ยไปเข้าห้องน้ำโดยฝากฝังบรรยากาศมาคุไปตลอดทาง...
“หรือมันจะหิววะ?” บาบิเสนอเรื่องของกินขึ้นมาผมก็เลยนึกได้ว่าตั้งแต่เช้าฮันบินยังไม่ได้กินอะไรเลย
ระหว่างนั้นพวกเราก็ย้ายไปที่ครัวเพื่อมองหาอาหารที่ที่ฮันบินน่าจะชอบ เผื่อกินๆเข้าไปแล้วจะช่วยให้อารมณ์มันจะดีขึ้นบ้าง ซักนิดก็ยังดี...
“ฮันบิน!” ผมรีบส่งเสียงเรียกทันที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ “ยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรอ มากินนี่ด้วยกันสิ”
ผมพยายามพรีเซนต์อาหารบนโต๊ะเต็มที่พร้อมกับโปรยยิ้มที่สุดแสนจะมีเสน่ห์ไปให้เขาด้วย กะว่ายังไงก็ต้องอยู่หมัดแน่ๆอะ... แหวะ!! นี่ทำไมผมต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วยวะ...
เอาเถอะ เพื่ออารมณ์ที่ดีขึ้นของลีดเดอร์... ผมยอม
“ไม่เป็นไร ผมยังไม่หิว”
ง่ะ... รู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ขอผ้าเช็ดหน้ามากัดซักผืนนึงได้มั้ยครับ T^T
“เฮ้ย ไม่หิวยังไงก็กินบ้างเหอะ เอานี่ไปกินหน่อยก็ยังดี...” แขนของบาบิยื่นออกไปพร้อมๆกับนมในมือหนึ่งกล่อง แม่งแอบไปหยิบมาตอนไหนวะ
แต่เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ! ประเด็นคือฮันบินตอบรับด้วยการยื่นมือมาหยิบมันไปด้วยน่ะสิ!! เขามองนมกล่องนั้นซักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มเล็กน้อย...
“ขอบใจ...”
อะไรวะ!? ทีผมเรียกกินข้าวล่ะไม่กิน แต่ไอ้บาบินี่แค่ยื่นนมกล่องเดียวให้ถึงกับยิ้มละมุนละไม ถึงจะอารมณ์ไม่ดีแค่ไหน แต่ทำแบบนี้กับผมก็เกินไปหน่อยนะ จินฮวานจะไม่ทนนนนนนนนนนนนน T^T
ผมทำได้เพียงต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอยู่ภายในใจขณะที่มองฮันบินเดินกลับเข้าไปในห้อง... บางที... เขาอาจจะไม่หิวจริงๆก็ได้มั้ง ;_;
“ใช่แน่ๆอะ...” ยุนฮยองที่ตอนแรกนั่งอยู่บนเก้าอี้ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆผม “ผมว่าฮันบินคงโกรธฮยองอยู่ชัวร์ ถึงได้ทำเมินกันซะขนาดนั้น”
“แล้วโกรธเรื่องอะไรอะ...”
“ผมจะไปรู้กับฮยองเร๊อะ”
“เอาเป็นว่าฮยองรีบไปเคลียร์เหอะ เดี๋ยวผมกับยุนฮยองช่วยหลีกทางให้แล้วกัน” ทำไมถึงได้สรุปง่ายๆอย่างนี้วะครับไอ้เด็กกระต่าย “ไปเดินห้างกันซักพักมะ?”
ประโยคหลังนั่นเจ้าตัวหันไปคุยกับยุนฮยอง แล้วยุนฮยองก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นดีเห็นงามด้วย นี่กะจะไม่ถามความเห็นผมซักคำเลยใช่มั้ย... แล้วเกิดว่าจริงๆฮันบินอารมณ์เสียเรื่องอื่นล่ะจะว่าไง? แน่นอนว่าน้องรักทั้งสองคนไม่รอให้ให้ผมได้ท้วงอะไร พวกเขาพากันเดินออกไปจากหอโดยทิ้งผมไว้ข้างหลังเพียงลำพัง... ไม่สิ... ผมอยู่กับฮันบินนี่หว่า...
เดินวนไปวนมาอยู่หน้าประตูห้องนอนพักใหญ่ๆ ทำยังไงก็ไม่กล้าเข้าไปซักที สุดท้ายก็เลยสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความมั่นใจก่อนจะ...
แกร๊ก... เอาล่ะ ตอนนี้ผมย่างก้าวเข้ามาในห้องอันเต็มไปด้วยบรรยากาศมาคุเป็นที่เรียบร้อย...
ร่างสูงที่นอนเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่บนเตียงเหลือบตามองผมเล็กน้อยและหันไปสนใจกิจกรรมของตัวเองต่อ ดูอะไรอยู่วะ?... ด้วยความสงสัยผมจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วทิ้งตังนั่งลงบนเตียง บนหน้าจอตอนนี้กำลังฉายคลิปเต้นคลิปการแสดงต่างๆที่ฮันบินชอบดูไว้เพื่อศึกษา ซึ่งก็ไม่ค่อยน่าแปลกอะไรเท่าไหร่...
แต่ไอ้ความเงียบแผ่กระจายทั่วห้องนี่แหละครับที่ทำให้มันแปลก...
ขนาดผมมานั่งอยู่ข้างๆตรงนี้แล้วเขาก็ยังไม่สนใจที่จะหันมาชวนผมคุยซักนิด ดังนั้นผมว่าผมควรเป็นฝ่ายชวนเขาคุยก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังทำหน้าตาเหมือนไม่อยากเสวนากับใครตอนนี้ก็เถอะ
อ้าว แล้วจะคุยอะไรดีล่ะ... = =”
“ฮันบินอ่า...ร้านอาหารที่นายพาฮยองไปกินด้วยกันเมื่อวานอร่อยมากเลย ขอบใจนะ”
“ครับ”
สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ... แถมยังทำหน้าหงิกกว่าเดิมอีก!! สรุปว่าเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวอารมณ์เสียมันเกิดขึ้นที่ร้านนั้นจริงๆเร๊อะ!!!
ผ...ผมทำอะไรผิด…
“อ่า... แป้งพิซซ่าโคตรจะเหนียวนุ่ม กัดทีนี่อย่างฟินเลย แถมสปาเก็ตตี้ก็อร่อยมากๆ” ในเมื่อผมยังนึกไม่ออกว่าผมไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ ผมก็เลยสาธยายเมนูอาหารเท่าที่พอจะนึกได้ออกมาพลางนั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ไปด้วย “ไว้คราวหน้าไปกินด้วยกันอีกนะ..”
“ฮยองไปกินกับคนอื่นเถอะ”
ตึง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
นี่ถึงกับไล่ให้ไปกับคนอื่นเลยหรอ จะโหดร้ายเกินไปแล้วววววววว เดี๋ยวนะ... คนอื่น... เมื่อวานนี้ที่ผมตอนมองออกมานอกกระจกร้าน ผมเห็นผู้หญิงในชุดแซนตี้สุดน่ารักก็เลยแอบเผลอมองไปซะนานเลยนี่หว่า... นี่คงไม่ใช่ว่า...
โห่ไรวะเรื่องแค่เนี้ย ผมอยากมองของสวยๆงามๆบ้างมันผิดตรงไหน ยังไงผมก็เป็นผู้ชายนะ มันก็ต้อง...มีบ้าง
“ไม่เอาหรอก ฮยองอยากไปกับนายแค่คนเดียว...” ไม่ว่ายังไงก็เอาใจแม่งไว้ก่อนครับดีที่สุด
“...”
แต่ฮันบินก็เงียบไปอีกละ เหมือนผมกำลังพูดอยู่คนเดียวเลยว่ะ...
ผมแอบจิกทึ้งหัวตัวเองเบาๆพลางตวัดสายตาไปมองร่างสูงที่ยังคงนอนเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่ข้างๆ นี่ตกลงจะไม่ยอมหายง่ายๆใช่มะ? หรือว่าจริงๆแล้วเขาโกรธเรื่องอื่น... เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นอีกรึเปล่านะ? ผมจำได้ลางๆว่าเขาพูดถึงเรื่องสิ่งที่อยากทำตอนปีใหม่ด้วย แต่ตอนนั้นผมกำลังตั้งหน้าตั้งตาโซ้ยซุปเห็ดอยู่ก็เลยไม่ได้พูดคุยกับเขา บางทีเขาอาจจะคิดว่าผมไม่ตั้งใจฟังป่าว?...
“นี่ ฮันบิน...” ผมสะกิดเรียกเขาเบาๆ “ที่นายบอกว่าจะอาบน้ำข้ามปีน่ะ ไว้เราอาบพร้อมกันนะ”
ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมจำเรื่องที่เขาพูดได้... และที่ผมพูดออกไปอย่างนั้นก็เพื่อให้เขารู้ว่าจริงๆแล้วผมก็ตั้งใจฟังอยู่นะ
“จริงหรอ?” เขาหันหน้ามาถามผมด้วยความสนใจ โห่ยยยยยยยย อย่างนี้สิค่อยชื้นใจขึ้นมาหน่อย
“อื้มๆ” ผมรีบยิ้มแล้วพยักหน้ารัวๆ
แต่เขาก็ทำให้ผมดีใจได้ไม่นานหรอกครับ... เพราะหลังจากนั้นฮันบินก็หันไปสนใจคลิปบนหน้าจอและทำหน้าบูดบึ้งเหมือนเดิม
น...นี่ยังมีเรื่องอื่นอีกหรอวะ?... เมื่อวานผมก็ไม่ก่อวีรกรรมอะไรไว้เยอะขนาดนั้นอะ... ถ้าไม่นับอีกเรื่องที่ผมชิงกินสปาเก็ตตี้ก่อนเขา ผมว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจแล้วนะ
อืม... หรือว่าเขาจะไม่ได้โกรธผมจริงๆ? แต่ถ้าไม่ได้โกรธผมแล้วทำไมต้องทำหน้าเหมือนปวดขี้ขนาดนั้นใส่ผมด้วยหละครับ?
=____________=
ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้วจึงได้แต่ถอนหายใจออกมา ผมควรจะง้อเขารึเปล่านะ? แต่จะให้ง้อเรื่องอะไรล่ะ... ในเมื่อผมยังไม่รู้ความผิดของตัวเองเลยด้วยซ้ำ... เฮ้อ เอาก็เอาวะ
“ฮยองไม่รู้ว่านายกำลังโกรธหรือไม่พอใจฮยองเรื่องอะไรหรอกนะ แต่เรามาคุยกันดีๆเถอะ” หลังจากที่ผมพูดออกไปอย่างนั้น เขาก็เงยหน้าแล้วพลิกตัวขึ้นมามองผมทันที ใบหน้าหล่อกำลังขมวดคิ้วจนหน่ากลัวว่ามันจะชนกันอยู่แล้ว “ฮยองขอโทษที่แอบมองผู้หญิง ฮยองไม่ได้ตั้งใจ และต่อไปนี้ถ้านายพูดอะไรฮยองจะตั้งใจฟังอย่างดี”
“ฮยองพูดเรื่องอะไรอยู่?”
“อ้าว...ก็...” สงสัยจะไม่ใช่เพราะผมจริงๆว่ะ เปลี่ยนเรื่องด่วนๆๆๆๆๆ “ป..เปล่าไม่มีอะไร”
“มาแล้ว!!” ฮันบินตะโกนแล้วโยนตัวขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว
“ห...ห๊ะ? อะไรมา?”
“ข้าศึก!!” ว่าพลางลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งออกไปนอกห้องทันที... ข..ข้าศึก?
อะไรของมันวะ บทอารมณ์จะเปลี่ยนนี่ก็เปลี่ยนง่ายๆ นี่ผมชักจะตามไม่ทันแล้วนะ T^T
ผมเดินตามเขาออกมาจากห้องนอนแต่ไม่เห็นฮันบินแล้ว สงสัยจะเข้าห้องน้ำอยู่ ผมก็เลยเดินไปนั่งรอเขาที่โซฟาแทน จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้ซักพัก ร่างสูงก็เปิดประตูห้องน้ำออกก่อนจะเดินตรงมานั่งแผ่อยู่ข้างๆผม
“ค่อยยังชั่วหน่อย” เขาพูดแล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม น..นี่คือารมณ์ดีแล้วใช่ป่ะ?
“ทำไมหรอ?”
“ก็ผมทนปวดท้องมาทั้งวัน กว่าจะอึออกเนี่ย ต้องขอบคุณนมที่บาบิฮยองให้มาซะแล้ว” เอ่อ...สรุปที่ทำท่าอารมณ์เสียงทั้งวันที่เพราะปวดท้องผูกเร๊อะ!!?
“...” พูดไม่ออกเลยครับ แล้วไอ้ที่ผมนั่งกังวลมาทั้งหมดนั่นเพื่อใคร…
“เฮ้อ..ต้องเป็นเพราะร้านเมื่อวานนี้แน่ๆเลย ผมจะไม่ไปที่นั่นอีกแล้ว” แม่งเกี่ยวกันตรงไหนวะ
“ที่บอกให้ไปกับคนอื่-…” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ..ที่แท้ก็โมโหร้านนั้นนี่เอง นี่แม่งไม่ได้เกี่ยวกับผมเลยซักนิดนี่หว่า ;_;
“อะไรนะครับ?”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
“แล้วเมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องฮยองพูดถึงเรื่องอะไรครับ.. แอบมองผู้หญิงหรอ แอบมองตอนไหน” สายตาที่จ้องจับผิดมาทางผมนั่นมันคืออะไร ชิบหายละ.. นี่ผมแอบเผยไต๋ไปโดยไม่รู้ตัวสินะ
“เฮ้ย หูฝาดป่าววววว”
“อย่าให้ผมจับได้ก็แล้วกัน...” ดูๆ มีการข่มขู่กันอีกแน่ะ นี่ผมเป็นพี่ใหญ่นะเว้ย! “มองผู้หญิงผมไม่ว่าหรอก แต่อย่ามองผู้ชายคนอื่นนอกจากผมก็แล้วกัน”
“...” เอาแล้วไง นี่มันใช่เวลามาทำเป็นเขินมั้ย -/////////-
“แต่ก็มีอยู่อย่างนะที่ผมจำได้ว่าฮยองเพิ่งพูด” เรื่องอะไรวะ? เมื่อกี้ผมฝอยไปตั้งเยอะ “ฮยองสัญญาแล้วว่าจะอาบน้ำกับผมข้ามปีน่ะ”
“...” !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
รู้สึกเหมือนพลาดอย่างแรง นอกจากจะเผยไต๋ออกไปแล้วยังพลาดท่าเสียทีอีก!!
“ว่าไงครับ ฮยองสัญญาแล้วนะ”
“เออ รู้แล้วน่า!”
ยอมๆแม่งไปเหอะครับ ไม่ยอมแฟนแล้วจะยอมใครได้ล่ะ อย่างน้อยตอนนี้ฮันบินก็น่าจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ..ค่อยยังชั่วหน่อย ไปโทรตามเด็กๆกลับหอกันเถอะครับ ^O^
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นเรื่องสั้นที่สั้นจริงๆ TwT
ตอนแรกจะแต่งสเปเชียลคริสต์มาสไรงี๊บ้าง แต่ไม่ทันเลยออกมาหลังคริสต์มาสแทน 555555
แอบคิดพล็อตมักเน่ไลน์ได้เรื่องนึงด้วย แต่มันช่างไม่เข้ากับคอนเซ็ปสดใสๆของ Lucky Day เล๊ย -..-
เอาเป็นว่าถ้าเสร็จเมื่อไหร่จะลองเอามาลงนะคะ ยังไงก็ฝากติชมสำหรับเรื่องสั้น(มาก)เรื่องนี้ด้วย ขอบคุณค่ะ ><
ความคิดเห็น