คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [OS] Heartbeat II ♬ BobJin (END)
[OS] Heartbeat II
[Couple] BobJin
คงจะดีกว่านี้ถ้าผมสามารถเข้าไปอยู่ใกล้ๆเขาได้โดยที่หัวใจไม่ให้เต้นแรง...
แต่ผมบังคับหัวใจตัวเองไม่ได้...
ผมอยากจะรู้จริงๆว่าตอนอยู่ในท้องแม่กินอะไรเข้าไปบ้างผมถึงได้ออกมาตัวเล็กแบบนี้… จริงๆมันก็ดีอยู่อย่างตรงที่เวลาผมจะทำอะไรมันก็คล่องแคล่วว่องไวแล้วก็สะดวกดี แต่มันไม่ดีก็ตรงที่ผมไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนตัวสูงๆเค้าทำกันได้ เช่น...การหยิบกล่องบนหลังตู้ที่ผมกำลังพยายามอยู่ในตอนนี้...
กล่องกระดาษขนาดปานกลางสีน้ำตาลที่ภายในบรรจุแผ่นซีดีเพลงเก่าๆเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเขย่งปลายเท้าจนเมื่อยไปหมดละ ไม่ว่าจะเอื้อมมือไปได้ไกลแค่ไหนผมก็ทำได้แค่แตะๆมันเท่านั้น... ชีวิตของผมมันช่าง... T_______T
พยายามมองหาตัวช่วยภายในห้องซ้อมแต่ก็ไม่มีใครอยู่เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเด็กๆไปพักกันถึงไหน แม่งแอบอู้กันแหงๆถึงได้ไม่ยอมกลับมาซักที จะมีก็แต่...ร่างสูงเจ้าของหมวกไหมพรมสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งแหมะอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ซึ่งมีอยู่เพียงตัวเดียวภายในห้องนั่นแหละ
ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองกล่องเจ้าปัญหานั่นต่อ... ไม่ว่าจะไปขอให้บาบิช่วยหยิบให้หรือว่าขอเก้าอี้ที่หมอนั่นกำลังอยู่มันก็แทบไม่ต่างกันเลย เก้าอี้ในห้องนี้หายไปไหนหมดวะ!? แล้วผมจะเอาอะไรปีนล่ะทีนี้
นับตั้งแต่ที่ผมให้บาบิมาช่วยเล่นเกมให้คราวก่อน พวกเราก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่... หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือผมกำลังหลบหน้าเขาอยู่นั่นแหละ จะให้ทำไงได้ล่ะครับ พอผมเข้าใกล้เขาทีไรหัวใจของผมก็เต้นแรงจนหยุดมันไม่อยู่ เป็นบ้าอะไรนักหนาก็รู้ หรือว่า!! ผมจะเป็นโรคหัวใจ!! ไม่ได้การละ... ผมว่าผมคงต้องหาเวลาไปตรวจสุขภาพซักหน่อยแล้ว
แต่ก่อนจะถึงวันนั้น... ผมควรหยิบกล่องนี่ให้ได้เสียก่อน ตู้นี่แม่งก็สูงจัง... ผมหลุบตามองต่ำลงไปเห็นขอบตู้ที่ยื่นออกมาเล็กน้อย น่าจะพอเหยียบได้นะ... เอาวะ ปีนก็ปีน
ผมตัดสินใจเหยียบขอบนั่นแล้วเขย่งเท้าขึ้นไปพลางเอื้อมมือจนจับมุมกล่องนั้นได้ ผมพยายามขยับมันให้ออกมาเรื่อยๆ อีกนิด...อีกนิดเดียวก็จะได้แล้ว...
โครม!!
แต่เพราะว่าผมดันหมดแรงซะก่อนก็เลยทิ้งตัวเองลงมาบนพื้นพร้อมกับไอ้กล่องลังใส่ซีดีที่ร่วงตามมาติดๆ...
จ...เจ็บ... TTT[]TTT
“จินฮวานฮยอง!!” เสียงของบาบิดังขึ้นด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะวิ่งตรงมาที่ผม “เล่นอะไรของฮยองเนี่ย!”
เล่นพ่อง... คนบ้าที่ไหนจะเอากล่องกระดาษโยนใส่หัวตัวเองวะ หัดคิดบ้างดิ๊
“เละหมดเลย ...จึ๊” ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเมื่อมองไปรอบๆแล้วเห็นแผ่นซีดีกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด
“มาๆ เดี๋ยวผมช่วยเก็บ” ร่างสูงว่าดังนั้นแล้วก็เดินไปหยิบแผ่นซีดีบนพื้นกลับเข้ากล่องให้ทันที โชคดี(?)ที่มันหล่นมาโดนตัวผมก็เลยไม่เสียหายมากนัก
หลังจากที่ผมนั่งมองบาบิไล่เก็บให้อยู่นานก็ลุกขึ้นไปช่วยเขาเก็บด้วยจนเสร็จ มือหนาที่ถือกล่องนั่นอยู่ยื่นมันส่งมาให้ผม
“ข...ขอบใจ”
“คราวหน้าเรียกผมก็ได้นี่ฮยอง”
“อ..อืม รู้แล้ว” ผมรีบรับกล่องกระดาษกลับมากะว่าคงจบบทสทนาแต่เพียงเท่านี้ เพราะไม่อย่างนั้นโรคหัวใจ(?)ของผมอาจจะกำเริบอีกก็ได้
“เฮ้ย ฮยอง!!” เขาเรียกผมซะดังก่อนจะกระชากกล่องกลับไปถือเองแล้วดึงมือข้างขวาของผมไปด้วย “มีแผลด้วยนี่”
“หืม?” ผมมองข้อมือของตัวเองที่ถูกเขาจับเอาไว้ รอยถลอกนั่นเป็นทางยาวใช้ได้เลย ง่ะ... สงสัยจะขูดกับขอบตู้ตอนที่ผมหล่นลงมา
“เดี๋ยวผมทำแผลให้”
“ม...ไม่เป็นไร นี่มันแค่นิดหน่อยเอง”
“ถึงจะแค่นี้ แต่ถ้าแผลติดเชื้อแล้วฮยองต้องตัดแขนทิ้งจะว่ายังไง” เขากำลังต่อว่าผมปาวๆ คือ...นั่นมันประโยคที่เอาไว้หลอกเด็กไม่ใช่เร๊อะ!? “ล้างแผลนิดนึงก็ยังดี”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ปฏิเสธต่อ เขาก็จัดการกดตัวผมให้นั่งลงไปกับพื้นห้องแล้วางกล่องกระดาษเอาไว้ข้างๆผมด้วย เฮ้อ... อย่าเพิ่งเต้นนะ อย่างเพิ่งเต้นเลยหัวใจ ได้โปรดดดดดดดด
ระหว่างที่บาบิเดินวนหากล่องปฐมพยาลบาลผมก็ยกข้อมือตัวเองขึ้นมาดู อื้อหือ แดงเถือกเลยแฮะ... เคยเป็นไหมครับ บางทีเราก็ไม่ค่อยรู้ตัวหรอกตอนที่ได้แผลมาน่ะ แต่พอรู้เท่านั้นแหละ... แม่งจะรู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที อย่างตอนนี้ผมก็เริ่มแสบๆขึ้นมาละ
ฟู่วๆๆ
ผมเป่าแผลถลอกนั้นเบาๆ อย่างน้อยมันก็ช่วยบรรเทาความเจ็บแสบได้หน่อยนึง
บาบิไม่ปล่อยให้ผมได้รอนานนัก ร่างสูงนั่งลงตรงหน้าผมพร้อมกับยาอะไรก็ไม่รู้ที่เขาหามาได้ ผมคงไม่ตายด้วยน้ำมือของหมอนี่หรอกใช่มั้ย =__________=
เขาจับแขนของผมไปพลิกๆดู พอเห็นว่ามันถลอกแค่ตรงนั้นเขาก็จัดการเปิดขวดยาราดแผลผมเลย โอ้วมายก๊อด ทำกันงี๊เลยหรอ
“แค่น้ำเกลือน่ะครับ ไม่เป็นไรหรอก” เหมือนเขาจะรู้ว่าผมกลัวก็เลยบอกออกมาอย่างนั้น
“อืม...” แล้วผมก็เลยปล่อยให้เขาวุ่นวายกับแผลของผมต่อไป
“พักนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ” บาบิพูดออกมาหนึ่งประโยคที่ทำให้ผมสตันท์ไปหลายวิ...
“อ่า...งั้นหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ” เขาว่าพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมด้วย “ฮยองดูแปลกๆไปนะ”
ตึกตัก...
ตึกตัก...
ตึกตัก...
เอาแล้วไง... เพียงแค่เขามองตา ผมก็ห้ามหัวใจของตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว ขนาดกลืนน้ำลายลงคอยังยากลำบาก ดังนั้นผมจึงรีบหลบตาเขาทันที
“แปลกตรงไหน ก..ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”
“งั้นผมคงคิดไปเองว่าฮยองกำลังหลบหน้าผม...”
ให้ตายสิ ขนาดเจ้าตัวยังรู้เลยว่าผมพยายามหลีกเลี่ยงเขาอยู่ นี่ผมทำอะไรชัดเจนเกินไปสินะ ทั้งๆที่ปกติแล้วบาบิเป็นคนยิ้มเก่ง แต่พอเห็นเขาทำหน้าเศร้าๆแบบนี้แล้วผมก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เลย
“...” ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเห็นว่าเขาทำแผลให้ผมเสร็จแล้วก็เลยดึงแขนตัวเองกลับมา
“แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ผมได้รู้ว่าพอไม่มีฮยองอยู่ข้างๆแล้วผมเหงามากเลย...”
“...” ห๊ะ...ม...เมื่อกี้นี้เขาว่ายังไงนะ คือได้ยินแต่กลัวฟังผิดน่ะครับ...
“พอได้อยู่กับฮยองทีไร หัวใจของผมก็เต้นแรงตลอด ผมคิดว่า...ผมคงรักฮยองเข้าแล้วล่ะ”
“...” !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
คราวนี้ผมว่าผมฟังไม่ผิดแน่ แต่ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าพูดออกมาอย่างนี้ เขาคง...ไม่ได้ล้อผมเล่นหรอกใช่มั้ย?
“ถ้าฮยองรังเกียจผมก็ไม่เป็นไร... ผมขอโทษนะครับ”
เขาไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อยทำไมต้องขอโทษผมด้วยล่ะ... พอมองดูแววตาเศร้าๆที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักของเขา ผมก็รู้สึกได้ว่าเขาคงจะพูดจริงๆ ถ้าคำว่ารักคือคำตอบของอาการเต้นแรงของหัวใจ งั้นผมก็คง...รู้สึกแบบเดียวกันกับเขา ตอนนี้ร่างสูงตรงหน้าผมกำลังทำท่าจะลุกขึ้นยืนแล้ว ผม...ผมควรทำยังไงดี คิดสิจินฮวาน คิด... คิด...
“นายเป็นโรคหัวใจ!!”
“ครับ?” บาบิที่ยืนอยู่หันหน้ากลับมามองผม ชิบหายละ! นี่ผมพูดอะไรออกไป!
“ไม่ๆ คือฉันหมายความว่าหัวใจของนายเต้นแรง ใช่ๆ อย่างนั้นแหละ” ลิ้นพันกันไปหมดแล้ว ใครก็ได้ช่วยผมที T[]T
“ถ้าฮยองไม่ได้ชอบผมก็อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของผมได้มั้ยครับ”
ไปกันใหญ่แล้ววววววววววววว
“ฉันไม่ได้หมายความว่างั้นนะคือว่า…” ร่างสูงหันหลังให้ผมอีกครั้งแล้วเดินจากไป แต่ผมก็รีบลุกขึ้นเดินตามไปคว้าแขนของเขาเอาไว้ทันที “ม...เหมือนกัน... หัวใจของฉันก็เต้นแรงเหมือนกัน...”
“ฮยอง...” เขามองผมด้วยความตกใจ
“ทุกๆครั้งที่อยู่ใกล้นาย... ฉันก็ไม่สามารถห้ามหัวใจของตัวเองให้เต้นแรงได้เลย เพราะงั้นก็เลยพยายามหลบหน้านาย...” ตอนที่พูดประโยคยาวๆนี่ผมก้มหน้าตลอดเพราะไม่กล้าสบตาเขา ดังนั้นผมจึงไม่รู้ว่าเขากำลังทำหน้ายังไงอยู่ “มันหมายความว่าฉันก็รักนายเหมือนกันใช่มั้ย...”
“ฮยอง...”
“นี่จะเรียกอีกนานป่ะ!?” ผมกระฟัดกระเฟียดบ่นเขาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจ้องตาเขาเขม็ง แต่ร่างสูงตรงหน้าผมนั้นกลับกำลังยิ้มหน้าชื่นตาบานจนเห็นฟันกระต่ายคู่หน้าและตาหยีๆ
“ขอบคุณนะครับ”
“อ..อะไร!?” บอกตรงๆว่าตอนนี้รู้สึกร้อนมาก โดยเฉพาะบริเวณสองข้างแก้ม -///-
“ขอบคุณที่ใจตรงกันกับผม”
ตึกตัก...
ตึกตัก...
ตึกตัก...
คงจะดีกว่านี้ถ้าผมสามารถเข้าไปอยู่ใกล้ๆเขาได้โดยที่หัวใจไม่ให้เต้นแรง...
แต่ในเมื่อผมบังคับมันไม่ได้... ก็คงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปนั่นแหละครับ...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
os นะคะ สั้นเหมือนเคย ตอนที่แล้วเป็นบาบิตอนนี้เลยยกให้จินฮวานบ้าง แต่คราวนี้จบแล้วจริงๆนะ อิอิ ><
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติชมกันนะคะ ดีใจมากๆที่มีคนสนใจคู่มักเน่ไลน์เยอะเลย
ไว้คราวหน้าจะแต่งมาเพิ่มอีกค่ะ ตอนนี้ที่เล็งๆไว้ก็มี BJin DoubleB JunHyuk
ช่วงนี้ยังว่างก็คงแต่งต่อไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไม่ว่าง 5555555 ><
ความคิดเห็น