คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [SF] Heaven On The 7th Floor (III) END
หลังจากที่อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ยองแชรก็รีบแต่งตัวทันที เพราะอีกไม่นานก็ถึงเวลาที่นัดกับจินนี่เอาไว้แล้ว ว่าแต่... จะบอกพ่อผู้ใหญ่ชานกับแม่จุนว่ายังไงดีล่ะ
จริงๆก็แค่ออกไปเที่ยวงานวัดกับจินนี่เอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ถึงแม้ว่าอันที่แล้วพอไปถึงงานยองแชรมีแผนเที่ยวกับอ้ายบีสองต่อสองก็เถอะ งื้ออออออ ปะแป้งนิดทาปากหน่อยพอเป็นพิธีก็แล้วกันเนอะ
บรื้นๆ~
พอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเพื่อนรักแล่นมาแต่ไกล มือไม้ก็เลยเริ่มหยิบนู่นคว้านี่ใส่กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆก่อนจะวิ่งลงไปข้างล่างทันที อุ๊ตะ... เหมือนสวรรค์เป็นใจมาก... แม่จุนไม่ได้นั่งเด็ดพริกอยู่ที่เดิมแล้ว แถมพ่อผู้ใหญ่ชานก็อยู่ไหนไม่รู้...
ดีล่ะ... งั้นยองแชรคงไม่ต้องเอ่ยปากขอให้วุ่นวาย ย่องออกจากบ้านเลยละกัน ฮิฮิ
“จะไปไหน”
อุ่ยยยยยยยยยยย เสียงนี่มัน...
“ไปงานประจำปีที่วัดจ้ะพ่อ” หันมายิ้มแหยๆให้คนที่ยืนเข้มอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ...พ่อผู้ใหญ่อย่าปั้นหน้าเข้มซะจนน่ากลัวอย่างนั้นสิ ยองแชรชักเริ่มหวั่นๆ...
“ไปกับใคร”
“กันจินน-… จินยองจ้ะ” ยืนตอบด้วยท่าเจี๋ยมเจี้ยมสุดๆตามแบบฉบับของน้องยองแชรคนเรียบร้อย “ไปได้มั้ยอ่าจ้ะ?”
“เออ อย่ากลับดึกแล้วกัน”
“จ้ะพ่อ” ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเลย ในเมื่อพ่อผู้ใหญ่ชานอนุญาตแล้วยองแชรก็ขอเผ่นแนบเลยละกัน~
วิ่งออกมานอกบ้านก่อนจะกระโดดซ้อนท้ายมอร์เตอไซค์เพื่อนรักทันที รีบเอ่ยปากบอกจินนี่ว่าให้ออกตัวไปเร็วๆ เพราะยองแชรกลัวว่าอีกซักพักพ่อผู้ใหญ่อาจจะเปลี่ยนใจก็เป็นได้
“ตกลงว่าคืนนี้แกจะไปเดินงานกับอ้ายบีใช่มะ!” จินนี่ตะโกนออกมาเสียงดัง ไม่ใช่เพราะโกรธเพราะน้อยใจหรืออะอไรหรอกนะ แต่เสียงเครื่องยนต์มันดังจนต้องตะโกนคุยกันนั่นเอง
“ใช่! อย่าลืมหาทางปลีกตัวออกไปล่ะ!”
“โอเค! ระดับนี้แล้ว! เชื่อมือ!”
เชื่อแน่นอน ยองแชรเชื่อแน่ๆอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยองแชรเริ่มกลัวว่าจะไปไม่ถึงงานวัดซะมากกว่า ก็เข้าใจอยู่หรอกนะว่าจินนี่ชอบขับรถเร็ว แต่แบบนี้มันก็เร็วเกินไป๊~!! ถ้าเกิดขับๆอยู่แล้วพลิกคว่ำตรงโค้งข้างหน้าขึ้นมาจะทำยังไง ฮรือออออ ยองแชรยังไม่ได้แต่งงานกับอ้ายบีเลยนะ ยองแชรยังไม่อยากตาย หรือถ้าคว่ำแล้วยังไม่ตายขึ้นมาก็อยากจะสวยๆเหมือนเดิมตอนแต่งงานน่ะ เข้าใจม๊ายยยยยย
บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน~~~
คุณพ่อคุณแม่เธอสิ้น...
กว่าจะมาถึงวัดได้เล่นเอายองแชรขนลุกไปทั้งตัว ไม่ใช่แค่กลัวอย่างเดียวเท่านั้นนะ แต่มันหนาวด้วย! ดีที่เซ็ตผมมาอย่างดี ถึงจะแอบฟูบางจุดแต่แค่นี้ยองแชรก็สามารถจัดทรงได้
ไฟประดับหลากสีสันในวัดเริ่มเปิดขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะว่าดวงอาทิตย์เพิ่งจะคล้อยต่ำลงจนลาลับขอบฟ้าไป... ยองแจรกับจินนี่พากันหาที่จอดรถก่อนจะเดินเข้าไปในงาน
ชาวบ้านชาวช่องต่างก็สวนกันไปมาตามร้านค้าและซุ้มเกมต่างๆ มีสายตาหลายคู่ที่มองมาทางยองแชรและจินนี่ด้วยแหละ จริงๆนะ... ยองแชรสัมผัสได้~ ก็อย่างว่า... ไม่สวย ไม่เริด ไม่เชิดจริง คงไม่กล้าออกจากบ้านมาเดินงานนี้หรอกนะ อิ๊
แต่ยองแชรสนใจคนพวกนั้นซะที่ไหน คนที่ยองแชรสนใจก็มีแต่อ้ายบีคนเดียวเท่านั้นแหละ นี่สอดส่ายสายตามมองไปจนเกือบจะทั่วงานอยู่แล้วก็ยังไม่เห็นอ้ายบีเลย ฮือๆ อ้ายบียังไม่มีอีกหรอ
“แกๆ” จินนี่เรียกพลางยกแขนสะกิดสีข้าง ยองแชรก็เลยต้องหันไปเลิกคิ้วถามเป็นเชิงว่ามีอะไร? ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือสายตาและริมฝีปากที่บุ้ยใบ้ไปทางด้านหน้า
พอมองตามไปเท่านั้นแหละ...
เอิบ... นั่นมันอ้ายหวังคนเตี้ย
อยากจะเดินหนีตอนนี้ก็คงไม่ทันซะแล้ว เพราะอ้ายหวังนั้นเดินลิ่วๆตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ายองแชรและจินนี่อย่างรวดเร็ว.. เร็วไปมั้ยพ่อคุ๊ณณณณณณณณณณ
“สวัสดีจ้ะน้องยองแชรคนสวย” คือยองแชรรู้ตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องมาทำเป็นชม
“สวัสดีจ้ะพี่ยองแชร” เสียงนี้เป็นของลูกสมุน ลูกมือ หรือเรียกง่ายๆก็ลูกน้องที่ตัวติดกับอ้ายหวังอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเห็นอ้ายหวังอยู่ที่ไหนก็ต้องเห็นมันอยู่ด้วย ชาวบ้านแถวนี้รู้จักมันในชื่อหยุกหย่อมเด็กวัดแห่งบ้านดอนสะเด็ดเจ็ด ก็ไม่รู้ว่าใครตั้งชื่อให้มันอ่านะ แต่เนื่องจากชื่อเรียกยากเกินไป ยองแชรก็เลยเรียกมันว่าไอ้หย่อมเฉยๆ
ไอ้หย่อมเฉยๆเป็นเด็กที่อายุแค่สิบหก แต่ตัวสูงมว๊ากกกกก สูงกว่าอ้ายบีซะอีก ยองแชรชอบคนสูงๆนะ แต่ไอ้หย่อมเฉยๆก็ยังไม่ใช่สเป็คของยองแชรอยู่ดี
ไม่ขำไม่ใช่มั้ยจ๊ะ? งั้นเรียกไอ้หย่อมอย่างเดียวก็พอ...
ไอ้หย่อมอย่างเดียวก็พอเป็นเด็กรับจ้างทั่วไป... ตุบ! *อุ้ยนี่มันรองเท้าใครหว่า?*
“มาเดินเที่ยวงานวัดหรอจ๊ะน้องยองแชร” ขอบคุณที่อ้ายหวังถามขึ้นมาได้จังหวะพอดี ไม่อย่างนั้นยองแชรอาจจะได้รับรองเท้าอีกหลายคู่เลยทีเดียวเชียว
“จ้ะ...” สั้นๆง่ายๆ คำเดียวพอ ก็เห็นอยู่ว่ามางานวัดยังจะถามอีก
“สนใจไปเดินกับพี่ด้วยกันมั้ยจ๊ะ?”
ไม่สน... แต่ไม่ได้ตอบ คือยองแชรเป็นเด็กเรียบร้อยนะ จะให้ตอบออกไปตรงๆก็อาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจกันเกินไป แต่ยองแชรก็ไม่อยากให้ความหวังกับอ้ายหวังเลย ...อ้ายหวังน่ะตามตื้อยองแชรมาตั้งนานแล้วก็ไม่ยอมตัดใจซะที บางทียองแชรก็เหนื่อยนะที่ต้องมาคอยหาคำปฏิเสธแบบเพราะๆน่ะ
จินนี่เคยถามยองแชรว่าทำไมถึงไม่ชอบอ้ายหวังล่ะ เพราะจริงๆบ้านอ้ายหวังก็ทำธุรกิจโรงสีใหญ่โตแบบ... รวยมากๆจนไม่รู้จะเรียกว่ารวยยังไง สาวๆนี่จ้องจะจับกันเป็นแถบ แต่ก็อย่างที่บอกไป ยองแชรชอบผู้ชายตัวสูงๆ แต่อ้ายหวังน่ะ... ไม่ผ่านเกณฑ์จริงๆ
ต้องอย่างอ้ายบีคนแมนสิ... ฮรื้อออออออออ~
อุ่ย! ทำไมอ้ายบีทำอย่างนี้ล่ะ แค่คิดถึงก็ปรากฏมาซะแล้ว กรี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซ ข้างขวาๆๆๆ อ้ายบีกำลังเดินมาจากทางด้านขวาที่ตำแหน่งสิบสี่นาฬิกา!!
ยองแชรไม่รอช้ารีบส่งซิกให้เพื่อนรักข้างตัวทันที ซึ่งจินนี่ก็เหมือนจะเห็นแล้วเช่นกันเลยขยิบตาให้ยองแชรหน่อยนึงเป็นอันเข้าใจว่า เดี๋ยวจินนี่จัดให้!
เจ้านายคะ~ เจ้านายคะ~ โอ๊ย นั่นมันคนละจินนี่ละ!!
“ว่าไงล่ะน้องยองแชร ไม่สนใจไปเดินเที่ยวกับพี่หรอ?”
“เฮ้ย!! นั่นมันโทมินจุนชิขี่ยูเอฟโอมา!!!” จินนี่ส่งเสียงโวยวายขณะชี้มือไปบนท้องฟ้าด้านหลังอ้ายหวังกับไอ้หย่อม
ก็ไม่คิดว่าจะโง่กันขนาดนี้อะนะ... แต่ทั้งสองคนก็หันไปมองตามเรียบร้อย ในจังหวะนี้เองที่ยองแชรรีบวิ่งออกไปลากแขนอ้ายบีที่กำลังเดินตรงมา ไม่รู้จะลากไปทางไหนดีก็เลยพาเดินไปเรื่อยๆจนถึงซุ้มรำวง
เนียนจ้ะเนียน จุดนี้ยองแชรขอพาอ้ายบีเนียนไปกับซุ้มรำวงก่อนก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าการลากผู้ชายขึ้นมารำด้วยกันแบบนี้มันจะดูไม่งามนัก แต่ก็ดีกว่าให้ยองแชรไปเดินงานวัดกับอ้ายหวังล่ะนะ
ตามองตา~ สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่านหัวใจ~
เพลงที่เปิดนี่ก็ได้ฟีลสุดๆ ถึงตอนแรกอ้ายบีจะทำหน้าเหรอหราที่ถูกดึงมา แต่ตอนนี้อ้ายบีกำลังรำวงอยู่กับน้องยองแชรจนน้องยองแชรเขินอายม้วนต้วนไปหมดร๊าววววววววว
กว่าเพลงจะจบลง.. แขนขาของยองแชรก็แทบพันกันมั่วเพราะมัวแต่บิดเนี่ยแหละ!!
“ต่อเลยมั้ย?”
“จ..จ๊ะ?”
“ไปเดินเล่นกันต่อเลยมั้ย”
“ก็ดีจ้ะ” โถ่วนึกว่าจะชวนรำวงต่อ แต่ถึงชวนจริงๆยองแชรก็ไม่เอาแล้วนะ รำต่ออีกนิดยองแชรคงบิดตัวจนแสดงกายกรรมกวางโจวได้แน่ๆเลย
“ว่าแต่จินนี่ไปไหนล่ะ ไหนว่านัดกันไว้ไง”
“อ..อ่อ คือพอดีว่าจินนี่ไปเดินกับอ้ายหวังแล้วน่ะจ้ะ ไม่เป็นไรเนอะ ไหนๆก็มาแล้ว เราไปไหว้พระกันก่อนดีมั้ยจ้ะ?”
“เอาสิ”
หลังจากนั้นยองแชรก็เลยพาอ้ายบีเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ด้วยกัน รู้สึกเหมือนกำลังทำบุญร่วมชาติตักบาตรยังไงก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้ยองแชรฟินนนนนนนน ได้ปิดทองหลังพระกับอ้ายบีแบบนี้คือไม่ขออะไรอีกแล้ว~
อ้อๆ ขอเรื่องแต่งงานเอาไว้อีกเรื่องก็แล้วกันเนอะ~
พอทำบุญไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยก็ตัดสินใจว่าจะเดินไปดูรอบๆวัดก่อน ส่วนเรื่องบ้านผีสิงน่ะ เก็บเอาไว้เดินตอนใกล้ๆกลับ ดังนั้นตอนนี้ยองแชรกับอ้ายบีก็เลยมาหยุดอยูที่ร้านปาลูกโป่งร้านหนึ่ง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
พฮรือออออออออออออออ คนหล่อของยองแชร นอกจากจะหล่อแล้วยังแม่นอีกต่างหาก ปาลูกโป่งแตกขนาดนี้ก็ต้องได้ตุ๊กตาตัวโตไปตามระเบียบ
“เลือกสิ”
“ให้ยองแชรเลือกจะดีหรอจ้ะ?” ถึงจะถามอย่างนั้นแต่บอกเลยว่าตานี่สอดส่องหาตัวน่ารักๆไปแล้ว
“แน่สิ เอ็งเอาไปเถอะ ข้าไม่รู้จะเอากลับบ้านไปทำไม”
“งั้นเอาตัวนั้นจ้ะ” พอชี้แล้วเจ้าของร้านก็เดินมาเกี่ยวถุงห้อยตุ๊กตาลงมาให้ทันที มันเป็นตุ๊กตาหมีตัวโตขนสีน้ำตาลฟูๆน่ารักน่าฟัดเป็นที่สุด!
“มองไปมองมาตุ๊กตานี่ก็เหมือนเอ็งเลย”
“จ๊ะ?” นี่อ้ายบีกำลังจะบอกว่ายองแชรน่ารักน่าฟัด?
“ไปดูไอ้นั่นกันดีกว่า” อ้าวอ้ายบี! ทำไมทำกับยองแชรอย่างนี้ล่ะ มาพูดให้คิดแล้วก็จากไป! ฮรึก... ว่าแต่ไอ้นั่นที่ว่ามันคืออะไรหว่า?
บรื้นนนนนน บรื้นนนนนนน บรื้นนนนนนนนนนนนนนนนนน~
ชัดเลย... นั่นมันมอร์เตอไซค์ไต่ถังดีๆนี่เอง
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนจะสามทุ่มอยู่แล้ว หลังจากที่วิ่งเล่น(?)กับอ้ายบีไปจนทั่วงานวัด ก็พากันตัดสินใจเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าซุ้มบ้านผีสิงซักที แต่ทว่า...
‘ปิด’
ป้ายที่เขียนติดอยู่เด่นหราตรงหน้าประตูทางเข้าเป็นเครื่องยืนยันความเงียบเชียบในบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี ยองแชรเห็นแล้วอยากจะเบะปากรัวๆ ฮรืออออออ ทำไมกัน! ถ้าเป็นแบบนี้ยองแชรก็อดเข้าบ้านผีสิงกับอ้ายบีน่ะสิ ..อดกอด อดซบ อดอ้อนอ้ายบีด้วย! บ้านผีสิงใจร้าย!
“งานยังมีอีกตั้งหลายวัน งั้นไว้มาวันอื่นก็ได้” อ้ายบีหันมาบอกอย่างนั้น
“จ้ะ... ค่อยมาวันอื่นก็ได้”
ง..งั้นก็หมายความว่าอ้ายบีชวนยองแชรมาเที่ยวอีกสินะ TwwwwwwwwwwwwT กรี๊ด(ในใจ)แป๊ป!
“จะไปเล่นชิงช้าสวรรค์มั้ยล่ะ? คนกำลังน้อยๆอยู่เลย”
“ไปจ้ะ!” นั่นมันสถานที่แห่งความโรแมนซ์มากๆเลยนะ เรื่องอะไรยองแชรจะปฏิเสธล่ะ!
ดีนะที่คนไม่ค่อยเยอะจริงๆอย่างที่อ้ายบีว่า เพราะต่อแถวอยู่ไม่นานก็ได้ขึ้นแล้ว หย่อนตัวลงนั่งคนละฝั่งก่อนที่ชิงช้าสวรรค์จะเริ่มหมุน หมุนขึ้นไปเลย... ขึ้นไปให้ถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดเลยจ้ะ ยองแชรอยากฟินนนนนนนนน
มองไปด้านหน้าด้านหลังก็มีแต่คู่รักกันทั้งนั้น งั้นยองแชรขอเหมาเอาเองได้มั้ยว่าอ้ายบีกับยองแชรก็เป็นคู่รักเหมือนกัน อร๊ายยยยยยยยยยยย~
“ดูๆไปเอ็งนี่ก็โตขึ้นเยอะเลยนะ”
“โตขึ้นแล้วสวยมากป่ะจ้ะ?”
“ห้ะ?”
อุ๊ย เมื่อกี้เผลอพูดอะไรออกไป ไม่งามเลยนะไม่งาม ขอตบปากตัวเองตอนนี้ซักทีได้มั้ย
“ป่าวจ้ะ”
“...ก็สวยดีนะ”
เห่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อ้ายบีทำน้องเขินมากบ่องตง! รู้แล้วล่ะ รู้ตัวว่าสวย แต่พออ้ายบีชมกันตรงๆแบบนี้ยองแชรก็ไม่ไหวจิทนนะบอกเลอออออ
ร้อน... ข้างๆแก้มก็ร้อน เนื้อตัวก็ร้อนไปหมดเลยตอนนี้
“อ...อ้ายบีจ๊ะ” จะพูดเลยดีมั้ยนะ? เรื่องที่อยากบอกมาตั้งนานแล้ว... จริงๆอยากเก็บเอาไว้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆรอให้อ้ายบีเป็นคนพูดเอง แต่ป่านนี้แล้วนะ อ้ายบีก็ไม่ยอมพูดซักที หรืออ้ายบีจะเขิน?
ถ้างั้นยองแชรควรบอกออกไปเลยใช่มั้ย... แต่ว่ายองแชรก็เขินเหมือนกันนะ... อย่างน้อยๆก็ขอพูดออกมาโดยไม่มองหน้ากันได้มั้ย กลัว... กลัวว่าจะทนสายตาคู่นั้นไม่ไหวจริงๆ
“คือยองแชร... ยองแชร...” ขนาดเหม่อมองออกไปด้านนอกแล้วก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่ามันพูดลำบากเหลือเกิน ความรู้สึกโหวงๆในช่องท้องเหมือนมีแมงกุ๊ดจี่บินว่อนไปทั่วนี่มันคืออะไรกันนะ? “สำหรับยองแชรแล้วอ้ายบีเป็นคนที่เท่มากๆเลยนะจ๊ะ... เพราะอ้ายบีน่ะทั้งเก่งแล้วก็ขยัน แถมยัง... หล่ออีกต่างหาก”
“...”
“ยองแชรรู้สึกชื่นชมอ้ายบีมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังชื่นชมอยู่... อ้ายบีเข้าใจสิ่งที่ยองแชรตั้งใจจะพูดมั้ยจ้ะ? คือว่า... ชอบจ้ะ! ยองแชรชอบอ้ายบีมากๆเลย!”
คือ... หันกลับมาอีกที ทำไมอ้ายบีหลับ?
“เดี๋ยวก่อนสิยองแชร เป็นอะไรไปฮึ? ทำไมถึงต้องเดินหนีข้าด้วยเล่า”
มาถึงขนาดนี้แล้วยังต้องถามอีกหรอ! คนเรารึก็อุตส่าห์กลั้นใจสารภาพความในใจออกไป แต่เจ้าตัวดันหลับใส่ซะนี่... ยองแชรแซด ยองแชรเจ็บ อ้ายบีไม่เข้าใจจจจจจจจจจจจจ T_______________T
“ยองแชรเหนื่อย อยากกลับบ้านแล้ว” พูดขณะที่ยังคงก้าวเดินฉับๆไปข้างหน้า กะว่าไปที่ลานจอดรถเดี๋ยวก็คงเจอจินนี่เอง อีกไม่ไกลก็จะถึงอยู่แล้วด้วย
“งั้นเดี๋ยวข้าไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ไม่จำเป็น” นี่ถ้าไม่เป็นเพราะเรื่องเมื่อกี้นะ บอกเลยว่ายองแชรคงไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน พฮรืออออออ
“แต่เอ็งดูท่าไม่ค่อยดีเลยนะ เฮ้ย! แล้วนั่นเอ็งร้องไห้ทำไม!”
“ยองแชรป่าวร้องซะหน่อย ฮึก... อ้ายบีมั่ว”
“ก็เห็นๆอยู่เนี่ย” ว่าแล้วก็ยื่นมือเข้ามาเช็ดน้ำใสๆที่ไหลอาบข้างแก้มของยองแชรออกไป
“...” อย่าทำแบบนี้สิ... ถ้าอ้ายบีอ่อนโยนกับยองแชรแบบนี้เดี๋ยวยองแชรก็ต้องใจอ่อนอีกจนได้...
“ข้าขอโทษ”
“ขอโทษเรื่องอะไรจ้ะ อ้ายบีทำผิดอะไรมางั้นหรอ?”
“ก็เรื่องเมื่อกี้... เรื่องที่เอ็งบอกว่าชอบข้าไง”
“...” !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“จริงๆข้าไม่ได้หลับหรอก ก็แค่...แกล้งหลับน่ะ”
“อ้ายบีคนบ้า คนใจร้าย” ยองแชรขอทุบอกซักสองสามทีเหอะ เรื่องอะไรถึงมาแกล้งกันแบบนี้ แต่ว่า... งั้นอ้ายบีก็ได้ยินหมดแล้วน่ะสิ! เปลี่ยนโหมดเป็นเขินตัวบิดแป๊ป! “ทำไมอ้ายบีต้องทำเป็นหลับด้วย ฮึก T^T”
“ก..ก็ข้าตกใจ อยู่ๆเอ็งก็มาบอกว่าชอบข้า...”
“...”
“ข้าแค่ไม่คิดว่าเอ็งกับข้าจะใจตรงกัน...”
“...” !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แม่จุน... จินนี่... พ่อชาน... ใครก็ได้มาเก็บศพยองแชรที กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!
“ยองแชร”
“จ้ะพ่อ?” เดี๋ยวนะ... นี่พ่อมาจริงๆหรอ อะหือ หันมาข้างหลังปุ๊บ รู้เลย... ตัวเป็นๆ โฮรกกกกกกกกกกกก
“พ่อบอกแล้วไงว่าไม่ให้กลับดึก”
“จ๊ะ.. ก..กำลังจะกลับอยู่นี่ไง อ๋อ คือรอ...รอจินยองอยู่”
พ่อผู้ใหญ่ชานส่งสายตาน่ากลัวมาทางยองแชรก่อนจะตวัดไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ...อ้ายบีรีบยกมือไหว้ทันที
“ไม่ต้องรอละ โทรไปบอกเลยว่าจะกลับพร้อมพ่อ! เดี๋ยวนี้!”
อุ๊ต่ะ... เดี๋ยวนี้ก็เดี๋ยวนี้จ้ะ... ยองแชรรีบล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาแล้วโทรหาจินนี่ตามคำสั่ง พอจินนี่รับสายยองแชรก็รีบบอกไปตามนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายาตาของพ่อผู้ใหญ่ชานหมดเลย ฮรึก อย่าจ้องอย่างนั้นสิ ลูกกลัว~
“อ..อ้ายบี ยองแชรกลับก่อนนะจ้ะ”
“อืม... ข้าก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
พอยองแชรทำท่าจะเดินออกไป พ่อผู้ใหญ่ก็เลยหมุนตัวเหมือนจะเดินนำไปทันที จังหวะนี้แหละ!
“อ้ายบีจ๊ะ พรุ่งนี้ยองแชรจะไปตลาดนะ” รีบกระซิบอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งตามหลังพ่อผู้ใหญไปต้อยๆ
เป็นอันว่ารู้กันนะ... ถึงวันนี้จะโดนพ่อผู้ใหญ่ชานขัดจังหวะ แต่รับรองว่าพรุ่งนี้ยองแชรมีเรื่องต้องคุยกับอ้ายบียาวแน่ๆ! ไอ้เรื่องใจตรงกันอะไรนั่นน่ะ... บอกเลยว่างานนี้อ้ายบีเสร็จยองแชรชัวร์!
อุ้ย... คิดอะไรออกไป ไม่งามอีกแล้ว ฮิฮิ
จบเถอะ... ควรจบได้แล้วเรื่องนี้ 5555555555555555555555555
คราวหน้าขอละมุนมุ้งมิ้งบ้างแล้วกันเนอะ แต่ก่อนอื่นขอรวบรรวมสติแป๊ป ;w;
ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ><
รู้สึกทำร้ายทูแจรวมถึงเด็กๆก็อตแต่ละคนมากๆ T..T
ยังไงก็ฝากคอมเม้นต์ติมชมกันด้วยเนอะ
ความคิดเห็น