ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] BABY BABY ◤ BJin ◢

    ลำดับตอนที่ #3 : ◤ Chapter 2 ◢ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 56


    Chapter 2



     

     

    เกือบจะครบปีนึงได้แล้วที่ยุนฮยองมารับหน้าที่เป็นคุณครูประจำโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ การได้ใช้เวลาร่วมกับเด็กๆ และการได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ หรือได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เป็นสิ่งที่เขาเคยคิดฝันมานาน
     

    เสียงหัวเราะที่ไร้เดียงสาเหล่านั้น มันทำให้เขามีความสุขที่ได้ทำงานนี้...
     

    “...ใครนึกไม่ออกหรือวาดไม่ได้ให้เรียกครูนะ” น้ำเสียงที่ถูกส่งอ่อนมาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนใจดีทำให้เด็กๆทุกคนต่างก็ชื่นชมคุณครูคนนี้
     

    ไม่ว่าจะทำผิดอะไร คุณครูยุนฮยองก็ไม่เคยตีหรือว่ากล่าวรุนแรง มีแต่ตักเตือนด้วยความเป็นห่วงและชี้ให้เห็นถึงผลจากการกระทำความผิดนั้นๆ เพราะอย่างนี้เด็กๆในชั้นเรียนถึงได้รักคุณครูของพวกเขามาก
     

    ยุนฮยองเดินวนรอบห้องหลังจากที่สั่งงานให้เด็กๆวาดรูปสัตว์ที่ตัวเองอยากจะเป็นลงในกระดาษ แต่ละคนก็มีความคิดต่างกันออกไป บ้างอยากเป็นนกเพราะอยากจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า บ้างก็อยากเป็นปลาจะได้ว่ายน้ำไวๆ บ้างก็อยากเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักๆต่างๆมากมาย งานศิลปะแบบนี้ช่วยให้เด็กๆได้เพลิดเพลินไปกับจินตนาการของตนเอง
     

    “เป็นยังไงบ้าจินฮวาน ไหนครูของดูหน่อยซิ” ร่างบางนั่งลงไปข้างๆเด็กนักเรียนคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นานนัก ตอนแรกก็อดเป็นห่วงไม่ได้ที่ถูกย้ายมากลางเทอมแบบนี้ แต่จินฮวานก็เป็นเด็กหัวไวกว่าที่เขาคิดไว้เยอะเลย
     

    “นี่ฮะคุณครู” มือน้อยๆหยิบสมุดวาดรูปของตัวเองให้ดู
     

    เมื่อยุนฮยองรับมันมาเขาก็พิจารณาเล็กน้อยก่อนจะพอเข้าใจได้ว่าสัตว์ในรูปนั้นคือตัวอะไร
     

    “โอ้ วาดสวยมากเลยนะ ว่าแต่ทำไมจินฮวานถึงอยากเป็นสิงโตครับ? ช่วยบอกครูหน่อยได้มั้ย”
     

    “เพราะว่าสิงโตเป็นเจ้าป่าฮะ จินฮวานอยากเก่งเหมือนสิงโต” เด็กชายตัวน้อยปลดปล่อยความคิดของตัวเองออกมาอย่างอิสระให้คุณครูได้ร่วมรับรู้ไปกับเขา
     

    “อย่างนี้นี่เอง จินฮวานของเราเท่จริงๆเลยนะ” ยุนฮยองเอ่ยชมพลางยื่นมือเข้าไปลูบหัวเด็กชายที่กำลังทำตาใสใส่เขา “วาดเสร็จแล้วก็อย่าลืมลงสีด้วยนะครับ”
     

    จากนั้นคุณครูที่แสนใจดีของเด็กๆก็เดินดูรอบห้องอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆเข้าใจคำสั่งและสามารถทำตามได้ก่อนจะกล่าวปิดคลาสของวันนี้
     

    “วันนี้พอแค่นี้แล้วกันเนอะ ใครที่ยังวาดไม่เสร็จก็เอากลับไปทำต่อที่บ้านนะครับ พรุ่งนี้เอามาส่งครูด้วยล่ะ เข้าใจกันแล้วใช่มั้ย?”
     

    เสียงตอบรับจากเด็กๆเป็นอันสรุปว่าพวกเขาเข้าใจ และในเมื่อเวลานี้ก็เป็นเวลาที่ต้องกลับบ้านไปทานขนมแสนหวานของคุณแม่แล้ว เด็กๆจึงรีบเก็บของกันอย่างรวดเร็ว
     

    ยุนฮยองมองภาพตรงหน้าแล้วก็อมยิ้มน้อยๆให้กับความสดใสของเด็กๆ เขาคิดไม่ผิดเลย...ที่เลือกมาเป็นคุณครูอนุบาล

     

     




     

     

    เป็นอีกวันที่ฮันบินได้รับโทรศัพท์จากแม่ที่โทรมาย้ำนักย้ำหนาเรื่องไปรับน้องแล้วก็ดูแลน้องให้ดีๆ ที่ผ่านมาเขาก็ดูแลฮันบยอลเป็นอย่างดีมาโดยตลอด แค่เพิ่มเด็กมาอีกคนก็ไม่เกินความสามารถของเขานักหรอก
     

    แต่ฮันบินคิดผิด...
     

    “ทำไมไม่กลับด้วยกันล่ะ พี่ไม่ใช่คนแปลกหน้าซะหน่อย” ร่างสูงย่อตัวลงนั่งตรงหน้าเด็กชาย
     

    “…” ดูเหมือนจินฮวานมีท่าทีอิดออดและไม่อยากไปกับฮันบินอีกครั้ง ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันไปเมื่อวานนี้เอง อย่าบอกนะว่าเขาถูกลืมไปเสียแล้ว
     

    “เมื่อวานพี่เอาไอติมให้จินฮวานกินไง จำได้มั้ย วันนี้เรากลับไปกินขนมด้วยกันนะ” สุดท้ายก็ต้องเอาของกินออกมาล่อจนได้ นี่ถือเป็นไม้ตายที่ดีที่สุดแล้วเพราะว่าเขาก็รู้วิธีหลอกเด็กไม่เยอะนักหรอก
     

    “ขนมหรอฮะ?” แววตาที่มองมาทางเขานั้นเต็มไปด้วยความสงสัย
     

    “ใช่แล้ว..ขนม”
     

    “จินฮวานอยากกินขนม” แต่ทันใดนั้นใบหน้าหวานก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที ง่ายชะมัด
     

    “งั้นเราก็กลับกันเถอะ”
     

    เมื่อเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ ฮันบินก็จัดการอุ้มฮันบยอลขึ้นมาเหมือนเคยก่อนจะหันไปจูงมือเล็กของจินฮวานที่เดินตามมาด้วย
     

    นี่เขา... ต้องหลอกจินฮวานด้วยขนมทุกวันจริงๆน่ะหรอ...

     

     

     

     

    พอกลับมาถึง เด็กๆทั้งสองคนก็ควักเอาการบ้านขึ้นมาทำเหมือนอย่างเคยในขณะที่ฮันบินหลบเข้าไปค้นขนมจากห้องครัวมาให้ เจอมันฝรั่งทอดห่อใหญ่หนึ่งถุงกับน้ำอัดลมอีกหนึ่งขวด เท่านี้ก็คงพอล่ะมั้ง... เขาจัดการเทมันฝรั่งทอดลงในจานและเทน้ำอัดลมลงในแก้วอีกสองใบก่อนจะยกใส่ถาดออกมาให้เด็กๆที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกาแฟหน้าทีวี
     

    วันนี้ดูเหมือนการบ้านจะเป็นการวาดรูป ฮันบินแอบชะเง้อมองภาพวาดของน้องสาวตัวเองแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ มองแค่แว๊บเดียวเขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าฮันบยอลกำลังวาดอะไร
     

    “ทำไมต้องวาดกระรอกด้วยล่ะ?” เมื่อเอ่ยถามออกไป ฮันบยอลก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที
     

    “หนูวาดกระต่ายต่างหากค่ะ!!” ใบหน้าน้อยๆกำลังบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากที่เชิดขึ้นนั่นบ่งบอกถึงความไม่พอใจได้เป็นอย่างดี
     

    แย่แล้วสิ...คิมฮันบิน...
     

    “เอ้อ พี่หมายถึงกระต่ายนั่นแหละ พี่พูดผิดๆ” คำแก้ตัวน้ำขุ่นๆไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย “ว่าแต่คุณครูสั่งให้วาดอะไรน่ะ”
     

    “คุณครูบอกให้วาดสัตว์ที่อยากเป็นค่ะ” เสียงหวานที่ตอบกลับมายังคงมีความโกรธผสมอยู่เล็กน้อย “ฮันบยอลอยากเป็นกระต่าย เพราะว่ากระต่ายน่ารัก”
     

    “ยังไงน้องสาวของพี่ก็น่ารักที่สุดอยู่แล้ว” พูดพลางเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กหญิงเบาๆ ทว่าไม่นานก็โดนขยับหนีอย่างไร้เยื่อใย...
     

    ฮันบยอลอ่า... พี่ทำผิดไปแล้ว...
     

    ฮันบินรู้ว่าเมื่อใดที่โดนน้องสาวโกรธเขาต้องไม่เข้าไปเซ้าซี้ ต้องรอให้ฮันบยอลลืมและหายโกรธไปเอง เรื่องนี้คงไม่นานนักหรอก... ฮันบินหวังว่าอย่างนั้นน่ะนะ...
     

    ดังนั้นเขาจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมแล้วหันมาสนใจจินฮวานที่นั่งอยู่อีกฝั่งแทน
     

    “แล้วนายล่ะวาดอะไรอยู่”
     

    “...” จินฮวานเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษแล้วสบตากับเขาเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองเป็นผู้ถูกถาม “...สิงโตฮะ”
     

    ฮันบินชะโงกหน้าเข้าไปดูภาพวาดนั้นที่กำลังถูกละเลงสี ...ก็เหมือนดีนี่
     

    “ว่าแต่ทำไมอยากเป็นสิงโตอะ”
     

    “จินฮวานอยากแข็งแรงแล้วก็มีกำลังเยอะๆแบบสิงโตฮะ” ว่าแล้วก็ยกมือสองข้างขึ้นมาทำเป็นกรงเล็บพลางส่งเสียงขู่เบาๆ
     

    ร่างสูงจ้องมองการกระทำของเด็กชายตัวน้อยตรงหน้าที่หลังจากทำเป็นขู่เขาเสร็จก็กลับไปหัวเราะคิกคักกับตัวเอง แก้มป่องๆจมูกน้อยๆกับดวงตาคู่เล็กและริมฝีปากอมชมพูนั่น...
     

                ดูยังไงก็ลูกแมวชัดๆ...
     

    “อย่างนายเนี่ยนะแข็งแรง? ตัวก็แค่นี้เอง ฮ่าๆๆ” พูดออกไปตามความคิดก่อนจะชี้ไปที่รูปบนกระดาษ “ทำไมนายไม่ลองวาดอย่างอื่-...”
     

    ยังไม่ทันพูดจบ มือน้อยๆของจินฮวานก็ลากสมุดวาดรูปของตัวเองออกห่างฮันบินทันที ร่างเล็กนั้นมองเขาตาขวางก่อนจะก้มหน้าก้มตาระบายสีต่อ
     

    ทำไมล่ะ? ก็เขาพูดความจริงนี่ ผิดด้วยเหรอ?...
     

    พยายามขยับตัวข้ามฝั่งเข้าไปใกล้ๆ เพราะคิดว่าจินฮวานคงไม่คิดมากกับคำพูดของเขาหรอก แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น... เด็กชายตัวเล็กลุกขึ้นยืนพร้อมกับถือสมุดของตัวเองไปนั่งแหมะอยู่ข้างๆฮันบยอลอย่างรวดเร็ว ตอนแรกฮันบินก็กะจะรีบเข้าไปแยกทั้งสองคนให้นั่งห่างกัน แต่พอเห็นสายตาของเด็กๆที่มองมาทางเขาราวกับเป็นคนร้ายนั่นก็รู้สึกได้เลยว่ายังไม่ควรเข้าไปใกล้...
     

    ก่อนหน้านั้นก็ถูกฮันบยอลโกรธ มาคราวนี้ดันเป็นจินฮวานอีก... ต้องมาง้อเด็กสองคนพร้อมกันอย่างนี้เขาไม่สามารถทำได้แน่นอน คิดได้ดังนั้นฮันบินจึงทำได้เพียงถอยทัพมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง...
     

    เฮ้อ... ร่างสูงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอนนี้เด็กๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะคุยกับเขาซักนิด ไม่มาเรียกเขาไปเปิดการ์ตูนให้ดูเลยด้วยซ้ำ พอทำการบ้านเสร็จฮันบยอลก็ลุกไปหยิบตัวต่อไม้มานั่งเล่นกับจินฮวานอย่างสนุกสนาน อยากจะแอบย่องเข้าไปนั่งเล่นด้วยก็ไม่กล้า เลยได้แต่นั่งเท้าคางมองอยู่ห่างๆอย่างนี้
     

    นี่เขาทำผิดขั้นร้ายแรงขนาดนั้นเชียว!? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างฮันบินต้องมาแพ้ให้กับความโกรธของเด็กๆ...
     

    จนกระทั่งแม่ของเขากลับมา ฮันบินก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ตามปกติ วันนี้แม่ซื้ออาหารเข้ามาทำเหมือนเช่นเคย พอวางของลงบนเตอร์ครัวแล้ว แม่ของเขาก็เดินเข้าไปนั่งคุยกับเด็กๆ ฮันบินจึงอาศัยจังหวะนี้แอบย่องเข้าไปนั่งเล่นด้วยแบบเนียนๆ แต่พอแม่ของเขากลับเข้าครัวไปทำอาหารได้ไม่ทันไร ร่างสูงก็โดนเด็กๆขยับตัวหนีอีกรอบ...
     

    ให้มันได้อย่างนี้สิ...
     

    เอาเถอะ! ถึงยังไงพวกเขาก็ยังอายุไม่เท่าไหร่ โกรธไม่นานเดี๋ยวก็คงจะลืมๆไปเอง ฮันบินได้แต่ปลอบตัวเองอยู่อย่างนั้นก่อนจะเดินหลบไปช่วยแม่ในครัว
     

    จริงๆจะบอกว่าช่วยก็คงไม่ถูกซะทีเดียว เพราะปกติเวลาที่ฮันบินเดินเข้ามาในครัวเป็นต้องหยิบของกินอยู่ตลอด จนบางทีวัตถุดิบที่เตรียมไว้ทำอาหารก็พร่องหายไปกว่าครึ่ง
     

    “ทำไมวันนี้ไม่ไปนั่งเล่นกับน้องล่ะ ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย?” ที่แม่ของเขาถามออกมาคงเพราะแปลกใจที่วันนี้ลูกชายคนโตไม่ไปนั่งกันท่าน้องสาวสุดที่รัก
     

    “ก็...ไม่มีนี่ครับ” เขาตอบพลางมองลงไปในหม้อที่แม่ของเขากำลังเทเนื้อและเครื่องปรุงลงไป
     

    จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่าวันนี้เขาเผลอพูดอะไรไม่ดีออกไปเลยทำให้เด็กโมโหน่ะ... เสียเซลฟ์หมดกันพอดี...
     

    “อืม งั้นก็ดีแล้ว... หยิบซอสตรงนั้นให้แม่หน่อย”
     

    “ครับ...” มือหนาเอื้อมไปหยิบขวดสีน้ำตาลเข้มนั้นให้ “แม่ครับ...”
     

    “ฮื้ม?...”
     

    “ตอนเด็กๆผมเคย...เอ่อ เคยงอนแม่จนไม่พูดกับแม่บ้างมั้ยครับ”
     

    “เคยสิ แม่นี่ต้องตามไปง้อตั้งหลายครั้งเลยนะ” เธอตอบพลางหันหน้ามามองลูกชายอย่างหมั่นเขี้ยว
     

    “ผมนึกว่าแม่จะปล่อยให้ผมหายงอนเองซะอีก”
     

    “แม่จะทำอย่างนั้นได้ไงล่ะ... เด็กน่ะ...ต่อให้หายงอนแล้วแต่ก็ยังจำเรื่องที่ทำให้ไม่พอใจได้อยู่ดี เพราะงั้นแม่ว่าการเข้าไปง้อหรือปรับความเข้าใจนั่นแหละดีที่สุด อีกอย่าง...ลูกเป็นลูกของแม่นะ ถ้าแม่ไม่ง้อลูกแล้วจะไปง้อใครได้ล่ะจ๊ะ”
     

    “อ่า...ตอนเด็กๆผมคงทำให้แม่ปวดหัวน่าดู” ฮันบินเอ่ยออกมาก่อนจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอยด้วยความเขิน
     

    “มันก็แหงอยู่แล้ว”
     

    ระหว่างที่กำลังคุยอยู่นั้น เสียงกริ่งจากหน้าบ้านก็ดังขึ้น แต่คราวนี้แม่ของเขาเป็นคนไปเปิดประตูเอง โดยทิ้งหน้าที่ให้เขาคนอาหารในหม้อและคอยดูไปเรื่อยๆ
     

    คงจะเป็นคุณแม่ของจินฮวานที่เพิ่งมาถึง ฮันบินได้ยินเสียงคุยกันเรื่องเด็กๆดังแว่วเข้ามาเป็นระยะ แต่ไม่นานนักแม่ของเขาก็เดินกลับเข้ามาในครัว
     

    “กลับไปแล้วเหรอครับ” ร่างสูงรีบถามทันที
     

    “จ้ะ กลับไปกันแล้วล่ะ”
     

    ฮันบินก้มหน้ามองอาหารที่อยู่ในหม้อต่อ สุดท้ายแล้วก็ปล่อยให้จินฮวานกลับไปทั้งอย่างนั้น เขาเคยโดนฮันบยอลเมินแบบนี้บ่อยก็จริง แต่ฮันบยอลไม่เคยโกรธเขานานนักหรอก พรุ่งนี้เดี๋ยวก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่กับจินฮวาน... ฮันบินที่เพิ่งรู้จักเด็กคนนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจินฮวานจะลืมง่ายเหมือนอย่างน้องสาวของเขาหรือเปล่า...
     

    แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด... พรุ่งนี้เขาก็คงต้องรับศึกหนักเท่านั้นเอง...



     

     

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นฮันบินกับน้องสาวของเขาเดินไปเรียนด้วยกันได้อย่างปกติ ฮันบยอลหายโกรธเขาเร็วอย่างที่คิด แต่อีกคนนี่สิ ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ขนาดเขาเองก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมานั่งกังวลอะไรกับเรื่องนี้ด้วย แต่พอลองคิดๆดูแล้ว สิ่งที่เขาพูดไปเมื่อวานมันคงทำจินฮวานรู้สึกเสียใจจริงๆนั่นแหละ
     

    สำหรับเขาแล้วมันก็แค่คำพูดติดตลกที่เอาไว้พูดกับเพื่อนๆ แต่จินฮวานที่ยังเด็กอยู่คงจะไม่เข้าใจไปกับเขาหรอก...
     

    “เฮ้ย...” ฝ่ามือหนาของเจ้าของเสียงนั้นปัดไปมาอยู่ตรงหน้าเขา “เด็กอายุสิบแปดอย่างมึงนี่มีอะไรต้องเครียดขนาดนั้นด้วยหรอวะ”
     

    “มึงรู้ได้ยังว่ากูกำลังเครียด” ฮันบินหันไปมองเพื่อนสนิทที่โต๊ะข้างๆ
     

    เขารู้จักกับคิมจีวอนมาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมต้น นับๆดูตอนนี้ก็เกือบจะหกปีได้แล้ว เพื่อนคนนี้สูงกว่าเขาเล็กน้อย แถมยังดูเป็นคนร่าเริงกว่าเขาเยอะเลย อาจเป็นเพราะฟันกระต่ายคู่หน้าอันเป็นเอกลักษณ์หรือไม่ก็ตาหยีๆเวลายิ้มที่ทำให้สาวๆหลงใหล พออยู่กับจีวอนทีไรเลยทำให้ฮันบินดูกลายเป็นคนเย็นชาขึ้นมาทันที
     

    “คิ้วมึงนี่แทบจะผูกกันเป็นโบว์อยู่ละ ระวังแก่เร็วนะเว้ยยยยย”
     

    “เรื่องของกู”
     

     “เออ งั้นกูไม่ยุ่งก็ได้ครับ”
     

    นี่ถ้าเขาเป็นคนสดใสได้เท่าคิมจีวอนหรือซักครึ่งนึงก็ยังดี... เรื่องตีซี้กับเด็กนี่คงเป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย
     

    “เฮ้ยมึง!!” ไวเท่าความคิด ฮันบินรีบจับแขนเพื่อนให้หันหน้ามาคุยด้วยอย่างจริงจัง
     

    “อะไรวะ กูตกใจหมด!
     

    “กูมีเรื่องให้มึงช่วยว่ะ...”
     

    “ห๊ะ...”
     

    หลังจากนั้นฮันบินก็เล่าเรื่องคร่าวๆทั้งหมดให้กับเพื่อนสนิทของเขาฟัง คิมจีวอนพยักหน้ารับรู้ไปเรื่อยๆ แต่ก็อดสมน้ำหน้าเพื่อนตัวเองไม่ได้
     

    จะว่าไปแล้วจีวอนเองก็มีแต่พี่ชาย ไม่เคยมีน้องนุ่งที่ไหน ดังนั้นไอ้เรื่องดูแลเด็กอะไรนี่เขาก็เลยไม่ค่อยจะรู้เรื่องเหมือนกัน
     

    “...มึงต้องช่วยกูนะ”
     

    “สรุปคือมึงจะให้กูไปช่วยหลอกเด็กว่างั้นเหอะ?”
     

    “ไม่ใช่เว้ย! พูดให้มันดีๆดิวะ กูหมายถึงให้มึงไปช่วยเกลี้ยกล่อมน้องเค้าเป็นเพื่อนกูเท่านั้นเอง”
     

    “กูไม่เห็นแม่งจะต่างกันตรงไหนเลย” คนที่ตัวสูงกว่ามองออกไปยังนอกหน้าต่างห้องเรียนแล้วสบถออกมาเบาๆก่อนจะหันกลับมาจ้องตาเพื่อนอีกที “เออๆ แต่กูไม่รับปากนะว่าจะทำได้นะ”
     

    “น่า... กูเชื่อใจมึงอยู่แล้ว เย็นนี้อย่างเพิ่งรีบกลับแล้วกัน!
     

    ฮันบินได้แต่ปรบมือให้กับความฉลาดของตัวเองอยู่ภายในใจ เพื่อนคนนี้ของเขามีท่าทางเป็นมิตร เขาเชื่อว่าเด็กๆเห็นจะต้องชอบแน่ๆ ทีนี้เขาก็คงไม่ต้องกลัวแล้วล่ะว่าเย็นนี้จินฮวานจะไม่ยอมกลับบ้านไปพร้อมกับเขา... มั้งนะ





     



    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    50%
    เรื่องนี้อาจจะแต่งช้านิดนึงนะคะ แต่ก็จะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ
    ยุนฮยองโผล่มาได้นางฟ้ามาก เรื่องนนี้ยุนไม่เกรียนนะคะยุนไม่เกรียน
    55555555
    จริงๆเหตุผลที่จินฮวานวาดสิงโตอาจจะมาจากคำๆนี้ก็ได้นะ
    “จะฆ่าทิ้งให้หมดเลย!!” ...อุ๊ตะ... 5555555555555  
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    100%
    ฮันบินคนกินเด็ก ...พวกเขาจะสามารถหลอก เอ้ย เกลี้ยกล่อมจินฮวานได้สำเร็จหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป... -..-"

     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×