ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] VAGUE AFFECTION ► BJinJun

    ลำดับตอนที่ #3 : ► Chapter 2 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 56


    Chapter 2


     

     

    ร่างสูงกำลังยิ้มกว้างซะจนตาหยี หลังจากที่เรียกชื่อเขาแล้วจุนฮเวก็กระโดดลงจากโต๊ะแล้ววิ่งมาหาทางนี้ทันที
     

    “ผมรอพี่ตั้งนานแน่ะ”
     

    “รอ?”
     

    “มากับผมหน่อย” พูดเสร็จก็โดนจับมือแล้วลากไปตรงทางขึ้นลงบันไดที่ไม่ค่อยมีเด็กๆเดินผ่าน อีกไม่นานก็ใกล้จะได้เวลาเรียนแล้ว เพราะงั้นคนอื่นๆก็เลยกลับเข้าห้องกันหมด
     

    “เป็นอะไรรึป่าว?” ที่ถามก็เพราะสงสัยว่าอยู่ๆทำไมเด็กหนุ่มถึงได้ทำหน้าหงอยแปลกๆซะอย่างนั้น
     

    “ผมคิดถึง”
     

    “ห๊ะ...” พอเจอแบบนี้เข้าไปก็เล่นเอาซะคนตัวเล็กแทบไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว “แต่เมื่อกี้ก็เห็นคุยสนุกอยู่กับพวกนั้นนี่...”
     

    “ก็ผมไปแล้วไม่เจอพี่นี่นา เบอร์พี่ผมก็ไม่มีด้วย...” ร่างสูงตอบ “ว่าแต่... พี่หึงหรอ?”
     

    “...” !!!!!!!!!!!!!
     

    จินฮวานตาโตด้วยความตกใจและทำอะไรไม่ถูก อะไรทำให้คนตรงหน้าคิดแบบนั้น!!? ถ..ถึงมันจะจริงก็เถอะ แต่เขาแสดงออกมาขนาดนั้นเลยหรอ?
     

    “จริงๆหรอเนี่ย!? ดีใจแฮะ”
     

    “อ..อะไรกันเล่า!! ยังไม่ได้พูดซักคำ”
     

    “ก็หน้าพี่มันฟ้องอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
     

    “หยุดขำเลยนะ” เด็กคนนี้นี่มันน่าจับมาหักคอนัก ถ้าไม่ติดตรงเด็กคนนี้ที่ว่าดันเป็นคนที่เขาชอบน่ะสิ “ก..ก็ได้ๆ ยอมแล้ว”
     

    “ผมดีใจจริงๆนะที่พี่หึง” จุนฮเวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใส “เพราะมันทำให้ผมรู้ว่าพี่ชอบผมแค่ไหน”
     

    “...” ร่างเล็กรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าว “ที่จริงพี่ก็แอบชอบนายมานานแล้ว...”
     

    “...” !!!!!!!!!!!!!
     

    “ตั้งแต่วันแรกที่นายเข้ามาเรียน พี่มองเห็นนายจากทางหน้าต่าง...”
     

    “ถ้างั้นพี่ก็แอบมองผมมาตั้งแต่เทอมที่แล้วน่ะสิ!!?
     

    “จะ...จะว่าอย่างนั้นก็ได้” คิดไปคิดมาเขานี่เหมือนคนโรคจิตเลยแฮะ... ไม่น่าสารภาพออกไปเลย
     

    “จะน่ารักเกินไปแล้วนะครับพี่ชาย” ร่างสูงเอียงหัวลงมาให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกันกับเขา แต่เขากลับแสร้งเสมองไปทางอื่น ทำอย่างนี้ก็เขินแย่น่ะสิ!! “ผมกอดพี่ได้มั้ย?”
     

    “...” !!!!!!!!!!!!!
     

    ให้ตายเถอะ เด็กคนนี้จะทำให้เขาหน้าร้อนจนระเบิดเลยหรือยังไง?
     

    “นะครับ”
     

    “อ..อือ แค่แปปเดียวนะ เดี๋ยวมีคนมาเห็...” ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกคนตรงหน้าดึงเข้าไปสวมกอดอย่างง่ายดาย
     

    ฝ่ามือที่หนากว่าเอื้อมขึ้นมาลูบหัวของเขาอย่างอ่อนโยน ใบหน้าแดงจัดซบลงบนแผ่นอกกว้างซักพักก่อนจะตั้งตัวได้แล้วค่อยๆขยับตัวออกห่าง
     

    “ผมขอยืมโทรศัพท์พี่หน่อย”
     

    จินฮวานควานหาโทรศัพท์จากกระเป๋าเป้ก่อนจะยื่นมันให้กับร่างสูง
     

    “...”
     

    พอรับไปก็เหมือนจะกดๆจิ้มๆอะไรบางอย่าง จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องดังขึ้นมาจากในกระเป๋าของจุนฮเว
     

    “ในที่สุดผมก็มีเบอร์พี่ซักที” เด็กหนุ่มยิ้มจนตาหยีอีกครั้งพลางส่งโทรศัพท์คืนให้กับเจ้าของ “ผมเมมชื่อผมให้แล้วนะ”
     

    จุนฮเวสุดหล่อ
     

    “อ่า... นี่มัน... จะน่าอายเกินไปมั้ยเนี่ย” คนตัวเล็กมองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองอย่างเหลือเชื่อ
     

    “ห้ามเปลี่ยนนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” อีกฝ่ายก็หัวเราะด้วยความสนุกสนานท่าเดียว “วันนี้หลังเลิกเรียนพี่มีนัดป่าว?”
     

    “ไม่มีอะ”
     

    “ถ้างั้นเดี๋ยวผมโทรหา”
     

    “อือ”
     

    “พี่กลับห้องเรียนเถอะครับ เดี๋ยวเสียงออดก็ดังแล้ว”
     

    “นายก็เหมือนกันนั่นแหละ”

     


     

     

    คนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในห้องเรียนโดยพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด คาบแรกของเขาเริ่มต้นขึ้นแต่เขาก็ยังอดใจลอยนึกถึงเจ้าของอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นเมื่อกี้นี้ไม่ได้ จนเข้าคาบสองนั่นแหละที่เขาโดนทำโทษให้ตอบคำถามเพราะมัวแต่เหม่อ สุดท้ายก็เลยต้องหันกลับมาตั้งใจเรียน และได้แต่เฝ้ารอเวลาเลิกเรียนที่กำลังใกล้จะเข้ามาถึงในเร็วๆนี้
     

    แน่นอนว่าเวลาที่คนเราตั้งใจรออะไรซักอย่างแล้ว เวลามักจะผ่านไปช้าเสมอ
     

    เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ทำเอาจินฮวานแทบสะดุ้ง ขนาดนั่งรอสายคนๆนี้อยู่ก็ยังตกใจซะงั้น
     

    “ฮัลโหล”
     

    “พี่เลิกเรียนแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงร่าเริงจากปลายสายดังขึ้น
     

    “อาฮะ เลิกแล้ว”
     

    “พี่มาหาผมได้มั้ย ผมจะรออยู่ที่หลังโรงเรียน”
     

    “ได้สิ”

     

     

    หลังจากนั้นจินฮวานก็คว้ากระเป๋าเป้ที่เก็บของเรียบร้อยขึ้นมาสะพายก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป ทำไมอยู่ๆถึงได้นัดไปหลังโรงเรียน... เขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่ไปถึงเดี๋ยวก็คงรู้เองนั่นแหละ
     

    ระหว่างที่เดินลงมานั้นเขาเห็นร่างสูงของฮันบินกำลังเดินมาทางตึกที่เขายืนอยู่ สงสัยจะลืมของหรือไม่ก็คงมีประชุมกรรมการนักเรียนถึงได้เดินมาทางนี้ แต่จะให้เขาเจอฮันบินตอนนี้ไม่ได้เพราะเขายังไม่พร้อม ดังนั้นคนตัวเล็กก็เลยหมุนตัวกลับไปแอบแถวๆตู้ล็อคเกอร์ รอจนอีกฝ่ายเดินขึ้นบันไดไปแล้วจึงออกมาข้างนอก
     

    เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วมุ่งหน้าไปทางหลังโรงเรียนทันที ประตูนี้ไม่ค่อยมีเด็กใช้เป็นทางเข้าออกมากนัก เพราะมันไม่ได้ติดกับถนนใหญ่ แต่ก็มีสวนสาธาณะที่สำหรับเดินเล่นหรือออกกำลังกายตั้งอยู่
     

    ไม่แน่ใจว่าจุนฮเวรอเขาอยู่ตรงไหน เพราะตอนที่เดินมาถึงแล้วก็ยังไม่เห็นร่างใครคนนั้น ในขณะที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาก็ได้ยินเสียงเรียกพอดี
     

    “พี่จินฮวาน!!” เจ้าของเสียงนั้นกำลังยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นจุดที่เป็นประตูทางเข้าของสวนสาธารณะ

    เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงรีบข้ามฝั่งไปหา พอมาถึงร่างสูงก็ส่งยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะจับมือเขาให้เดินเข้าไปด้านในสวนสาธารณะด้วยกันโดยไม่ได้พูดอะไร
     

    “นี่เรากำลังจะไปไหนกัน?” เดินมาได้ซักพักแต่เห็นว่าอีกคนยังเงียบคนตัวเล็กก็เลยออกปากถามด้วยความสงสัย
     

    “...” แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบเอาแต่พาเดินลัดเลาะอยู่ข้างรั้วลูกเดียว
     

    จนกระทั่งในที่สุดจุนฮเวก็หยุดเดินพร้อมกับปล่อยมือเขาแล้วบอกให้เขายืนรออยู่ตรงนี้ ในขณะที่ตัวเองเดินหายเข้าไปในพุ่มหญ้าเตี้ยๆตรงรั้วนั่น
     

    “น่ารักมั้ยครับ?” เด็กหนุ่มโผล่ออกมาจากพุ่มไม้อีกทีพร้อมกับกล่องลังที่ภายในบรรจุลูกแมวตัวเล็กอยู่...
     

    ลูกแมว?
     

    “นายไปเอามาจากไหนน่ะ!?” ร่างเล็กเบิกตากว้างอย่างตกใจ
     

    “เมื่อเช้าก่อนที่ผมจะไปหาพี่ที่ห้อง ผมเล่นบาสกับเพื่อนๆอยู่ พอดีว่าผมทำลูกบาสเด้งออกมาจากสนามจนผมต้องวิ่งมาเก็บถึงหลังโรงเรียน แล้วจากนั้นผมก็เห็นเจ้านี่ถูกวางทิ้งไว้ ก็เลย...”
     

    “ก็เลย...?”
     

    “เอามาซ่อนไว้ที่นี่.. กะว่าจะเอากลับห้องด้วยน่ะครับ” พูดเสร็จหันไปยิ้มกับเจ้าแมวเหมียวที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ในกล่องอย่างสบายใจ
     

    “แต่ที่อพาร์ทเมนท์นายจะเลี้ยงได้หรอ”
     

    “ก็ไม่ได้หรอกครับ... ผมคงต้องแอบเลี้ยง”
     

    “เอาจริงหรอเนี่ย...”
     

    “ครับ! ก็ผมอยากเลี้ยงอ่า... พี่ลองดูสิ มันหน้าตาน่ารักเหมือนพี่จะตายไป” ไม่พูดเปล่า ยังอุ้มเจ้าลูกแมวตัวนั้นขึ้นมาเทียบกับหน้าเขาอีกต่างหาก!
     

    “เหมือนตรงไหนกันเล่า!?” ไอ้ที่บอกว่าเหมือนน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เขาเขินตรงที่บอกว่าน่ารักนั่นต่างหาก ก็เล่นพูดออกมาตรงๆซะขนาดนั้น
     

    ว่าแต่เขากับเจ้าแมวนี่ใครน่ารักกว่ากันล่ะ? ชักเริ่มไม่พอใจซะแล้วสิ...
     

    “แต่ถึงยังไงพี่ก็น่ารักกว่าอยู่ดีนะครับ”
     

    “...” !!!!!!!!!!!
     

    นี่จุนฮเวสามารถอ่านใจเขาได้หรือว่าเขาแสดงออกมาเกินไปจนดูออกกันแน่เนี่ย!?
     

    “จริงสิ! ผมยังไม่ได้คิดชื่อให้มันเลย พี่ช่วยคิดชื่อให้มันหน่อยได้มั้ยครับ?”
     

    “ห๊า... อ่า...” จะเอายังไงดีล่ะ... เขาไม่ค่อยถนัดเรื่องอะไรพวกนี้ซะด้วยสิ
     

    มือเล็กเอื้อมไปข้างหน้าเพื่อขออุ้มลูกแมวตัวนั้นบ้าง ร่างสูงก็รีบยื่นมาส่งให้ทันที
     

    “...”
     

    “อ่า... ลูกแมวตัวนี้คงเพิ่งเกิดได้ไม่นาน แล้วนายก็เพิ่งเจอมัน... ตอนนี้.... อืม... ตอนนี้... งั้นก็ชื่อคาอึล(ฤดูใบไม้ร่วง)แล้วกัน”
     

    “...”
     

    ทำไมอยู่ๆจุนฮเวถึงได้เงียบไปล่ะ... ชื่อที่เขาตั้งให้มันเห่ยมากขนาดนั้นเลยหรอ?
     

    “ถ้านายไม่ชอบ...”
     

    “ชอบสิครับ! ผมชอบมากเลย ขอบคุณนะครับ” เขาส่งเสียงดีใจแล้วยื่นมือเข้ามาอุ้มลูกแมวกลับไป “เฮ้ นายมีชื่อแล้วนะ คาอึล! นายคงชอบชื่อนี้ล่ะสิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
     

    จินฮวานฉีกยิ้มให้กับอีกฝ่ายที่กำลังหัวเราะอย่างร่าเริง พอได้มองแบบนี้แล้วก็เพลินดีเหมือนกัน... เขารู้สึกว่าเขาชอบจุนฮเวที่เป็นแบบนี้นี่แหละ
     

    ไม่นานร่างสูงก็หยุดหัวเราะเพราะเล่นโดนคนตรงหน้าจ้องไม่วางตาเลย ใบหน้าหล่อเหลาที่แต้มรอยยิ้มกำลังเอียงคอลงด้วยความสงสัยก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ... ใกล้จนร่างเล็กรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ปะทะกัน แต่กว่าจะรู้ตัวก็โดนคนที่ตัวสูงกว่าขโมยจูบด้วยริมฝีฝากนั่นไปเสียแล้ว...

     

     





     

    เสียงดนตรีที่กำลังดังกระหึ่มไม่ได้เข้ามาภายในโสตประสาทของคิมฮันบินเลยซักนิด... วันนี้เขามาทำงานที่ผับตามปกติ หน้าที่ของเขาก็มีแค่ชงเหล้าไปตามที่ลูกค้าสั่งเท่านั้น ร่างสูงหันตัวหยิบนู่นจับนี่ไปตามสัญชาติญาณ ถึงแม้ที่จริงแล้วในตอนนี้จิตใจของเขาจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยก็เถอะ
     

    โชคดีหน่อยที่เขาไม่ได้ชงเหล้าพลาด...
     

    เขาเฝ้าแต่ถามตัวเองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นคืออะไร... สิ่งที่เขาทำมันถูกหรือผิด ในเมื่อเขาเป็นคนมาก่อน เขารักจินฮวานมาตั้งนานแล้ว ทำไมเขาจะไม่มีสิทธ์ทำแบบนั้นล่ะ... แต่ว่า... คนตัวเล็กคงจะต้องโกรธเขามากแน่ๆ ถึงตอนแรกเขาจะไม่ได้รู้สึกผิดอะไร แต่ตอนนี้สิ... เขาเริ่มกลัวว่าจินฮวานอาจจะไม่พูดกับเขาอีกเลย
     

    คงต้องรีบหาทางปรับความเข้าใจกัน...
     

    “ไอ... บีไอ... บีไอ!!
     

    “... ห๊ะ?” ใบหน้านิ่งเงยหน้าจากบาร์ขึ้นมามองคนที่เรียก
     

    บีไอเป็นชื่อที่เขาใช้ในผับนี้ เพราะต้องการหลีกเลี่ยงชื่อจริง
     

    “เรียกตั้งนานละ มัวแต่ใจลอยไปหาจินฮวานตัวน้อยรึไงวะ?” มือเรียวบางของเด็กหนุ่มใบหน้าหวานเอื้อมมายกแก้วค็อกเทลขึ้นเพื่อจิบเล็กน้อย
     

    คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือนัมแทฮยอนเพื่อนสนิทของจินฮวานตัวน้อยนั่นแหละ พวกเขามักเจอกันบ่อยๆเพราะแทฮยอนก็รับงานร้องเพลงอยู่ที่นี่เหมือนกัน แต่ก็ร้องถึงแค่ประมาณสามทุ่มเท่านั้น เพราะหลังจากนี้ผับก็จะเปิดเพลงเอง อย่างตอนนี้... ร่างโปร่งบางที่นั่งเท้าคางอยู่ข้างหน้าเขาคงจะเลิกงานแล้ว
     

    “หึ... คิดถึงเค้าแล้วไง? ในเมื่อเค้าคงมีคนอื่นให้คิดถึง”
     

    “หมายความว่าไงวะ?” ใบหน้าเรียวสวยกำลังขมวดคิ้มด้วยความสงสัย “นี่แอบโดดเรียนไปแค่สองวันเองนะ ตกข่าวอะไรไปบ้างวะเนี่ยยยยยย”
     

    “ก็ลองไปถามเพื่อนพี่ดูเอาเองละกัน” เพราะเขาไม่อยากพูดถึงมันอีกแล้ว “ว่าแต่พี่เหอะ... เป็นนักเรียนก็ต้องไปโรงเรียนดิ จะโดดอะไรนักหนา”
     

    “โห่ยยยยยยย โดดนิดโดดหน่อยอย่าบ่นเลยครับท่านประธาน”
     

    จะไม่ให้บ่นได้ไง ก็พี่แทฮยอนคนนี้เล่นขาดเรียนเป็นว่าเล่น ไม่รู้ว่าเหลืออีกกี่ครั้งถึงจะหมดสิทธิ์สอบ บอกตรงๆว่าทุกวันนี้เค้ายังสงสัยอยู่เลยว่าคนตรงหน้านี่มาเป็นเพื่อนสนิทกับจินฮวานได้ยังไง น่าเหลือเชื่อชะมัด...
     

    “เห็นทีมาทำงานหละมาได้...”
     

    “ก็ร้องเพลงมันสนุกกว่าไปเรียนนี่” ร่างบางตอบแล้วหยิบค็อกเทลขึ้นมาดื่มอีกครั้ง “ว่าแต่นายจะออกจากงานแล้วหรอ พอดีเห็นบ็อบบี้ติดประกาศรับสมัครคนใหม่น่ะ”
     

    บ็อบบี้หรือชื่อจริงๆคือคิมจีวอน... เพื่อนสมัยมัธยมต้นของเขาที่ตอนนี้อยู่กันคนละโรงเรียนแล้ว จริงๆเขาได้งานนี้มาก็เพราะเพื่อนคนนี้เนี่ยแหละ บังเอิญว่าตอนนั้นลุงของจีวอนที่เป็นเจ้าของผับกำลังต้องการคนพอดี เขาก็เลยให้เพื่อนซี๊วัยเด็กที่ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่แล้วช่วยฝากให้
     

    “ครับ จะออกสิ้นเดือนนี้แหละ”
     

    “ว๊า งี๊ก็ไม่มีเพื่อนคุยละดิ เซ็งว่ะ”
     

    “พี่ก็คุยกับบ็อบบี้ไปดิ”
     

    “เรียกกูหรอ?” อยู่ๆเจ้าของชื่อก็โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับใบหน้าที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นลูกตา บวกกับฟันที่ยื่นออกมาภายใต้รอยยิ้มที่แสนสดใสซะจนมองดูแล้วขัดกับอารมณ์ขุ่นมัวของฮันบินตอนนี้สุดๆ
     

    “ป่าว ไปทำงานไป” ร่างสูงออกปากไล่เพื่อนตัวเองอย่างหงุดหงิด
     

    “อะไรวะ? ไปก็ได้” คนถูกไล่ก็ได้แต่ทำหน้างงๆก่อนจะเดินแยกไปทำหน้าที่ชงเหล้าของตัวเองต่อ ทิ้งให้ฮันบินต้องอยู่กับแทฮยอนเพียงสองคนอีกครั้ง
     

    “นี่... บีไอ”
     

    “ครับ?”
     

    “คนนั้นอะ...” นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังใครบางที่นั่งอยู่ถัดไปไม่ไกลจากตรงนั้นเท่าไหร่นัก ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะมาแค่เพียงคนเดียว “ใครหรอ ไม่เห็นคุ้นเลย”
     

    “ไม่รู้สิครับ สงสัยเพิ่งจะเคยมานั้งดริ๊งค์ที่นี่มั้ง ผมก็ไม่เคยเห็นนะ” ฮันบินตอบส่งๆไปอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะออร์เดอร์เข้ามาพอดีเขาจึงต้องหันไปสนใจกับงานมากกว่า
     

    “ดูหน้าดิ เละซะ... สงสัยโดนรุมมาแหง”
     

    “ถ้าพี่อยากรู้ก็ลองไปถามเค้าดูสิครับ”
     

    “อย่าท้านะเว้ยยยยยยย”



     

     

    “มาคนเดียวหรอครับ?”

    สุดท้ายนัมแทฮยอนก็เข้าไปทักทายคนแปลกหน้าจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะโดนท้าหรือเพราะจริงๆแล้วตัวเองแอบสนใจคนตรงหน้ากันแน่

    แต่ดูเหมือนคำตอบน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า...

     

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกคนนนนน เค้ามาต่อแล้วนะ อิอิ
    ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ comment เลยนะคะ
    ดีใจจจจจง่ะ >< กลัวว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้ว
    ยังไงก็ขอฝากติชมด้วยเหมือนเดิมนะคะ >3<
    ช่วงแรกนี่ก็ใสๆไปก่อนเลย ละมุนๆเล็กๆ
    อีกไม่นาน(?)ก็จะพาเข้าสู่โหมดดาร์ค
    แอร๊ยยยยย ว่าไปนั่น~ ไม่แน่ใจว่าจะทำได้มั้ย
    แต่จะพยายามให้ดีที่สุดเลยค่ะ!! -w-
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×