คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [SF] My Sweet(?) Valentine ♬ JunJin
[SF] My Sweet(?) Valentine
[Couple] JunJin
“ทีหน้าทีหลัง! อย่าสะเออะ!! มาแหยมกับพวกกูอีก!!!” เสียงตะโกนดังปาวๆ ในขณะที่เจ้าเสียงนั้นกำลังชูนิ้วกลางใส่พวกเด็กอ่อนหัดที่ล้มนอนอยู่ใต้ฝ่าเท้า ยิ่งพอไอ้เด็กหัวตั้งคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างเคียดแค้น เขาก็ยิ่งหมั่นไส้ในความยโสโอหังนั้นเลยจัดลูกเตะไปให้อีกชุด
“มึง... กูว่าพอได้แล้วมั้ง”
“ได้ไงวะ? คราวที่แล้วแม่งพาพวกมารุมมึงนะเว้ยจีวอน แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“แต่ตอนนี้มึงก็เล่นพวกมันปางตายแล้วนะ”
“อ้าวหรอ โทษที... พอดีคันตีนไปหน่อย” ว่าแล้วก็หันไปเขี่ยเท้าใส่เด็กหัวแดงที่นอนกองอยู่บนพื้นข้างๆ นี่เขาควรเป็นคนใจดีโทรเรียกรถพยาบาลให้พวกแม่งหรือจะปล่อยให้นอนตายห่าตรงนี้ต่อไปดี
“อ..ไอ้สัส... พวกมึง..พวกมึงแม่งก็หมาหมู่เหมือนกันแหละวะ!” เสียงใครซักคนแถวนั้นตะโกนขึ้น ทำให้คนถูกด่าต้องหันกลับไปมองก่อนจะลากขาเดินเข้าไปใกล้ๆ เขานั่งลงข้างๆเด็กหนุ่มคนนั้นแล้วกระชากผมสีทองของมันเพื่อให้เงยหน้าขึ้นมา
“เมื่อกี้มึงว่าไงนะ?” ยังปากดีได้ขนาดนี้แสดงว่าคงไม่ต้องการรถพยาบาลกันแล้วมั้ง
“กู... บ..บอกว่าพวกมึงหมาหมู่”
“มึงนี่ก็กล้าพูดนะ ทีตอนมึงรุมเพื่อนกูล่ะไอ้สัส!” ว่าแล้วก็รู้สึกของขึ้น รีบง้างแขนกำมือแน่นทำท่าจะต่อยอีกฝ่ายทันที
“จินฮวาน!!”
“เรียกหาพ่อง! ไม่เห็นรึไงว่ากูกำลังจัดการไอ้เหี้ยนี่อยู่!!”
“แฟนมึงมา!!”
พอได้ยินแค่นั้น คนถูกเรียกก็ลดมือลงโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับเบิกตาเล็กๆของตัวเองจนกว้างขึ้นด้วยความตกใจ วันนี้นัดกันไว้ด้วยหรอวะ? ทำไมแม่งไม่โทรมาบอกกันก่อนว่าจะมาหาน่ะ ไอ้สัสสสสสสส
“แล้วทำไมมึงเพิ่งจะมาบอกกูห๊ะยุนฮยอง!!”
“กูจะไปรู้เร๊อะ ยืนมองต้นทางอยู่ดีๆแม่งก็ผ่านมาเนี่ย มันถามหามึงใหญ่เลย รีบๆออกไปเหอะสัส ไม่งั้นมันได้เข้ามาหามึงเองแน่!!”
“เหี้ยเอ๊ย...” สบถออกมาอย่างหัวเสียแล้วรีบลุกขึ้นยืนทันที สถานที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้เป็นเหมือนซอยเล็กๆที่ไม่มีคนชอบเดินผ่าน แหงล่ะ ในเมื่อมันเป็นถิ่นที่เด็กช่างชอบยกพวกมาตีกัน แล้วชาวบ้านชาวช่องที่ไหนเค้าจะกล้าเดินเข้ามา แต่เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ ตอนนี้เขาควรรีบวิ่งออกไปที่ปากซอยให้เร็วที่สุด
ทิ้งงานเอาไว้อย่างนั้นเดี๋ยวเพื่อนๆในแก๊งก็คงจัดการกันเองได้ ตอนนี้เขาวิ่งมาจนใกล้จะถึงต้นทางอยู่แล้วจึงมองเห็นร่างสูงคุ้นตานั้นยืนอยู่ไม่ไกล เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาเรียบร้อยกำลังยืนพิงกำแพงตึกและเอามือล้วงกระเป๋าอย่างสบายๆ จินฮวานหยุดพักหายใจอยู่ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
“ไง...”
“ฮยองไปมีเรื่องอีกแล้วอะดิ” ดวงตาคมคู่นั้นมองตรงมาที่เขาอย่างคาดคั้น ปกติถ้าเป็นคนอื่นมองอย่างนี้ จินฮวานคงกระโดดควักลูกตาออกไปแล้ว แต่นี่มัน...
“ก็...นะ”
“เมื่อไหร่จะเลิกซักที”
“พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีอะจุนฮเว แล้วนี่มาทำไรแถวนี้?”
“มาหาฮยองนั่นแหละ”
“ทำไมไม่โทรมาบอกก่อน”
“โทรแล้วแต่ไม่รับ ฮยองคงกำลังเตะต่อยคนอื่นอยู่แหง...” ว่าแล้วก็เบะปากลงทันที นี่อย่าบอกนะว่างอน ก็น่าจะรู้อยู่ว่าคนอย่างจินฮวานง้อใครไม่เป็น ขอร้องเหอะ... ตัวงี๊โตยังกะควาย ทำหน้าแบบนั้นคิดว่าน่ารัก?
“เออๆ โทษที แล้วตกลงว่าที่มานี่มีไร?”
“ฮยอง...” คนที่ตัวสูงกว่าขยับตัวออกจากกำแพงนั้นแล้วตรงเข้ามาจับไหล่เล็กๆทั้งสองข้างของจินฮวานเอาไว้ พวกเขาทั้งคู่สบตากันก่อนที่จุนฮเวจะเป็นฝ่ายพูดต่อ “วันนี้วันวาเลนไทน์นะ เราไม่ควรอยู่ด้วยกันหรอ?”
“อ่า...” วันนี้วันที่ 14 กุมภาหรอวะ? ไม่เห็นจำได้เลยแฮะ ก็แน่ล่ะ... ในหัวเขามีแต่เรื่องยกพวกตีกันนี่นา ไอ้เรื่องแบบนี้จะไปจำได้ยังไง
“เราเป็นคนรักกันนะครับ” เออรู้ ไม่ต้องย้ำ “ไปหาอะไรกินด้วยกันก็ยังดี”
“แล้ววันนี้นายไม่มีเรียนรึไง?”
“โห่ฮยอง นี่มันสี่โมงเย็นแล้วนะ ถึงจะมีเรื่องชกต่อยกันบ่อยๆแต่ก็หัดดูเวลามั่งเหอะ”
“เออๆ รู้แล้ว เลิกบ่นดิ๊ จะไปไหนก็รีบไปก่อนที่กูจะหมดอารมณ์”
มันก็เป็นซะอย่างนี้ทุกครั้ง... ทั้งๆที่เป็นคนรักกัน แต่ก็ไม่ได้ทำตัวให้หวานชื่นเหมือนกับคู่อื่นๆเลยซักนิด จะให้ทำไงได้ ในเมื่อปกติจินฮวานก็นิสัยห่ามๆแบบนี้ ซึ่งถ้าจะผิดก็คงผิดที่จุนฮเวเองนั่นแหละที่หน้ามืดตามัวมาขอเขาคบเองตั้งแต่วันนั้น พอนึกแล้วก็ขนลุกขึ้นมาเบาๆแฮะ
‘คบกับผมได้มั้ยครับ?’
‘อย่ามาอำไอ้สัส กูไม่ตลก...’
‘ผมก็ไม่ได้กะจะทำให้ฮยองขำซักหน่อย คบกับผมเถอะนะ’
ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆชีวิตเด็กช่างเทคนิคที่วันๆมีแต่เรื่องต่อยตีอย่างเขาจะมีคนเข้ามาสารภาพรัก แถมไอ้คนสารภาพดันเป็นนักศึกษามหาลัยสุดคูลอีกต่างหาก แต่มีหรอที่คนอย่างจินฮวานจะยอมง่ายๆ ลูกผู้ชายมาดแมนอย่างเขาน่ะไม่มีทางสนใจเรื่องไร้สาระพวกนั้นหรอก
แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ก็ช่างตื๊อซะเหลือเกิน... สุดท้ายก็เลยต้องยอมคบๆแม่งไป จริงๆจะบอกว่ายอมเฉยๆมันก็คงไม่ถูกนัก เพราะถ้าจินฮวานไม่ได้มีใจให้ซักนิดก็คงไม่ตัดสินใจแบบนั้น... คนมันโดนตื๊อทุกวัน นานๆเข้าก็เลยเริ่มใจอ่อนว่างั้นเหอะ แล้วอีกฝ่ายก็ดูจริงใจไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรด้วย
หรือความจริงที่แม่งมาขอคบด้วยนี่เพื่อแก้แค้นอะไรซักอย่างเหมือนในหนังในละครหลังข่าววะ? อืม... น่าคิด
“คิดอะไรอยู่หรอฮยอง?”
“ป..ป่าว”
“ก็เห็นเหม่อๆ แล้วตกลงจะกินป่ะร้านนี้อะ” เอ่ยพลางชี้มือไปที่ฝั่งตรงข้ามของถนน ร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนตั้งอยู่ที่มุมตึกนั้น มันก็ดูน่านั่งดีอ่านะ แต่ไม่ใช่สไลต์จินฮวานหรอกบอกเลย
“ไปร้านข้างทางเหอะว่ะ”
“เอางั้นหรอ? วันพิเศษทั้งทีนะครับ”
“เออ เอางั้นแหละ วันไหนๆแม่งก็เหมือนกันหมดป่ะ โว๊ะ...” ประโยคหลังนั้นเจ้าตัวแอบบ่นเบาๆอยู่คนเดียว ก็มันจริงนี่ โอกาสพิเศษอะไรนั่นมันมีอะไรสำคัญนักหรอ? สำหรับจินฮวานแล้วในปฏิทินของเขาก็บันทึกไว้แค่วันประกาศศึก(สงคราม)กับเด็กนักเรียนช่างโรงเรียนอื่นเท่านั้นแหละ
อ้อ มีวันหยุดด้วยสินะ เป็นอะไรที่โคตรจะสำคัญเลยล่ะ
สุดท้ายแล้วพวกเขาก็มานั่งแหมะอยู่ที่ร้านขายอาหารข้างทางจนได้ เห็นอย่างนี้แล้วจุนฮเวก็ค่อนข้างจะตามใจเขาอยู่เหมือนกัน ยกเว้นก็แค่เรื่องยกพวกตีกันที่จุนฮเวพยายามห้ามเขาอยู่บ่อยครั้ง
“เดี๋ยวผมมานะ” หลังจากสั่งอาหารเสร็จ คนที่ตัวสูงกว่าก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากร้านไป ปล่อยให้จินฮวานนั่งรออาหารอยู่คนเดียว ...ช่างเหอะ เขาไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าอาหารมาเสิร์ฟเมื่อไหร่ก็ไม่รอหรอกนะ
ซึ่งเอาจริงๆแล้ววันนี้คนก็เยอะจนแน่นร้านอยู่เหมือนกัน เพราะงั้นตอนที่จุนฮเวเดินกลับเข้ามาจึงไร้วี่แววอาหารบนโต๊ะ จินฮวานหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดูดจนมันเหลือแต่น้ำแข็ง ตอนแรกก็ไม่หิวหรอกนะ แต่พอหิวเท่านั้นแหละ หิวเลย...
“เขยิบมาใกล้ๆหน่อยสิครับ”
“ทำไม”
“เถอะน่า”
จินฮวานไม่ชอบให้ใครมาสั่ง แล้วยิ่งไม่ยอมบอกเหตุผลกันอย่างนี้ เขาก็เลยนั่งนิ่งๆอยู่กับที่พลางส่งสายตามองอีกคนด้วยความสงสัย ซึ่งจุนฮเวก็ไม่ปล่อยให้เขามองอยู่แค่ฝ่ายเดียว ร่างสูงกลายเป็นคนที่ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆแทน
นิ้วเรียวยาวถูกเลื่อนขึ้นมาแตะเบาๆที่หางคิ้วข้างซ้ายของคนตัวเล็ก ก่อนที่จุนฮเวจะล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
พลาสเตอร์?
จุนฮเวจัดการแกะมันออกก่อนจะแปะมันเบาๆลงบนแผลที่หางคิ้ว จริงๆแผลก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเลยสำหรับจินฮวาน แค่นี้น่ะเล็กน้อยจะตาย... แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งมองการกระทำของอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น อย่าบอกนะว่าที่หายไปนี่คือไปซื้อพลาสเตอร์ยามา
“เลิกมีเรื่องเถอะครับ ถือว่าผมขอไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้” ก็มันไม่ได้จริงๆนี่หว่า ...ทำไมต้องมองด้วยสายตาดุดันซะขนาดนั้น
“ทำไมฮยองถึงไม่ห่วงตัวเองบ้างเลย”
“มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีว่ะ... พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจหรอก”
“ใช่สิ ผมมันโง่... โง่ตั้งแต่วันที่หลงรักฮยองแล้ว”
“นี่ตกลงจะชวนทะเลาะให้ได้ใช่ป่ะ ถ้ามันลำบากนักก็เลิกไปเลยดิ!” เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่แคร์อะไรอยู่แล้ว ในเมื่อเขาก็เป็นของเขาอย่างนี้ จะมาทนคบให้เหนื่อยใจไปทำไม...
แต่ก่อนที่อะไรๆจะบานปลาย... อาหารหลากหลายจานก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะพอดี ทำให้บรรยากาศรอบๆตัวพวกเขาเริ่มเงียบลง... ไม่มีใครพูดอะไร ได้แต่มองอาหารตรงหน้าแล้วก็ตักกินโดยที่ไม่ได้รับรู้รสชาติเลยว่ามันอร่อยรึเปล่า
ไหนว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ? พิเศษตรงไหนกัน...
“ฮยอง...”
“...”
“ผมขอโทษ” คนที่เป็นฝ่ายยอมก่อนไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้แพ้... จุนฮเวก็แค่ไม่อยากให้อะไรๆมันแย่ลงไปมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง พี่ชายตัวเล็กน่ะดื้อขนาดไหน เขาเองก็รู้ดีและเข้าใจมาโดยตลอด...
“อืม”
“แต่ผมอยากให้ฮยองรู้ไว้ว่าผมเป็นห่วงจริงๆนะ...” เอ่ยพลางเขี่ยอาหารที่วางอยู่ในจานไปเรื่อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ “ถ้าฮยองเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง...”
“กูดูแลตัวเองได้-...”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ”
“จินฮวานฮยองของผมน่ะมีอยู่แค่คนเดียวบนโลกนี้ เพราะงั้นผมจะไม่ยอมเสียฮยองไปแน่ๆ”
...และแล้วความเงียบก็เข้ามาเกาะกุมพวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง
พระอาทิตย์กำลังตกดิน... และท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี... ความหนาวเหน็บของอากาศทำให้คนตัวเล็กต้องกระชับเสื้อกับผ้าพันคอของตัวเองให้แน่นขึ้น
เด็กหนุ่มสองคนเดินเคียงคู่กันไปบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน ก่อนที่พวกเขาจะพากันเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง... ทุกๆครั้งที่ไปไหนด้วยกัน จุนฮเวจะเป็นพาพี่ชายตัวเล็กมาส่งก่อนเสมอ ซึ่งที่พักของจินฮวานนั้นเป็นห้องเช่าธรรมดาที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาเท่าไหร่นัก เพราะว่าจินฮวานเป็นเด็กต่างจังหวัดแต่มาเรียนอยู่ในเมือง ก็เลยต้องอาศัยอยู่คนเดียว... จุนฮเวเคยออกปากหลายครั้งแล้วว่าอยากมาอยู่เป็นเพื่อน แต่แน่นอนว่าเขาก็โดนปฏิเสธตลอด
เดินขึ้นมาจนถึงชั้นสามแล้วก็คงต้องถึงเวลาล่ำลา อย่างจุนฮเวน่ะเคยได้เหยียบเข้าไปในห้องนั้นซะที่ไหน... อย่างมากก็แค่ยืนอยู่หน้าห้อง นี่ขนาดคบกันมาสี่เดือนแล้วนะ
คงเป็นเพราะอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้จินฮวานยังไม่ค่อยแน่ใจ... ถึงจะคบกันก็ใช่ว่าระหว่างพวกเขาจะทำอะไรเหมือนกับคู่รักอื่นๆ ถ้าลองคิดดูดีๆเขาอาจจะแมนกว่าไอ้เด็กบ้านี่ด้วยซ้ำ เอาตรงๆคือเขาไม่อยากเป็นฝ่ายรับน่ะ แต่จุนฮเวแม่งก็ตัวใหญ่ซะเหลือเกิน แล้วอย่างนี้เขาจะกล้าให้จุนฮเวเข้ามาในห้องได้ยังไง เดี๋ยวเกิดอะไร(อะไรล่ะ?)ขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
“ส่งแค่นี้ก็พอละ”
“ครับ...” คนตอบยังคงยืนอยู่ที่เดิมและทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา “จุ๊บหน่อย”
“ห๊ะ?...”
“จุ๊บผมก่อนแล้วค่อยเข้าห้อง”
“พ่อง... วิญญาณเหี้ยไรเข้าสิงมึงเนี่ย รีบกลับไปเลยไป”
“นะครับ...” ฝ่ามือหนารีบเอื้อมไปคว้าแขนคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว “ไม่งั้นผมจะงอแงอยู่ตรงนี้จริงๆด้วย”
“มึงคิดว่าตัวเองอายุสามขวบไง?”
“จะคิดอย่างนั้นก็ได้นะ ถ้าฮยองยอมจุ๊บผมน่ะ”
“ไม่เอาโว๊ย!”
“ใจร้าย...” พูดเสร็จก็ทำหน้าหงอยลงทันที อะไรของมันวะ... เดี๋ยวก็ชวนทะเลาะ เดี๋ยวก็ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ นี่ชักจะตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ
“ย่อตัวลงมาดิ๊”
“ครับ?”
“ไอ้สัส กูบอกให้ย่อตัวลงมา มึงอะสูงเกินไป” ว่าแล้วก็ยื่นมือเข้าไปตบหัวคนตรงหน้าหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาคนที่ตัวสูงกว่าถึงกับสะดุ้งแต่ก็รีบทำตามคำสั่งทันที
“อะๆ ผมย่อแล้ว”
“หลับตาด้วย”
“ทำไมต้องหลับอะครับ?”
“มึงจะหลับเองดีๆหรือจะให้กูต่อยตาปิด”
“ครับๆหลับแล้วก็ได้...”
ดวงตาคมค่อยๆปิดลงแล้วหลังจากนั้นจุนฮเวก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด เวลาเริ่มผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกได้ถึงสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปาก แค่เพียงไม่กี่เสี้ยววินาทีก็สามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นโครมครามได้ พี่ชายตัวเล็กถอนจูบออกไปอย่างรวดเร็ว เร็วเกินไป... จริงๆจุนฮเวอยากรั้งต้นคอนั้นเอาไว้แล้วกดจูบให้เนิ่นนาน แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจซะก่อน
ช่างเถอะ... ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว...
พอลืมตาขึ้นมา อีกฝ่ายก็หันไปเปิดประตูก่อนจะดันตัวเองเข้าไปในห้องทันทีโดยไม่สนใจที่จะหันกลับมามองเขาเลยซักนิด ...น่ารักแฮะ
เด็กหนุ่มตัวสูงยืนยิ้มให้กับประตูตรงหน้าอยู่เพียงลำพัง ไม่นานนัก... เขาก็ตัดสินใจก้าวออกไปจากที่นั่น สองขายาวเดินออกมาเรื่อยๆจนเกือบถึงหน้าปากซอยและหยุดลงในทันที
“เลิกซ่อนแล้วออกมาก่อนที่กูจะหมดความอดทน...” ตวัดสายตาคมไปทางด้านข้างที่เริ่มมีการเคลื่อนไหว... เด็กหนุ่มสามคนปรากฏตัวออกมาจากซอกตึกเล็กๆแถวนั้นแทบจะพร้อมกัน “กูเคยบอกพวกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งกับคนของกูอีก”
“...” ความเงียบเหล่านั้นทำให้จุนฮเวเริ่มอารมณ์เสีย
“แล้ววันนี้พวกมึงยังมีหน้ามาสะกดรอยตามทั้งวัน... อยากตายนักใช่มั้ย?”
“ป..เปล่า” คนที่ดูเหมือนจะมีความกล้าเล็กน้อยตัดสินใจตอบออกมา
“เปล่า?... งั้นไหนมึงช่วยตอบกูหน่อยสิว่าวันนี้หมาตัวไหนที่ทำให้จินฮวานฮยองต้องออกไปมีเรื่อง คราวที่แล้วกูสั่งสอนพวกมึงไปยังไม่เข็ดกันสินะ... สงสัยคงต้องโดนอีกซักรอบ” พอพูดจบ ร่างสูงในชุดนักศึกษาก็เริ่มขยับตัวทันที เขาเริ่มปล่อยหมัดใส่เด็กหนุ่มคนแรกก่อนจะรัวเท้าเข้าใส่เด็กหนุ่มคนที่สองและสาม
จุนฮเวไม่ชอบออกกำลังกาย แต่คนพวกนี้ก็ชอบทำให้เขาเสียเหงื่ออยู่เรื่อย... ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที เด็กหนุ่มสามคนนั้นก็ล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นและส่งเสียงร้องโอดครวญ...
ขนาดคราวก่อนยกพวกมาตั้งสิบกว่าคนก็ยังโดนจัดการจนเรียบ แล้วนับประสาอะไรกับแค่สามคนธรรมดาๆ...
“ถ้าคราวหน้ามึงยังไปยุ่งวุ่นวายกับแก๊งของจินฮวานฮยองอีกล่ะก็... เตรียมจัดงานศพให้ตัวเองได้เลย”
.
.
.
.
.
.
.
Special
หลายวันต่อมา
“รู้สึกคันมือคันตีนยังไงก็ไม่รู้ว่ะ” หัวหน้าแก๊งตัวเล็กกระโดดลงมาจากโต๊ะก่อนจะเดินไปเตะๆต้นไม้ที่อยู่แถวนั้น
“ให้กูช่วยเกามะ?”
“บางทีได้เตะมึงซักทีกูอาจจะหาย” ว่าแล้วก็หันมาเดินยกขาใส่จีวอนที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนทันที แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอมให้เตะง่ายๆ โชคดีที่จีวอนรู้เสต็ปก็เลยหลบได้ทัน
“เป็นเหี้ยไรของมึงวะจินฮวาน”
“ก็ไอ้แก๊งนั้นอะ... ทำไมเดี๋ยวมันไม่ค่อยมาหาเรื่องพวกเราเลยวะ? กูเบื่อออออ กูอยากออกกำลัง”
“เอ๊า... มันจะไปยากอะไร ถ้าพวกมันไม่มา พวกเราก็ยกพวกไปกันเองเลยดิวะ”
“สัส!” ยื่นมือเล็กๆของตัวเองออกไปตบกบาลเพื่อนรักหนึ่งที ซึ่งครั้งนี้บอกเลยว่าจีวอนหลบไม่ทัน “มึงลืมอุดมการณ์ของพวกเราไปแล้วรึไง? ถึงจะชอบต่อยตีกันแต่พวกเราต้องไม่ไปหาเรื่องคนอื่นก่อน!!”
“เออๆ กูไม่ลืมหรอก ...ก็เห็นบ่นเองนี่หว่าว่าเบื่อ” ประโยคหลังนั่นดูเหมือนจะหันไปพูดกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆมากกว่า เพราะขืนพูดออกมาดังๆมีหวังได้เจ็บตัวอีกรอบแน่
“จินฮวาน... แฟนมึงมาหาอีกละ” เสียงของยุนฮยองดังขึ้น คนถูกเรียกจึงมองตามสายตานั้นไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มตัวสูงยืนยิ้มและโบกมือให้เขาอยู่ไม่ไกล แต่คนตัวเล็กก็ทำแค่ยืนมองอยู่เฉยๆก่อนจะถอนหายใจและตัดสินใจเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ...ทำไมช่วงนี้แม่งมาหาเขาบ่อยละเกิน
จินฮวานอาจจะคิดไปเองก็ได้... แต่เขารู้สึกว่าจุนฮเวกำลังปกปิดอะไรเขาอยู่อย่างแน่นอน มันค้างคาใจแปลกๆแต่ซักวัน... ซักวันจินฮวานจะต้องรู้ให้ได้อย่างแน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------------------
นี่ชั้นแต่งอะไรออกมาาาา 555555555555555
เป็นสเปเชียลวาเลนไทน์ที่ลงหลังจากเลยวาเลนไทน์มาแล้ว #เพื่อ?
หาแก่นสารและสาระไม่เจอ แต่งมาแบบมึนๆ พี่จินก็อะไรไม่รู้ สลับตำแหน่งกันหรือเปล่าเธอ~ TwT
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านจนจบค่ะ ขอบคุณจริงๆ T///T
ความคิดเห็น