ท่วงท่าที่น่ามองและปลอดภัย - ท่วงท่าที่น่ามองและปลอดภัย นิยาย ท่วงท่าที่น่ามองและปลอดภัย : Dek-D.com - Writer

    ท่วงท่าที่น่ามองและปลอดภัย

    ท่วงท่าที่น่ามองและปลอดภัย

    ผู้เข้าชมรวม

    601

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    601

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 มี.ค. 50 / 15:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      ท่วงท่าที่น่ามองและปลอดภัย

                1. นั่งทำงาน

                นั่งทำงานทั้งวัน  ปวดหลังกันได้ง่ายๆ  วิธีแก้เริ่มจากเวลานั่ง  ลำตัวต้องตรงเก้าอี้ที่นั่ง  เวลานั่งแล้วต้องรู้สึกสบาย  และสมส่วน  หัวเข่างอระหว่าง 90-150 องศา  ถ้าต่ำไปให้หาที่วางเท้า  เก้าอี้ต้องมีพนักพิงหลังรองรับโดยความสูงต้องไม่ต่ำกว่าบริเวณกระดูกสะบัก  แต่ถ้านั่งแล้วหลังไม่แตะพนักพิง  ให้แก้ได้โดยหาหมอนอิงมาวางไว้ด้านหลัง  เก้าอี้ต้องมีพนักวางแขน  เพื่อช่วยรองรับข้อสอก

                2. นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์

                การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี  คือ  ต้องนั่งหลังตรงแต่ต้องไม่เกร็ง  ให้หลังพิงพนักเก้าอี้  ปล่อยหัวไหล่ตามสบาย  วางแขนไว้กับพนักเก้าอี้  ศีรษะตั้งตรง  ตั้งจอคอมพิวเตอร์ในระดับสายตา  และวางเอกสารในระดับที่มองเห็นได้ง่าย และเวลามองคอมพิวเตอร์ควรกระพริบตาบ่อยๆ  เพื่อกันไม่ให้แสงจากคอมพิวเตอร์เข้าตามากเกินไป 

                พร้อมกันนี้ควรพักสายตาเป็นพักๆอย่างน้อย 5 นาที ทุกๆ ชั่วโมงที่ใช้คอมพิวเตอร์ ที่สำคัญเวลาทำงานอย่าเผลอยกไหล่โดยเฉพาะเวลาพิมพ์คอมพิวเตอร์แล้วคุยโทรศัพท์มือถือไปด้วย โดยการใช้ใบหน้าหนีบโทรศัพท์มือถือไว้กับหัวไหล่ จะนำมาซึ่งปัญหาที่ข้อไหล่และคอ ตามมา

                3. การถือแฟ้มเอกสาร

                เวลาเดินถือแฟ้มเอกสาร ไม่ควรถือเอกสารด้วยแขนข้างเดียว  เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดแขน  และตามมาด้วยอาการปวดคอ และปวดไหล่ตามมา  เนื่องจากกล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป  หรือที่เห็นบ่อยๆ  อย่างการหนีบแฟ้มข้างลำตัว  นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกดูไม่สวยงามแล้ว ยังมีผลต่อกระดูกสันหลัง  อาจทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลังได้ 

                ฉะนั้นวิธีเดินถือแฟ้มเอกสารที่ถูกต้อง ควรอุ้มประคองแฟ้มเอกสารไว้ที่หน้าอก เพราะจะทำให้บริเวณ  คอ บ่า ไหล่ ทำงานน้อยลง

                4. การขับรถ

                ไม่ควรนั่งขับรถชิด หรือห่างพวงมาลัยมากเกินไป  ควรนั่งให้บริเวณหลังสัมผัสกับเบาะนั่งอยู่ตลอด  แนวหลัง ลำตัว สามารถโน้มเอียงได้อย่างคล่องตัว

                5. การยืนและการเดิน

                ต้องถ่ายน้ำหนักลงที่เท้าทั้งสองข้างเท่าๆ กัน  ลำตัวตั้งตรง  ไม่ต้องเกร็ง  อกผาย  ไหล่ผึ่ง  ร่างกายจะจัดความสมดุลได้เอง  หากเราเหยียดตัวตั้งตรงและอกผากไหล่ผึ่ง  ไม่ไหล่ห่อไหล่งอ เมื่อเริ่มต้นเดิน  ก้าวเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้า  ลำตัวยังต้องตั้งตรงเช่นเดิม  ผ่อนคลายร่างกายด้วยการไกวแขนตามสบาย  แต่วงของการไกวอย่ากว้างจนเกินไป  เพราะอาจไปกระทบหรือปะทะกับคนอื่นๆ 

                ความกว้างของการก้าวก็ต้องพอเหมาะพอดีกับความยาวของช่วงขา งอเข่าเล็กน้อยเมื่อยกเท้าก้าว  ตามองตรง  และเพื่อไม่ให้เป็นผลร้ายกับกระดูกสันหลัง  อย่าถือหรือหอบข้างของพะรุงพะรัง  อย่าสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากจนเกินไป  รองเท้าที่เลือกสวมต้องไม่คับหรือหลวมหรือมีส้นสูงจนมีผลต่อการทรงตัว  ทำให้การทรงตัวไม่ดี

                6. การนอน

                ท่านอนคนเรามีสารพัดรูปแบบ แต่แบ่งท่านอนของคนส่วนใหญ่ได้เป็น 3 ท่า  คือ  นอนหงาย  นอนคว่ำ  และนอนตะแคง  ซึ่งนอนตะแคงดูจะเป็นท่าที่นิยมสุด  ฉะนั้นจะมีวิธีนอนตะแคงอย่างไรไม่ให้ปวดหลังมาฝากกัน

                เริ่มจาก  “หมอน” 

                ต้องเลือกหมอนที่ไม่สูงหรือต่ำไป  ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไปเพื่อป้องกันการปวดคอหลังตื่นขึ้นมา  เพราะหมอนที่สูงเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอยืดอยู่ตลอดเวลา  ควรเลือกหมอนที่เวลานอนลงแล้วอยู่ในระดับเดียวกับคอ  เวลานอนตะแคงข้าง  ควรหาหมอนข้างมาก่อยขณะนอนหลับ  เพื่อปรับระดับกระดูกสันหลังไม่ให้ไปกดสันหลังมากเกินไป  ป้องกันการปวดหลัง  แขนหรือข้อศอกก็ต้องงอเล็กน้อยป้องกันการกดทับของหัวไหล่  ส่วนสะโพกและหลังต้องยืดตรงไม่บิด  ขายืด  งอเล็กน้อย

                ส่วนผู้ที่มัก  “นอนหงาย” 

                ควรหาวัสดุอาจจะเป็นหมอนเล็กๆ  หรือผ้าขนหนูม้วนบางๆ  มารองไว้บริเวณรอยคอดเอว  และใต้เข่า  เพื่อยึดกล้ามเนื้อ  งอเข่าเล็กน้อยไม่เกิน  15 องศา

                เช่นเดียวกับผู้ที่ชอย  “นอนคว่ำ” 

                หลังจะแอ่นขณะนอน  จึงควรหาหมอนเล็กๆ  มารองบริเวณเอว  ส่วนข้อเท้าให้ใช้ผ้าขนหนูม้วนมาวางรองเท้านอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจหรือหลอดเลือด  ไม่ควรนอนในท่านี้  เพราะอาจไปกดทับทางเดินหายใจหรือหลอดเลือด  ทำให้หายใจไม่สะดวกได้

                ท่วงท่าที่ดีต้องมีความเป็นธรรมชาติ เพราะเรื่องของบุคลิกภาพนั้นเป็นเรื่องที่เน้นความเป็นธรรมชาติ  ไม่เน้นการปรุงแต่งอย่างแข็งขืน

               ดังนั้น  ความเข้าใจว่า  เราต้องเก๊กท่าเก๊กทางอย่างนั้นอย่างนี้ตลอดทั้งวันจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องไม่ใช่ความสง่า  แต่เป็นการเก๊กท่าที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ คุณผู้อ่านคงตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า ท่วงท่าที่ถูกต้องในกิจกรรมต่างๆ  ประจำวันควรเป็นอย่างไร


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×