ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมใจมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 55


                ตอนที่ 2

     

                ‘พ่อผมหวังว่าพ่อจะไม่เป็นอะไรนะ เขาภาวนาในใจด้วยความรู้สึกกลัว รู้สึกเป็นห่วงพ่อของเขาอย่างมาก นั่งรอมาพักใหญ่จนจะชั่วโมงได้แล้ว ไม่เห็นมีท่าทีว่าพ่อจะมารับซักทีจึงเริ่มกังวลหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีเสียงโทรศัพท์ดึงขึ้น เมื่อมองไปที่จอโทรศัพท์ก็เห็นเป็นเบอร์ของพ่อโทรมา เด็กหนุ่มกดรับสายด้วยความดีใจ

                ครับพ่อเขาตอบรับด้วยน้ำเสียงโล่งใจสุดๆ แต่แล้วความดีใจ โล่งใจนั้นก็หายไป

                คุณใช่ญาติ คุณพงศ์เทพ รึเปล่าคะ

                “ใช่ครับ ผมเป็นลูกเค้า คุณเป็นใครครับ มารับโทรศัพท์พ่อผมได้ยังไง

                คือดิฉัน โทรมาจากโรงพยาบาลค่ะ คือพ่อของคุณประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่ที่ห้องฉุกเฉินค่ะ ฉันโทรจากเบอร์ที่โทรออกล่าสุดของโทรศัพท์พ่อคุณ  คุณคะคุณคะ ฟังอยู่รึเปล่า

                ได้ยินดังนั้น โทรศัพท์ก็ร่วงจากมือหล่นลงบนโซฟา เด็กสาวเห็นทีท่าไม่ดีของเพื่อนก็รีบถามว่าเป็นอะไรแต่ ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรมาเลย นอกจากหน้าซีดของเด็กหนุ่ม เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยต่อและถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทันใดนั้นเองพ่อแม่ของเจสก็กลับมาจากต่างจังหวัดพอดี เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อแม่ และเล่าให้พ่อแม่ของเขาฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

     

     

                เด็กหนุ่มเริ่มได้สติก็ตอนที่อยู่บนรถแล้ว ตอนนี้เขากับพ่อแม่ของเจสกำลังมุ่งหน้าไปสู่โรงพยาบาลเพื่อไปหาพ่อของเขา โดยที่เจสอยู่ที่บ้านเพราะพ่อแม่ของเขาเห็นว่าดึกมากแล้วจึงให้เจส พาเพื่อนๆเข้านอนไปก่อน

                พ่อของผมจะไม่เป็นอะไรใช่มั๊ยครับเด็กหนุ่มพูดด้วยอาการเหม่อลอย

    พ่อของหนู ไม่เป็นไรหรอกลูก ป้าว่านะแม่ของเจส ว่าพลางเอามือลูบหัวปลอบเด็กหนุ่มตัวเล็กอย่างเป็นห่วงเป็นใย

                เมื่อถึงโรงพยาบาลพวกเขาทั้งสามคนก็รีบตรงไปยังห้องฉุกเฉิน และนั่งรอได้ครึ่งชั่วโมงกว่าก็มีคุณหมอ เดินออกมาจากประตูห้องฉุกเฉิน เด็กหนุ่มได้สติจึงรีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอแทบจะทันที

                “คุณหมอครับ พ่อของผมเป็นยังไงบ้างเขาถามด้วยอาการร้อนรนสุดขีด

                คุณหมายถึง คนไข้ที่ชื่อคุณ พงศ์เทพ รึเปล่าครับคุณหมอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

                ใช่ครับ อึก..” เด็กหนุ่มพูดตอบคุณหมออย่างใกล้จะหมดหวัง พร้อมกลั้นเสียงสะอื้น เพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับฟังเหลือเกิน

                หมอเสียใจด้วยครับ เราทำสุดความสามารถแล้วจริงๆ พ่อของคุณมาถึงโรงพยาบาลช้าไป ทำให้เสียเลือดมากจนเกิดอาการช็อกครับ  หมอเสียใจด้วยจริงๆครับหมอพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและเดินจากไป ทำให้เด็กหนุ่มมีอาการเหมือนสติหลุด และวิ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เดินเข้าไปตรงเตียงผู้ป่วยที่มีผ้าขาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าเอาไว้ เขาพยายามเอามือที่สั่นเทาไปเปิดผ้าคลุมศพ ของพ่ออันเป็นที่รัก คนๆเดียวที่เขารักมากที่สุด เมื่อเด็กหนุ่มเห็นหน้าภายใต้ผ้าคลุมผืนนั้นว่าเป็นพ่อของเขานั้น ก็ปล่อยโฮ ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ และได้แต่คิดโทษตัวเองว่า ถ้าเขาไม่ให้พ่อไปรับก็ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาคิดวนอยู่ในหัวโทษตัวเอง น้ำตาที่ยังไหลออกมาไม่ขาดสาย ทำให้พ่อแม่เพื่อนของเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นห่วงและสงสารยิ่งนัก

     

                ถึงแม้จะผ่านงานศพของพ่อเขาได้มาหนึ่งอาทิตย์แล้ว เด็กหนุ่มก็ยังเฝ้าคิดโทษตัวเองตลอดมาว่า เขาเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้พ่อเขาตาย

                นี่ๆ ไอ่เนม มึงจะมานั่งทำเอ็มวีอะไร ไปล้างจานหลังร้านไป เสียงของป้านาง
    ญาติห่างๆฝ่ายพ่อที่ยังพอรู้จักกัน

                อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น เข้าใจมั๊ย ไอ่เนมป้านางพูดพร้อมเอานิ้วชี้ดันมาที่หน้าผากและก่นด่า เหมือนไม่ใช่ลูกไม่ใช่หลาน

                เด็กหนุ่มต้องมาอยู่กับลุงกับป้าญาติฝ่ายพ่อของเขาเพราะญาติฝ่ายพ่อของเขา แต่ก็ไม่ค่อยสนิทกันเพราะ พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าบ้านนี้เค้าชอบไปเล่นการพนันที่บ่อนติดเงินไว้มากโข เลยไม่อยากให้เข้าไปยุ่งด้วย แต่ก็ไม่มีญาติฝ่ายไหนของเขารับไปเลี้ยงดูอีกแล้ว ถึงตอนที่พ่อรวยๆจะดูมีญาติเข้าหาบ่อยก็ตาม แต่เมื่อบริษัทพ่อล้มละลายญาติๆก็พากันตีตัวออกห่าง แม่ก็หนีไปมีสามีใหม่ตั้งแต่เขายังเล็กๆ ทิ้งให้เขาและพ่ออยู่กันตามลำพังพ่อลูก

                อยู่ที่นี่มาสองอาทิตย์แล้วเหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งป้าและลุงใช้งานหนักเยี่ยงทาส ทั้งให้เข้าตื่นตีสี่ไปจ่ายตลาดและเตรียมทำอาหาร พอเปิดร้านก็ต้องเสิร์ฟลูกค้า เก็บร้านก็ต้องเก็บของเองทุกอย่าง ต้องนอนดึกตื่นเช้าอยู่ทุกวัน มีเพียงบางวันที่ได้พักเท่านั้น เพราะทั้งป้าและลุงปิดร้านไปเล่นการพนันที่บ่อน พอเล่นเสียกลับมาก็กลับมาพาลใส่อยู่บ่อยๆ  แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้นึกโกรธแค้นอะไรเลย กลับรู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำที่ป้าและลุง ให้กินให้ที่อยู่กับเขาเพราะถ้าไม่มีป้าและลุงเขาก็คงไปอดตายอยู่ที่ไหนซักแห่ง เขาเพียงแต่นึกโทษตัวเองที่อ่อนแอเกินไปสำหรับโลกนี้จริงๆ

     

                “เพล้ง !” เสียงกระจกแตกทำให้เด็กหนุ่มวิ่งออกมาดูหลังจากที่เขาเพิ่งแต่งตัวเสร็จหลังจากการอาบน้ำและภาพที่เห็นคือเห็นชายชุดดำไม่ต่ำกว่าสิบคน กำลังพังข้าวของในร้านอยู่

                มึงจะจ่ายไม่จ่ายอีแก่ !” ชายชุดดำพูดด้วยเสียงและท่าทางโหดเหี้ยม

                พวกเราไม่มีเงินจริงๆ อย่าพังร้านเราเลยป้านางพูดพร้อมกับน้ำตาไหลพรากเพราะความกลัว

    งั้นพวกมึงก็อย่าอยู่เลย ชายชุดดำพูดพร้อมกับชักปืนออกมา มีทีท่าว่าจะยิง ทำให้เด็กหนุ่มรีบวิ่งออกมาจากห้องครัวที่เขาซ่อนตัวอยู่และวิ่งไปคุกเข่าอ้อนวอนไม่ให้พวกเขาทำอะไรกับทั้งสองคน

    อย่าทำอะไร ป้ากับลุงเลยนะครับ เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับน้ำตานองหน้า ถึงแม้ว่าป้ากับลุงจะโหดร้ายต่อเขาแต่เขาก็ยังสำนึกบุญคุณที่ให้กินให้อยู่ กับเด็กกำพร้าอย่างเขา

    เอามันไปเลย ฉันยกให้ ฉันจ่ายเป็นไอ้นี่เลย

    อืม.. จะให้เอาอีทอมนี่ไปทำอะไร ฮะ อีแก่!” ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม พร้อมหน้าตาที่เอื้ออำนวย

    ผม ไม่ใช่ทอมนะครับ!”

    หุบปาก ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ จะตายแล้วยังพูดมากอีกชายชุดดำพูดพร้อมกับเอาปืนตบที่ปาก เด็กหนุ่มไปหนึ่งที ทำให้เลือดออกซิบๆ ตรงมุมปาก

    งั้นโทรเรียกนายของเรามาเลยดีกว่า ชายชุดดำพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์และคุยกับคนในโทรศัพท์อยู่พักนึง จู่ๆก็มีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน พร้อมมีชายหนุ่มรูปงามราวเทพบุตร ในชุดสูทสีดำเหมือนกับลูกน้องของเขา เดินลงมาจากรถพร้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม แล้วมองอย่างพิจารณา

    เอาเด็กนี่มา ไถ่หนี้ป้าคนนี้เขาพูดด้วยท่าทางมาดขรึม แล้วเดินขึ้นรถกลับไปในทันที

                เด็กหนุ่มถูกลากขึ้นรถไปพร้อมกับชายชุดดำสิบกว่าคน ในใจก็ได้แต่คิดว่า

    จะทำยังไงต่อไปดี  

     

     








    *****ช่วยติชมกันหน่อยนะนะ เรื่องแรกของ writer เลยเจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×