คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ข้าก็แค่ฮันเตอร์ระดับ คาออส
สวัสดี ผมมีชื่อว่า ซิก…ซิกลาส เอลก้า เป็นฮันเตอร์ของเมืองนี้ ฮันเตอร์ปกติน่ะคือกลุ่มองค์กรที่คอยตามล่าหาสมบัติล้ำค่า หรือไม่ก็ วัสดุในการทำอาวุธหรือเครื่องประดับต่างๆ แต่ผมไม่ใช่…ฮันเตอร์ที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้คือ นักล่าอสูรกาย…
ก๊าชชช!!! เสียงคำรามของมังกรดินไคล์ลิส ร้องดันสนั่น รูปร่างของมันเป็นมังกรประเภทที่ไม่มีปีก และมี 4 ขาเหมือนสัตว์ทั่วๆไป มันมีเกล็ดที่แข็งแรงมาก ซึ่งหนังของมันตอนนี้เป็นที่ต้องการในตลอดมากในตอนนี้
ตอนนี้มันถูกล่ามด้วยโซ่และมีดาบหรือไม่ก็หอกปักตามร่างกายของมัน ที่ขาของมันถูกตรึงไว้กับแหที่พวกฮันเตอร์หว่านเอาไว้
รอบๆตัวมันมีฮันเตอร์อยู่ประมาณ 10 คนที่ตั้งอาวุธและล้อมตัวมังกรไว้
“หนังมังกรดินไคล์ลิส ราคาที่ตลาดประมาณ 2แสนเหรียญถ้าเอาไปขายแบบไร้รอยขีดข่วน ราคาจะเพิ่มอีก 1.5 เท่า”
เสียงของชายชราคนหนึ่งที่ยืนอยู่แถวหลังสุดของกลุ่มฮันเตอร์พูดขึ้นพร้อมกับกำลังดีดลูกคิดอย่างสนุกมือ
“แบ่งตามอัตราส่วน สำหรับผม 5,000 เหรียญ” ข้างๆของชายชราคนเมื่อกี้มี ชายหนุ่มอีกคนที่เผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะดึงดาบยาวคู่ใจออกมา และก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเจ้ามังกรดินที่อยู่ตรงหน้า
ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ สวมชุดฮันเตอร์และมีเกราะเบาติดอยู่ที่ไหล่ สวมฮูตปิดหัวเห็นใบหน้าเล็กน้อย ผ้าคลุมสีดำสวยงาม เส้นผมสีเงินแวววาวพร้อมกับดวงตาสีดำสนิท ที่กำลังเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
“เห้ยๆ ซิกลาส แกอย่าทำสินค้าเป็นรอยนะเว้ย” ฮันเตอร์คนหนึ่งที่ดึงโซ่ล่ามมังกรเอาไว้หันมาพูด ทำให้เด็กหนุ่มหัวเราะออกมาดังลั่นก่อนจะหันคมดาบไปหาเจ้ามังกรผู้โชคร้าย
“อย่าดิ้นให้มากสิไอหนู เดี๋ยวเสียราคาหมด...”
“นี่คือสินค้าใหม่ของเราครับ กระเป๋าหนังแท้ทำจากหนังของมังกรดินไคล์ลิสเลยนะครับ สนใจก็เชิญชมได้ครับ”
เสียงสนทนาดังสั่นไปทั่ว ที่นี่คือตลาดค้าขายที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโรส และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นทั้งตลาดและท่าเรือ ที่นี่คือศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวและพ่อค้ามากมายที่มาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน จนถูกขนานนามว่า เมืองแห่งการค้าเลยก็ว่าได้
วัสดุหรือสัตว์ที่ฮันเตอร์ล่ามาได้จะถูกนำมาประมูลขายที่นี่
แต่ละเมืองจะมีสำนักงานฮันเตอร์อยู่ ซึ่งฮันเตอร์จะแบ่งออกเป็น 3 ขั้น คือ โซลเยอร์(Soilder) สกาเล็ต(Skalet)
และ คาออส(Chaos) ซึ่งคนที่ได้ตำแหน่งคาออสนั้นต่อให้ทั้งโลกก็มีกันแค่ 7 คนเท่านั้น
“ฮัดชิ้ววว…” เสียงจามของฮันเตอร์หนุ่มดังขึ้นในร้านเหล้าในตรอกเล็กๆในเมืองโรสแห่งนี้
“เป็นไรไป ซิก มีใครนินทาเจ้างั้นเรอะ” ฮันเตอร์คนหนึ่งตะโกนถามขึ้น
“ไม่รู้สิ ข้าว่าสงสัยต้องเป็นพวกที่อิจฉาที่ข้าจับมังกรดินมาได้แน่ๆ” เจ้าของชื่อก็พูดตอบกลับแบบลอยๆขณะที่กำลังซัดเหล้าแก้วใหญ่เข้าปากดังอึกๆ
ที่นี่คือร้านเหล้าที่เหล่าฮันเตอร์ของเมืองนี้ชอบมาใช้เป็นที่พักผ่อนกันเป็นประจำ
“เออ ซิก ฮันเตอร์ฝีมือระดับคาออสอย่างเจ้าทำไมถึงไม่เข้าไปทำงานในวังละ”
“จริงด้วย ถ้าเป็นเจ้า ข้าว่าเข้าไปทำงานรับใช้ในวังได้สบายๆเลยด้วยซ้ำ”
ฮันเตอร์คนอื่นๆต่างพากันถามซิกลาสเป็นชุดๆ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะกระดกเหล่าอึกสุดท้ายหมดไปและหันมาพูดกับทุกคน
“ไม่เอาอะ ขืนเข้าไปในวังมีหวังได้อึดอัดตายกันพอดีอีกอย่างข้าชอบที่นี่มากกว่าดูเป็นกันเองดีจริงมั๊ยพวกเรา”
คำตอบของซิกลาส ทำให้ฮันเตอร์ทุกคนตะโกนดังลั่นด้วยความดีใจ ก่อนจะชนแก้วและร้องเพลงเฮฮากันทั้งคืน
เช้าวันต่อมา ในวันที่อาการสดใส ซิกลาสออกมาเดินเล่นในตลาดด้วยท่าทางสบายใจแต่ก็ไม่ลืมสวมฮูตปิดหน้าเอาไว้เพราะซิกลาสไม่ชอบให้ใครมองเห็นใบหน้าของเขา ซิกลาสตรงไปที่ ร้านอาวุธที่เขาไปประจำ ซึ่งร้านนี้ก็ดังในเรื่องช่างตีดาบที่เก่งที่สุดในภาคตะวันตกแบบนี้ แถมเจ้าตัวยังอายุเท่าๆกับซิกลาสอีกด้วย
แกร๊ง ประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นภายในร้าน ซึ่งถ้ามองแบบลวกๆร้านนี้คงเป็นร้านที่รกและไม่ค่อยได้จัดแจงข้าวของที่หล่นตามพื้นมากนัก แต่ถ้าเป็นฮันเตอร์แล้วละก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่าไอของที่หล่นตามพื้นนะสำหรับเหล่าฮันเตอร์ราคามันเหยียบแสนทั้งนั้นเลยละ
“ไงซิก ไม่เจอกันพักใหญ่เลยนะได้ข่าวว่าเจ้าล่ามังกรดินมาได้นะต้องขอบคุณ “ดาบเกล็ดมังกร” ที่ข้าตีขึ้นมาสุดฝีมือเพื่อเจ้าเลยนะซิกลาส เอลก้า” ผู้มาใหม่เอ่ยปากทักทายออกมาพร้อมเผยใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในเงามืดด้านในสุดของร้าน
“จะทวงบุญคุณงั้นหรอ นีโอ” ซิกลาสยิ้มให้เพื่อนสนิทก่อนที่จะดึงฮูตออกเผยให้เห็นใบหน้าเต็มๆของเขา
นีโอเป็นคนที่นิสัยดี แต่ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในร้านไม่ชอบออกไปไหน ใบหน้าซีดๆของมันกับร่างกายผอมแห้งทำให้ผมสงสารจึงอาสาเป็นคนนำวัสดุทำอาวุธหรือเงินที่ได้จากการขายอาวุธของมันมาให้ตลอดเวลา
“แน่ละสิ ดาบเล่มนั้นข้าใช้กำลังอันน้อยนิดทั้งหมดของขี้ตีมันขึ้นมาจนสำเร็จ แต่เจ้ากลับเอามันไปไล่ฆ่าอสูรเป็นว่าเล่น คมดาบเลยร้าวแบบนั้นไงละ” พูดจบนีโอก็ชี้ไปทางดาบที่พาดเอวของซิกลาสอยู่ซึ่งมันก็มีรอยร้าวอยู่จริงๆ
“เออๆ โทษทีละกัน ที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะจะให้เจ้าซ่อมมันให้นะ…”
“ค่าซ่อมรวมกับค่าเสียเวลา 10,000 เหรียญ” นีโอพูดตัดบทันที อันที่จริงซิกลาสคิดจะต่อราคานีโอแค่ 5,000 เหรียญแต่โดนมันตัดบทแบบนี้คงจะหาข้ออ้างต่อรองกับมันไม่ได้
“เออๆ หนึ่งหมี่นก็ได้แล้วอย่าลืมของที่สั่งไว้ละ ดาบ “คาตานะ” จะได้วันไหนละ”
“คงอีกหลายวันน่ะ ก็เจ้าเล่นสั่งของที่หาได้แต่ภาคตะวันออกอีกด้วย” นีโอบ่นแบบไม่สบอารมณ์
“เข้าใจแล้วถ้าได้ก็ติดต่อมาด้วยละกัน” พูดจบซิกลาสก็วางดาบลงบนโต๊ะและเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็วและไม่ลืมสวม
ฮูตก่อนออกจากร้านด้วย
ซิกลาสเดินต่อไปทางท่าเรือเพือแวะฟังข่าวสารจากนักเดินเรือที่เพิ่งผ่านทางมา เป็นประจำ
“ข่าวใหญ่อีกแล้ว คราเค้น มันเล่นงานเรือขนส่งไปอีกลำแล้ว” เสียงของชาวประมงทั้งหลายที่ยืนคุยกัน
ดังออกมาจนถึงหูซิกลาส
คราเค้นเป็นสัตว์หายากระดับ A ซึ่งยังไม่เคยมีใครล่ามันสำเร็จ มาก่อน แต่ซิกลาสไม่ได้สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้วเขาจึงเดินผ่านกลุ่มชาวประมงที่ยืนออกันแถวนั้นออกมาอย่างรวดเร็ว และเดินต่อไปอย่างไม่สนใจอะไร
“คิดจะหาเรื่องกันหรอนังหนู” จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นซึ่งซิกลาสอยู่แถวนั้นพอดี สิ่งที่เขาเห็นคือ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโดนชายวัย
กลาง 3 คนรุมทำร้ายอยู่และดูเหมือนทั้ง 3 จะเป็นฮันเตอร์อีกด้วย
“ฉันไม่คิดจะให้ชดใช้หรอกนะ แต่ช่วยขอโทษที่ชนฉันจนไวน์ขวดนี้แตกด้วย ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!!”
เด็กสาวผมทรงทวินเทลสีทองน่ารักดวงตาสีหน้าเงินสดใส กำลังต่อว่าฮันเตอร์ 3 คนนั้นอยู่และพูดเหมือนจะไม่มีใครคิดเข้าไปช่วยซักคน
“เห้ยไม่เข้าใจไงวะ ไอหนูนี่อยากเจ็บตัวหรือไงไม่รู้เรอะพวกข้าเป็นฮันเตอร์นะโว๊ย นักล่าที่เก่งที่สุดในเมืองนี้เลยนะเว้ย”
อือหือ เก่งที่สุดดูจากชุดที่ใส่พวกพี่มันระดับโซลเยอร์เองนะครับ
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวนะนังหนูข้าว่าเจ้ารีบกลับบ้าน….อ๊ากๆๆๆ”
พูดไม่ทันจบประโยค ชายคนนั้นก็ถูกรองเท้าหนังหยียบใส่เท้าเต็มๆจนกระโดดถอยออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“หนอยนังนี่วอนหาเรื่องซะแล้วงั้นก็เตรียมใจไว้ได้เลย” ฮันเตอร์คนหนึ่งกำลังจะเอามือตบไปที่หน้าของเด็กสาวแต่ถูกมือที่สามพุ้งเข้ามาขวางเอาไว้
“เจ้า…เป็นใคร” ฮันเตอร์คนนั้นรียสบัดมือกลับไปพร้อมตะโกนใส่ซิกลาสที่เข้ามาใหม่
“ข้าสิต้องถามว่าพวกเจ้าเป็นใคร หน้าตาไม่คุ้นเลย คงไม่ใช่ฮันเตอร์แถบนี้สินะ” ซิกลาสพูดตอบออกมา
“เฮอะ พวกข้าเป็นฮันเตอร์ที่เก่งที่สุดในแถบนี้ ถ้าน้องชายอยากทำตัวเป็นฮีโร่นักก็เตรียมเจ็บตัวได้เลย”
พูดจบ ทั้งสามก็ชักเอาดาบสั้นออกมาและพุ่งเข้าไปหาซิกลาสทันที ส่วนซิกลาสที่เอามือคว้าไปด้านหลังแต่ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรเลยเพราะอาวุธของเขาก็เอาไปซ่อมอยู่ด้วย ซิกลาสพลางนึกคิดในใจโดนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเมื่อกี้เขาได้ซัดอันธพาลพวกนี้ลงไปนอนกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“ว้าว พี่ชายเก่งจังเลย” เด็กหญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังปรบมืออกมา และผู้คนที่ยืนมุมดูอยู่กฏ็ต่างปรบมือออกมาด้วยเช่นกัน
พอจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ซิกลาสก็เดินเข้ามาหาเด็กสาวตรงหน้า
“ต้องขอโทษแทนพวกเมื่อกี้ด้วยนะที่ทำตัวไม่สมกับเป็นฮันเตอร์น่ะ พี่ขอโทษน้องจริงๆนะ” ซิกลาสยอมรับผิดจากใจจริง แต่เด็กสาวดูเหมือนจะไม่ได้สนใจคำพูดของซิกลาสเลยแม้แต่น้อยแถมยังจ้องหน้าเขาตลอดเวลา
“เออ หน้าข้ามีอะไรติดอยู่งั้นหรอ”
“ทำไมพี่ชายต้องปิดหน้าด้วยละ ฉันมองไม่เห็นหน้าของพี่ชายเลยอะ” คำพูดของเด็กสาวทำเอาซิกลาสชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตั้งสติแล้วหันมาพูดอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่ไม่ค่อยชอบแดดน่ะ ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำอีท่าไหนถึงไปมีเรื่องกับเจ้าพวกอันธพาลเมื่อกี้นี้ได้ละ”
“ก็พวกมันจงใจชนฉันให้ขวดไวน์หล่นแตกและไม่ยอมขอโทษนะ พี่ชาย”
“แล้วเจ้าละมาจากไหนกัน ไม่ใช่คนแถวนี้นิข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้าเลย” ซิกลาสถามขึ้น เด็กสาวที่กำลังก้มเก็บเศษขวดไวน์จึงหันมาตอบอย่างแผ่วเบา
“คือ…ข้าทำงานใน เอ่อ…วังหลวงน่ะ”
“หรอ ยอดไปเลยนะเจ้า อายุแค่นี้เองก็ได้ไปทำงานในวังแล้ว”
“พี่ชายไม่ตกใจหรอ ปกติถ้าเป็นคนอื่นจะกรูกันเข้ามาถามเรื่องภายในวังแล้วนะ” เด็กสาวถามอย่างงุนงง
“ข้าไม่สนใจเรื่องแบบนั้นหรอก ชีวิตนี้ขอได้ผจญภัยรอบโลกซักครั้งก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว” ซิกลาสพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“ฝีมือระดับ พี่ชายถ้าไปทำงานในวังละก็ มีกินอยู่กินไปทั้งชีวิตแน่ๆ พี่ชายสนใจเข้าวังหลวงมั๊ย” เด็กสาวถามทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ไม่ล่ะ ขอบใจ ข้าชอบอยู่แบบนี้มากกว่า อืม ได้เวลาแล้วข้าไปก่อนนะ ว่าแต่คุยกันตั้งนานแล้วข้ายังไม่ได้ถามชื่อเจ้าเลย”
“ข้าชื่อลอล่า แล้วพี่ชายละ”
“ข้าชื่อ ซิกลาส ซิกลาส เอลก้า ถ้าโชคดีเราอาจจะได้พบกันใหม่นะ” พูดจบ ซิกลาสก็วิ่งเข้าไปในฝูงคนและหายไปจากสายตาของเด็กสาวทันที
เด็กสาวเผยรอยยิ้มเล็กๆ และกำลังคิดอะไรสนุกๆในใจไปพลางเก็บเศษขวดไวน์ที่เหลือจนเสร็จ
“ท่านลอล่า ค่ะ ท่านลอล่า” จู่ๆก็มีเสียงของหญิงแก่คนหนึ่งตะโกนเรียกเด็กสาวก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้ามาหาเด็กสาวทันทีที่เห็น
“ท่านหายไปไหนมาค่ะ ดิฉันเป็นห่วงท่านมากเลยนะคะ แล้วนี่…ตายแล้ว มีใครทำลายท่านหรือเปล่าคะ” หญิงรับใช้ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง ซึ่งเด็กสาวที่ชื่อลอล่าก็ส่งยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะพูดอะไรออกมาเล็กน้อย
“คนอย่างเจ้าหญิง ลอล่า เดอะ ฟรานซิส คนนี้ไม่มีใครหน้าไหนทำอะไรได้หรอก” พูดจบก็เอามือทุบหน้าอกตัวเองเบาๆเป็นเชิงว่ามั่นใจเต็มเปี่ยม
ซิกลาส เอลก้างั้นหรอ มีฮันเตอร์แบบนั้นอยู่ในเมืองของเราด้วยหรอไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ฉันต้องดึงเขาเข้ามาในวังให้ได้เพื่อแผนการของฉันจะได้ลุล่วงซักที…
ทำงานในวังหลวงหรอ เหอะ แค่คิดก็อึดอัดจะตายแล้ว ซิกลาสที่คิดอยู่ในใจพลางกำลังเดินหาอะไรบางอย่างอยู่
แลพเขาก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าร้านค้าแปลกๆร้านหนึ่ง ช่างเป็นร้านที่…ไม่มีลูกค้าเลย ฝุ่นก็เยอะ คงไม่ได้ทำความสะอาดเลยสิท่า
ซิกลาสที่กำลังจะเดินผ่านร้านนั้นไปแต่ก็สะดุ้งเพราะเพิ่งนึกอะไรออกเมื่อกี้นี่
“เห้ย แถวนี้มันมีร้านแบบนั้นเดี๋ยวหรอ นี่เราอยู่มาเป็น10ปียังไม่เคยเห็นร้านแบบนั้นเลย” ก็คิดได้ซิกลาสเลยเดินกลับไปหาร้านเมื่อตะกี้นี้
แกร๊ง …
ประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นภายในร้าน ซึ่งดูเหมือนร้านนี้จะขายพวกคำภีร์เก่าๆมากมายเลยทีเดียว
ภายในร้านนี้มีแต่คำภีร์เก่าๆเต็มไปหมด บางเล่มเป็นคำภีร์ที่เป็นภาษาอะไรซักอย่างที่เขาอ่านไม่ออก
ฆ่า…
ฆ่าพวกมันให้หมด…
จู่ๆก็มีเสียงประหลาดดังออกมาจากกองคำภีร์ ตรงหน้าของซิกลาส ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งออกมาก่อนจะถอยห่างจากกองคำภีร์นั่นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะค่อยๆย่องเข้าไปหากองคำภีร์ปริศนาตรงหน้านั้น
ซิกลาสหยิบคำภีร์เล่มหนึ่งขึ้นมาจากกองนั้น มันดูเหมือน คำภีร์ธรรมดาทั่วไป แต่ทำไม…เขาถึงหยิบมันขึ้นมากัน
ฆ่ามัน…
ฆ่ามัน…ไอปีศาจ
ซิกลาสค่อยๆเปิดคำภีร์ออกมาช้าๆ ออร่าสีดำค่อยเริ่มปกคลุมร่างกายของเขา
“อั่ก! นี่มัน…” ซิกลาสรีบปาคำภีร์ทิ้งไป แต่สายไปแล้ว สิ่งที่อยู่ในคำภีร์ได้ออกมาแล้วกำลังจะเข้าไปในตัวของซิกลาส
เงาดำๆเริ่มลามขึ้นจากขาของเขาจนมาถึงแขนซ้าย จากนั้นมันก็หยุดเคลื่อนที่ แต่แขนซ้ายของซิกลาสเริ่มทีปฏิกิรายาบางอย่างทำให้ร่างกายของเขาเริ่มอ่อนล้าลง สติเริ่มหลุดไป จากนั้นไม่นานซิกลาสก็หมดสติไปในร้านคำภีร์เก่าๆนั้นทันที
ครืน ครืน…
เสียงคลื่นทะเลเริ่มรุนแรงขึ้น เริ่มมีเมฆฝนออกมา ฟ้าเริ่มครึ้ม สายลมพัดแรงขึ้น ทุกคนที่อยู่ที่ท่าเรือเริ่มเห็นพายุไซโคลนตรงหน้าไม่กี่กิโลเมตร แต่ที่สำคัญพวกเขาไม่ได้ตกใจพายุไซโคลนแม้แต้น้อย
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจคือเงาดำๆ ของสัตว์ที่กำลังว่ายมาที่ฝั่งอย่างรวดเร็ว
ตูม! เงาดำๆ พุ่งขึ้นมาจากน้ำ เผยให้เห็นร่างสีฟ้า มีเกล็ดสีน้ำทะเลแวววาว ข้างตัวของมันมีคลีบขนาดใหญ่ราวกับปีก ลำตัวมีขนาดยาวมากหน้าตาดุร้ายและกำลังจ้องมาทางเหล่ามนุษย์ผู้โชคร้าย
“เห้ยนั่นมัน สัตว์อสูรระดับ S มังกรทะเล เลวิอาธาน”
“มันเป็นสัตว์ที่รักสงบไม่ใช่เรอะ แล้วทำไมมันถึงมาโจมตีชายฝั่งละ”
ก๊าชชชช…. เสียงคำรามของเลวิอาธาน ทำให้ผู้คนที่อยู่ในท่าเรือแตกตื่นกันกันหมด ดวงตาของมันจับจ้องไปที่เหยื่อของมันและพร้อมจะโจมตีใส่ได้ทุกเมื่อ
“องค์หญิงคะ พวกเรารีบหนีไปเถอะค่ะ” สาวรับใช้พยายามพาองค์หญิงน้อยของเธอวิ่งหน้าตั้งออกจากท่าเรือ
“ไม่เป็นไรหรอกมีน่า เดี๋ยวพวกฮันเตอร์ก็มาจัดการเองแหละ” ลอล่าพูดด้วยความมั่นใจ
“เมืองเราไม่มีฮันเตอร์ที่มีฝีมือพอจะจัดการกับเลวี่อาธานหรอกค่ะ”
คำพูดของสาวรับใช้ทำให้ลอล่านึกถึง ซิกลาสขึ้นมา
นายอยู่ที่ไหนกัน ซิกลาส…
ความคิดเห็น