“ นี่ .. นายท็อป .. “
“ ฮื้ม ? “
“ ฉันจะพูดตรงๆ ว่าฉันไม่มีทางชอบนายเป็นอย่างอื่น และนายจะต้องหยุดทำแบบนี้ “
“ คึคึ ... เธอตลกดีนะ .. สวย แต่ตลกดี “ ชายหนุ่มหัวเราะนัยน์ตาระยิบอย่างอารมณ์ดีขึ้น
มาเมื่อเห็นสีหน้าขึงขังของเธอ
“ ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด และไม่อยากให้นายเข้าใจผิดด้วยว่าฉันชอบที่จะไปไหนมาไหนกับนายแบบนี้ “
“ พูดมาเป็นร้อยรอบได้แล้ว “ เขาทำสีหน้าน้อยอกน้อยใจ
“ นายควรจะฟังเพราะมันคือความจริง “ ท็อปขยับตัวหยิบขนมปังตรงหน้าขึ้นมาเอาเข้าปากเคี้ยวกร้วมๆหน้าตาย
ยูริขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าก่อนจะถอยเอนหลังชิดพนักเก้าอี้และกอดอกเอียงคอถาม
“ นายคงไม่เคยชอบใครจริงจังสินะ “
“ ผมก็ชอบคุณนะ “
“ แน่ใจเหรอ .. ว่าตัวเองเข้าใจความรู้สึกชอบหรือรักใครสักคนน่ะ “
“ ทำไมจะไม่เข้าใจล่ะ “
“ ถ้านายชอบฉันจริง นายไม่ทำอย่างนี้หรอก “
“ ....................... “ เขายิ้มบางๆ ตอบรับความคิดเห็นของเธอ และนิ่งฟังอย่างตั้งใจ
“ ถ้านายชอบฉัน .... นายต้องอยากให้ฉันรู้สึกดี .. และจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาให้ฉันไม่สบายใจ “
ท็อปวางช้อนและใช้ผ้าเช็ดปากอย่างสุภาพก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มอย่างใจเย็น
“ อะไรกัน .. แค่พาเธอมาทานข้าวเนี่ยนะ “
“ นายก็แค่อยากเอาชนะฉัน .. ใช่มั้ยล่ะ “
“ ไม่ใช่ “ คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อย เธอกระพริบตาปริบๆก่อนจะถามเขา
“ งั้นเพราะอะไร นายไม่ได้ชอบฉันสักหน่อย ก่อนหน้านี้นายชอบเจสสิก้า และฉัน .. ก็ .. กำลังอยากจะช่วยนายอยู่พอดี “
ท็อปหัวเราะชอบใจและจ้องมองเธออย่างสนใจ “ ผมว่า .. คุณแตกต่างจากคนอื่น และ .. ไม่รู้สิ เวลาอยู่กับคุณก็สนุกดี “
“ นายอาจจะชอบฉันเพราะว่าฉันเป็นคนประเภทที่สบายใจที่จะอยู่ด้วย แต่มันคงไม่ใช่
ความรัก เพราะเราไม่ได้รู้จักสนิทสนมกันถึงขั้นที่จะชอบกันได้เลย “
“ ความรักมันขึ้นอยู่กับเวลาด้วยเหรอ “
“ ใช่สิ “
“ ผมไม่เชื่อ ... ถ้าคนเรามันจะชอบ .. จะรัก มันก็แค่รู้สึก .. ไม่เห็นต้องคิดอะไรเลย “
คำตอบของท็อปทำให้ยูริเผลอยิ้มออกมา “ สงสัยฉันคงดูถูกนายมากเกินไปในเรื่องความรัก..นายก็เข้าใจมันอยู่บ้างนี่นา “
“ อืม .. แน่นอนสิฮะ คุณต่างหาก ที่ดูเหมือนว่า .. จะยังไม่รู้จัก “
ร่างบอบบางแต่ทะมัดทะแมงของฮวังมิยองเดินหอบเอกสารออกมาจากสตูดิโอแห่งหนึ่ง
ภายในห้างสรรพสินค้าที่เธอมาคุยเรื่องงาน โดยมีชานยอลที่ติดตามมาด้วยเนื่องจาก
ในโปรเจคถัดไปหญิงสาวมีส่วนตัดสินใจดึงเขาเข้ามาร่วมงานเพราะความคุ้นเคยและ
ความนิยมของเขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจัดอยู่ในลำดับต้นๆที่จะมีส่วนดึงเรตติ้งรายการของเธอให้อยู่แถวหน้าได้
“ เอ๊ะ ! “ ฮวังมิยองสะดุดกับคนคุ้นตาที่นั่งอยู่ในร้านอาหารกับดาราสาวคนดัง
“ นั่น .. ท็อปฮยองหรือเปล่าฮะ? ส่วนผู้หญิง ... ไม่ใช่ว่า ... คุณควอนยูริหรือครับ? “
“ ................... “
“ แปลกจริงๆ .. คู่นี้มาสนิทกันได้ยังไงนะครับ “ เด็กหนุ่มปรายตามองหญิงสาวอย่างจับสังเกตุ
“ ไม่เห็นมีอะไรแปลกนี่ .. “ น้ำเสียงนั้นสั่นไหวเล็กน้อย หากแต่ชานยอลรู้สึกได้อย่างชัดเจน เขาลอบยิ้มอย่างพอใจ
“ วงการมันแคบอย่างนี้ ... นายเองก็รู้จักพวกเขาไม่ใช่รึไง ? “ น้ำเสียงหงุดหงิดอย่างนั้นทำให้เด็กหนุ่มมองทะลุปรุโปร่ง
“ แน่นอนสิฮะ ... ผมเองก็ไปดื่มกับฮยองบ่อย ๆ “
“ ...................... “
“ ฮยองก็ ..... ยังพูดถึงนูน่าบ่อยๆด้วยซ้ำ “
“ หมอนั่น ... นินทาฉันเหรอ ! “ ฮวังมิยองนึกอยากรู้ในสิ่งที่เพื่อนหนุ่มนั้นพาดพิงถึงเธอให้
คนอื่นฟัง อยากรู้มุมมองของเขาที่บอกเล่าให้คนอื่นได้รับรู้ ..
“ ดูเหมือน ... ท็อปฮยองจะปลื้มนูน่าเป็นพิเศษเลยครับ ผู้หญิงเก่ง .. ใส่ใจคนรอบข้าง จริงจัง และ ....“
“ ................... “
“ มีเสน่ห์ที่ปฏิเสธไม่ได้ “
“ โกหก ! หมอนั่นไม่มีทางพูดแบบนั้น ฉันไม่ใช่เด็กอมมือนะชานยอลที่จะเชื่อนาย “
“ หึหึ ..งั้นก็ ... อย่าเผลอเชื่อผมเชียวนะครับ นูน่าคนเก่ง “
“ นี่ฮวังมิยอง ... นึกยังไง กระโดดลงไปในแม่น้ำหน้าหนาวอย่างนี้เนี่ย? “
“ .................... “ หญิงสาวที่อยู่ในชุดผู้ป่วยนอนให้น้ำเกลือนั้น ใบหน้าซีดของเธอซีดลงไปอีกเมื่อเห็นผู้มาเยี่ยมเยียน
ท็อปถือช่อดอกไม้และวางมันก่อนจะนั่งลงบนเตียงผู้ป่วยของเธอ “ เฮ้ๆๆ ลงไปนะ ฉันป่วยอยู่ นายไม่เห็นเหรอ ! “
“ ฉันได้ข่าวว่า .. คนทั้งกองถ่ายกระโดดลงไปช่วยเธอกันให้วุ่นเลย ฮะ ฮะ เธอตลกจังมิยองอ่า ดีนะที่นั่นไม่มีนักข่าว “
ฮวังมิยองสะกดกลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ .. เธอพลัดตกลงไปเพราะอุบัติเหตุในขณะที่ถ่ายทำรายการทีวีต่างหาก
ใครที่ไหนจะอุตริกระโดดลงไปว่ายน้ำเล่นโดยไม่ดูตาม้าตาเรือให้เขามาค่อนขอดอยู่อย่างนี้
“ จริงๆแล้ว ฉันต้องขอบคุณพวกเขามากๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครกระโดดน้ำลงไปช่วยฉัน
ขึ้นมา ไม่มีคนผายปอดให้ ไม่มีคนพามาส่งโรงพยาบาล แต่มันน่าเสียใจจริงๆที่ตอนฉันตื่น
มากลับต้องมาเจอคนไม่มีประโยชน์ที่ดีแต่ปากเสีย “
มิยองพูดแบบแทบจะไม่หยุดหายใจและจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขา
ความน้อยเนื้อต่ำใจที่เก็บสะสมไว้จากความคลุมเครือของความสัมพันธ์ระหว่างกัน ค่อยๆปะทุภายในใจขึ้นมาทีละนิดๆ ...
ในทุกๆคำพูดที่สาวน้อยพูดออกไปแฝงไปด้วยการประชดประชัน
เพียงแค่เธอคุยกับเขาแค่ไม่กี่ประโยค หัวใจของเธอก็ปวดร้าวไปหมดด้วยความรู้สึกที่ย่ำแย่ ...
“ เธอพูดอย่างนี้ได้ยังไง ใครที่ไม่มีประโยชน์นะ “
ใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนหนุ่มกลับเคร่งเครียดจนหญิงสาวชะงักงัน
และโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ฮวังมิยองแทบจะลืมหายใจเมื่อเขารวบตัวเธอเข้าไปกอดไว้ดื้อๆ พร้อมน้ำเสียงที่เป็นกังวลนั้น
“ ฉันเป็นห่วงขนาดไหน ... รีบมาแทบแย่ ไม่เห็นเหรอ ? “
“ นะ .. นาย ปะ ปล่อย .. “
“ ไม่แฟร์เลย ที่เธอจะมาต่อว่าคนที่รีบมาหาขนาดนี้ “
“ ท็อป .. คือฉัน .. คือ .. นาย .. “
............. แอ๊ดดดด ...............
“ อนนี่ โอ๊ะ !!! “
ซอฮยอนและยุนอาที่พากันถอยกรูดออกไปด้านนอกทันทีที่พบเห็นภาพชายหนุ่มหญิงสาว
ในห้องผู้ป่วยนั้น ก่อนที่นักแสดงหนุ่มรูปหล่อจะเปิดประตูเชื้อเชิญให้พวกเธอเข้าไป ...
และเขาได้แต่ยิ้มเก้อเขินและขอตัวออกมา
“ ..................... “
“ ฉันไม่เอาไปบอกใครหรอก อนนี่ “ ซอฮยอนพูดขึ้นทำลายความเงียบภายในห้อง
“ ฉันแค่จะบอกว่าเธอเข้าใจผิดน่ะ ฉันกับเขาไม่มีอะไรกันหรอก เราแค่ทะเลาะกันนิดหน่อย
พวกเราเลยมีปากเสียงกัน .. เผอิญท็อปเห็นจิ้งจกที่เพดาน หมอนั่นกลัวมาก เขาเลย .. “
นัยน์ตาดำขลับของยุนอาและซอฮยอนจ้องมองอย่างนิ่งสงบ สองสาวน้อยไม่แสดงสีหน้า
ใดๆออกมาราวกับว่าคำโกหกของฮวังมิยองเข้าไม่ถึงพวกเธอเลยสักนิดเดียว
“ ฉันไม่เอาไปบอกใครหรอก “ ซอฮยอนพูดประโยคเดิมซ้ำอีกครั้ง และทำลายความ
พยายามที่จะปั้นเรื่องโกหกของเธอ
ฮวังมิยองห่อไหล่ลงเล็กน้อยและถอนหายใจเบาๆ “ พวกเธอคงจะไม่เชื่อสินะ “
“ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะอนนี่ .. ก็เห็นๆอยู่ ว่ามันไม่ใช่แบบที่พี่เล่ามาเลยสักนิด “
ยุนอาหัวเราะออกมาอย่างขันๆ
“ อย่างน้อยเธอสองคนก็น่าจะแกล้งทำเป็นเชื่อๆฉันหน่อยสิ “
“ ฉันควรทำแบบนั้นเหรอ ? “ ซอฮยอนเลิกคิ้วถามอย่างหยอกเย้า
“ เธอจะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟังจริงๆ แม้แต่ซูยองใช่มั้ย “
ฮวังมิยองหมายถึงชเวซูยองผู้จัดการส่วนตัวของสองสาวที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของทั้งเธอและท็อปนั่นเอง
“ อืม .. ไม่พูดหรอก มันไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย ชีวิตรักแบบลับๆของโปรดิวเซอร์สาวกับนักแสดงหนุ่มอะไรเนี่ย “
“ ...................... “
ควอนยูริเฝ้ามองตามเจสสิก้าที่กลับเข้ามาจากระเบียงด้านนอกเพราะออกไปรับโทรศัพท์อย่างไม่สบายใจ
“ สิก้า ... เธอยังใช้โทรศัพท์ที่มันซื้อให้อยู่อีกเหรอ “
“ อ่ะ .. อืม .. “
“ โยนทิ้งมันไปเถอะ “ ควอนยูริหันบอกอย่างขอร้อง ในขณะที่เจสสิก้าเบิกตากว้างอย่าง
ตกใจ
“ ทุกครั้งที่มันดังขึ้นมา .. มันกวนใจฉันมากเลย มันทำให้ฉันกลัว ว่าเธอจะถูกตามรังควานอยู่หรือเปล่า “
“ ................ “
“ ................ “
เจสสิก้ากัดริมฝีปาก เงยหน้ามองเพื่อนสาวพลางยิ้มเจื่อนๆ และหยิบมือถือนั้นขึ้นมาอย่างตัดสินใจ “ อื้ม .. ฉันจะทิ้งมัน “
ร่างบางลุกเดินออกไปอย่างรีบร้อนและไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนในเรื่องเดิมๆกับความ
อ่อนแอของเธอเองที่ทำให้ทุกอย่างคาราคาซังมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นร้อยครั้งพันครั้ง
ที่ยูริต้องมารำคาญใจกับเรื่องงี่เง่ายืดเยื้อนี้ของเธอ
ควอนยูริกัดริมฝีปากและลุกขึ้นวิ่งตามหลังไปคว้าแขนหญิงสาวไว้ “ไม่เป็นไร ..ไม่ต้องทิ้งมันหรอก ฉันไม่อยากบังคับเธอ “
“ ยูริ .... “
“ ขอโทษนะ ฉันจะ .. ออกไปเดินเล่นสักพัก “
ร่างของควอนยูริที่เข็นรถจักรยานออกมาพร้อมบรรยากาศรอบตัวที่เริ่มพลบค่ำ ในขณะที่
กำลังคิดอะไรเพลินๆ ต้องพลันหยุดชะงักกับร่างสูงที่ดักหน้าเธอไว้พร้อมรอยยิ้มสว่างสไว
ที่จ้องมองมา
“ ไม่เจอกันนานนะฮะ .. นูน่า “
“ มาทำอะไรแถวนี้ ? ไม่มีที่ไปหรือไง ชานยอล ? “
หนุ่มสาวในชุดวอร์มที่นั่งชิงช้าสนามเด็กเล่นอยู่ด้วยกันนั้น ชานยอลนั่งยิ้มจ้องมองรุ่นพี่สาวอย่างไม่วางตา
“ ยูรินูน่า ... พี่ได้บอกออกไปหรือยัง คนที่พี่ชอบน่ะ ฮื้ม ? “
“ .................... “
“ ไม่ล่ะ .... รักข้างเดียว มันก็โอเคนะ ฉันว่า “
“ จริงรึปล่าว .. “
“ ยิ่งไปกว่านั้น .. ฉันไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น ตอนนี้ฉันมีตารางงานอัดแน่นเต็มไปหมด ครั้งนี้ ฉันจะต้องมีชื่อเข้าชิงให้ได้ “
“ โอเคที่นูน่าว่า มันหมายถึงหน้าตาอมทุกข์อย่างตอนนี้ด้วยมั้ยครับ ? “
“ ................... “
“ เฮ้อออ ... พี่ไม่เปลี่ยนไปเลย .. ผมล่ะสงสารตัวเองจริงๆ “
“ ฉันอยากเป็นคนเข้มแข็ง ที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ใคร .. แล้ววันนึง .. ฉันจะไปยืนต่อหน้าคนที่ฉันรักและบอกความในใจ “
ควอนยูริมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิดและยิ้มคนเดียวก่อนจะหันมาสบตากับเด็กหนุ่มที่คลี่ยิ้มให้กับเธออย่างให้กำลังใจ
ทั้งที่รู้สึกสับสนและลำบากใจ แต่เขากลับพึมพำ “ นูน่าใจแข็งจริงๆ ... ผมคง ... ต้องยอมแพ้ ... “
“ ยอลอ่า ... สักวันที่นายเป็นห่วงใครอย่างสุดหัวใจ ถึงวันนั้นที่นายจะเหนื่อยขนาดไหน “
“ ..................... “
“ แต่นายก็จะวางมือไม่ได้ ถอนตัวก็ไม่ได้ ... แล้ววันนั้นนายจะเข้าใจฉัน “
ชานยอลลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจากชิงช้าตัวข้างๆ .. เขาหย่อนกายลงนั่งคุกเข่าอีกครั้งเบื้องหน้าของหญิงสาว
“ ไม่ต้องถึงวันนั้น .. ผมก็เข้าใจแล้วล่ะครับ “
“ ชานยอล ... “ แววตาดำขลับของหญิงสาวจ้องเข้าไปในดวงตาที่จริงจังนั้นของเด็กหนุ่ม
“ วางมือก็ไม่ได้ ถอนตัวก็ไม่ได้ ... คนที่ทำให้ผมเป็นได้แบบนั้น ... “
“ .................... “
ร่างสูงเคลื่อนเข้าหาคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนชิงช้าตัวเดิม ใบหน้าหยุดอยู่ใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนของเขารินรดเธอ
“ ก็คือนูน่า “
ริมฝีปากประทับอย่างหลงใหลลงไปทันทีที่จบประโยค หญิงสาวยังคงลืมตามองเขาใน
ระยะประชิดจนเด็กหนุ่มถอนริมฝีปากออกไปและสารภาพความในใจ
“ จนถึงตอนนี้ ... มันยังเป็นนูน่าเพียงคนเดียว “
“ .................... “
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ปล.ท็อปทิฟนั่น อดีตที่ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 สิงหาคม 2559 / 20:04
เซอร์ไพรส์กับคุณปาร์คมากข่าา พ่อเสือร้ายของเราเขามีหัวใจเนอะ >_<
รู้จักกันมาก่อนในแบบสถานะไหนคะ แล้วในเมื่อชานรักพี่ยูลขนาดนี้ ทำไมไม่ตามตื้อพี่เขาล่ะ ไปคั่วกับคนโน้นคนนี้ทำไมหนอ หรือชานรู้ว่าคงเปลี่ยนใจพี่ยูลไม่ได้ พี่ยูลคงเป็นคนเดียวที่ชานจะไม่ร้ายใส่ ใช่มั้ย
พี่ฟานนี่สิ ไม่รู้ชานจะมีแผนอะไร จะใช้พี่เขาเป็นเครื่องมือทำอะไรอีก
ฟานี่นางนี่โครตซวยของแท้เลย ยอลก็ดูเหมือนจะหลอก ท๊อปก็ไม่จริงจังแถมคลุมเครืออีก ที่ดีจริงๆคือมีเพื่อนดีอ่ะ
โอ้จีซัส นี่มันอีรุงตุงนัง ยุ่งเหยิงมากกกก
นี่เริ่มสงสารฟานี่ละ ดูเหมือนจะไม่มีใครรัก(?)นางจริง
แถมล่ำๆๆจะโดนชานยอลปั่นหัวไปอีก
5555. ชานเอ๊ย~ ที่แกทำนิสัยแบบนี้ ทำตัวแบบนี้ไป.. แกคงจะมีเหตุผลสินะ แล้วจะรอนะคะไรท์ ^^
รอติดตามค่า