แสงสว่างจากไฟนีออนยามค่ำคืนฉาบฉายบนใบหน้าขรึมของร่างสูงที่กำลังทอดเดินไปเรื่อยๆตามถนนสายยาว
ลมเอื่อยที่พัดมากระทบเรื่อยๆนั้น ปาร์คชานยอลแค่นยิ้มออกมาเมื่อเข้าใจความรู้สึกโดดเดี่ยวของตัวเองในเวลานี้
ใครจะอยากเชื่อกันล่ะว่าคนอย่างเขาจะอ้างว้างได้ถึงเพียงนี้ .. คนที่ไม่เคยรู้จักคำว่ารัก
คนที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครมาก่อน พอถึงเวลาที่อยากจะหยุด อยากจะวางหัวใจไว้
ในมือใครบางคน เหมือนกรรมตามสนองที่ทำกับคนอื่นเอาไว้มาก
คนคนเดียวที่เขาต้องการมากกว่าร่างกาย ทุกอย่างอยู่ในมือของเธอ แต่ตอนนี้เธอคนนั้น
กลับผลักไสเขาออกห่างและเว้นช่องว่างกลับไปเหมือนเดิมหรือยิ่งกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป ...
ปลายเท้ามาหยุดลงที่ตึกคุ้นเคยโดยไม่รู้ตัว มองขึ้นไปชั้นที่ยังเปิดไฟห้องทำงานอยู่นั้น
อย่างน้อย เขาต้องรีบสลัดความเงียบเหงาที่กัดกินใจอยู่ตอนนี้ออกไปเสีย ..
“ มีธุระอะไรหรือเปล่า ? “
“ ไม่มีครับ ... ผมแค่คิดถึง “
“ หึหึ ... แฟนของนาย ... เค้าคงไม่มีเวลาให้ล่ะสิ ตลกดีนะเวลาที่นายวิ่งหาตัวสำรอง
แบบนี้น่ะ “
“ ผมบอกว่าผมคิดถึง..มันตลกมากเลยเหรอครับ “ ใบหน้านิ่งขรึม แววตาปนเศร้าฉายชัดจนฮวังมิยองถึงกับชะงักไป
“ ผมพูดจริงๆ ไม่รู้หรือไงว่าผมชอบพี่มากขนาดไหน “ ดวงตาวาววับนั้นตั้งอกตั้งใจจะดึงเธอลงให้ตกหลุมของเขา
“ เก็บคำพูดพวกนี้..ไปใช้กับคนอื่นเถอะนะ อย่ามาใช้กับฉันเลย “ หากแต่ฮวังมิยองกลับดึงสติของตัวเองเอาไว้มั่น
“ อย่าตัดเยื่อใยกับผมแบบนี้ ผมรู้ว่า .. พี่ก็คิดแบบเดียวกับผม “
“ งั้นก็ได้ ... ฉันชอบนาย “
“ ....................... “
ครั้งนี้ชานยอลชะงักไปด้วยความไม่คาดคิด มองด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“ ฉันพูดจริงๆ .. ไม่รู้หรือไงว่าฉันชอบนายขนาดไหน “ เธอค่อยๆปล่อยถ้อยคำออกมาช้าๆจากใบหน้านิ่งเรียบนั้น
ร่างสูงเงียบกริบไปทันที .... นั่นมันคำพูดของเขา!!
“ ไงล่ะ ? รู้สึกยังไงบ้าง ได้ยินคำพูดแบบนี้ นายรู้สึกดีมั้ย? ” พีดีฮวังถามกลับด้วยแววตานิ่งสงบ
“ ..................... “
“ รู้หรือยังว่าฉันรู้สึกยังไง นายจะให้ฉันรู้สึกยินดีกับคำพูดที่มันไม่มีความจริงใจแบบนั้น
ได้ยังไง ในเมื่อฉันรู้ว่ามันไม่ได้ออกมาจากใจของนายจริงๆ “
“ หึหึ ... นี่ผม ... กำลังถูกด่าอยู่ใช่มั้ยนี่ “ ชานยอลเอ่ยหลังจากที่เงียบไปอึดใจใหญ่ๆ
“ เปล่า “
“ นูน่าพูดซะขนาดนี้ .. ทำอย่างกับว่าที่ผมทำไปมันไม่มีความจริงใจเลยอย่างนั้นล่ะ “
เด็กหนุ่มแค่นหัวเราะออกมา
“ มีหรือเปล่า นายรู้มันอยู่แก่ใจ “
“ แปลว่าพี่ไม่เห็นความจริงใจของผม “
“ ฉันเห็นเท่าที่นายมี ... แย่หน่อยที่ความจริงใจของนายฉันเห็นว่ามันมีน้อยกว่าที่นายอยากเอาชนะฉัน “
“ พี่คิดอย่างนั้นจริงๆเหรอครับ “
และไม้ตายของเขาก็คือการเข้าใกล้ชิดและต้อนให้เธอจนมุมอีกเช่นหลายๆครั้ง
เสียงโทรศัพท์มือถือของฮวังมิยองขัดจังหวะขึ้นมาและเธอรีบกดรับสายอย่างคว้าโอกาสเอาไว้ “ ว่าไง มยองซู “
“ ........................ “
“ นี่ ... วันๆ ไม่มีอะไรทำนอกจากหาเรื่องมาเกาะติดฉันเหรอ มยองซู ? “
“ หึหึ ... พี่คงไม่คิดว่าผมจะจีบพี่จริงๆหรอกนะ “
เขาถามพร้อมหัวเราะนัยน์ตาระยิบจนมิยองแทบอยากจะซัดเข้าให้สักที สาวสวยยกมือขึ้นกอดอกพลางเอียงคอ
“ บังเอิญฉันคิด “ ฮวังมิยองที่เริ่มมีสีหน้าและท่าทางที่บึ้งตึงนั้นเอ่ยห้วนๆ แต่มยองซูกลับยิ่งขำมากขึ้นไปอีก
“ พอแล้วน่า ... นายจะหัวเราะอะไรนักหนา! “
“ กินน้ำก่อนนะ .. จะได้ใจเย็นๆ “
เด็กหนุ่มยื่นแก้วมอคค่าเย็นให้เธอด้วยท่าทีสบายๆ และเหลือบมองเธอพร้อมกับลังเลเล็กน้อยที่จะถามออกไป
“ คุณปาร์คชานยอล ... “
“ ฉันไม่อยากพูดถึงนะ “
“ ทำไมล่ะ ... พี่ทำเหมือนหลีกเลี่ยงเขาเสมอเลยนะฮะ? แปลกๆนะเนี่ย “
ฮวังมิยองเงียบและนิ่งคิดเมื่อเจอคำถามแบบนี้ของหนุ่มรุ่นน้องที่ยิ้มมุมปากอย่างล้อเลียน
“ ฉันแพ้คนแบบนั้น “
นี่เป็นคำตอบที่เธอเองยอมรับแก่ใจ ขณะที่คิมมยองซูเบิกตากว้างมองเธออย่างเกินความคาดหมาย
“ ไม่อยากจะเชื่อเลย ฮวังมิยองของเรา ..... “ ท่าทางของเด็กหนุ่มบ่งบอกความแปลกใจอย่างสุดกำลัง
“ ฉันกลับดีกว่า นายก็กลับบ้านไปเถอะนะ แท๊กซี่ !! “ สาวสวยปราดเข้าโบกเรียกรถแท็กซี่ที่วิ่งผ่าน
“ โอ๊ะ นูน่า เดี๋ยวสิครับ ยังคุยกันไม่จบเลย! “
“ ขอบใจที่เลี้ยงกาแฟนะ เจ้าบีเกิ้ลน้อยของนูน่า “ หญิงสาวหันมายกแก้วกาแฟขึ้นโบกไหวๆ
แล้วขึ้นรถแท็กซี่หนีไปต่อหน้าต่อตา
“ ฮ๊ะ !?? บีเกิ้ลอะไรน่ะ นูน่า!! “
“ ค่ะ ... คุณก็รู้นี่คะ ว่าฉันไม่ทำให้คุณผิดหวังอยู่แล้ว ขอบคุณนะคะที่รัก “
สาวสวยคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เดินประจันหน้ากับซอจูฮยอนนั้นกดวางสายและยิ้มบางๆให้กับ
สาวน้อยซอฮยอนที่เดินหน้านิ่งผ่านเธอไป หญิงสาวกัดริมฝีปากอย่างท้าทายก่อนจะหัน
กลับไปเรียกเธอไว้ตรงระเบียงทางเดินของตึก
“ สวัสดีค่ะ ซอฮยอนชิ “
เมื่อเลี่ยงไม่ได้ซอฮยอนจึงหันเผชิญหน้าและโค้งทักทายเล็กน้อยตามมารยาท
“ สวัสดีค่ะ รุ่นพี่ “
หญิงสาวยิ้มกว้างขวางพลางเดินกลับมาหยุดตรงหน้า “ ไม่โกรธกันนะคะ .. ที่ฉันมารับบทนักแสดงนำหญิงแทน “
“ ไม่โกรธหรอกค่ะ ... ใครก็รู้ว่ารุ่นพี่มีแบ็คอัพอย่างดี ฉันดีใจด้วยนะคะ “
หลังจากเลิกรากับโอเซฮุนไป ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก
นายทุนคิมฮยองจุงจนงานและรายได้ไหลมาเทมาจากงานหนัง งานโฆษณาและอีเว้นท์ที่
หลากหลาย รวมถึงโอกาสบางอย่างของซอฮยอนที่หลุดตกไปอยู่ในมือของเธอเสียอีกด้วย
“ เธอยังได้เจอโอเซฮุนอยู่มั้ยคะ? “
“ .................... “
“ ได้เริ่มคบกันหรือยังเอ่ย ... ไหนๆ ฉันก็ไม่อยู่ขัดขวางแล้วนะ หวังว่าเขาคงจะเลือกเธอ
เพราะอย่างน้อย ฉันก็เห็นและรับรู้ว่าเธอรอเขามานานกว่าใคร “
“ ขอบคุณที่เห็นใจฉันนะคะ “
“ เซฮุนน่ะ ... บทจะเข้าใจยาก ก็ไม่มีใครเข้าถึงเขาหรอก ฉันว่า ... ฉันโชคดีแล้วล่ะ ที่ออกมาจากเขาซะได้ “
“ ......................... “
“จะว่าไป เซฮุนเองก็ขายไม่ค่อยได้แล้วนะ ชื่อเสียงก็เงียบๆไป เธออาจจะลำบากหน่อยถ้าเขาดึงเธอเข้าไปตอนนี้ “
ซอฮยอนยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน “ ที่พูดแบบนี้ เพราะอยากปลอบใจตัวเองที่โดนทิ้งหรือเปล่าคะ รุ่นพี่ “
“ !!!!!! “
เพี๊ยะ!!! โดยอัตโนมัติที่ฝ่ามือของคิมโซอึนยกขึ้นตบฉาดลงที่แก้มนวลของเด็กสาวจนขึ้นสี ซอฮยอนหันขวับ
“ ขอโทษนะคะ รุ่นพี่ .. ฉันเองก็ไม่ชอบคนที่กล้าทำกับฉันแบบนี้เหมือนกัน “
ฝ่ามือบางนั้นตวัดแรงๆเข้าฟาดใบหน้าสวยๆของคิมโซอึนกลับคืน จนหญิงสาวผงะทรุดถอย
หลังไปชนราวระเบียง ยกมือกุมแก้มอย่างตื่นตะลึง
“ เจ็บมั้ยคะ แหม ... ฉันขอเอาคืนแค่นี้ถึงกับหน้าซีดเชียวเหรอ “
เด็กสาวเดินตามประชิดเข้าไปดัดแขนของหญิงสาวรุ่นพี่ให้ไพล่หลังแล้วผลักให้เข้าชิดกับ
ระเบียงทางเดินที่มองเห็นพื้นด้านล่างอยู่ไกลลิบ
“ กะ แกจะฆ่าฉันหรือไง นังเด็กบ้า !! ปล่อยฉันนะ! “ โซอึนโวยวายเสียงแหบพร่าความกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจ
“ เอ .... หรือบางทีรุ่นพี่อาจจะอยากอยู่เฝ้าตึกนี้อย่างถาวรหรือเปล่านะ “
“ อย่านะ !! “ คิมโซอึนหลับตาตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว “ ฉันยอมแล้ว ปล่อยฉันเถอะนะ “
เสียงประตูลิฟท์ถูกเปิดออกและฮวังมิยองก้าวออกมาพร้อมชะงักเบิกตาโพลงกับสองสาวที่บริเวณทางเดิน
“ ซอฮยอนนี่! อย่า! พอแล้ว .. “ เมื่อมาถึงและเห็นภาพตรงหน้าฮวังมิยองถึงกับวิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาอย่างตกใจ
“ หยุดนะ พอได้แล้ว!! “
ซอฮยอนชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันหัวเราะเบาๆราวกับเป็นเรื่องขบขัน “ จริงจังไปได้อนนี่
แค่ล้อกันเล่น .. ใช่มั้ยคะ “
เด็กสาวหันไปถามคนที่ยังมีท่าทีตื่นกลัวนั้นด้วยรอยยิ้มแสนหวาน เธอคลายมือออกและ
เดินไปคล้องแขนฮวังมิยองให้เดินออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างไม่สนใจหญิงสาวที่ทรุดฮวบลง
งไปนั่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่กับพื้นทางเดินนั้น
“ เล่นแรงไปหน่อยรึเปล่า ฮยอนนี่ ถ้าเค้าตกลงไปจริงๆจะทำยังไง “
“ ก็ตายสิคะ อนนี่ “
“ ซอจูฮยอน !!! “ ฮวังมิยองดุและดึงแขนออกอย่างไม่พอใจ หากแต่สาวน้อยกลับดึงมาเกาะไว้อย่างอ้อนๆ
“ ล้อเล่นน่า ... พี่เห็นฉันบ้าถึงขนาดฆ่าคนได้หรือไง “
“ เธอควรจะมีสติกว่านี้ ตามจริงคุณคิมโซอึนเค้าก็น่าเห็นใจอยู่หลายเรื่องนะ “
“ น่าเห็นใจเหรอคะ? โอเค... งั้นถือว่าโชคร้ายแล้วกันที่มาเจอฉัน “
“ อนนี่รู้นะ ว่าเธอไม่ชอบยัยนั่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ... แต่ต่างคนต่างอยู่เถอะ ถือว่าฉันขอก็ได้ “
“ จะพยายามค่ะ “ ซอฮยอนตอบรับก่อนจะต่อประโยคด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ แต่อย่ามาล้ำเส้นกันอีกก็พอ “
“ โอ้ .... รังสีความร้ายกาจของเธอนี่ เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ ฉันก็เพิ่งจะเคยเห็น “
“ ......................... “
“ ยังไงก็ ... อย่าทำให้อนนี่ต้องกลัวเธอไปด้วยอีกคนเลยนะ ฉันขนหัวลุกหมดเลย “
“ หึหึ ... ฉันเลือกปฏิบัติค่ะ อนนี่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ “
“ ไง ไอ้ลู่ วันนี้ไม่เกี่ยวนางฟ้าของกูมาด้วยเหรอวะ? “ จื่อเทา เพื่อนหนุ่มนักเที่ยวกวาดตามองรอบโต๊ะที่ลู่หานนั่ง
“ หรือนี่มึงจบกับนางฟ้าเกาหลีอิมยุนอานั่นไปแล้ว ? “
ลู่หานแค่นยิ้มเมื่อได้ยินคำถามของเพื่อน เขาวางแก้วเครื่องดื่มลง “ ไม่ “
“ ไม่นี่คืออะไรวะ เอาให้เคลียร์ “
“ ไม่ก็คือไม่มา .. แต่ยังไม่จบ ชัดมั้ย? “
“ อะไรวะ .. ปกติก็เห็นว่ามึงเห่อใครได้ไม่นาน .. แต่คนนี้ ? “
“ คงนานกว่าปกติ “ ลู่หานตอบยิ้มๆตามสไตล์ แต่คนฟังถึงกับเลิกคิ้วเชิงถามอย่างแปลกใจ
“ ทำไมวะ .. หรือว่าจริงจังกับเขาจริงๆ มึงรักเขางั้นเหรอ ไอ้เสือลู่? “ จื่อเทาลุ้นคำตอบของเพื่อนอย่างตื่นเต้น
“ จริงจังน่ะใช่ .. แต่กูไม่ได้รัก “
ลู่หานตอบตามความรู้สึกโดยไม่ปิดบัง เขาชอบยุนอาด้วยความสัตย์จริง
แต่เขาไม่คิดว่านั่นคือความรัก คำๆนั้นยังห่างไกลจากความรู้สึกเขาอยู่มาก ชาตินี้ทั้งชาติยัง
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะเกิดกับเขาหรือเปล่า
“ ก็นั่นสิ .. คนที่ไม่เคยรู้จักรักใครอย่างมึงเนี่ยนะจะรักใครเป็น “
“ ก็คงจริง “
รอยยิ้มเนือยๆ ผุดขึ้นขณะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นชนกับเพื่อนสนิทที่เอื้อมมือมาขยี้ศีรษะของเขาอย่างหยอกล้อ
เรื่องรักมันกลายเป็นเรื่องไกลตัวจริงๆ .. แต่ในใจลึกๆ ก็คาดหวังว่าสักวันเขาจะได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้นสักครั้ง
ความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักและไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง ...
จื่อเทามองตามร่างของเพื่อนหนุ่มรูปหล่อที่เดินเข้าไปสานสัมพันธ์กับหญิงสาวสวยที่นั่ง
วางท่าอย่างยั่วยวนและส่งสายตาเชื่อมไมตรีมาให้อยู่นั้น เขาส่ายหัวพลางหัวเราะในลำคออย่างปลงๆ
ลู่หานก็ยังเป็นลู่หานอยู่วันยันค่ำ ... เขากับผู้หญิงนี่มันขาดกันไม่ได้จริงๆ
ถ้าให้เขานั่งนับเล่นๆ ถึงจำนวนสาวๆที่เข้ามาในชีวิตของซุปตาร์อย่างลู่หานล่ะก็ ..
ต่อให้คืนนี้ทั้งคืนก็นับไม่หมด
ทั้งคริสและลู่หานที่ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่สมัยเรียนนั้น ทั้งคู่เจ้าเสน่ห์มาแต่ไหน
แต่ไร มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตไม่เคยขาด บางคนหลงคิดว่าเขาจะจริงจัง แต่สุดท้ายบางทีเขา
จำไม่ได้แม้แต่ชื่อของเธอเหล่านั้นด้วยซ้ำไป
ค่ำคืนที่ใครบางคนหลับตาไม่ลงนั้น ... เธอแต่งตัวออกตระเวนราตรีเฉกเช่นเดียวกับแทบ
ทุกคืนที่ผ่านมา หากแต่วันนี้มีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้นเพื่อทับถมลงไปที่แผลเดิมของเธอ
“ คุณไอดอลคนสวย กลัวผมเหรอครับ“ ชายหนุ่มหน้าตาดียังคงฉาบยิ้มรุกไล่เข้าหาเธอ
“ผมไม่น่ากลัวขนาดนั้นนะ”
ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ซอฮยอนจ้องมองร่างที่ขยับตัวเข้ามาหาด้วยดวงตาแดงก่ำ ทั้งโกรธ
เกลียด ขยะแขยงและหวาดกลัวระคนกัน ภาพเหตุการณ์เลือนลางในอดีตก่อเป็นรูปเป็น
ร่างขึ้นมาทับซ้อนกับชายแปลกหน้า
“ อย่านะ ... อย่าเข้ามา .. “ ภายในผับมืดสลัว เด็กสาวถอยหนีอย่างตื่นตระหนก “ อย่า ... อย่า .. อย่าเข้ามา “
สาวน้อยพร่ำถ้อยคำเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนชายหนุ่มเริ่มแปลกใจกับอาการของเธอ
“ เอ่อ ... คุณครับ .. “
มือที่ยื่นออกไป เด็กสาวปัดออกและเบี่ยงตัวหลบหนีไปอีกทางอย่างลนลาน
“ ออกไปนะ! ออกไป !!! “
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะงุนงงไปมากกว่านั้น ใครบางคนพรวดพราดเข้ามาปล่อยหมัดใส่เขาอย่างไม่ปราณี
“ มึงทำอะไรซอฮยอน !! “
“ ผมยังไม่ได้ทำนะ ... ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ “
“ ไม่ได้ทำเหรอ! “ โอเซฮุนเค้นเสียงเย็นเยียบแล้วง้างหมัดขึ้นแต่โดนท็อปที่มาด้วยกันรีบดึงร่างของเขาเอาไว้
“ ไอ้ฮุน ! ไอ้ฮุน! พอแล้ว “
ชายหนุ่มหนีออกไปอย่างลนลาน เซฮุนรีบปรี่เข้าไปหาซอฮยอน แม้จะเบาใจได้ตรงที่เสื้อผ้า
ยังอยู่ดี และตามเนื้อตัวก็ไร้ร่องรอยของการถูกทำร้าย แต่ท่าทางของเธอที่ร้องไห้สะอึก
สะอื้นราวกับผ่านความเจ็บปวดมามากมาย
เธอสลัดตัวและดิ้นรนออกจากเขาและผลักไสอากาศอยู่อย่างหวาดกลัว “ ปล่อยฉันนะ ไปให้พ้น!! “
“ ฮยอนนี่ ..” เด็กหนุ่มส่งเสียงเรียกอย่างไม่มั่นใจว่าทำไมซอฮยอนถึงได้เป็นแบบนี้ “ ฉันเซฮุนนะ .. “
ได้ผลที่เด็กสาวหยุดชะงักเงยใบหน้านองน้ำตาขึ้นช้าๆ “ ฮุน ... ไอ้เลวนั่นมัน .... “
“ เธอไม่เป็นอะไร ฮยอนนี่ มันทำอะไรเธอไม่ได้ เรามาช่วยทัน “ เขากดมือลงที่สองไหล่บางของเด็กสาว
ซอฮยอนสบสายตากับเขา .. ริมฝีปากนั้นสั่นระริก “ นายช่วยฉันไม่ได้หรอก .. มันไม่ทัน แต่แรกแล้ว ... “
เซฮุนหน้าชาไปกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่ต่างจากท็อปที่ขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติ
“ หมายความว่าไง ... อะไร คือ ... ไม่ทัน .. “ เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเบาโหวงจนตัวเองรู้สึกได้
อย่านะซอฮยอน .... ฉันไม่อยากได้ยิน .... อย่าบอกฉัน ...
“ ไม่มีใครช่วยฉันได้หรอก .. ไม่มี ..... ไม่เคยมี .... “
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ถ้าบอกกับพี่ยูลตรงๆ พี่เข้าคงจะถอยให้ อย่ารั้งพี่เขาไว้แล้วกัน
ส่วนพี่ฟาน ก็คงต้องเหนื่อยหน่อย เหมือนพี่เขาจะเข็ดกับนายนะ ทั้งที่ก็ยังรักอยู่
แสดงความจริงใจออกมา เดี๋ยวพี่เขาก็ใจออก เพราะพี่เขาแพ้นาย
ใครดีมาดีตอบ ร้ายมาร้ายกลับสิบเท่าเร๊อะซอ น่ากลัวนะแบบนี้
จะมีผลต่องานมั้ย โซอึนจะไปฟ้องฮยอนจุงให้บีบทีมงานไม่ให้ป้อนงานซอรึเปล่า
ฮุนที่ชื่อเสียงเงียบๆไป นอกจากจะเกเรงานเองแล้ว ส่วนนึงก็คงโดนโซอึนใช้เส้นเล่นงานแน่ๆ
อัลไลของเขานะอิคุณพี่ลู่เนี่ย จริงจังแต่ไม่รัก พี่ถือตรรกะอะไรอยู่
แล้วสมมติว่าพี่ยุนเกิดรักพี่มาจริงพี่จะทำไง หวังว่าพี่ยุนจะไม่ตกหลุมพลางอิพี่ลู่นะ
ระวังจะเป็นเหมือนชานนะพี่ลู่ พอจะหยุดที่ใครสักคน เขากลับผลักไสเราไปไกลๆน่ะ
ผลจากการกระทำของพี่ลู่ พอซอเมาไม่ได้สติแล้วเหตุการณ์นั่นก็ย้อนมาทำร้าย
กลายเป็นว่าซอเป็นคนวิตกจริตไปเลย T^T อีกนานมั้ยบาดแผลของเรื่องนี้มันจะหายไปจากใจซอ
แล้วฮุน คืออะไร ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากได้ยินเพราะอะไร
เพราะกลัวจะรับไม่ได้ หรือกลัวว่าตัวเองจะเจ็บและโทษตัวเองไปมากกว่านี้
ที่ตัวเองเป็นส่วนนึงที่ทำให้เรื่องเกิด อย่าเป็นอย่างแรกนะฮุนนะ
ถ้ารู้ความจริงเรื่องนั้นหวังว่าจะยังอยู่ข้างซอและยิ่งปกป้องซอมากขึ้นไปอีกนะ
น้องซอบทจะสู้คนก็สู้นะ โซอึนถึงกลับหน้าหงาย
ส่วนลู่หายจะโฉดก็โฉดให้สุด!
ส่วนชานยอล เหมือนโดนกรรมตามสนองจริงๆ นี่โดนยูริไล่ออกมายังไม่สำนึก ยังจะมาหวังเอาแต่ได้กลับมิยองอีก
ดีนะมิยองยังรั้งตัวเองออกมาทัน ดูสิชานยอลจะทำยังไงต่อ
ส่วนมยองซู ถ้ายังทำตัวเป็นหมาหยอกไก่แบบนี้ นูนาก็คิดเป็นบีเกิ้ลนั่นแหละจ้า
ใครจะรู้
ชอบมิยองมากเลยตอนนี้ ชานยอลสมควรจะโดน
ยอลเป็นไงล่ะโดนเอาคืนแล้ว แอบสะใจจะได้เข้าใจความรู้สึกคนอื่นบ้าง
ฟานี่นี่ทิ้งคำพูดให้คิดอีกแล้ว บีเกิ้ลน้อยของนูน่านี่คืออัลไล มีความหมายลึกๆมั้ยยย
ด่าเสียมากมาย สุดท้ายก็แพ้คำว่าไบแอส 55555
ทำไมไรท์ทีมพี่ลู่ ทั้งที่พี่ลู่โฉดขนาดนั้นนน มันต้องมีอะไรแน่ๆ ><
ติดตามๆ