... ถึงสิ่งที่ทำให้ฉันเจ็บปวดยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน ..
... แต่ฉันก็ไม่อยากสูญเสียอะไรไปอีกแล้ว ...
... และการที่ฉันกลัวการสูญเสีย .. มันเป็นหลักฐานว่าตอนนี้ ฉันกำลังมีความสุข ...
“ ฉันไม่ชอบเวลานายอยู่ใกล้ๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นเลยฮุนอ่า .. อย่าทำให้ฉันต้องเป็นกังวลไปกว่านี้ได้มั้ย “
“ มันไม่ใช่อย่างที่นูน่าคิดหรอกครับ .. ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล “
“ ฉันรู้ ... ว่าพวกนายเคยสนิทกันมาก่อน แต่เพราะฉันขอไว้ ... นายถึง .. รักษาระยะห่างกับเด็กคนนั้นมาตลอด “
“ ....................... “
“ และเพราะตอนนี้ .. นูน่าทำผิดต่อนายเอาไว้ มันเหมือนบาปกรรมที่ทำให้ฉันจะต้องกลับมาระแวงนายอีกหลายเท่าตัว “
“ เราอย่าพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วเลยนูน่า “ เซฮุนสะบัดหน้าหนีและขบกรามจนเป็นสันนูน
.. ไม่ลืม ... เขายังไม่เคยลืม ..
เซฮุนคลายมือที่จับหญิงสาวไว้ หากแต่เธอกลับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาอย่างหมดความอดกลั้น “ อย่าทิ้งฉันไปไหนเซฮุน “
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเด็กหนุ่มฉายแววสับสนรุนแรง หากแต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือจากเธอหรือถอยห่างไปไหน ...
เขาทำไม่ได้หรอก ... จะปล่อยมือจากเธอที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสารอย่างนี้ ..
เขาไม่มีทางทำได้หรอก ...
เพราะคนอย่างโอเซฮุน ... ไม่มีทางยอมปล่อยให้ฉันต้องอยู่เพียงลำพัง .. และเพราะฉันรู้ ..
ฉันถึงได้เล่นขี้โกง ..
ระยะห่างระหว่างกันค่อยๆลดลงอย่างเชื่องช้า ขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น ..
มากขึ้นจนริมฝีปากสัมผัสกัน ...
สัมผัสแผ่วเบาค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นร้อนจัดจนแทบละลาย .. ริมฝีปากอ่อนนุ่ม
ของเซฮุนอ่อนโยนเหมือนขนนก ..
ช่างต่างจากสัมผัสของซาตานเลือดเย็นอย่างปาร์คชานยอลอย่างลิบลับ ...
ในเมื่อฉันมีเทพบุตรอยู่เคียงข้าง แล้วทำไมฉันถึงจะไปเลือกซาตานอีกล่ะ จริงไหม ....
ปริ๊นนนนนนน ๆๆๆๆๆ
“ ก็ลงมาสิยะ! .. อุตส่าห์มากวนฉันดึกดื่นขนาดนี้ จะร้องห่มร้องไห้อยู่ในนั้นอีกนานมั้ย? “
สาวน้อยจียอนที่วิ่งออกมาเปิดประตูรั้วบ้านทั้งชุดนอนทันทีที่มีเสียงบีบแตรรถอย่างบ้าคลั่ง
อยู่หน้าบ้านของเธอ รถยนต์สีขาวและคนด้านในที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเธอต้องมาเคาะ
ประตูรถด้านคนขับเรียกคนในรถลงมา
“ แกชนะฉันแล้ว จียอนอ่า .. “
จียอนถอนหายใจหนักๆ พลางนึกถึงคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้ “ ก็ได้ .. ถ้าแกจะเอาอย่างนี้นะ ซอฮยอนนี่ งั้นไปเลย! "
" ถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงได้แล้ว เขาไม่มีทางเป็นของแก แล้วเราจะได้รู้กันเร็วๆนี้ “
..... สรุปแล้ว เขาเลือกเธอคนนั้นงั้นเหรอ ... เขาเลือกผู้หญิงแบบนั้นจริงๆ งั้นสินะ ....
“ ฮยอนนี่ .. ฉันเตือนแล้วนะ .. ว่าแกจะเจ็บซ้ำไปซ้ำมา ถอยมาจากหมอนั่นซะ มาให้ไกลๆเลยด้วย “
“ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีเขาคนเดียว ฉันรู้นะ “ แววตาบอบช้ำนั้นส่องประกายความแค้นระยิบระยับ ..
“ แกมันโง่ .. นึกว่าเซฮุนมันไม่รู้หรือไง ว่าผู้หญิงของมันเป็นคนประเภทไหน “
“ ................. “
“ ถ้าเขารู้ แล้วยังยอมรับ .. นั่นหมายถึง ไม่ใช่เรื่องอะไรของแกอีกต่อไปแล้ว แรงๆ คือ .. แกอย่าเสนอหน้า “
“ หมอนั่นจะเกินเยียวยาแบบนั้นเชียวเหรอ? มันเรื่องอะไรที่เขาจะ ... “ สีหน้าที่ยังคงมีร่องรอยคราบน้ำตานั้นบ่งความผิดหวัง
บางครั้ง ... ซอฮยอนที่ฉลาดหลักแหลมในแทบทุกเรื่อง ก็กลับกลายเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงที่ดึงดันบางอย่างไปแบบโง่ ๆ
“ ฉันไหว้ล่ะ แกฟังฉันหน่อย ทุกครั้งที่เขาทำท่าว่าจะเอนมาหาแก มันก็จบด้วยการที่หมอนั่นเลือกยัยคนนั้นเสมอไม่ใช่หรือไง “
“ .................. “
“ มาเคาะกะลา ให้หางแกกระดิก แล้วก็ทิ้งขว้างปล่อยแกตามยถากรรม “
“ ย๊า !! “
“ ศักดิ์ศรีแกหายไปไหน บอกมาซิ ฮยอนนี่!! “
“ ฉันทิ้งมันไปหมดแล้ว! “
“ .................. “
“ ได้ข้อสรุปหรือยังพีดีฮวัง ? อย่าทำให้ลำบากใจกันไปเลยนะ “
“ ค่ะ ... สรุปว่า ฉันจะไม่เปลี่ยนผู้ร่วมรายการค่ะ “
“ คุณฮวัง! ทำไมคุณถึงต้องมารับผิดชอบเรื่องที่คนอื่นก่อไว้ด้วยล่ะ? ช่วยแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับงานหน่อยได้มั้ย “
“ จริงอยู่ โดยส่วนตัว ฉันกับซอฮยอน เราสนิทกัน แต่โดยผลงาน เธอก็เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่ฉันวางไว้อยู่ดี “
“ งั้นฉันจะล้มเลิกอนุมัติโปรเจคของคุณดีมั้ย? “
“ ฉันไม่ใช่คนประเภท เวลาที่ไปได้ดีก็จะเห็นเป็นเพื่อนกัน แต่เวลาที่แย่ ฉันควรจะมองเห็นเพื่อนเป็นคนอื่นเหรอคะ “
“ คุณดื้อรั้นเกินไปแล้วฮวังมิยอง ถ้าคุณไม่เดินหน้าเพื่อทีม อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ฉันสั่งปลดคุณได้ตลอดเวลา อย่าลืม “
“ คะ ? ในเมื่อผู้อำนวยการไม่ให้ทางเลือกฉันเลย ... ฉันก็ ... ไม่มีวันทำงานอยู่ข้างหลังคนแบบนี้หรอกค่ะ “
“ ................. “
“ มิยองนูน่า ... พี่น่ะ .. เท่ห์มากเลยรู้มั้ยครับ “
ปาร์คชานยอลรินเครื่องดื่มให้รุ่นพี่สาวด้วยรอยยิ้มและป้อนคำชื่นชม
“ ยังไงฉันก็ขอโทษด้วย โปรเจคฉันถูกระงับ นายเลยต้องพลอยตกงาน “
“ ผมเนื้อหอมนะ ... ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกครับ “
“ ชิส์ .... “ หญิงสาวเบ้ปากก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างไม่ถือสาก่อนจะกระดกเครื่องดื่มขึ้นจนหมดแก้วและคว้ากระเป๋า
“ ไปข้างนอกกันเถอะ ฉันอยากสูดอากาศปลอดโปร่ง “
ชานยอลเดินล้วงกระเป๋าเสื้อโค๊ตของเขาก้าวเดินตามหลังหญิงสาวที่เดินใจลอยอยู่เบื้อง
หน้า ร่างสูงแววตาครุ่นคิดก่อนจะเร่งฝีเท้าตามให้ทันร่างบางและถอดเสื้อโค๊ตคลุมไว้ให้เธอ ..
“ ฉันไม่แปลกใจเลย ที่ทำไมนายถึงได้ฮอตนัก หึหึ .. “
“ ทำไมเหรอฮะ .. “
“ แต่อยู่กับฉันน่ะ..นายไม่ต้องสวมหน้ากากเทพบุตรอยู่ตลอดเวลาก็ได้“
คำพูดเรียบๆของมิยองทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย
ก่อนจะพูดเบี่ยงเบนออกไป “ นูน่าครับ ผมมีเรื่องสงสัย ... ทำไม .. นูน่าถึงต้องยอมให้ตัวเองเดือดร้อนด้วยเรื่องแค่นี้ “
“ เรื่องแค่นี้ ... คือเรื่องแค่ไหนในสายตานายเหรอ? “ หญิงสาวหยุดเดินและหันกอดอกย้อนถามเขาด้วยรอยยิ้มมุมปาก
“ คุณซอฮยอน .. ผมคิดว่า ถึงไม่มีงานของนูน่า แต่เธอก็มีงานอื่นรองรับอีกมาก ไหนจะค่ายที่คอยป้อนงานอยู่ตลอด “
“ .................... “
“ แต่นูน่าจะโดนเทเอาได้นะครับ .. ผมพูดเพราะหวังดี “
“ มันเป็นเรื่องของคำสัญญาน่ะชานยอล “
“ พี่กับคุณซอฮยอนน่ะเหรอฮะ? “
“ เปล่า .. ฉันกับตัวของฉันเอง “
“ ....................... “
ชานยอลขมวดคิ้วมองฮวังมิยองที่กระชับเสื้อโค๊ตของเขาเดินลงขั้นบันไดริมแม่น้ำ ..
เขาก้าวตามลงไปอย่างช้าๆและพิจารณาเธออย่างประเมินเงียบๆ
“ ตอนเด็กๆ ฉันเป็นเด็กที่ขาดวุฒิภาวะมาก ฉันไม่อยากไปโรงเรียน และเกลียดเพื่อนฝูง ฉันเกลียดผู้คนที่จ้องมองฉัน “
สาวสวยหันมายักไหล่ ยิ้มบางๆให้เด็กหนุ่มเล็กน้อย และเขาพยักหน้าอย่างพร้อมจะเข้าอกเข้าใจ ...
“ แม่ของฉันเป็นใบ้ .. ทุกคนรู้เรื่องของฉัน .. แม้ว่าจะไม่มีใครรังแก จะเพราะอะไรก็ตามแต่ .. ฉันก็แค่ .. อายและประหม่า “
“ ทุกวันฉันเลยรีบอยากกลับจากโรงเรียน..ขลุกอยู่แต่ในบ้าน ดูทีวีทั้งวัน .. ทุกวัน จนมีความฝันว่าจะมีรายการเป็นของตัวเอง ”
ชานยอลนิ่งฟังด้วยท่าทีนิ่งสงบและไม่ถามแทรกแซงใดๆขึ้นมาเพื่อให้เธอได้บอกเล่าเรื่อง
ราว และเขาจะซึบซับเก็บมันไว้ให้ได้มากที่สุด .... เพื่ออะไรน่ะเหรอ .... ตอนนี้ .. เขายังไม่รู้
เหมือนกัน แต่มันจะมีประโยชน์ในภายหน้า เขามั่นใจ ...
“ ตอนที่ฉันมาโซลและเริ่มทำงาน แม่ที่เป็นใบ้ของฉันตามมาเยี่ยมทั้งที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า “
ในวันที่ฮวังมิยองเป็นสาวน้อยที่เริ่มงานเป็นสต๊าฟระดับต้นในสถานีโทรทัศน์ มีกลุ่มศิลปิน
เด็กๆหน้าใหม่ตบเท้ากันเดบิวต์ออกผลงานเพลงและมีอัดรายการในขณะนั้น
“ ฮัลโหล ... ที่นั่นสำนักงานของคุณฮวังมิยองรึปล่าวคะ .. คุณแม่ของคุณฮวังมิยองมานั่ง
รอที่ขนส่งตั้งสองสามชั่วโมงแล้วค่ะ ดูเหมือนเธอจะติดต่อลูกไม่ได้ “
“ คุณฮวังมิยองเหรอคะ .. ฉันจะลองช่วยติดต่อนะคะ “
“ ดูเหมือนแม่เธอจะโทรหาหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ยังไม่มา .. หรือมีที่ไหนจะให้ไปหาเธอได้บ้างมั้ยคะ “
“ เอ่อ .. ฉันก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันค่ะ แค่นี้นะคะ “ โทรศัพท์ของสถานีตรงประชาสัมพันธ์ถูกวางไปพร้อมพนักงานที่หันบอกกัน
“ เหมือนจะมีคุณแม่รอลูกสาวอยู่ที่ท่ารถต่างจังหวัดน่ะ เดี๋ยวก็คงโทรเข้ามือถือกันเองแหล่ะ ไปกันเถอะ เราถูกเรียกแล้ว “
เด็กสาววัย 17 ปีที่เดินผ่านมาได้ยินบทสนทนาหลังจากที่เธอจบการแสดงเปิดตัวเรียบร้อยและกำลังจะเดินทางกลับพร้อมเมมเบอร์คนอื่นๆ
กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงงงง ...
โทรศัพท์ตรงประชาสัมพันธ์นั้นดังขึ้นอีกครั้ง และสาวน้อยเผลอเดินเข้าไปรับสายอย่างสังหรณ์ใจ
เสียงปลายสายที่ร้อนรนพูดนั้นทำให้ซอฮยอนนึกอะไรแทบไม่ออกเลยทีเดียว
“ คุณคะ ยังไงต้องรีบให้ลูกสาวเธอมาเร็วหน่อยนะคะ แม่เธอที่อยู่ตรงนี้กลัวจะพลาดกับ
ลูกสาว เธอเลยไม่ยอมกินหรือลุกไปเข้าห้องน้ำเลย คุณป้าเธอเอาแต่นั่งอยู่ที่ม้านั่งนี่น่ะค่ะ “
สาวน้อยซอจูฮยอนที่ยังคงอยู่ในชุดที่ทำการแสดงนั้นเที่ยวเดินตามหาสต๊าฟที่ชื่อฮวังมิยองอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ เอ่อ .. คุณสต๊าฟคะ ..คือว่า หนูขอฝากข้อความถึงคุณสต๊าฟฮวังมิยอง ให้รีบไปที่ท่ารถเมล์ด่วนเลยนะคะ คุณแม่ของอนนี่เขารออยู่ตอนนี้ “
“ อ้อ ... ถ้างานเสร็จเรียบร้อย เราจะรีบบอกให้เลยนะ “
“ แต่ว่า .. อีกนานมั้ยคะ กว่างานจะเสร็จ “
“ ยังบอกไม่ได้ค่ะ .. เราก็ไม่รู้เหมือนกัน “
“ .................... “
ตึก ตึก ตึก ตึก ......
เสียงฝีเท้าของสาวน้อยฮวังมิยองในชุดสต๊าฟของสถานีโทรทัศน์วิ่งวนสอดส่ายสายตาอยู่ในสถานีรถด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ
จนกระทั่งเจอกับหญิงสูงอายุที่นั่งโบกพัดตัวเองอย่างเมื่อยล้าอยู่ที่ม้านั่งตัวเก่า ฮวังมิยองน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างใจหาย...
ข้างกายกันเป็นเด็กผู้หญิงในชุดกระโปรงสีขาวคล้ายชุดเชียร์กีฬานั้นนั่งอยู่เป็นเพื่อนและรินน้ำจากกระบอกให้อย่างสุภาพ
หญิงสูงวัยหันมาเจอสาวน้อยฮวังมิยองที่เป็นลูกสาวจึงออกท่าทางตื่นเต้น โวยวายด้วยภาษาใบ้ และตำหนิที่ลูกสาวมาหาช้า
--- ทำไมถึงนานขนาดนี้ แม่เกือบจะไม่ได้เจอลูกแล้ว ---
ฮวังมิยองร้องไห้และใช้ภาษามือดุแม่ของเธอ “ ทำไมแม่ถึงตัดสินใจมาเร็วขนาดนี้เองล่ะ!! “
--- แม่มาเร็วเพราะแม่คิดถึงลูก ตะ แต่ แม่ไม่ได้รอนานขนาดนั้นหรอก อย่าโกรธเลยนะ ---
“ แม่รู้มั้ย ว่าโซลมันน่ากลัวแค่ไหน ! ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับแม่ที่พูดไม่ได้ล่ะ ! “ ฮวังมิยองตะโกนทั้งน้ำตานองหน้า
---- เอ๊ .. ที่ว่าคนโซลใจร้าย ไม่จริงเลย แม่เจอคนใจดีเต็มไปหมด ไม่ลำบากอะไรเลย ---
“ แล้วข้าวล่ะ แม่กินอะไรบ้างหรือยัง “
“ ฮยอนอ่า ... เอานี่ให้คุณป้ากินเร็ว! “ เสียงของเด็กหนุ่มที่วิ่งหอบเข้ามาด้านหลัง
เขาอยู่ในชุดนักเรียน แต่ใบหน้านั้นช่างคุ้นตาเธอทั้งเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งคู่นั้น
“ คิมบับใช่มั้ยฮุน? คุณป้าขากินคิมบับนะคะ “
มิยองจ้องมองแม่ตัวเองที่ยิ้มแย้มส่งภาษาใบ้ --- ต้องขอบใจเด็กๆพวกนี้นะ แม่ยังได้ดื่มกาแฟอร่อยๆด้วย ---
ข้างกายของเด็กผู้หญิงคนนั้น ... มีกระดาษขาวที่เขียนด้วยลายมือตัวโตๆมากมายที่คงจะพยายามสื่อสารกับแม่ของเธอ ...
“ หลังจากนั้นฉันก็เป็นแฟนคลับของเด็กผู้หญิงกลุ่มที่ชื่อโซนยอชิแด ฉันจะสนับสนุนเธอเสมอ ..รวมถึง .. นักแสดงโอเซฮุน “
ฮวังมิยองคลี่ยิ้มเมื่อบอกเล่าเรื่องราวในอดีต และเหตุผลที่ว่า สายสัมพันธ์ของเธอและหนุ่มสาวเหล่านั้น ... ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..
ปาร์คชานยอลนิ่งขรึมไปกับคำบอกเล่านั้น ... อย่างนี้เองสินะ ...ที่ผ่านมา เธอคนนี้ ถึงทั้งปกป้องและเป็นห่วงโอเซฮุนขนาดนั้น
“ ถ้าผมได้เจอนูน่าก่อนหน้านี้บ้าง ... ก็คงจะดีนะครับ .. “
“ หมายความว่ายังไง ? “ หญิงสาวขมวดคิ้วถาม
“ ผมแค่อยากรู้ว่า ... มันจะรู้สึกดีแค่ไหน .. ถ้าได้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของนูน่าบ้าง “
“ พูดอะไรน่ะ หึหึ .. “ ฮวังมิยองหัวเราะกลบเกลื่อนทั้งที่เริ่มรู้สึกแปลกๆ
“ นูน่า ... “
“ ฮื้ม ? “
“ พี่อยาก ... ให้พวกเราลองมาคบกันดูไหม ? “
“ ..................... “
############$####
เม้นท์นะคะะอย่าแอบอ่านอย่างเดียววววว ><
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
มิยองนูน่าอย่างเท่ห์อ่ะมีจุดยืนชัดเจนไม่กลัวอำนาจมืดสตรองมากค่าาาาชูป้ายไฟเลยดีใจที่อย่างน้อยนูน่ายังอยู่ข้างซอและเข้าใจซอจริงๆผูกพันธ์กันเพราะมีเรื่องราวในอดีตนี่เองนูน่าถึงรู้ว่าตัวตนของซอจริงๆแล้วเป็นแบบไหนไม่ใช่ลุคนางร้ายเหมือนที่ฉาบไว้ภายนอก
ชานยอลบอกกงๆนะนายไม่น่าไว้ใจระดับสิบเลยอ่ะทำไมถึงได้ร้ายกาจกับทุกคนแบบนี้ไม่คิดจะรักใครจริงๆบ้างหรอเป็นห่วงมิยองนูน่าจิงๆอย่าตกหลุมของชานยอลนะคะ
พี่มิยองคนดีของน้องงงง พี่โคตรสตรอง! ขอให้พี่รอดพ้นบ่วงมารที่กำลังจะมาครอบงำ บอกตรงๆๆๆๆ นี่ไม่ไว้ใจพี่ปาร์คเลยแม้แต่นิดเดว นางดูมีเล่ห์เหลี่ยม มีแผนการณ์ตลอดเวลา แล้วพี่มิยองดันเป็นประเภทถ้าลองเปิดรับใครแล้วพี่แกทุ่มเทจริงใจสุดๆซะด้วยสิ
อดีตพี่มิยองกับฮุนซอ ประทับใจมากก มิน่าล่ะพี่มิยองไฟ้วเพื่อสองคนนี้ในระดับที่ไม่ใช่แค่ถูกชะตาทั่วไปอ่ะ หายากนะผู้หญิงแบบพี่มิยอง
ใจกลัวน้องซอจะเตลิดทิ้งสิ้นความน่ารักลงหมดแล้วนะสิ
ส่วนเซฮุนนิ น่าจะรักมากแค้นมากแล้วก็ทิ้งไม่ลง
ส่วนยอลฟานี่ ตกลงฟานี่รับมือชานยอลได้จริงไหม
แล้วชานยอลขอลงคบไปอีก นี่แค่อยากเอาชนะ อยากแค่มีอิทธิพลไหม
ฟานี่สุดยอด ยึดมั่นถือมั่นในอุดมการณ์และคำสัญญา
ซอยอมถอยออกมาก่อนดีมั้ย ถอยมาหลายๆก้าวเลย ขนาดเราอยู่ข้างฮุนมันตลอด ฮุนมันยังเลือกผู้หญิงที่ทำให้ตัวเองเสียใจ แล้วมีทีท่าว่าจะทำซ้ำๆอีก ส่วนเราเห็นค่าแค่ตอนทุกข์ใจ พอดีกับแฟนเราก็เป็นหมาหัวเน่าแบบนี้
ขอหนุ่มหล่อๆมาฮีลลิ่งให้นางร้ายคนสวยด่วนๆเลยค่ะ เผื่อฮุนมันจะได้สำนึกก็ได้ว่าคนที่ควรเลือกจะเป็นใคร
พี่ฟานมีอดีตที่น่าประทับใจกับฮุนซอ พอตัวเองได้ดีก็ไม่ยอมทิ้งน้อง ถึงว่าฉะกับโซอึนชิแหลกเลยพอรู้ว่านอกใจฮุนมัน
แถมพี่ยอมแตกหักกับทีมงานเพราะซออีก คงรักมากจริงๆ แล้วพี่จะช่วยซอเรื่องฮุนมั้ย
คุณปาร์คเราพูดได้คำเดียว เราไม่ไว้ใจคุณเลยค่ะ ^^"
ถ้าซอเจอคนอื่นที่ดีกว่าและคนที่พร้อมจะรักซอและอยู่ข้างซอ ที่ไม่ใซ้ฮุนอีกต่อไป 55555คิดมโนเองค่ะ
ฟานี่ดีกับซอมากจริงๆ ไปห้ามซอให้เลิกสนใจฮุนที เอาศักศรีกลับมาาาา
คุณปาร์คจะแสดงอิทธิฤทธิ์อะไรอีกคะคราวนี้ ^^"