ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ประวัติอาณาจักร Merseria Kingdom
กลางห้องโถงของพระราชวังที่เงียบราวกับถูกปิดตาย
"สวัสดี...ยินดีต้อนรับชาวเมอร์เซเรียทั้งหลาย"
กลางห้องโถงอันกว้างใหญ่ของพระราชวัง หญิงสาว 2 คนเอ่ยขึ้นต้อนรับผู้มาเยือน
"ข้าชื่อ เอลลาลิซ่า เดอร์. ฮาฟบลัด ไนท์ริง เนเธอร์"
หญิงสาวผมยาวสลวยสีน้ำตาลทองเอ่ยขึ้น ในมือข้างขวาสวมแหวนสีทองเป็นประกาย
"ส่วนเรา เฮอร์มอง เดอร์. ฮาฟเมลว ไวท์ไดอา เกรย์ไอน์"
หญิงสาวอีกคนที่ดูอ่อนกว่าเล็กน้อยพูดอย่างนุ่มนวล ผมสีเงินแวววาวชวนจับตามอง
"มาสิ...เจ้ามานั่งก่อน เราจะเล่าประวัติของเมอร์เซเรียให้ฟัง"
ท่านเอ็มเพลสพูดพลางเผยรอยยิ้มน้อยๆ
"เจ้าไม่สามารถจับร่างกายของเราได้หรอก เราในตอนนี้เป็นเพียงแค่ภาพตัวตนที่เราทั้งคู่ต้องการสื่อให้ท่านเห็น...ก็เท่านั้น"
ท่านควีนเอ่ยอย่างเศร้าใจ เธอยิ้ม...แต่เป็นยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด แววตาดูเศร้าหมอง ทำให้ผู้ที่มองเห็นภาพนี้ใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ราวกับเข้าใจความรู้สึกนั้น
.......................................................
เมื่อประมาณหนึ่งหมื่นปีก่อน....
เมอร์เซเรียเป็นดินแดนที่มีแต่ความสงบสุข ทุกคนมีจิตใจที่งดงามเพราะถูกขัดเกลาดูแลมาอย่างดี ประชาชนทุกคนไม่เคยมีใครได้จับต้องอาวุธเลย ทุกๆวันดำเนินไปตามวิถีที่พระเจ้าสั่งสอน เป็นดินแดนที่สวยงามมากราวกับสรวงสวรรค์ งามทั้งธรรมชาติ และจิตใจของทุกๆคน จนกระทั่ง...
อาณาจักร Granclaria ดินแดนพันธมิตรอันดับหนึ่งที่เราทำการค้าร่วมกันตลอดมาต้องเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เพียงเพราะความขัดแย้งในความรักเป็นต้นเหตุ เมื่อเป็นเช่นนี้อาณาจักรเมอร์เซเรียของพวกเราจึงต้องยื่นมือเข้าช่วยด้วยการให้ชาวบ้านทั้งหมดฝึกการใช้อาวุธทุกประเภทโดยทหารฝีมือเก่งกาจเป็นผู้ฝึกสอน
จนกระทั่งเราสามารถส่งกองทัพทั้งหมดไปร่วมสมทบกับแกรนด์คลาเรียเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีใครรู้เรื่องการมาของพวกเราเลยซักนิดเพราะชุดเกราะที่เราให้กองกำลังทั้งหมดสวมไปนั้นเป็นชุดเกราะของแกรนด์คลาเรีย เลยไม่มีใครสังเกตเห็นแม้แต่ท่านเอ็มเพลสไอริส เดอร์. คามิลเลีย ฟรานซิส ผู้ปกครองแกรนด์คลาเรียก็ตาม
แต่ความก็แตกเมื่อท่านไอริสมาเห็นใบหน้าพวกเราทั้ง 2 คน เลยต้องกำชับว่าให้เก็บเป็นความลับเอาไว้ ท่านไอริสก็เห็นด้วยเพราะถ้าฝ่ายศัตรูรู้...เมอร์เซเรียก็จะพินาศไปด้วย จนกระทั่งเมื่อท่านเอ็มเพลสเอลลาลิซ่าใช้เวทจากคทาแห่งสวรรค์ทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวได้ช้าลง และท่านควีนก้ได้ใช้พลังดาบเพิ่มเลือดและลมปราณให้กองทัพของตัวเอง ทุกคนก็เลยรู้ทันทีว่า...เมอร์เซเรียได้มาแอบช่วยรบ!
เมื่อท่านไอริสออกปากบอกท่านควีนและเอ็มเพลสแห่งเมอร์เซเรียว่าใหเกลับไป...ที่เหลือแกรนด์คลาเรียจัดการเองได้พร้อมกับมอบมงกุฎดอกกุหลาบที่ช่วยติดต่อสื่อสารกับธรรมชาติได้ให้ทั้งคู่ติดตัวกลับมาด้วย
เมอร์เซเรียเป็นดินแดนที่มีแต่ความสงบสุข ทุกคนมีจิตใจที่งดงามเพราะถูกขัดเกลาดูแลมาอย่างดี ประชาชนทุกคนไม่เคยมีใครได้จับต้องอาวุธเลย ทุกๆวันดำเนินไปตามวิถีที่พระเจ้าสั่งสอน เป็นดินแดนที่สวยงามมากราวกับสรวงสวรรค์ งามทั้งธรรมชาติ และจิตใจของทุกๆคน จนกระทั่ง...
อาณาจักร Granclaria ดินแดนพันธมิตรอันดับหนึ่งที่เราทำการค้าร่วมกันตลอดมาต้องเจอกับสงครามครั้งใหญ่ เพียงเพราะความขัดแย้งในความรักเป็นต้นเหตุ เมื่อเป็นเช่นนี้อาณาจักรเมอร์เซเรียของพวกเราจึงต้องยื่นมือเข้าช่วยด้วยการให้ชาวบ้านทั้งหมดฝึกการใช้อาวุธทุกประเภทโดยทหารฝีมือเก่งกาจเป็นผู้ฝึกสอน
จนกระทั่งเราสามารถส่งกองทัพทั้งหมดไปร่วมสมทบกับแกรนด์คลาเรียเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีใครรู้เรื่องการมาของพวกเราเลยซักนิดเพราะชุดเกราะที่เราให้กองกำลังทั้งหมดสวมไปนั้นเป็นชุดเกราะของแกรนด์คลาเรีย เลยไม่มีใครสังเกตเห็นแม้แต่ท่านเอ็มเพลสไอริส เดอร์. คามิลเลีย ฟรานซิส ผู้ปกครองแกรนด์คลาเรียก็ตาม
แต่ความก็แตกเมื่อท่านไอริสมาเห็นใบหน้าพวกเราทั้ง 2 คน เลยต้องกำชับว่าให้เก็บเป็นความลับเอาไว้ ท่านไอริสก็เห็นด้วยเพราะถ้าฝ่ายศัตรูรู้...เมอร์เซเรียก็จะพินาศไปด้วย จนกระทั่งเมื่อท่านเอ็มเพลสเอลลาลิซ่าใช้เวทจากคทาแห่งสวรรค์ทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวได้ช้าลง และท่านควีนก้ได้ใช้พลังดาบเพิ่มเลือดและลมปราณให้กองทัพของตัวเอง ทุกคนก็เลยรู้ทันทีว่า...เมอร์เซเรียได้มาแอบช่วยรบ!
เมื่อท่านไอริสออกปากบอกท่านควีนและเอ็มเพลสแห่งเมอร์เซเรียว่าใหเกลับไป...ที่เหลือแกรนด์คลาเรียจัดการเองได้พร้อมกับมอบมงกุฎดอกกุหลาบที่ช่วยติดต่อสื่อสารกับธรรมชาติได้ให้ทั้งคู่ติดตัวกลับมาด้วย
...หลังจากนั้น...แกรนด์คลาเรียก็ถูกเพลิงพิโรธเผาจนไม่เหลือซาก...
เรามารู้อีกทีก็ตอนที่กองทัพศัตรูนั่นบุกมาถึงเมอร์เซเรียแล้วจัดการฆ่าทุกคนทิ้ง จนเหลือแค่เอ็มเพลสเอลลาลิซ่ากับควีนเฮอร์มองนั่งหมดเรี่ยวแรงอยู่กับพื้น เมอร์เซเรียเปรียบได้กับชีวิตของทั้งคู่ แต่ในเวลานี้มันกลับเหลือแค่ซากความทรงจำที่งดงามเท่านั้น...
เมื่อศัตรูบุกมาถึงห้องบรรทมของท่านเอ็มเพลส ก็ได้เจอกับทั้งสองคนยืนนิ่งติดกับกำแพงห้อง ในมือของเอลลาลิซ่ากำคทากลีบดอกไม้แห่งแดนสวรรค์ไว้แน่น ส่วนเฮอร์มองก็ใช้มือทั้งสองข้างจับดาบอัญมณีแห่งแสงสว่างเตรียมตัวต่อสู้ สายตาของทั้งคู่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และโกรธแค้น
ใช้เวลาไม่นานทั้งเอลลาลิซ่าและเฮอร์มองก็หนีออกมาจากที่นั่นได้ ด้วยฝีมือและการช่วยเหลือจากหมู่มวลดอกไม้...โดยใช้มงกุฏดอกไม้ที่สวมไว้บนศีรษะและไม่เคยถอดออกเลยแม้แต่ครั้งเดียวหลังจากได้รับมันมา
เมื่อศัตรูบุกมาถึงห้องบรรทมของท่านเอ็มเพลส ก็ได้เจอกับทั้งสองคนยืนนิ่งติดกับกำแพงห้อง ในมือของเอลลาลิซ่ากำคทากลีบดอกไม้แห่งแดนสวรรค์ไว้แน่น ส่วนเฮอร์มองก็ใช้มือทั้งสองข้างจับดาบอัญมณีแห่งแสงสว่างเตรียมตัวต่อสู้ สายตาของทั้งคู่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และโกรธแค้น
ใช้เวลาไม่นานทั้งเอลลาลิซ่าและเฮอร์มองก็หนีออกมาจากที่นั่นได้ ด้วยฝีมือและการช่วยเหลือจากหมู่มวลดอกไม้...โดยใช้มงกุฏดอกไม้ที่สวมไว้บนศีรษะและไม่เคยถอดออกเลยแม้แต่ครั้งเดียวหลังจากได้รับมันมา
...และหลังจากนั้น...ก็ไม่มีใครพบเห็นพวกท่านอีกเลย...
หมื่นปีต่อมาเมื่อเมอร์เซเรียได้ก่อตั้งขึ้นอีกครั้ง ท่านเอ็มเพลสและท่านควีนก็ยังไม่กลับมา แต่พวกท่านจะมาปรากฎตัวในวังหลวงบ่อยๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เคยมีใครได้แตะต้องตัวพวกท่านเลย...เพราะว่าพวกท่านในตอนนี้เป็นเหมือนอากาศธาตุเท่านั้น
ท่านเฮอร์มองบอกใบ้ไว้ว่า...คำสาปที่ผนึกทั้งคู่ไว้จะคลายออกได้ก็ต่อเมื่อเมอรืเซเรียสร้างเสร็จเรียบร้อยและมีผู้ปกครองแคว้นครบทั้งหมดแล้วเท่านั้น พวกท่านจึงจะเป็นอิสระ
ส่วนเอลลาลิซ่า...ทุกครั้งก่อนจะเลือนหายไป ท่านจะชอบพูดเสมอว่า
ท่านเฮอร์มองบอกใบ้ไว้ว่า...คำสาปที่ผนึกทั้งคู่ไว้จะคลายออกได้ก็ต่อเมื่อเมอรืเซเรียสร้างเสร็จเรียบร้อยและมีผู้ปกครองแคว้นครบทั้งหมดแล้วเท่านั้น พวกท่านจึงจะเป็นอิสระ
ส่วนเอลลาลิซ่า...ทุกครั้งก่อนจะเลือนหายไป ท่านจะชอบพูดเสมอว่า
"รอก่อนนะ...เรายินดีที่ได้พบเจ้า ประชาชนของข้า สักวันหนึ่งข้าจะกลับไปหาพวกเจ้าแน่นอน...ข้าสัญญา"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น