ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ช่วยด้วย!! หนูอยากเป็นสัตวแพทย์

    ลำดับตอนที่ #4 : สัตวแพทย์ปี1 เฟรชชี่ใสๆ กับ ซากกระต่ายไก่กบ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 55


    V-E-T-E-R-I-N-A-R-Y- M-E-D-I-C-I-N-E!  VETMED!  VETMED!



    หลังจากช่วงเวลาเฟรชชี่ ผ่านไป หมดรับน้องแล้ว เราก็ต้องมาเริ่มตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างจริงจัง

    จะไม่ให้จริงจังได้ไง รับน้องเสร็จปุ๊บ อีกไม่กี่อาทิตย์จะสอบกลางภาคแย้วววว!!!


    ตายและกู!!!

    วิชาของเทอม1ไม่มีอะไรมาก ฟิสิก เคมี ชีวะ ทั่วๆไป 


    แต่ไม่ได้ทั่วไปสำหรับเราเลยนี่สิ-*-  

    ฟิสิก บร๊ะเจ้า!! ทิ้งไปตั้งแต่ม.ต้นละ  ถ้าหนูชอบหนูคงไปเรียนวิศวะแล้วคร้าบบบ

    (แต่จริงๆฟิสิกส์ก็สำคัญ  เพราะมันจะไปเป็นพื้นฐานให้กับวิชามหาโหด ขึ้นชื่ออันดับ1ที่เราต้องเจอในปี2 ก็คือ ฟิสิโอ!!)

    เคมีก็แบบว่า....โอ้โห  มาอีกละ ตารางธาตุ= =! 

    แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้  ยังคงชิวๆ  ผ่านเทอม1มาได้อย่างสบายๆ

    เรามาพูดถึงวิชาเทอม2ดีกว่า

    วิชาตัวดีของเราที่ทุกคนต้องตั้งใจท่องศัพท์หามรุ่งหามค่ำ ทุ่มเทให้กับหน่วยกิตที่มากกว่าอีกหลายๆวิชา

    นั่นก็คือวิชา ZOOLOGY   เป็นวิชาคณะตัวแรก ที่เราจะได้สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะไร้ชีวิต!!   O-o!




    หลังจากที่เราได้เรียนตึกร่วมกับคณะอื่นมานาน
    ZOO เป็นวิชาแรกที่เป็นวิชาคณะ และจะเป็นตัวต่อ ที่หากตก ก็จะขึ้นวิชาปีอื่นที่เป็นตัวต่อไม่ได้จึงต้องตั้งใจเรียนให้ดี
    และอีกอย่างเป็นวิชาแรกที่เราได้เข้าไปเรียนที่ตึกคณะ

    ซึ่งเป็นบริเวณที่มีสรรพสัตว์รายล้อมมากมาย

    ไม่ว่าจะเป็นหมู หมา โค ไก่ นก แพะ แกะ กระต่าย แม้แต่พี่งูเหลือม ตัวบักเอิ้ก ก็ยังคงนอนขดฟ่อๆอยู่ในกรง 

    ช่างให้บรรยากาศสัตวแพทย์เป็นอย่างมาก

    และที่ดึงดูดใจอีกอย่างก็เห็นจะเป็นพี่ม้า ทั้งม้าแข่ง ม้าแคระ หลากหลายขนาดไซส์ เดินเล่นในแปลง กันอย่างสบายอารมณ์  

    มีรุ่นพี่คอยดูแลคอก จูงม้าเดินเล่น แถมยังตบท้ายให้แครอทเป็นขนมล่ออีกต่างหาก


    แต่ที่จะจดจำไปอีกนาน เห็นจะเป็น  เจ้าแพะจอมตะกละ!!

    มันคงจะเบื่อหญ้าเต็มทีแล้วล่ะมั้ง อยากจะลองรสชาติอะไรใหม่ๆ


    she ก็เลย......

    แง่บ!!!



    กินกระโปรงซะน่าตาเฉย....!!!  เคี้ยวหงุบหงับๆ หน้าพริ้ม ลิ้มรส

    เห็นแล้วก็ฮากระจาย 


    ต่างคนต่างขำ   ไม่มีใครคิดจะไปช่วยบอกเค้าเล้ยยยย   ขำกันสนุกสนานยังไม่พอ  ขอเอาไปอัพต่อลงเฟสบุ๊ค

    เป็นเรื่องที่ยังจดจำกันได้ดี  สำหรับเจ้าแพะ กิน กระโปรง!!


    นอกเรื่องมาไกลแล้ว กลับมาZooของเราต่อ

    วันแรกที่ได้เข้าห้อง ก็ได้กลิ่นอายแห่งสัตวแพทย์แตะจมูกอย่างไกล  กับกลิ่นฟอร์มาลีนฟุ้งมาเชียว แถมยังไม่พอ....

    มีกลิ่นต้มซุปกระดูกม้า เหม็นคลุ้งมาอีก  

    โอ้โห .... จะสร้างบรรยากาศไปถึงไหน

    ภายในห้องเรียน มีโครงกระดูกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกม้ายืนเด่นเป็นสง่าหน้าห้อง

    หรือโครงกระดูกสุนัข แขวนลอยอยู่ 

    แต่โครงกระดูกที่อยู่ในกล่องนี่สิ  มันจะสร้างปัญหาให้เราต่อจากนี้ไป  นั่นก็คือ

     โครงกระดูกกระต่ายและ กระดูกกบ และ กระดูกไก่  อาจารย์ให้เราแบ่งกลุ่ม  และแจกกระดูกนี้กันคนละกลุ่ม

    การบ้านของเราคือ กลับไปท่องจำชื่อกระดูกด้วยนะ!     



    แงะ!!!    หัวบานเลยค่ะ

    นั่งท่องกันทั้งวันทั้งคืน  กลับบ้านยังคงเอามาตามหลอกหลอนถึงคนที่บ้าน  แต่ละคนมองเจ้าตัวที่ยู่ในกล่องแล้วก็แสยะยิ้ม  

    แต่เราก็ยังคงไม่สนใจหยิบมาทีละชิ้นนั่งท่องอยู่คนเดียว





    วิชานี้เป็นอะไรที่แบบว่า.....ตั้งใจมาก  ขยันท่องสุดๆ 

    มันรู้สึกว่าเรียนไปแล้วมันสนุก มีความสุข >< 

    อะไรที่เรารัก เรียนไปแล้วมันก็สนุกไปกับการเรียน มีอะไรใหม่ๆให้ตื่นเต้นเสมอ  

    ท่องชื่อกระดูกท่องไปๆเราก็จำได้  

    แต่พอสอบนี่ก็....   ห่ะห่ะ!!   แล็ปกริ๊งที่เลื่องลือกันมานักต่อนัก   เด็กเฟรชชี่มือใหม่อย่างเราก็ต้องขยาดหวาดกลัวกันบ้าง

    แล๊ปกริ๊งคือ เค้าจะมีกระดูกวางไว้โต๊ะละชิ้น และมีกระดาษแปะไว้เป็นคำถาม ข้อสองข้อ

    แต่เค้าจะให้เวลาโต๊ะละ1นาที เมื่อหมด1นาที จะมีเสียงกริ๊งหมดเวลา คุณต้องเดินเปลี่ยนโต๊ะ ทำข้ออื่นต่อ  ที่ตัวคุณจะมีแค่เครื่องเขียนกับกระดาษคำตอบ เท่านั้น

    เครื่องมือสือสารทุกชนิดคุณจะถูกริบออก ตั้งแต่ตอนอยู่ห้องกักตัว 

    คุณจะถูกสุ่มเอาว่าจะได้สอบรอบไหน  ใครสอบรอบแรก ก็อาจจะซวยไป  ต้องเตรียมสมาธิเอาไว้ให้ดีดี

    ถ้ามีสมาธิมันก็ทำได้นะ  ข้อไหนทำไม่ได้ ก็อย่าไปมัวแต่วิตก จนพาลข้ออื่นไปหมด  

    มันต้องแม่น  แล้วก็มีสมาธิ  จำเป็นมากๆเลย ในการสอบแล๊ปกริ๊ง

    แต่ก็......


    ผ่านมาได้!!!  ในการสอบกลางภาค

    แต่ที่น่าจดจำยิ่งกว่าก็เห็นจะเป็น

    การที่เราต้องผ่านบททดสอบก่อนที่จะเป็นสัตวแพทย์ที่ดีซะก่อน

    นั่นก็คือการ put to sleep  คือการทำให้สัตว์หลับสบายไปตลอดกาล.....

    ซึ่งมันไม่ได้เรียกว่าการฆ่า  เพราะการput to sleepนั้น หลายคนอาจจะดูว่าโหดร้าย

    แต่ถ้ามองในมุมสัตวแพทย์แล้วบางครั้งการทำให้เค้าหลับไปเลยก็ยังดีกว่าให้เค้ามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน

    แต่สำหรับวันนี้นั้น


    เราจำเป็นต้องใช้สัตว์ที่ยังเป็นปกติ มาใช้เพื่อการศึกษาแทน



    ท่องไว้ๆ เราput เค้า1ชีวิต เพื่อการรักษาอีกหลายชีวิตT^T


    ข้าพเจ้าไม่เลือกหรอกค่ะว่าจะเป็นคนputตัวอะไร   มีทั้งกระต่าย กบ และไก่ 


    ตัวเป็นๆวิ่งเล่นกันอยู่ในกรงอย่างสนุกสนาน


    ด้วยความเป๋นเด็กกรุงเทพฯ  หรือจะเรียกว่า เด็กบ้านนอกในเมืองกรุงก็ว่าได้

    ไม่เคยเห็นไก่ ตัวบักเอ้ก ขนาดนี้มาก่อน  โอ๊ยต๊ายยยย 


    อ้วนกลมเชี๊ยะ   เลี้ยงอย่างดีเลยนะเนี้ย

    กระต่ายก็แบบว่า โอ๊ย  ใหญ่กว่าหมาที่บ้านซะอีก


    ยิ่งกบนี่ก็ อื้มหืมมมม.....  นี่พองลมอยู่ป่ะเนี้ยยยยย!!

    เด็กบ้านนอกคนนี้ ขอสารภาพ  ไม่เคยจับกบจับไก่เลยค่ะ

    วันนี้เราต้องมา put มันซะละ

    อย่างแรกที่ไม่ขอเลือก put ไม่เอาๆ  ที่บ้านเลี้ยงอยู่  ไม่มองกระต่ายเลย  

    เพื่อนก็ไปอุ้มมาตัวสีขาวปุกปุยน่ารักน่าชัง  มองตาแป๋วๆ

    นำไปใส่ถัง แล้วก็ให้ดมอีเทอร์จนเค้าค่อยสลบไป เป็นการput ที่นิ่มนวล  แต่ไม่ขอเลือกค่ะ

    กบหรอ โอ๊ย  มันตายตั้งแต่โดนน๊อคน้ำแข็งแล้ว รอดไป

    มาถึงไก่  ท่ามกลางไก่ตัวเมียอ้วนกลมที่รายล้อมอยู่  จะเหลือบมองเห็นไก่ตัวผู้ตัวเล็กๆเบียดเสียดมาด้วย

    อาจารย์ก็จับมาสาธิตเลยค่ะ

    "เอาล่ะ กลุ่มไหนอยากจะมาช่วยอาจารย์สาธิตวิธีการ put อาจารย์ให้ตัวนี้ไปเลย"

    เห้ยๆ   เราไม่ต้อง put เองอ่ะ  เอาเลยมะๆ ไปๆ


    ก็รีบไปเลยค่ะ ดีดี  ไม่ต้องลงมือputเองให้รู้สึกบาป


    อาจารย์ก็ให้เพื่อนคนหนึ่งจับไก่  แล้วอาจารย์ก็จับงอคอไก่เผยให้เห็นร่องข้อต่อของกระดูก  ซึ่งจะเป็นจุดที่ใช้ฉีดยาput

    เราก็ลองจับเลยกระดูกคอตรงนี้ๆนะ  ที่เราจะต้องเป็นคนฉีดยา  

    เพื่อนๆก็ต่อแถวเรียงรายมาลองจับตำแหน่งไว้สำหรับฉีดยาให้ไก่ของกลุ่มตัวเอง


    พอจับกันจนครบ

    อาจารย์ก็เอาฉีดตรงนี้เลยนะ จับคอตรงนี้ๆ

    แงะ!!  ยังไงเราต้องลงมือทำนี่หว่า

    พออาจารย์ปล่อยมือออกจากคอไก่เท่านั้นแหละ


    พ่อไก่ตัวจ้อยของเราคอ  เฟี้ยวววววว!!!   พับอ่อนลงมา  แหง่วๆอยู่


    อ่าว.....  มันตายแล้วอ่ะ อาจารย์-*-


    อ่อ สงสัยคนคงจับมากไปทำให้กระดูกข้อต่อคอมันห่างจนเส้นประสาทหลุดไปแล้ว


    แป่ว.....   ก็ดีๆ   เราไม่ต้องทำเอง 55  ได้แล้วซากของเรา

    เราก็กลับไปพร้อมพ่อไก่ตัวจ้อย ที่หลับตานอนหลับไหล


    ถึงเวลาที่กลุ่มอื่นๆจะต้องดำเนินการภารกิจบ้างแล้วล่ะ





    กระโต๊ก  กระต๊าก    แกว่ก   เอ๋ง.....???  เอ้ยย   พรั่บๆ


    ตามคาด ไก่มันจะยอมอยู่เฉยให้เราจับซะทีไหนล่ะ   ขี้แตกขี้แตน กระโดดโลดเต้นกันให้สนุก

    บางคนบังคับสัตว์ไม่อยู่  ก็ตกจากโต๊ะ วิ่งจับกันอุตลุด

    บางกลุ่มยิ่งแล้วใหญ่  จับงอคอ ฉีดเข้าไปแล้ว  แต่มันยังไม่ตาย

    ฉีดแล้วฉีดอีก  จนเลือกท่วม  แต่ละคนในกลุ่มเริ่มจิตตก  

    เป็นอะไรอ่ะ??

    คนว่างงานที่เพิ่งได้ซากมาโดยไม่จำเป็นต้องบาปเอง  มองไก่สีขาวตัวใหญ่ที่มีคราบเลือดสีแดงสดอาบคออย่างสงสัย

    มันไม่ตาย  มาช่วยฉีดให้หน่อยดิ 

    อ่อๆ  ไหนๆ กระดูกมันอยู่ตรงนี้ ฉีดผิดแล้ว

    นี่ๆมันต้องจับตรงนี้ แล้วฉีดตรงนี้    แล้วก็จิ้มเข็มลงไป 

    นิ่ง....




    ......



    .......




    เพื่อนทุกคนนิ่ง....


    .....


    .....


    คนที่จับคอไก่ ค่อยๆปล่อยมือออกช้าๆ


    .......

    .......


    ......



    แม่ไก่ปุกปุยค่อยๆร่วงหล่น  หลับตาพริ้มไปอย่างช้าๆ


    อ่าว.... ตาย เลี้ยวววววว!!!!  O-o


    โหย...สุดยอดว่ะ  ฉึกเดียว  ไปเลย  เราฉีดกันเข็มที่8แล้วเนี้ย  สุดยอดเลยว่ะ



    ห่ะห่ะ


    (ตรูอุตส่าไม่ put ของตัวเอง   ไหง๋ตรูมา put ไก่ของชาวบ้านล่ะเนี้ย T^T   แถมยังตัวใหญ่กว่าพ่อไก่น้อยของเราตั้งเยอะ    แง้วววว.....)

    หลังจากผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มา หลายคนๆก็คงไม่กล้าที่จะกินเนื้อไก่กบ กระต่ายกันไปอีกนาน


    แต่สำหรับเด็กสัตวแพทย์อย่างพวกเรานั้นอาจจะไม่ใช่

    หลังจากput to sleep  เสร็จ  ไหง๋ เด็กสัตวแพทย์เต็มร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวมันไก่เลย


    แม้กระทั่งตัวข้าพเจ้าก็ยังคงนั่งอยู่ร้านข้าวหมกไก่ต้มรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย   คิคิ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×