ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    4 Story

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 36
      0
      3 มิ.ย. 55

    4 Story

     

    บทนำ

     

    ห้องสมุดที่นี่ใหญ่มาก.....

    มีหนังสือมากมายที่น่าอ่านมาก.....

    แต่ทำไม....

    ทำไม......

    “ ทำไมฉันถึงอ่านหนังสือไม่ออก!!!!!! ” ผมว้ากลั่นหน้าหอสมุดประชาชนเพียงหนึ่งเดียวของเมืองที่ผมอาศัยอยู่ ไอ้ที่มาโวยวายตรงนี้เพราะตั้งแต่เด็กๆ ผมอยากเข้าไปทำงานเป็นบรรณารักษ์ของที่นี่ เพื่อจะได้หาเงินมาเลี้ยงดูแม่กับน้องสาวที่บ้านสุดโกโรโกโสในเขตชานเมือง

    ผมเป็นคนจน แถมยังจนสุดขีดได้ที่ เงินจะหาเลี้ยงปากท้องในแต่ละวันแทบจะหาไม่ได้เลย อ้อ! ผมพล่ามมาตั้งนานแล้วคนอ่านคงอยากจะถามเต็มแก่แล้วสินะว่าผมชื่ออะไร? ได้ครับเดี๋ยวผมจะแนะนำตัวให้รู้จัก ผมชื่อซิลเรย์ ไม่มีนามสกุลฉะนั้นอย่าแปลกใจนะครับ เพราะแถวบ้านผมพวกคนจนเขาไม่มีนามสกุลกันหรอก ผมอายุ 10 ปี(อย่างน้อยก็ยังนับเลขได้) อาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวกันสามคน ส่วนพ่อน่ะหายตัวไปตั้งแต่แม่ตั้งท้องน้องสาวได้สามเดือน และตอนนั้นผมอายุได้หกขวบ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตผมก็ลำบากมาก

    “ อ้าว! ไอ้น้อง มาอีกแล้วเหรอวันนี้ ที่นี่ไม่ต้อนรับคนจนดังนั้นกลับไปซะเถอะ ชิ้วๆๆ!

    “ พี่ๆ มายืนบ่นอะไรแถวนี้ล่ะ เกะกะขวางทางเป็นบ้า ”

    “ แม่! มีปีศาจยืนอยู่หน้าหอสมุดประชาชนด้วยอ่ะ!

    “ ต๊าย! ที่รักขา ขอทานน่าสงสารจังเลยค่ะ ”

    “ คนจนแล้วมันผิดเหรอไงที่จะมายืนหน้าหอสมุด! ” ผมชี้หน้าด่าเจ้าคนที่ว่าไม่ต้อนรับคนจน “ เจ้าเด็กเวร! ใหญ่นักหรือไงถึงมาไล่! ” ผมตะคอกใส่ครั้งเดียวเด็กพวกนั้นสะดุ้งเชียว “ คุณป้าตรงนั้นควรอบรมมารยาทให้ลูกบ้างนะครับ! ” ขนาดผู้หลักผู้ใหญ่ผมก็ไม่ขอเว้นล่ะ “ แล้วใครเป็นขอทานไม่ทราบ(วะ)!!!

    เปรี้ยง!!!!

    สองคู่รักชั้นสูงที่ว่าผมเป็นขอทานถูกผมเตะปลิวเลยทีเดียว ตอนนี้พวกที่กล้าดูถูกคนจนทั้งหลายหนีหายหัวกันไปหมดทันทีที่เห็นผมเตะชาวบ้าน เสียดายที่พวกเขาหนีไปก่อนไม่งั้นผมเตะกลิ้งไปแล้ว

     

    “ ให้ตายสิ พวกบ้า! ฉันจนแล้วมันหนักส่วนไหนของพวกเจ้า! ” ผมเดินบ่นเข้าไปในหอสมุดซึ่งตอนนี้ได้ปิดไปแล้ว เพื่อที่บรรณารักษ์จะได้ทำความสะอาดหอสมุดและเปิดต้อนรับวันใหม่ในยามที่อาทิตย์ขึ้นมาอีกครั้ง

    ผมแอบเข้ามาในหอสมุดเพราะจะได้มาหาหนังสือแบบเรียนบ้าง ผมอยากอ่านหนังสือได้ จะได้อ่านหนังสือเล่มที่มีความรู้แน่นๆ แล้วใช้มันทำมาหากิน ตอนนี้ผมเดินขึ้นมาบนชั้นสองของหอสมุดแล้ว ให้ตายสิ! ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนมันก็กว้างใหญ่แถมหนังสือยังมีมากมายมหาศาลด้วย แล้วชาตินี้ใครจะอ่านหมดล่ะ ถ้าใครเป็นอาสาสมัครอ่านจนหมดหอสมุดผมจะขอกราบพระบาทงามๆ เลยแหละ อ้อ! ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าหอสมุดแห่งนี้มีทั้งหมดเจ็ดชั้นน่ะ

    “ ขอโทษนะครับ หอสมุดปิดบริการแล้ว พรุ่งนี้มาใหม่นะครับ ” เสียงหล่อๆ ที่ฟังแล้วต้องบอกว่าเป็นผู้ชายแน่ๆ ทักผมขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมกับมือปริศนาที่คว้าคอเสื้อผมแล้วหิ้วขึ้นจากพื้น “ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ยังลักลอบเข้ามาประจำอยู่เรื่อยเลยนะ ซินเรย์ ”

    “ ก็ผมอยากอ่านหนังสือนี่! ถ้าเข้าใจแล้วก็เลิกห้ามซะทีเถอะ ตาแก่! ” ผมโวยใส่บรรณารักษ์ห้องสมุดเพียงคนเดียวของที่นี่ เขาเป็นชายอายุราวๆ สี่สิบเศษๆ แต่หน้าตายังหล่อแถมอ่อนกว่าอายุซะอีก ที่ผมเรียกเขาว่าตาแก่เพราะสีผมของเขาเป็นสีขาวยาวถึงกลางหลังราวกับผมหงอก หูของเขามีลักษณะคล้ายปีกนกเพราะเป็นชาวคามาเอล(เผ่าพันธุ์ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ทุกอย่าง มีหูเหมือนปีกนกขนาดเล็ก มีปีกสีขาวบริสุทธ์เวลาจะบินเหาะเหินบนอากาศ) แต่สีตาเป็นสีฟ้าดูดีๆ แล้วเหมือนสีตาของผมเป๊ะ เพียงแต่ว่าสีผมของผมเป็นสีเหลืองยาวประบ่าเท่านั้นแหละ

    “ แต่กฎก็คือกฎ ดังนั้นเชิญออกไปเถอะ ” เขายังคงยืนยันเหมือนเดิม เส้นเอ็นที่ขมับผมเริ่มปูดขึ้นมาเพราะผมไม่พอใจถึงบางทีจะเคยโดนถีบออกมาจากหอสมุดแล้วก็ตามทีเถอะ

    “ ไม่! ผมไม่ไป บอกว่าไม่ไปก็คือไม่ไป!!!!! ” ผมดิ้นจนหลุดมือคามาเอลตนนี้ก่อนจะวิ่งหนีให้ไวที่สุด บรรณารักษ์ชาวคามาเอลส่ายหน้าละเหี่ยใจก่อนจะเรียกปีกสีขาวบริสุทธิ์คู่หนึ่งออกมาแล้วบินสูงขึ้นเหนือชั้นหนังสือตามผม

    “ จะออกไปดีๆ หรือจะให้ถีบออกไปเหมือนที่ผ่านๆ มา ” คราวนี้มาเสียงเขียวๆ เลยแหละ ไอ้ตาแก่นี่ต่อหน้าคนอื่นท่าทางใจดีเหลือเกิน แต่พออยู่ต่อหน้าผมน่ะไอ้ที่กล้าถีบผมออกไปนอกหอสมุดเลยคงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าเขาโหดแค่ไหน

    “ ไม่เอา! ไม่ไป!!!!!!! ” ผมหลับหูหลับตาวิ่งโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น จนกระทั่ง....

    โครม!!! ตึง!!! ปึง!!!

    ผมวิ่งไปชนเข้ากับชั้นหนังสือที่หนึ่งจนล้มไปชนกับชั้นหนังสือข้างเคียงแล้วมันก็ล้มใส่กันต่อกันเป็นทอดๆ ราวกับตัวต่อโดมิโนเลยทีเดียว ผมอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้าในขณะที่บรรณารักษ์ชาวคามาเอลแทบจะร่วงลงจากอากาศทันที

    ตึง!!!

    ชั้นหนังสือสุดท้ายล้มลงเป็นอันว่าการถล่มของโดนิโนเสร็จสิ้น ผมหัวเราะแหะๆ พร้อมกับค่อยๆ เบนสายตากลับไปด้านหลังเมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอาฆาตพยาบาทสุดขีดของบรรณารักษ์หอสมุด

    “ นี่....เราคุยกันได้นะครับ คุณซินเฟลว ”

    “ ซินเรย์ ” เสียงเย็นๆ ดังมาจากปากของซินเฟลว บรรณารักษ์ชาวคามาเอลค่อยๆ เผยรอยยิ้มชวนขนลุกออกมาทำเอาผมผงะ “ .....เจ้าเด็กบ้า!!!!! อยากเจ็บตัวนักใช่ไหม!! งั้นก็เอาไปกินซะ!!!!

    และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ซินเรย์ถูกซินเฟลวถีบกระเด็นออกนอกหอสมุดประชาชน.....



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×