ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic snsd] ღ.Yes! It's fate.ღ {TaeNy}

    ลำดับตอนที่ #9 : มีแต่แผล

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 56


               ทันทีที่รถพยาบาลมาถึงเหล่าบุรุษพยาบาลต่างก็รีบนำแทยอนเข้าห้องฉุกเฉินเป็นการด่วนเนื่องจากคนตัวเล็กเสียเลือดมาก  ตอนนี้ทุกคนทำได้แค่เฝ้ารอและอธิษฐานไม่ให้เพื่อนตัวเล็กเป็นอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้  ด้านสาวตายิ้มก็ได้แต่โทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บตัวจากการช่วยเหลือเธอ  แต่ระหว่างที่รอกันอยู่นั้นพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหมอ พยาบาล วิ่งกันให้วุ่นด้วยความสงสัยซูยองเลยเดินเข้าไปถาม

    “มีอะไรหรือเปล่าคะ  คุณหมอ”  ถามทั้งที่กังวลอาการของเพื่อนที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน

    “ตอนนี้คนไข้เสียเลือดมากค่ะ  ทางเราต้องหาเลือดด่วนค่ะ  เพราะทางเรามีเลือดสำรองไม่พอต้องติดต่อ โรงพยาบาลในเมืองด่วนค่ะ  อาการคนไข้แย่มากเพราะเสียเลือดมาก”  คุณหมอสาวอธิบายด้วยสีหน้ากังวล  “แล้วต้องใช้เลือดกรุ๊ปอะไรหรอคะ  พวกเรามีกันหลายคนน่าพอจะช่วยได้”

    “กรุ๊ปO กรุ๊ปเดียวเท่านั้นค่ะที่จะช่วยเพื่อนของคุณได้”  เมื่อได้ยินที่คุณหมอบอกก็หันไปมองหน้าเพื่อนทุกคน  “ในพวกเราไม่มีใครเลือดกรุ๊ปO เลยสักคน  ได้โปรดช่วยเพื่อนของพวกเราด้วยนะคะ ชั้นขอร้อง”

    “หมอจะพยายามช่วยให้ถึงที่สุดค่ะ  ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”  หมอสาวรีบเดินไปเพื่อไปติดต่อเรื่องคนไข้ตัวเล็กหลังจากที่คุยกับคุณหมอเสร็จซูยองก็เดินหน้าเศร้า  คอตกกลับมาหาเพื่อนเดอะแก๊งค์ทันทีจนเพื่อนๆสังเกตได้  “แกเป็นอะไรว่ะ! ทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นดูไม่ดีเลย”  ยุนอาถามด้วยความเป็นห่วง

    “เป็นห่วงไอแทมันว่ะ” เงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “หมอบอกว่าเลือดที่จะให้ไอแททางโรงพยาบาลมีไม่พอเลยต้องขอจากโรงพยาบาลในเมืองเพิ่ม  พวกเราไม่มีใครเลือดกรุ๊ปเดียวกับไอแทมันเลยซักคน  เฮ้อ!!!”   “ไอแทมันเลือดกรุ๊ปไรนะชั้นลืม”  ฮโยยอนที่นั่งข้างๆถามขึ้น   “กรุ๊ป O” ซูยองก็ตอบกลับทันที

    “ชั้นอยากช่วยมันได้เหมือนตอนที่มันช่วยชั้นตอนรถชนเมื่อหลายปีก่อนได้บ้างจัง เฮ้อ!” ยูริได้แต่ถอนหายใจแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าการสนทนาของพวกเขาทำให้3สาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้ยินทุกอย่างที่พวกเขาคุยกัน  เมื่อได้ยินดังนั้นทิฟฟานี่ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วยเจตนาเพื่อจะช่วยผู้มีพระคุณ

    “ถ้าไม่รังเกียจให้ชั้นได้ช่วยเพื่อนของคุณได้มั้ยคะ  พอดีชั้นเลือดกรุ๊ปO ค่ะ”  ทิฟฟานี่บอกไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งน้ำตาที่ร้องไห้ออกมาเมื่อสักครู่  เธออยากช่วยคนตัวเล็กได้บ้างเพื่อเป็นการตอบแทนเขาที่ช่วยเธอ

    “ขอบคุณมากนะคะ  ขอบคุณจริงๆ” ซอฮยอนกล่าวขอบคุณสาวตายิ้มที่มีน้ำใจจะช่วยแทยอนเพราะตอนนี้ ทิฟฟานี่เป็นคนเดียวที่สามารถช่วยชีวิตแทยอนได้เพราะไม่มีใครมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเขาเลย แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อคุณหมอที่ทำการรักษาแทยอนก็กำลังเดินผ่านด้วยท่าทางรีบร้อน  เมื่อเห็นคุณหมอเดินผ่านทิฟฟานี่จึงเอ่ยทักคุณหมอทันที 

    “คุณหมอคะ  ชั้นเลือดกรุ๊ปOค่ะ  ให้ชั้นได้ช่วยเขานะคะ” พร้อมส่งสายตาที่มุ่งมัน

    “ได้ค่ะ  งั้นเดี๋ยวเชิญห้องตรวจเลยค่ะ”  ทันทีที่คุณหมอสาวพูดจบเธอก็รีบเดินนำทิฟฟานี่มาที่ห้องตรวจเมื่อเข้ามาทิฟฟานี่ก็ได้รับการตรวจทุกอย่างที่ควรจะตรวจ  และผลที่ออกมาอย่างรวดเร็วก็ได้บอกว่าสาวตายิ้มสามารถให้เลือดกับแทยอนได้  ทิฟฟานี่ไม่รีรอรีบเดินตามคุณหมอเข้าไปในห้องICUเพื่อจะเข้าไปให้เลือดกับแทยอน  เมื่อเข้าไปในห้องสาวตายิ้มพยายามที่จะมองหาคนตัวเล็กแต่ว่ามีคุณหมออีกท่านยืนบังอยู่  จนพยาบาลเดินเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ในการให้เลือดของเธอเข้าไปให้แทยอนมีสายอะไรไม่รู้โยงไปมา  แต่แค่เธอได้ช่วยคนตรงหน้าเธอก็พอใจแล้วและในที่สุดเธอก็ได้มองเห็นเขา  วินาทีแรกที่ได้เห็นเขาทิฟฟานี่ก็อดที่จะใจสั่นแบบไม่มีเหตุผล

    ผิวขาวออกซีด  หน้าตาน่ารัก  ตามตัวมีแผลฟกช้ำนิดหน่อย  ดูๆไปเขาอาจจะอายุน้อยกว่าเธอด้วยซ้ำดูจากใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์มาก  ตัวก็เล็กแต่ทำไมใจกล้าสู้กับผู้ชายตัวใหญ่ได้นะคิดแล้วก็แปลกใจ  มองเขาไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแป๊ปเดียวก็ให้เลือดคนตัวเล็กเสร็จพยาบาลก็พาเธอออกมานอกห้องเพื่อจะพาไปพักผ่อน  แต่เธอปฎิเสธพร้อมบอกว่าเธอไม่เป็นไรและขอตัวไปรวมกับเพื่อนๆที่อยู่ไม่ห่างกัน  ซันนี่ที่เห็นทิฟฟานี่เดินมาก็รีบเดินไปประคองเพื่อนกลัวว่าจะหน้ามืดล้มลงไปเพราะเจ้าตัวไม่ยอมไปพักก่อน

    “ให้เลือดเสร็จแล้วหรอ  แล้วก็เป็นไงบ้าง OK ป่ะ”  อดถามอาการเพื่อนไม่ได้เลยถามด้วยความเป็นห่วง

    “เรียบร้อยแล้ว ชั้นไม่เป็นไรขอบใจแกนะที่เป็นห่วง”  ทิฟฟานี่ตอบกลับให้ซันนี่ได้คลายกังวลเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นห่วง  แต่ยังไม่ทันที่จะคุยกันต่อก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาให้เธอหันไปมองตามเสียงจนเจอเจ้าของเสียงเป็นใครไม่ได้นอกจาก ซูยอง “คุณคะ ชั้นขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเพื่อนของเราไว้ ถ้าไม่มีคุณเพื่อนของเราแย่แน่เพราะในกลุ่มพวกเราไม่มีใครเลือดกรุ๊ปเดียวกับแทยอนเลย ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย” กล่าวยิ้มพร้อมก้มหัวขอบคุณให้ทิฟฟานี่ด้วยความจริงใจ 

    “ไม่เป็นอะไรค่ะแค่นี้เรื่องเล็กมากถ้าเทียบกับการที่เขาช่วยชั้นไว้”  ยิ้มตอบไปให้ร่างสูงเหมือนที่เคยได้รับ  ซูยองมองเธอด้วยความชื่นชมแต่สายตาก็เหลือบไปคนคนตัวเล็กที่มองมาทางเขาด้วยสายตาชอบกล  เลยอดถามไม่ได้  “มองชั้นมีอะไรหรือเปล่า” ถามแบบกวนๆ   ทันทีที่คนตัวเล็กได้ยินก็รีบสวนกลับทันที ”ไม่คิดว่าจะพูดดีๆกับเขาเป็นด้วย”  ซูยองไม่วายสวนกลับทันที “แน่นอน! ชั้นพูดดีด้วยกับคนที่อยากจะพูดด้วย” พูดเสร็จก็หันหลังเดินไปรวมกับเพื่อนๆที่นั่งรอฟังอาการเพื่อนตัวเล็กอยู่หน้าห้อง ICU  ซันนี่ที่ได้ยินซูยองกวนก็เริ่มโมโห

    “อุตส่าห์ว่าจะมองในแง่ดีแล้วนะ”  พลางเอามือกอดอกตัวเองปากเบะใส่ไอคนตัวสูงที่เพิ่งเดินไป  ทิฟฟานี่ที่เห็นอาการเพื่อนสาวตัวเล็กก็อดยิ้มไม่ได้  เพราะปกติแล้วเพื่อนเธอจะไม่เป็นแบบนี้เวลาเจอพวกสาวหล่อๆ หรือเท่ห์ เพราะเมื่อลองมองกลับไปที่คนร่างสูงก็หน้าตาดีใช้ได้  สูงโปร่งตามสเปคเพื่อนของเธอแต่ที่ไม่เข้าใจคือถ้าเป็นซันนี่เพื่อนเธอจริงๆจะพูดจาดี  ทำตัวน่ารักแอ๊บแบ๊วใส่เขาไปแล้วไม่มาพูดจากวนๆจิกกัดกันแบบนี้หรอก  แต่ก็ไม่อยากคิดอะไรมากไปกว่านี้แล้วเป็นห่วงอาการคนตัวเล็กแต่ใจใหญ่มากกว่า  ว่าได้เลือดจากเธอไปแล้วอาการจะดีขึ้นหรือยัง  ไม่รู้ทำไมในใจเป็นห่วงคนตัวเล็กมากเหลือเกินอธิบายไม่ถูก  คิดได้แล้วก็เดินไปรวมตัวกับเพื่อนๆที่หน้าห้องแต่ก็รอไม่นานคุณหมอสาวสวยก็เดินออกมานอกห้องด้วยรอยยิ้ม  ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี

    “ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะคะ  ต้องขอบคุณเลือดของคุณทิฟฟานี่ที่ช่วยคนไข้เอาไว้ได้”

    “ตอนนี้เราเข้าไปเยี่ยมได้เลยหรือเปล่าคะ” เป็นยูริที่รีบถามคุณหมอทันทีที่ได้ยินว่าเพื่อนของเธอปลอดภัยแล้ว

    “หมอว่าอย่าเพิ่งเลยนะคะ  ให้คนไข้ได้พักผ่อนก่อนนะคะ  หมอว่าคุณไปทำแผลกันก่อนดีกว่านะคะเพราะอีกสักพักใหญ่กว่าจะพาคนไข้ย้ายไปห้องพิเศษ”   พูดเสร็จก็เดินไปทำหน้าที่ของคุณหมอต่อกับคนไข้รายอื่น

    HY: “งั้นชั้นว่าพวกแกพากันไปทำแผลก่อน  เดี๋ยวทางนี้ชั้นรอไอแทเองแล้วเดี๋ยวโท.ไปบอกว่าอยู่ห้อง  

           ไหน”

    SY: “เออ!  ดูไอแทด้วยนะเดี๋ยวพวกชั้นกลับมา” พร้อมลากยุนอาไปด้วยเพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บ   

           พอๆกันมีแค่รอยฟกช้ำตามใบหน้าอันหล่อเหลา  แล้วก็ตามลำตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก

    SH: “งั้นเดี๋ยวซอตามไปดูพี่ยุนกับพี่ซูก่อนนะคะ  เพื่อช่วยอะไรได้”

    SN: “งั้นชั้นไปด้วยค่ะ  เพราะชั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาบาดเจ็บเพราะช่วยชั้นเหมือนกัน”  แล้วทั้งซอฮ

           ยอนและซันนี่ก็รีบเดินตามซูยองและยุนอาไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อทำแผล 

    YR: “งั้นชั้นไปทำแผลก่อนนะเดี๋ยวเลือดไหลออกจากตัวหมดพอดี  ไอแทออกมาแล้วรีบโท.บอกเลยนะ

           เว้ย!

    HY: “เออ! แกรีบไปเหอะเดี๋ยวเลือดได้ไหลหมดตัวแน่”  พร้อมโบกมือไล่ให้ไปทำแผล  เมื่อเห็นยูริเดินผ่านหน้าไปเจสสิก้าก็รีบเดินตามเข้าไปประคอง “ให้ชั้นพาคุณไปนะคะ” พร้อมส่งยิ้มให้ร่างสูงที่ให้เธอช่วยประคอง

    “เรียกชั้น คุณอีกแหละไม่น่าฟังเลย  เรียกยูล สิก้า น่าฟังกว่าตั้งเยอะว่ามั้ย?คะ”  ยิ้มหวานๆส่งให้เธอ

    OKค่ะ”  เวลานี้เจสสิก้าได้แต่ยอมตามใจร่างสูงเพราะเธอคิดแล้วว่าไม่ได้มีอะไรเสียหาย

    “ดูพวกคุณรักและก็สนิทกันดีนะคะ” เป็นสาวตายิ้มที่เริ่มบทสนทนาคุยกับฮโยยอนก่อนเพราะไม่รู้จะทำไร

    “ค่ะ พวกเรารักและก็สนิทกันมาก  พวกเราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ตอนเด็กจนโตมาด้วยกันเลยสนิทกัน  แถมตอนเรียนก็เรียนด้วยกันตั้งอนุบาลจนม.ปลาย  ขนาดเข้ามหาวิทยาลัยยังเข้าที่เดียวกันเลยคะแต่คนละคณะตามควาชอบส่วนตัว  แต่พวกเรานัดเจอกันบ่อยแบบว่าไม่เคยห่างกันเลยค่ะ”  ฟานี่สังเกตเห็นรอยยิ้มบนใบหน้า ฮโยยอนเมื่อเล่าเรื่องของพวกเขา

    “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  ชั้นต้องขอโทษพวกคุณด้วยนะคะที่พวกเราเป็นสาเหตุ”

    “ไม่เป็นอะไรหรอกคะ  เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  คุณอย่าโทษตัวเองเลยนะคะแล้วอย่างไอพวกนี้มันก็เต็มใจที่จะช่วยพวกคุณ โดยเฉพาะยูริรายนั้นเต็มใจสุดๆ” ทิฟฟานี่ทำหน้างงเหมือนจะถามว่าใคร

    “คนที่เพื่อนผมทองของคุณเดินตามไปนะคะ”  ทิฟฟานี่พยักหน้าเข้าใจเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่ชื่อยูริ 

    “แต่จะว่าไปเรื่องชก ต่อย ตี เป็นเรื่องถนัดของพวกนี้อยู่แล้วจะว่าไป สายดำทุกคนนะคะ  เพื่อนชั้นเก่งนะแต่ไม่ได้ไปหาเรื่องใครหรอกนะคะ  ไอพวกนี้มันเอาไว้ป้องกันตัวแล้วก็ปกป้องพวกชั้นกับน้องซอที่เพื่อนตัวเล็กของคุณเดินไปด้วย  แต่ถ้าเอาจริงๆนะพวกมันจะบอกว่าเอาไว้ปกป้องคนที่มันรัก  ชั้นกับน้องซอแค่ทางผ่านเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆจนตอนนี้บอกตรงๆ  เริ่มชินกับพวกมันแล้วค่ะ”  หัวเราะในลำคอเล็กน้อย  ทิฟฟานี่ฟังแล้วก็ยิ้ม ตามเพราะเท่าที่ฟังพวกเขาคงรักกันมากจริงๆ 

    “น้องเค้าเก่งนะคะตัวเล็กแค่นี้แต่ใจใหญ่มากเลย  กล้าสู้กับพวกนั้นด้วยชั้นอึ้งเลยค่ะตอนที่เขากล้าสู้เพื่อช่วยชั้น”  พร้อมมองไปทางประตูห้องฉุกเฉินว่าคนที่พูดถึงคือคนข้างใน

    “คุณอายุเท่าไหร่หรอคะ?”  ฮโยยอนถามเพราะดูๆแล้วสาวตายิ้มคนนี้น่าจะอายุเท่ากันกับพวกเธอ

    “ปีนี้ก็ 20ค่ะ  มีอะไรรึป่าว?คะ”  ตอบออกไปแบบงงว่าทำไมเขาถามถึงเรื่องอายุแต่ไม่นานก็หายสงสัย

    “พวกเราอายุ20เท่ากันค่ะ  รวมถึงแทยอนที่อยู่ในห้อง”  บอกออกไปพร้อมชี้นิ้วไปทางห้องที่แทยอนอยู่

    “จริงหรอคะ!  นึกว่ายังไม่18ซะอีก”  แอบตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าคนตัวเล็กอายุเท่ากัน 

    “พวกเราชินแล้วค่ะ  ที่ใครๆก็คิดว่าไอแทเป็นรุ่นน้องของพวกเรา  มันดันหน้าเด็ก  ตัวเล็กน่ารัก เห็นมันแบบนี้สาวติดตรึมเลยนะคะ  ในกลุ่มเรามีน้องซอคนที่ดูเรียบร้อยๆเด็กสุดอายุน้อยกว่าพวกเรา2ปีค่ะ”   

    “งั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนกันได้ซิคะ เพราะพวกเรา3คนก็อายุเท่าพวกคุณเหมือนกัน” บอกไปพร้อมรอยยิ้ม “ได้ค่ะ  แต่ไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะคะเราเป็นเพื่อนกันแล้วชั้น คิม ฮโยยอน สวยสุดในกลุ่มยินดีได้รู้จักค่ะเรียก ฮโย สั้นๆเหมือนที่เพื่อนๆชั้นเรียกก็ได้ค่ะ”  

    “ชั้น ฮวัง ทิฟฟานี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะเรียก ฟานี่ ก็ได้ค่ะ”   ทั้ง2คุยกันเรื่อยเปื่อยจนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่ก็คงนานอยู่เพราะตอนนี้  เพื่อนตัวเล็กของพวกเธอได้ถูกเข็นพาไปนอนพักที่ห้องพักฟื้นพิเศษแล้ว  ฮโยยอนและทิฟฟานี่ก็ตามไปทันทีและเป็นฮโยยอนที่โท.บอกเพื่อนตามที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้เพื่อแจ้งว่าอยู่ห้องไหน   ทางด้านห้องฉุกเฉินที่3แสบทำแผลอยู่ ซูยองกับยุนอา นั่งให้คุณพยาบาลคนสวยทำแผลให้  ดูท่าทางทั้ง2จะไม่ค่อยเจ็บสักเท่าไหร่เพราะเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ปริปากส่งเสียงร้องออกมาเหมือนก่อนหน้านี้  ไม่นานนักทั้งซูยองและยุนอาก็ทำแผลเสร็จเพราะพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรมากนอกจากแผลฟกช้ำตามใบหน้าและลำตัวเล็กน้อย  แต่ก่อนพวกเขาจะเดินขึ้นลิฟต์โทรศัพท์มือถือของซอฮยอนก็ดังขึ้น  ซอฮยอนรีบรับสายเพราะปรากฏชื่อพี่ฮโยสุดสวยขึ้นที่หน้าจอของมือถือตอบรับเสียงหวาน  
    “ค่ะ พี่ฮโย”  เมื่อได้ยินเสียงน้องเล็กรับสาย  “ทำแผลเสร็จหรือยังจ๊ะ
    หมอบอกว่าเป็นอะไรมากมั้ย”     
    “ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแค่แผลฟกช้ำนี่ก็เสร็จแล้วกำลังจะขึ้นลิฟต์กันค่ะ” 

    “งั้นไปเจอกันที่ห้องพิเศษนะ เออ!ห้อง 919นะ  เค้าเอาแทยอนมาไว้ที่ห้องพักฟื้นแล้ว”  แล้ววางสายทันที   หลังจากคุยโท.เสร็จก็หันมาบอกกับคนที่มองเธอคุยอยู่เมื่อสักครู่ 
    “พี่ฮโยโท
    .มาบอกว่าพี่แทย้ายไปห้องพักฟื้นแล้วค่ะ”  “ดี! ค่อยหายห่วงหน่อย”  ซูยองระบายออกมาบอกได้เลยว่าเขาโล่งใจมากที่เพื่อนตัวเล็กของพวกเขาปลอดภัยไม่เป็นอะไรมากแล้ว  แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นสาวตัวเล็กแต่  หุ่นXอยู่ไม่ห่างก็เลยกวนประสาท  
    ”เธอมาทำอะไรที่นี่อ่ะ  เป็นห่วงชั้นหรอ?”  พร้อมยักคิ้วส่งไปให้ 
    “ป่าว แค่มาดูว่าหมอเขาเอาหมาออกไปกี่ตัวแล้ว”  ไม่วายกวนกับไปไม่แพ้กัน 

    “หรอ! นึกว่าเป็นห่วงชั้นซะอีก”  ทำน้ำเสียงเศร้าๆที่สุดทำให้ซันนี่รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่พูดไม่ดีกับเขาทั้งๆที่เขาเจ็บตัวก็เพราะช่วยเธอไว้แท้ๆ

    “ที่จริงก็เป็นห่วงเธอด้วยก็เลยเดินมาดูอย่างน้อยชั้นก็มีสำนึกนะว่าทำให้เธอเจ็บ”   “ขอบใจนะที่เป็นห่วง” สั้นๆง่ายๆออกจากปากเขาแถมเขายังยิ้มมาให้เธออีกซันนี่สัมผัสได้ถึงความจริงใจของร่างสูง  และแน่นอน มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเข้ามากขึ้นกว่าเดิม  ขณะที่ซอฮยอนยืนคุยโท.อยู่ยุนอาก็เดินเข้าไปด้านในสุดของห้องฉุกเฉินเพราะเพื่อนตัวสูงผิวเข้มของเขากำลังรอหมอมาทำแผลให้เหมือนกัน  แต่ต่างกันตรงที่เขากับซูยองไม่ต้องเย็บแต่ยูริต้องเย็บแผลเพราะเท่าที่ดูผ่านๆแล้วลึกอยู่เหมือนกันเพราะเลือดยังไม่ยอมหยุดไหลง่ายๆ  แต่ก็ไม่ได้มากเท่ากับแทยอนยุนอาเปิดฉากกั้นก็พบเพื่อนของเขากับสาวผมบลอนด์นั่งให้พยาบาลล้างแผลอยู่ 

    “เออ!ไอยูลพวกชั้นทำแผลเสร็จแล้ว  แกจะให้อยู่รอมั้ย?”  ถามเพื่อนเพราะเขาก็เป็นห่วงเพราะรู้ว่าเพื่อนกลัวเข็มกลัวเลือดขนาดไหน 

    “ไม่เป็นไร  แกไปหาไอแทกันก่อนได้เลย ชั้นมีพยาบาลพิเศษแล้ว ไม่ต้องห่วง”  พร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆ และสายตายหยาดเยิ้ม(ม๊าก)ไปทางสาวผมบลอนด์ที่อยู่ข้างๆเตียงให้เธอได้อายเล่น  เมื่อยุนอาเห็นอาการของยูริก็เริ่มสบายใจอย่างน้อยยูริคงไม่สาวแต่ต่อหน้าผู้หญิงที่เขาถูกใจหรอก  “งั้นชั้นไปก่อนนะ  เออ!คุณคะฝากลิงไว้ตัวหนึ่งนะคะ”  แล้วยิ้มให้เจสสิก้าอย่างเป็นมิตรก่อนจะหันหลังเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยกัน  เมื่อยุนอามาซอฮยอนก็เล่าที่ฮโยฮยอนโท.มาให้ฟังพอดี  “ดีว่ะ! ไปอยู่ห้องพิเศษสักทีบอกตรงๆอยู่หน้าห้องICU โคตรเกร็งเลยว่ะ!”  พวกเขาเดินเข้าลิฟต์เพื่อไปชั้น9 ห้อง919ที่แทยอนนอนพักฟื้นอยู่พอเดินมาถึงหน้าห้องมีป้ายชื่อ คิม แทยอน ก็เดินเข้าไปข้างในกันยุนอานึกได้ว่าเพื่อนผิวเข้มยังไม่รู้เรื่องเลยบอกทุกคนว่าจะโท.ไปบอกให้เอง  #@#^&^$IP{)%^*)+$เสียงมือถือของยูริดังขึ้นเจ้าตัวก็รีบรับทันที  “เออ!ว่าไง  มีไรอีกหล่ะแก”  ถามแบบงงๆเพราะเมื่อกี้เพิ่งจะคุยกันเสร็จ  “(ไม่มีอะไรหรอก  แค่จะบอกแกว่าไอแทมันออกมาอยู่ห้องพิเศษแล้วเท่านั้น ห้อง919 แค่นี้แหละไม่อยากกวนเวลาแกอยู่กับพยาบาลสุดสวย)”  ยุนอาอธิบายที่เดียวเสร็จไม่ปล่อยให้ยูริได้ถามแล้วชิ่งวางสายทันทีแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง    ด้านยูริที่ตอนนี้เหลือแค่เขาที่อยู่ในห้องนี้กับแค่พยาบาลสุดสวย  เพราะพยาบาลที่ล้างแผลให้เมื่อกี้รีบไปช่วยคนไข้คนใหม่ที่เพิ่งถูกเข็นเข้ามาอาการรุนแรงกว่าเขามากเพราะรถชนกัน  ห้องที่มีแต่กลิ่นยา  กลิ่นคาวเลือดชวนอาเจียนไหนจะอากาศที่เย็นเจี๊ยบจากเครื่องปรับอากาศ  ทำให้เขารู้สึกเกร็งๆปากเริ่มซีดทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของเจสสิก้าเธอเลยตัดสินใจถามอย่างที่คิด  “ยูล กลัวหรอคะ  เห็นหน้าซีดเชียว”  ด้วยกลัวจะเสียเชิงเลยบอกไปอีกแบบ 

    “ไม่ได้กลัวค่ะ  แค่ไม่ชินไม่ค่อยได้เข้ามาในห้องแบบนี้ซักเท่าไหร่”  ยิ้มแหยๆแถมไม่ยอมสบตากับเธออีก  เจสสิก้าเมื่อได้ยินคำตอบก็แน่ใจเลยว่าเขากลัวแน่นอนแต่ปากแข็งคงจะกลัวเสียฟอร์มต่อหน้าเธอแน่นอน  แต่หารู้ไม่ว่าระหว่างที่เธอคิดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปากให้คนผิวเข้มสังเกตเห็นได้  มันชั่งสวยและน่ารักในนาทีเดียวกันจริงๆ  เลยเผลอพูดอะไรออกไป 

    ”สิก้าน่ารักมากเลยนะคะตอนที่ยิ้มเนี่ยะ”  เป็นคำพูดที่ทำให้เจสสิก้าได้เขินอายแต่อดแซวกลับไม่ได้  “งั้นถ้าสิก้าไม่ยิ้มก็แสดงว่าไม่น่ารักใช่มั้ยคะ”  พร้อมทำหน้างอนๆใส่ยูริอีก

    “ค่ะ ไม่น่ารักแต่สิก้าสวยเลยต่างหาก  แค่ตอนยิ้มบวกความน่ารักสดใสขึ้นมาอีกก็เท่านั้น”  รอยยิ้มหวานๆทั้งสายตาเยิ้มๆที่ส่งมาทำให้สาวผมบลอนด์เขินได้มากกว่าเดิมอีกคราวนี้หน้าแดงก่ำเลย  ล้อเล่นกันได้ไม่นานคุณหมอพร้อมกับนศ.แพทย์อีก2คนเดินเข้ามาและตามด้วยพยาบาล1คนถืออุปกรทำแผลตาเข้ามาติดๆ  ยูริกลืนน้ำลายดังเอื้อกที่เห็นอุปกรณ์  ได้แต่ปลอบใจตัวเองที่ตอนนี้เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วแต่ก็ต้องรู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่มีมือนุ่มๆของคนที่ยืนข้างๆเอื้อมมาจับมือเขาไว้ 

    “ไม่ต้องกลัวนะคะ  สิก้าจะอยู่เป็นเพื่อนยูลเอง” ยิ้มส่งให้เขาบ้าง “บอกแล้วไงคะว่าไม่ได้กลัว  แค่ไม่ชิน”  แก้ตัวออกมาแต่ไม่รู้เลยว่าน้ำเสียงที่ออกมามันช่างตรงข้ามกับคำพูดเพราะเสียงสั่นและเบามาก  คุณหมอเดินเข้ามาดูบาดแผลและอธิบายอะไรไม่รู้ให้นศ.แพทย์2คนฟังทั้งจับแผล ยูริอยากบอกเหลือเกินว่าทำเบาๆไม่ได้หรือไงมันเจ็บแต่ได้แค่คิด  เพราะตอนนี้ปากหนักเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา 

    “แผลไม่ใหญ่แต่ลึกเหมือนกัน”  คุณหมอพูดแล้วมองหน้าเขาได้แต่พยักหน้ารับรู้ 

    “จะเย็บสด หรือฉีดยาชาครับ”  หัวใจจะวายถามมาได้เย็บสดหรือฉีดยาอยากบอกว่าเหลือเกินว่าไม่เอาทั้งนั้นแต่ก็ทำไม่ได้   ต้องเลือกสักอย่างเพราะคุณหมอรอคำตอบจากเขาอยู่

     

     

     *^*^... TO BE CONTINUE ...^*^*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×