คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : มีแต่แผล
ทันทีที่รถพยาบาลมาถึงเหล่าบุรุษพยาบาลต่างก็รีบนำแทยอนเข้าห้องฉุกเฉินเป็นการด่วนเนื่องจากคนตัวเล็กเสียเลือดมาก ตอนนี้ทุกคนทำได้แค่เฝ้ารอและอธิษฐานไม่ให้เพื่อนตัวเล็กเป็นอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ ด้านสาวตายิ้มก็ได้แต่โทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บตัวจากการช่วยเหลือเธอ แต่ระหว่างที่รอกันอยู่นั้นพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหมอ พยาบาล วิ่งกันให้วุ่นด้วยความสงสัยซูยองเลยเดินเข้าไปถาม
“มีอะไรหรือเปล่าคะ คุณหมอ” ถามทั้งที่กังวลอาการของเพื่อนที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
“ตอนนี้คนไข้เสียเลือดมากค่ะ ทางเราต้องหาเลือดด่วนค่ะ เพราะทางเรามีเลือดสำรองไม่พอต้องติดต่อ โรงพยาบาลในเมืองด่วนค่ะ อาการคนไข้แย่มากเพราะเสียเลือดมาก” คุณหมอสาวอธิบายด้วยสีหน้ากังวล “แล้วต้องใช้เลือดกรุ๊ปอะไรหรอคะ พวกเรามีกันหลายคนน่าพอจะช่วยได้”
“กรุ๊ปO กรุ๊ปเดียวเท่านั้นค่ะที่จะช่วยเพื่อนของคุณได้” เมื่อได้ยินที่คุณหมอบอกก็หันไปมองหน้าเพื่อนทุกคน “ในพวกเราไม่มีใครเลือดกรุ๊ปO เลยสักคน ได้โปรดช่วยเพื่อนของพวกเราด้วยนะคะ ชั้นขอร้อง”
“หมอจะพยายามช่วยให้ถึงที่สุดค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” หมอสาวรีบเดินไปเพื่อไปติดต่อเรื่องคนไข้ตัวเล็กหลังจากที่คุยกับคุณหมอเสร็จซูยองก็เดินหน้าเศร้า คอตกกลับมาหาเพื่อนเดอะแก๊งค์ทันทีจนเพื่อนๆสังเกตได้ “แกเป็นอะไรว่ะ! ทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นดูไม่ดีเลย” ยุนอาถามด้วยความเป็นห่วง
“เป็นห่วงไอแทมันว่ะ” เงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “หมอบอกว่าเลือดที่จะให้ไอแททางโรงพยาบาลมีไม่พอเลยต้องขอจากโรงพยาบาลในเมืองเพิ่ม พวกเราไม่มีใครเลือดกรุ๊ปเดียวกับไอแทมันเลยซักคน เฮ้อ!!!” “ไอแทมันเลือดกรุ๊ปไรนะชั้นลืม” ฮโยยอนที่นั่งข้างๆถามขึ้น “กรุ๊ป O” ซูยองก็ตอบกลับทันที
“ชั้นอยากช่วยมันได้เหมือนตอนที่มันช่วยชั้นตอนรถชนเมื่อหลายปีก่อนได้บ้างจัง เฮ้อ!” ยูริได้แต่ถอนหายใจแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าการสนทนาของพวกเขาทำให้3สาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้ยินทุกอย่างที่พวกเขาคุยกัน เมื่อได้ยินดังนั้นทิฟฟานี่ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วยเจตนาเพื่อจะช่วยผู้มีพระคุณ
“ถ้าไม่รังเกียจให้ชั้นได้ช่วยเพื่อนของคุณได้มั้ยคะ พอดีชั้นเลือดกรุ๊ปO ค่ะ” ทิฟฟานี่บอกไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งน้ำตาที่ร้องไห้ออกมาเมื่อสักครู่ เธออยากช่วยคนตัวเล็กได้บ้างเพื่อเป็นการตอบแทนเขาที่ช่วยเธอ
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ” ซอฮยอนกล่าวขอบคุณสาวตายิ้มที่มีน้ำใจจะช่วยแทยอนเพราะตอนนี้ ทิฟฟานี่เป็นคนเดียวที่สามารถช่วยชีวิตแทยอนได้เพราะไม่มีใครมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเขาเลย แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อคุณหมอที่ทำการรักษาแทยอนก็กำลังเดินผ่านด้วยท่าทางรีบร้อน เมื่อเห็นคุณหมอเดินผ่านทิฟฟานี่จึงเอ่ยทักคุณหมอทันที
“คุณหมอคะ ชั้นเลือดกรุ๊ปOค่ะ ให้ชั้นได้ช่วยเขานะคะ” พร้อมส่งสายตาที่มุ่งมัน
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวเชิญห้องตรวจเลยค่ะ” ทันทีที่คุณหมอสาวพูดจบเธอก็รีบเดินนำทิฟฟานี่มาที่ห้องตรวจเมื่อเข้ามาทิฟฟานี่ก็ได้รับการตรวจทุกอย่างที่ควรจะตรวจ และผลที่ออกมาอย่างรวดเร็วก็ได้บอกว่าสาวตายิ้มสามารถให้เลือดกับแทยอนได้ ทิฟฟานี่ไม่รีรอรีบเดินตามคุณหมอเข้าไปในห้องICUเพื่อจะเข้าไปให้เลือดกับแทยอน เมื่อเข้าไปในห้องสาวตายิ้มพยายามที่จะมองหาคนตัวเล็กแต่ว่ามีคุณหมออีกท่านยืนบังอยู่ จนพยาบาลเดินเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ในการให้เลือดของเธอเข้าไปให้แทยอนมีสายอะไรไม่รู้โยงไปมา แต่แค่เธอได้ช่วยคนตรงหน้าเธอก็พอใจแล้วและในที่สุดเธอก็ได้มองเห็นเขา วินาทีแรกที่ได้เห็นเขาทิฟฟานี่ก็อดที่จะใจสั่นแบบไม่มีเหตุผล
ผิวขาวออกซีด หน้าตาน่ารัก ตามตัวมีแผลฟกช้ำนิดหน่อย ดูๆไปเขาอาจจะอายุน้อยกว่าเธอด้วยซ้ำดูจากใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์มาก ตัวก็เล็กแต่ทำไมใจกล้าสู้กับผู้ชายตัวใหญ่ได้นะคิดแล้วก็แปลกใจ มองเขาไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแป๊ปเดียวก็ให้เลือดคนตัวเล็กเสร็จพยาบาลก็พาเธอออกมานอกห้องเพื่อจะพาไปพักผ่อน แต่เธอปฎิเสธพร้อมบอกว่าเธอไม่เป็นไรและขอตัวไปรวมกับเพื่อนๆที่อยู่ไม่ห่างกัน ซันนี่ที่เห็นทิฟฟานี่เดินมาก็รีบเดินไปประคองเพื่อนกลัวว่าจะหน้ามืดล้มลงไปเพราะเจ้าตัวไม่ยอมไปพักก่อน
“ให้เลือดเสร็จแล้วหรอ แล้วก็เป็นไงบ้าง OK ป่ะ” อดถามอาการเพื่อนไม่ได้เลยถามด้วยความเป็นห่วง
“เรียบร้อยแล้ว ชั้นไม่เป็นไรขอบใจแกนะที่เป็นห่วง” ทิฟฟานี่ตอบกลับให้ซันนี่ได้คลายกังวลเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นห่วง แต่ยังไม่ทันที่จะคุยกันต่อก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาให้เธอหันไปมองตามเสียงจนเจอเจ้าของเสียงเป็นใครไม่ได้นอกจาก ซูยอง “คุณคะ ชั้นขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเพื่อนของเราไว้ ถ้าไม่มีคุณเพื่อนของเราแย่แน่เพราะในกลุ่มพวกเราไม่มีใครเลือดกรุ๊ปเดียวกับแทยอนเลย ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย” กล่าวยิ้มพร้อมก้มหัวขอบคุณให้ทิฟฟานี่ด้วยความจริงใจ
“ไม่เป็นอะไรค่ะแค่นี้เรื่องเล็กมากถ้าเทียบกับการที่เขาช่วยชั้นไว้” ยิ้มตอบไปให้ร่างสูงเหมือนที่เคยได้รับ ซูยองมองเธอด้วยความชื่นชมแต่สายตาก็เหลือบไปคนคนตัวเล็กที่มองมาทางเขาด้วยสายตาชอบกล เลยอดถามไม่ได้ “มองชั้นมีอะไรหรือเปล่า” ถามแบบกวนๆ ทันทีที่คนตัวเล็กได้ยินก็รีบสวนกลับทันที ”ไม่คิดว่าจะพูดดีๆกับเขาเป็นด้วย” ซูยองไม่วายสวนกลับทันที “แน่นอน! ชั้นพูดดีด้วยกับคนที่อยากจะพูดด้วย” พูดเสร็จก็หันหลังเดินไปรวมกับเพื่อนๆที่นั่งรอฟังอาการเพื่อนตัวเล็กอยู่หน้าห้อง ICU ซันนี่ที่ได้ยินซูยองกวนก็เริ่มโมโห
“อุตส่าห์ว่าจะมองในแง่ดีแล้วนะ” พลางเอามือกอดอกตัวเองปากเบะใส่ไอคนตัวสูงที่เพิ่งเดินไป ทิฟฟานี่ที่เห็นอาการเพื่อนสาวตัวเล็กก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะปกติแล้วเพื่อนเธอจะไม่เป็นแบบนี้เวลาเจอพวกสาวหล่อๆ หรือเท่ห์ เพราะเมื่อลองมองกลับไปที่คนร่างสูงก็หน้าตาดีใช้ได้ สูงโปร่งตามสเปคเพื่อนของเธอแต่ที่ไม่เข้าใจคือถ้าเป็นซันนี่เพื่อนเธอจริงๆจะพูดจาดี ทำตัวน่ารักแอ๊บแบ๊วใส่เขาไปแล้วไม่มาพูดจากวนๆจิกกัดกันแบบนี้หรอก แต่ก็ไม่อยากคิดอะไรมากไปกว่านี้แล้วเป็นห่วงอาการคนตัวเล็กแต่ใจใหญ่มากกว่า ว่าได้เลือดจากเธอไปแล้วอาการจะดีขึ้นหรือยัง ไม่รู้ทำไมในใจเป็นห่วงคนตัวเล็กมากเหลือเกินอธิบายไม่ถูก คิดได้แล้วก็เดินไปรวมตัวกับเพื่อนๆที่หน้าห้องแต่ก็รอไม่นานคุณหมอสาวสวยก็เดินออกมานอกห้องด้วยรอยยิ้ม ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
“ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะคะ ต้องขอบคุณเลือดของคุณทิฟฟานี่ที่ช่วยคนไข้เอาไว้ได้”
“ตอนนี้เราเข้าไปเยี่ยมได้เลยหรือเปล่าคะ” เป็นยูริที่รีบถามคุณหมอทันทีที่ได้ยินว่าเพื่อนของเธอปลอดภัยแล้ว
“หมอว่าอย่าเพิ่งเลยนะคะ ให้คนไข้ได้พักผ่อนก่อนนะคะ หมอว่าคุณไปทำแผลกันก่อนดีกว่านะคะเพราะอีกสักพักใหญ่กว่าจะพาคนไข้ย้ายไปห้องพิเศษ” พูดเสร็จก็เดินไปทำหน้าที่ของคุณหมอต่อกับคนไข้รายอื่น
HY: “งั้นชั้นว่าพวกแกพากันไปทำแผลก่อน เดี๋ยวทางนี้ชั้นรอไอแทเองแล้วเดี๋ยวโท.ไปบอกว่าอยู่ห้อง
ไหน”
SY: “เออ! ดูไอแทด้วยนะเดี๋ยวพวกชั้นกลับมา” พร้อมลากยุนอาไปด้วยเพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บ
พอๆกันมีแค่รอยฟกช้ำตามใบหน้าอันหล่อเหลา แล้วก็ตามลำตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก
SH: “งั้นเดี๋ยวซอตามไปดูพี่ยุนกับพี่ซูก่อนนะคะ เพื่อช่วยอะไรได้”
SN: “งั้นชั้นไปด้วยค่ะ เพราะชั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาบาดเจ็บเพราะช่วยชั้นเหมือนกัน” แล้วทั้งซอฮ
ยอนและซันนี่ก็รีบเดินตามซูยองและยุนอาไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อทำแผล
YR: “งั้นชั้นไปทำแผลก่อนนะเดี๋ยวเลือดไหลออกจากตัวหมดพอดี ไอแทออกมาแล้วรีบโท.บอกเลยนะ
เว้ย!”
HY: “เออ! แกรีบไปเหอะเดี๋ยวเลือดได้ไหลหมดตัวแน่” พร้อมโบกมือไล่ให้ไปทำแผล เมื่อเห็นยูริเดินผ่านหน้าไปเจสสิก้าก็รีบเดินตามเข้าไปประคอง “ให้ชั้นพาคุณไปนะคะ” พร้อมส่งยิ้มให้ร่างสูงที่ให้เธอช่วยประคอง
“เรียกชั้น คุณอีกแหละไม่น่าฟังเลย เรียกยูล สิก้า น่าฟังกว่าตั้งเยอะว่ามั้ย?คะ” ยิ้มหวานๆส่งให้เธอ
“OKค่ะ” เวลานี้เจสสิก้าได้แต่ยอมตามใจร่างสูงเพราะเธอคิดแล้วว่าไม่ได้มีอะไรเสียหาย
“ดูพวกคุณรักและก็สนิทกันดีนะคะ” เป็นสาวตายิ้มที่เริ่มบทสนทนาคุยกับฮโยยอนก่อนเพราะไม่รู้จะทำไร
“ค่ะ พวกเรารักและก็สนิทกันมาก พวกเราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ตอนเด็กจนโตมาด้วยกันเลยสนิทกัน แถมตอนเรียนก็เรียนด้วยกันตั้งอนุบาลจนม.ปลาย ขนาดเข้ามหาวิทยาลัยยังเข้าที่เดียวกันเลยคะแต่คนละคณะตามควาชอบส่วนตัว แต่พวกเรานัดเจอกันบ่อยแบบว่าไม่เคยห่างกันเลยค่ะ” ฟานี่สังเกตเห็นรอยยิ้มบนใบหน้า ฮโยยอนเมื่อเล่าเรื่องของพวกเขา
“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ชั้นต้องขอโทษพวกคุณด้วยนะคะที่พวกเราเป็นสาเหตุ”
“ไม่เป็นอะไรหรอกคะ เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คุณอย่าโทษตัวเองเลยนะคะแล้วอย่างไอพวกนี้มันก็เต็มใจที่จะช่วยพวกคุณ โดยเฉพาะยูริรายนั้นเต็มใจสุดๆ” ทิฟฟานี่ทำหน้างงเหมือนจะถามว่าใคร
“คนที่เพื่อนผมทองของคุณเดินตามไปนะคะ” ทิฟฟานี่พยักหน้าเข้าใจเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่ชื่อยูริ
“แต่จะว่าไปเรื่องชก ต่อย ตี เป็นเรื่องถนัดของพวกนี้อยู่แล้วจะว่าไป สายดำทุกคนนะคะ เพื่อนชั้นเก่งนะแต่ไม่ได้ไปหาเรื่องใครหรอกนะคะ ไอพวกนี้มันเอาไว้ป้องกันตัวแล้วก็ปกป้องพวกชั้นกับน้องซอที่เพื่อนตัวเล็กของคุณเดินไปด้วย แต่ถ้าเอาจริงๆนะพวกมันจะบอกว่าเอาไว้ปกป้องคนที่มันรัก ชั้นกับน้องซอแค่ทางผ่านเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆจนตอนนี้บอกตรงๆ เริ่มชินกับพวกมันแล้วค่ะ” หัวเราะในลำคอเล็กน้อย ทิฟฟานี่ฟังแล้วก็ยิ้ม ตามเพราะเท่าที่ฟังพวกเขาคงรักกันมากจริงๆ
“น้องเค้าเก่งนะคะตัวเล็กแค่นี้แต่ใจใหญ่มากเลย กล้าสู้กับพวกนั้นด้วยชั้นอึ้งเลยค่ะตอนที่เขากล้าสู้เพื่อช่วยชั้น” พร้อมมองไปทางประตูห้องฉุกเฉินว่าคนที่พูดถึงคือคนข้างใน
“คุณอายุเท่าไหร่หรอคะ?” ฮโยยอนถามเพราะดูๆแล้วสาวตายิ้มคนนี้น่าจะอายุเท่ากันกับพวกเธอ
“ปีนี้ก็ 20ค่ะ มีอะไรรึป่าว?คะ” ตอบออกไปแบบงงว่าทำไมเขาถามถึงเรื่องอายุแต่ไม่นานก็หายสงสัย
“พวกเราอายุ20เท่ากันค่ะ รวมถึงแทยอนที่อยู่ในห้อง” บอกออกไปพร้อมชี้นิ้วไปทางห้องที่แทยอนอยู่
“จริงหรอคะ! นึกว่ายังไม่18ซะอีก” แอบตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าคนตัวเล็กอายุเท่ากัน
“พวกเราชินแล้วค่ะ ที่ใครๆก็คิดว่าไอแทเป็นรุ่นน้องของพวกเรา มันดันหน้าเด็ก ตัวเล็กน่ารัก เห็นมันแบบนี้สาวติดตรึมเลยนะคะ ในกลุ่มเรามีน้องซอคนที่ดูเรียบร้อยๆเด็กสุดอายุน้อยกว่าพวกเรา2ปีค่ะ”
“งั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนกันได้ซิคะ เพราะพวกเรา3คนก็อายุเท่าพวกคุณเหมือนกัน” บอกไปพร้อมรอยยิ้ม “ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะคะเราเป็นเพื่อนกันแล้วชั้น คิม ฮโยยอน สวยสุดในกลุ่มยินดีได้รู้จักค่ะเรียก ฮโย สั้นๆเหมือนที่เพื่อนๆชั้นเรียกก็ได้ค่ะ”
“ชั้น ฮวัง ทิฟฟานี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะเรียก ฟานี่ ก็ได้ค่ะ” ทั้ง2คุยกันเรื่อยเปื่อยจนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่ก็คงนานอยู่เพราะตอนนี้ เพื่อนตัวเล็กของพวกเธอได้ถูกเข็นพาไปนอนพักที่ห้องพักฟื้นพิเศษแล้ว ฮโยยอนและทิฟฟานี่ก็ตามไปทันทีและเป็นฮโยยอนที่โท.บอกเพื่อนตามที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้เพื่อแจ้งว่าอยู่ห้องไหน ทางด้านห้องฉุกเฉินที่3แสบทำแผลอยู่ ซูยองกับยุนอา นั่งให้คุณพยาบาลคนสวยทำแผลให้ ดูท่าทางทั้ง2จะไม่ค่อยเจ็บสักเท่าไหร่เพราะเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ปริปากส่งเสียงร้องออกมาเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่นานนักทั้งซูยองและยุนอาก็ทำแผลเสร็จเพราะพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรมากนอกจากแผลฟกช้ำตามใบหน้าและลำตัวเล็กน้อย แต่ก่อนพวกเขาจะเดินขึ้นลิฟต์โทรศัพท์มือถือของซอฮยอนก็ดังขึ้น ซอฮยอนรีบรับสายเพราะปรากฏชื่อพี่ฮโยสุดสวยขึ้นที่หน้าจอของมือถือตอบรับเสียงหวาน
“ค่ะ พี่ฮโย” เมื่อได้ยินเสียงน้องเล็กรับสาย “ทำแผลเสร็จหรือยังจ๊ะ…หมอบอกว่าเป็นอะไรมากมั้ย”
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแค่แผลฟกช้ำนี่ก็เสร็จแล้วกำลังจะขึ้นลิฟต์กันค่ะ”
“งั้นไปเจอกันที่ห้องพิเศษนะ เออ!ห้อง 919นะ เค้าเอาแทยอนมาไว้ที่ห้องพักฟื้นแล้ว” แล้ววางสายทันที หลังจากคุยโท.เสร็จก็หันมาบอกกับคนที่มองเธอคุยอยู่เมื่อสักครู่
“พี่ฮโยโท.มาบอกว่าพี่แทย้ายไปห้องพักฟื้นแล้วค่ะ” “ดี! ค่อยหายห่วงหน่อย” ซูยองระบายออกมาบอกได้เลยว่าเขาโล่งใจมากที่เพื่อนตัวเล็กของพวกเขาปลอดภัยไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นสาวตัวเล็กแต่ หุ่นXอยู่ไม่ห่างก็เลยกวนประสาท
”เธอมาทำอะไรที่นี่อ่ะ เป็นห่วงชั้นหรอ?” พร้อมยักคิ้วส่งไปให้
“ป่าว แค่มาดูว่าหมอเขาเอาหมาออกไปกี่ตัวแล้ว” ไม่วายกวนกับไปไม่แพ้กัน
“หรอ! นึกว่าเป็นห่วงชั้นซะอีก” ทำน้ำเสียงเศร้าๆที่สุดทำให้ซันนี่รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่พูดไม่ดีกับเขาทั้งๆที่เขาเจ็บตัวก็เพราะช่วยเธอไว้แท้ๆ
“ที่จริงก็เป็นห่วงเธอด้วยก็เลยเดินมาดูอย่างน้อยชั้นก็มีสำนึกนะว่าทำให้เธอเจ็บ” “ขอบใจนะที่เป็นห่วง” สั้นๆง่ายๆออกจากปากเขาแถมเขายังยิ้มมาให้เธออีกซันนี่สัมผัสได้ถึงความจริงใจของร่างสูง และแน่นอน มันทำให้เธอรู้สึกดีกับเข้ามากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ซอฮยอนยืนคุยโท.อยู่ยุนอาก็เดินเข้าไปด้านในสุดของห้องฉุกเฉินเพราะเพื่อนตัวสูงผิวเข้มของเขากำลังรอหมอมาทำแผลให้เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่เขากับซูยองไม่ต้องเย็บแต่ยูริต้องเย็บแผลเพราะเท่าที่ดูผ่านๆแล้วลึกอยู่เหมือนกันเพราะเลือดยังไม่ยอมหยุดไหลง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้มากเท่ากับแทยอนยุนอาเปิดฉากกั้นก็พบเพื่อนของเขากับสาวผมบลอนด์นั่งให้พยาบาลล้างแผลอยู่
“เออ!ไอยูลพวกชั้นทำแผลเสร็จแล้ว แกจะให้อยู่รอมั้ย?” ถามเพื่อนเพราะเขาก็เป็นห่วงเพราะรู้ว่าเพื่อนกลัวเข็มกลัวเลือดขนาดไหน
“ไม่เป็นไร แกไปหาไอแทกันก่อนได้เลย ชั้นมีพยาบาลพิเศษแล้ว ไม่ต้องห่วง” พร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆ และสายตายหยาดเยิ้ม(ม๊าก)ไปทางสาวผมบลอนด์ที่อยู่ข้างๆเตียงให้เธอได้อายเล่น เมื่อยุนอาเห็นอาการของยูริก็เริ่มสบายใจอย่างน้อยยูริคงไม่สาวแต่ต่อหน้าผู้หญิงที่เขาถูกใจหรอก “งั้นชั้นไปก่อนนะ เออ!คุณคะฝากลิงไว้ตัวหนึ่งนะคะ” แล้วยิ้มให้เจสสิก้าอย่างเป็นมิตรก่อนจะหันหลังเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยกัน เมื่อยุนอามาซอฮยอนก็เล่าที่ฮโยฮยอนโท.มาให้ฟังพอดี “ดีว่ะ! ไปอยู่ห้องพิเศษสักทีบอกตรงๆอยู่หน้าห้องICU โคตรเกร็งเลยว่ะ!” พวกเขาเดินเข้าลิฟต์เพื่อไปชั้น9 ห้อง919ที่แทยอนนอนพักฟื้นอยู่พอเดินมาถึงหน้าห้องมีป้ายชื่อ คิม แทยอน ก็เดินเข้าไปข้างในกันยุนอานึกได้ว่าเพื่อนผิวเข้มยังไม่รู้เรื่องเลยบอกทุกคนว่าจะโท.ไปบอกให้เอง #@#^&^$IP{)%^*)+$เสียงมือถือของยูริดังขึ้นเจ้าตัวก็รีบรับทันที “เออ!ว่าไง มีไรอีกหล่ะแก” ถามแบบงงๆเพราะเมื่อกี้เพิ่งจะคุยกันเสร็จ “(ไม่มีอะไรหรอก แค่จะบอกแกว่าไอแทมันออกมาอยู่ห้องพิเศษแล้วเท่านั้น ห้อง919 แค่นี้แหละไม่อยากกวนเวลาแกอยู่กับพยาบาลสุดสวย)” ยุนอาอธิบายที่เดียวเสร็จไม่ปล่อยให้ยูริได้ถามแล้วชิ่งวางสายทันทีแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง ด้านยูริที่ตอนนี้เหลือแค่เขาที่อยู่ในห้องนี้กับแค่พยาบาลสุดสวย เพราะพยาบาลที่ล้างแผลให้เมื่อกี้รีบไปช่วยคนไข้คนใหม่ที่เพิ่งถูกเข็นเข้ามาอาการรุนแรงกว่าเขามากเพราะรถชนกัน ห้องที่มีแต่กลิ่นยา กลิ่นคาวเลือดชวนอาเจียนไหนจะอากาศที่เย็นเจี๊ยบจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้เขารู้สึกเกร็งๆปากเริ่มซีดทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของเจสสิก้าเธอเลยตัดสินใจถามอย่างที่คิด “ยูล กลัวหรอคะ เห็นหน้าซีดเชียว” ด้วยกลัวจะเสียเชิงเลยบอกไปอีกแบบ
“ไม่ได้กลัวค่ะ แค่ไม่ชินไม่ค่อยได้เข้ามาในห้องแบบนี้ซักเท่าไหร่” ยิ้มแหยๆแถมไม่ยอมสบตากับเธออีก เจสสิก้าเมื่อได้ยินคำตอบก็แน่ใจเลยว่าเขากลัวแน่นอนแต่ปากแข็งคงจะกลัวเสียฟอร์มต่อหน้าเธอแน่นอน แต่หารู้ไม่ว่าระหว่างที่เธอคิดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปากให้คนผิวเข้มสังเกตเห็นได้ มันชั่งสวยและน่ารักในนาทีเดียวกันจริงๆ เลยเผลอพูดอะไรออกไป
”สิก้าน่ารักมากเลยนะคะตอนที่ยิ้มเนี่ยะ” เป็นคำพูดที่ทำให้เจสสิก้าได้เขินอายแต่อดแซวกลับไม่ได้ “งั้นถ้าสิก้าไม่ยิ้มก็แสดงว่าไม่น่ารักใช่มั้ยคะ” พร้อมทำหน้างอนๆใส่ยูริอีก
“ค่ะ ไม่น่ารักแต่สิก้าสวยเลยต่างหาก แค่ตอนยิ้มบวกความน่ารักสดใสขึ้นมาอีกก็เท่านั้น” รอยยิ้มหวานๆทั้งสายตาเยิ้มๆที่ส่งมาทำให้สาวผมบลอนด์เขินได้มากกว่าเดิมอีกคราวนี้หน้าแดงก่ำเลย ล้อเล่นกันได้ไม่นานคุณหมอพร้อมกับนศ.แพทย์อีก2คนเดินเข้ามาและตามด้วยพยาบาล1คนถืออุปกรทำแผลตาเข้ามาติดๆ ยูริกลืนน้ำลายดังเอื้อกที่เห็นอุปกรณ์ ได้แต่ปลอบใจตัวเองที่ตอนนี้เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วแต่ก็ต้องรู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่มีมือนุ่มๆของคนที่ยืนข้างๆเอื้อมมาจับมือเขาไว้
“ไม่ต้องกลัวนะคะ สิก้าจะอยู่เป็นเพื่อนยูลเอง” ยิ้มส่งให้เขาบ้าง “บอกแล้วไงคะว่าไม่ได้กลัว แค่ไม่ชิน” แก้ตัวออกมาแต่ไม่รู้เลยว่าน้ำเสียงที่ออกมามันช่างตรงข้ามกับคำพูดเพราะเสียงสั่นและเบามาก คุณหมอเดินเข้ามาดูบาดแผลและอธิบายอะไรไม่รู้ให้นศ.แพทย์2คนฟังทั้งจับแผล ยูริอยากบอกเหลือเกินว่าทำเบาๆไม่ได้หรือไงมันเจ็บแต่ได้แค่คิด เพราะตอนนี้ปากหนักเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา
“แผลไม่ใหญ่แต่ลึกเหมือนกัน” คุณหมอพูดแล้วมองหน้าเขาได้แต่พยักหน้ารับรู้
“จะเย็บสด หรือฉีดยาชาครับ” หัวใจจะวายถามมาได้เย็บสดหรือฉีดยาอยากบอกว่าเหลือเกินว่าไม่เอาทั้งนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ ต้องเลือกสักอย่างเพราะคุณหมอรอคำตอบจากเขาอยู่
*^*^... TO BE CONTINUE ...^*^*
ความคิดเห็น