ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic snsd] ღ.Yes! It's fate.ღ {TaeNy}

    ลำดับตอนที่ #7 : เดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 56


                ตอนเช้าอากาศสดชื่นเหมาะกับการเดินทางออกไปเที่ยวตามที่นัดกันไว้ตอนนี้แทยอนกับเพื่อนๆกำลังขับรถไปรับน้องซอที่คอนโดของเธอและเริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าไปพักผ่อนกันที่เกาะเชจูทันที  โดยระหว่างทางการเดินทางบนรถก็เสียงดังคิกคักของการแกล้ง หยอกล้อ เล่นกันตามประสาเพื่อนซี้ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่หมายก็เป็นเวลาบ่ายแก่แล้วทุกคนตื่นตาตื่นใจมาก นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้มาทะเลกัน หาดทรายสีขาวสะอาด ทะเลสีฟ้าน่าเล่นมากแต่ก่อนที่จะได้ไปเล่นก็ต้องเข้าบ้านพักเพื่อเก็บสัมภาระของแต่ละคนและแน่นอนว่าเป็นบ้านพักตากอากาศของซูยอง โดยทุกคนตกลงกันว่าจะนอนกันห้องละ2คนโดย ซูยองกับยุนอาห้องเดียวกัน  แทยอนกับยูริและฮโยยอนกับซอฮยอน  เมื่อเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสีดำกันหมดกับกางเกงขาสั้นสีเข้มเสร็จทุกคนก็พากันรีบวิ่งไปที่ชายหาดเพื่อไปเล่นน้ำทะเลกันทันที

    “ทะเลจ๋า ยูลคิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”  ยูริพูดกับทะเลด้วยความคิดถึงที่ไม่ได้มานาน

    “มันพูดยังกับทะเลเป็นแฟนมัน”  ซูยองพูดหันหน้าไปทางแทยอนกับยุนอา  “เออว่ะ!”  ยุนอาเห็นด้วยแล้วก็พากันหัวเราะกับการกระทำของยูริ  ทั้ง4คนก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานแต่ยังมีอีก2สาวที่ไม่เล่นน้ำด้วยโดยให้เหตุผลว่ากลัวดำ  ฮโยยอนเลือกที่นอนอาบแดดที่สระว่ายน้ำโดยมีซอฮยอนนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆกัน

       ทางด้าน3สาว ทิฟฟานี่ เจสสิก้า ซันนี่

                หลังจากที่ซันนี่ให้คนขับรถไปรับทิฟฟานี่กับเจสสิก้าแล้วทั้ง3ก็รีบมาที่สนามบินอย่างเร็วเพราะเหลือเวลาไม่มากเครื่องบินก็จะออกแล้วทั้ง3ตื่นเต้นมากโดยเฉพาะสาวตายิ้มที่จะได้กลับมาที่เกาหลีอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มา12ปี  โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเป้าหมายของเธอมาเพื่อขอเพียงพบหน้าแทแทของเธออีกสักครั้งว่าเขาเป็นยังไงบ้างแล้วเพราะเธอคิดถึงเขาเธอยังจดจำความทรงจำและความประทับใจครั้งนั้นอยู่เสมอ

    JS; “อีกกี่นาทีเครื่องออกอ่ะแก”  เจสสิก้าเอ่ยถามเพื่อนสาว  ซันนี่ดูเวลาแล้วค่อยบอกเพื่อน 

    SN; “อีก5นาทีแก เกือบไม่ทันเพราะแกปลุกเท่าไหร่ไม่ตื่นซะทีดีนะที่ทันถ้าตกเครื่องไม่ได้ไปแน่ เกาหลีเนี่ยะ”

    JS; sorryค่ะ  ก็เมื่อคืนตื่นเต้นอ่ะแกเลยนอนไม่ค่อยหลับ  ขอโทษนะแก”  ทุกคนพยักหน้าและยิ้มให้กัน

    TF; “เออ! ซันนี่ทำไมพี่ลีทึกถึงไม่มาพร้อมกับเราหล่ะ  ไหนบอกว่าพี่เขาต้องไปดูงานที่โซลไง?”

    SN; “พี่เค้าบอกว่าจะไปทีหลังเพราะพี่เค้าบอกจะรอไปพร้อมแฟน  ป่ะแกขึ้นเครื่องเถอะได้เวลาได้”

    แล้วทั้ง3ก็ขึ้นเครื่องกันเพื่อไปเกาหลี  บนเครื่องพวกเธอชวนกันคุยเรื่องนั่นเรื่องนี้(ชาวบ้าน)  ต่างๆนานาอย่างออกรสมาก  พวกเธอชวนกันคุยอยู่นานก็เริ่มหิวเลยทานอาหารบนเครื่องพอทานเสร็จก็นอนกันเพราะตื่นกันแต่เช้า  ผ่านไป3ชม.พวกเธอก็เริ่มตื่นกันทีละคนแน่นอนว่าเป็นทิฟฟานี่คนแรก ตามด้วยซันนี่ และเจสสิก้าสุดท้าย

    SN; “ฟานี่แกเล่าเรื่องรักแรกของแกให้ฟังต่อหน่อยซิ  ชั้นรอฟังอยู่นะ”                

    JS; “ชั้นฟังด้วยแก” 

    FN; “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแก  ก็เรื่องมันมีอยู่ว่าตอนชั้นเด็กๆประมาณซัก 7-8ขวบ  ชั้นกับพี่เลโอตามแด๊ดดี้มาเที่ยวที่เกาะเชจูเพราะแด๊ดต้องมาดูงาน  แต่ตอนนั้นชั้นเกิดหลงกับแด๊ดชั้นนั่งร้องไห้ตรงชายหาดตอนนั้นชั้นกลัวไปหมด ไม่รู้จะติดต่อกับแด๊ดดี้ยังไงชั้นไม่รู้จักใครเลย  พี่เลโอก็ไม่อยู่ชั้นกลัวมากกลัวสารพัดเลยแก  ชั้นเสียใจร้องไห้อยู่พักหนึ่งก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาเรียกชั้น  ชั้นจำได้ว่าเขาตัวขาวม๊ากขาวกว่าพวกเราอีก  ปากแดงแต่ไม่มีคิ้วหน้าตาน่ารัก  เขายิ้มให้ชั้นแล้วก็ถามชั้นว่าร้องไห้ทำไม  .#@#@$@@!!-*))_&TUI{P@#^*)+M{VE&()_+++_(&$$^*!@#$%^&@@!@%#&$[]]]994EH(K..........

    ทิฟฟานี่เล่าเรื่องของเธอในวัยเด็กให้เพื่อนสาวทั้ง2ฟัง  สีหน้าของเพื่อนทั้ง2ที่ได้ฟังก็ยิ้มให้กับความน่ารัก ใจดีของเด็กน้อยผิวขาวคนนั้นที่ช่วยเพื่อนของพวกเธอ  คุยกันได้สักพักก็งีบหลับกันต่อเพื่อเก็บแรงไปเที่ยวต่อจนเวลาบ่ายแก่พวกเธอก็มาถึงสนามบินที่โซล  และพวกเธอก็เลือกที่จะเดินทางต่อไปที่เกาะเชจูเพราะพวกเธอไม่อยากไปถึงที่นั่นดึกสักเท่าไหร่

       ทางด้านคิมแท&เดอะแก๊ง

                พวกเขาเล่นน้ำทะเลกันจนตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้วเห็นได้จากแสงจากดวงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าลงทุกทีพวกขึ้นจากน้ำและหันหน้ามองออกไปทางทะเลดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันและเมื่อ2สาวเห็นก็เดินมาสมทบ

    YA; “ทะเลตอนเย็นก็สวยดีนะ  พวกแกว่ามั้ย?”  หันหน้าไปถามเพื่อนๆ

    SH; “ซอก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะค่ะ อยู่แต่ที่โซลไม่ค่อยได้เห็นอะไรแบบนี้”  ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับซอฮยอน

    YR; “เฮ้ย! พวกเราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วว่ะ”  อยู่ๆยูริก็ถามขึ้นมา

    HY; “น่าจะ 14,15ปีแล้วมั้ง  เออ!พอคิดแล้วก็นานเหมือนกันนะแก”

    TY; “ชั้นว่าน่าจะ15นะ  เพราะตอนนั้นชั้นเพิ่งขี่จักรยานได้เลยขี่ไปเจอกับพวกแกแล้วเราก็เล่นด้วยกันไง?”

    SY; “คิดถึง bmx ของพวกเราเหมือนกันว่ะ  ถ้าไม่มีมันเราคงไม่ได้มาเป็นเพื่อนกันจนทุกวันนี้”

    YA; “เออจริงว่ะ  พอพูดก็คิดถึงทุกที แก๊งbmx ของเรา  555”  แล้วทุกคนก็หัวเราะกันเล่นวิ่งไล่จับกันไปมา บ้างก็ผลัดจับกันโยนลงทะเล  สาดน้ำใส่กันบ้าง  แตเล่นกันแค่4คนไม่ค่อยจะสนุก  พอซุบซิบกันเสร็จต่างก็พากันมองไปที่ฮโยยอนและซอฮยอนที่ยังตัวแห้งไม่เปียกน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว  เว้นแต่ที่เท้าเพราะพวกเธอแค่เดินเล่นที่ชายหาดกันอย่างเดียว  เมื่อเห็นอย่างนั้นไอนิสัยชอบแกล้งเพื่อนที่อยู่ในตัวของทุกคนก็แสดงออกมาทันทีโดยแบ่งหน้าที่กันว่า ยูริ ซูยอง จัดการฮโยยอนเพราะแรงเยอะ ส่วนแทยอน ยุนอา จัดการซอฮยอนเสร็จแล้วก็รีบวิ่งไปหา2สาวไม่ให้ทันได้รู้ตัวโดยที่ ยูริช้อนแขนทั้ง2ข้างของฮโยไม่ให้ขยับ ซูยองจับขาแล้วก็รีบพากันไปที่ทะเลแล้วโยนฮโยลงแบบไม่ใยดี  ฮโยยอนทำได้เพียงชี้หน้าอาฆาตเพื่อนทั้ง2แล้วก็สาดน้ำทะเลใส่ไม่หยุดทั้งยังวิ่งไล่ตีเพื่อนอีก  ส่วนซอฮยอนก็ไม่แพ้กันก็โดนแทยอนกับยุนอาลางลงทะเลก็โดนสาดน้ำทะเลใส่จนเปียกแล้วพวกเขาทั้ง6ก็เล่นน้ำ(สงครามกลางทะเลขนาดย่อม)กันอย่างสนุกสนาน  ท่ามกลางสายตาผู้คนบริเวณนั้นที่มองพวกเขาเล่นกันอย่างเอ็นดูในความน่ารักความเป็นเพื่อนของพวกเขา  แน่นอนว่าความน่ารักของพวกเขาไม่พ้นสายตาของเธอทั้ง3ไปได้  พวกเธอที่กำลังออกมาเดินรับลมเล่นกันหลังจากเช๊คอินเข้าที่พักได้ไม่นานก่อนจะไปหาอะไรทานกัน  พวกเธอเดินไปคุยไปปนเสียงหัวเราะแห่งความสุขเล็กน้อยตามประสาเพื่อนรักกัน(ม๊าก)      ส่วนเดอะแก๊งหลังจากทำสงครามเสร็จก็เริ่มชักหิวกันแล้วจึงพากันขึ้นจากทะเลแต่ก่อนจะได้ขึ้นพวกเขาหันหน้าออกมองไปทางทะเลอีกครั้ง  พวกเขายืนกอดคอเรียงกันมองแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้วยกัน

    YR; “สัญญานะเว้ยว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนรักกันแบบนี้ตลอดไป”  พร้อมทำหน้าจริงจังให้เพื่อนได้ยิ้มกัน

    YA; “เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปจากวันนั้น  วันนี้  วันต่อไปจนวันตาย”  ทำหน้าจริงจังเสริมเรียกรอยยิ้ม

    SY; “อะไรก็มาเปลี่ยนแปลงความเป็นเพื่อนของเราไม่ได้  แม้ตายเราก็จะยังเป็นเพื่อนกัน”

    TY; “ซึ้งว่ะ! แต่ถ้าชั้นสูงเท่าพวกแกก็คงจะดีกว่านี้  ชั้นกอดคอพวกแกไม่ถึง”  ทำท่ากระโดดกอดคอเพื่อน

    HY; “ซึ้งก็ได้ย่ะ! แต่ชั้นสวยสุดหรือพวกแกจะปฎิเสธส่วนน้องซอพี่ยอมให้น่ารักละกัน  เพราะสวยกับน่ารักมัน  ต่างกันมากอยู่” 
           พอสิ้นเสียงก็มีแต่เสียงโห่ของบรรดาเพื่อนแสบทั้ง
    4ล้อเธอแต่เว้นน้องซอที่ยิ้มหวานให้

    SH; “ซอเป็นเพื่อนกับพวกพี่ไม่ได้แต่ซอขอเป็นน้องของพวกพี่ตลอดไปละกันนะคะ” พร้อมยิ้มหวานให้พวกพี่ๆ
    (ALL); ”แน่นอนอยู่แล้ว 555”  แต่ทุกคนก็ต้องหยุดหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำพูดบางอย่าง

    YA; “แต่พี่ไม่อยากให้น้องซอเป็นน้อง  แต่ขอน้องซอเป็น แ--น ได้มั้ยอ่ะพี่จีบมา2ปีแล้วนะ”  ค่อยๆสะกดที    

    ละตัวให้ซอฮยอนฟังพร้อมทำหน้าแอ๊บแบ๊วแถมเอานิ้วมาจิ้มที่ไหล่ซอฮยอนอีก  พร้อมเสียงโห่ร้องของเพื่อนที่ดังขึ้นทันที  แถมยังโดนทั้งขยี้หัวแล้วสาดน้ำใส่แล้วพวกเขาก็พากันขึ้นบ้านพักเหลือแต่ยุนอากับน้องซอ

    YA; “น้องซอพี่พูดจริงนะ  ไม่เห็นใจพี่บ้างหรอคะ”  ยุนอาทำตาปิปๆให้ดูน่าเห็นใจที่สุด

    SH; “เห็นใจค่ะ  แต่ยังไม่ตกลงรอให้โตกว่านี้ก่อนนะคะ ตอนนี้เราเรียนกันให้จบก่อนดีกว่าค่ะ”

    YA; ok ก็ได้พี่จะรอวันที่ซอเรียนจบแล้วเราจะเป็นแฟนกันทันที ตกลงตามนี้”  เอื้อมมือไปจับมือซอฮยอนมากอบกุมไว้ตรงหน้า เพื่อให้รู้ว่าที่เขาพูดจริงจังมากแค่ไหน

    SH; “ถ้าพี่ยุนรอได้ถึงวันนั้นจริงๆก็ okค่ะ”  ทั้งคู่มองหน้า ยิ้มให้กันแล้วพากันเดินขึ้นบ้านพักเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปทานอาหารค่ำกับบรรดาเพื่อนที่รออยู่  และทันทีที่เข้าบ้านพักก็ได้ยินเสียงเอ่ยแซวจากเพื่อนผิวเข้มทันที

    “ชั้นนึกว่าแกจะลักพาตัวน้องชั้นไปซะแล้ว”  และก็ไม่ต้องรอคำตอบนานยุนอาก็รีบสวนกลังทันควัน  “รักจริงหวังแต่งว่ะ!

    และนั่นก็เป็นผลให้อีกคนที่ได้ยินหน้าแดงขึ้นมาแต่ก่อนจะให้คนอื่นรู้ไปมากกว่านี้  ก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องของตัวเองทันทีแต่ที่ไหนได้พอกลับเข้ามาดันเจอฮโยยอนที่ยืนไดร์ผมอยู่แซวเหมือนกัน  “นึกว่าไอยุนจะไม่ปล่อยมาแล้ว  เห็นมันบ้าๆแบบนี้แต่มันรักใครรักจริงน๊า”  แล้วหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มให้น้องสาวที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ  ตอนนี้ทุกคนรอน้องซอคนเดียว(อาบน้ำช้าสุด)  อยู่ที่ห้องนั่งเล่นสักพักซอฮยอนก็ลงมาพวกเขาก็เริ่มออกไปหาอาหารค่ำทานกัน  โดยที่พวกเขาเลือกที่จะมาทานอาหารกันที่ร้านบริเวณแถวชายหาดด้วยเหตุที่ว่า  ใกล้ที่พัก  กินมากแต่จ่ายไม่แพง(อร่อย)  มาทะเลต้องกินริมชายหาดถึงจะเรียกได้ว่ามาทะเลจริงๆ  ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดทุกคนเห็นด้วยกันหมดทุกคน

                ทางด้าน3สาว  พวกเธอเดินเล่นชายหาดกันจนตอนนี้แสงอาทิตย์ได้ลาลับขอบฟ้าแล้ว พวกเธอชักจะหิวกันหลังจากที่พวกเธอเดินทางมาถึงที่นี่ก็ยังไม่ทานอาหารเลย  เก็บของเสร็จก็รีบมาเดินเล่นเพราะมันก็เย็นแล้วพวกเธออยากดูพระอาทิตย์ตกทะเลกัน  แต่พวกเธอยังตกลงกันไม่ได้เลยว่าจะทานอะไร  และที่ไหนกันดี

    SN; “พวกแกชั้นหิวแล้วนะ  สรุปเราจะกินอะไรดีหล่ะ!”  น้ำเสียงเหมือนคนจะหมดแรงจริงๆเพราะหิวมาก

    JS; “กินที่โรงแรมมั้ยแก  สะดวก ง่าย สะอาดดี”  เจสสิก้าออกความคิดเพราะปกติเธอไปที่ไหนมักจะกินอาหารที่โรงแรม

    SN; “ไม่เบื่อหรอแก  ไปเที่ยวที่ไหนก็กินแต่ที่โรงแรมอ่ะ”  เพราะเบื่ออาหารจากโรงแรมกินที่ไหนก็ได้  นานๆมาทะเลทั้งที

    JS; “แล้วแกมีที่ไหนที่ดีกว่านี้บ้างหล่ะ  ชั้นคิดไม่ออกหรอกนะ  เพราะชั้นว่าที่โรงแรม Okสุดแล้ว”  ตอบตามที่คิด

    FN; “อืม..งั้น ชั้นว่าเราไปหาอาหารทะเลตามร้านริมชายหาดกันมั้ย  ไหนๆก็มาทะเลกันทั้งที  ได้บรรยากาศด้วย”

    SN; “ดีมากฟานี่  เป็นไอเดียที่บรรเจิดสุด”  เอ่ยทั้งยังปรบมือเป็นการบอว่าถูกใจมาก

    JS; “เห็นด้วยแก  ตามนั้นเลยชั้นก็อยากลองกินอะไรที่ไม่ใช่ของแรมบ้างเหมือนกัน”

    ทั้ง3สาวก็เดินตามชายหาดไปเรื่อยๆเพื่อหาร้านอาหารทานกัน  จนมาถึงร้านที่ดูเหมือนคนจะเยอะเป็นพิเศษแถมอากาศก็ถ่ายเทมีลมทะเลเย็นๆพัดเข้ามาเรื่อยๆ  เพราะเป็นร้านที่เปิดโล่ง  พวกเธอตัดสินใจเดินเข้าไปทานอาหารร้านนั้นเพราะคิดและลงความเห็นกันแล้วว่าดูจากผู้คนที่เข้ามาทานกันจำนวนมากอาหารต้องอร่อยแน่  “มีโต๊ะว่างมั้ย?คะ”  ทิฟฟานี่ถามเด็กเสิร์ฟของร้าน  เด็กหนุ่มเห็นสาวตายิ้มก็ค้างชั่วขณะคิดแต่ว่าผู้หญิงอะไรทั้งสวย  น่ารัก  หน้าหวานม๊ากก่อนจะถูกถามอีกครั้ง  “อ๋อ! เออ มีครับ  กี่ที่คับ”  เขาตอบติดๆขัดๆไม่กล้าสบตาเท่าไหร่เพราะเขาเขินมาก  “3ที่ค่ะ”  ตอบสั้นและยิ้มให้เขาแต่หารู้ไม่ว่ายิ้มนั้นมันชั่งน่าหลงใหลเหลือเกิน  เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มเขินๆคืนกลับ  “งั้นเชิญด้านนี้เลยครับ”  พวกเธอก็เดินตามเด็กเสิร์ฟไปยังโต๊ะที่พวกเธอจะทานข้าวกัน  จนมาถึงที่โต๊ะเขายื่นเมนูอาหารให้พวกเธอดูแล้วจดรายการอาหารที่สั่ง  ระหว่างนั่งรออาหารพวกเธอก็ชวนกันคุยถึงบรรยากาศร้าน  ผู้คน  ทะเล  ล้วนแล้วแต่น่าตื่นเต้นกับการมาเที่ยวกันครั้งนี้และแน่นอนการทานอาหารครั้งนี้ต้องมีแอลกอฮอล์เพิ่มรสชาติในการดื่มด่ำกับธรรมชาติ  เวลาไม่นานนักอาหารที่พวกเธอสั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟทีละอย่าง2อย่าง  พวกเธอทานอาหารกันอย่างอร่อยท่ามกลางเสียงคลื่นทะเลย  ผู้คนก็เข้าออกอยู่เรื่อยๆแต่ก็ไม่ได้สร้างความรำคาญใจแก่พวกเธอสักเท่าไหร่เห็นจะมีก็แต่ซันนี่ที่บ่นอยู่คนเดียว  “พวกไม่มีมารยาทส่งเสียงดังอยู่ได้”

    “ไม่เห็นเป็นไรไปพวกเขาคงจะสนุกกัน  อีกอย่างก็ไม่ได้ดังซักเท่าไหร่นี่”  ทิฟฟานี่เอ่ยบอกในๆว่าให้เพื่อนเธอใจเย็นขึ้น  “ชั้นฟังมานานแล้วเสียงดังไม่พอ  ยังโวยวายกันอีก  เสียบรรยากาศชะมัด”  ยังไม่วายบ่นต่อเพราะตอนนี้หงุดหงิดเหลือเกิน

    “พูดมากเดี๋ยวพวกเขาได้ยินเราอาจจะซวยนะแก  เขามีมากกว่าเรา2เท่าได้มั้ง  เงียบๆไปเลยรีบๆกินจะได้รีบกลับไปนอน  เหนื่อยมากแล้วนะแก  พรุ่งนี้มีอะไรน่าทำอีกตั้งมาก”  หลังจากที่เจสสิก้าทนฟังเพื่อนสาวตัวเล็กบ่นมานานก็พูดซะบ้างจะได้หยุดบ่นและแน่นอนทิฟฟานี่เห็นด้วยที่สุด  ซันนี่ก็จำใจทำตามที่เพื่อนบอกแต่กินต่อได้ไม่กี่คำเสียงที่น่ารำคาญสำหรับเธอก็ดังขึ้นอีก  แต่ครั้งนี้ทำให้ทั้งเจสสิก้าและทิฟฟานี่ชักเริ่มรำคาญด้วย  เพราะตอนนี้คนในร้านเริ่มบางตาเหลือไม่กี่โต๊ะประเมินจากสายตาสาวตายิ้มน่าจะประมาณ10กว่าโต๊ะแต่ก็สามารถมองเห็นกันอย่างทั่วถึง  เว้นแต่โต๊ะข้างๆที่ห่างกันไม่กี่โต๊ะซึ่งเป็นแหล่งเสียงอันน่ารำคาญสำหรับพวกเธอ  แต่ขณะนั้นกลุ่มคนที่นั่งทานอาหารระหว่างโต๊ะของพวกเธอและพวกเขาก็ทานเสร็จเด็กเสิ่ร์ฟมาเก็บโต๊ะทันที  ตอนนี้พวกเธอเห็นพวกเขาแล้วแถมยังมองไม่วางตาอีก 

    “ผู้หญิงทั้งโต๊ะแต่ส่งเสียงเอะอ่ะโวยวายอย่างกับผู้ชายเสียมารยาท”  ซันนี่พูดทันที่ที่เห็นว่าพวกเขาเป็นผู้หญิงทั้งนั้น

    “คงจะสนุกกันน่าดูนะ  ดูซิเล่นไปพูดไปกินไป  อะไรมันจะเฮฮากันขนาดนั้น”  เจสสิก้าเหน็บแนมเสริมขึ้นมา

    “คงจะสนุกกันตามประสาเพื่อนอย่าไปใส่ใจเลยแก  รีบกินเถอะจะได้รีบไป  เริ่มง่วงแล้ว”  ทิฟฟานี่ปรามเพื่อนสาวทั้ง2เพราะเพื่อนของเธอเล่นจ้องพวกเขาแบบไม่วางตา  ถ้าพวกเขาโมโหพวกเธอจะซวยคนก็น้อยกว่าครึ่ง  ไหนจะไม่ใช่คนที่นี่อีกมีแต่จะเสียเลยรีบเร่งเพื่อนสาวให้รีบๆทาน  ทั้ง2ก็ว่าง่ายรีนบทานเพื่อนที่จะไปให้พ้นเสียงน่ารำคาญนี้ซักที  แต่อีกไม่นานพวกเธอก็ต้องสะดุ้งตัวเพราะกลุ่มคู่กรณีเริ่มเสียงดังขึ้นมาอีกแต่ครั้งนี้ดังกว่าเดิมม๊าก  จนซันนี่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

    “ไม่กงไม่กินมันเสียงดังขนาดนี้”  เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเพื่อนสาวแล้วตบโต๊ะอย่างแรงและดังมากพอให้โต๊ะกรณีได้ยินและหันมามองเธอ  “น้องเช๊คบิลด้วยค่ะ”  เด็กเสิร์ฟคนเดิมรีบวิ่งมาและคิดเงินพวกเธอแต่ก็ต้องสงสัยเพราะอาหารที่พวกเธอสั่งมายังทานไม่หมดตั้งหลายอย่างและที่ยังไม่มาเสิร์ฟอีก    แล้วพวกเธอทำไมรีบอิ่มกันจังเลยถามกลับด้วยความสงสัย

    “อิ่มแล้วหรอครับ  อาหารยังมาเสิร์ฟไม่หมดเลยนะครับ  อีกอย่างอากาศก็กำลังสบายตอนนี้คนก็ไม่แน่นแล้วด้วย  ไม่ทานต่อหรอครับ”  เด็กหนุ่มพูดซะยืดยาวแต่ยังไม่ทันจะพูดจบเสียงเล็กๆแสบหูก็ดังขึ้นอย่างอารมณ์เสียทันที

    “เสียงดัง  บรรยากาศเสียแบบนี้จะทานต่อได้ยังไง”  พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังออกแนวประชดโต๊ะข้างๆและมีหรอที่พวกเขาจะไม่รู้แต่ไอคนตัวสูงๆที่สุดเหมือนจะกวนประสาทเธอ  ทำเสียงดังกว่าเดิมจนเธอต้องรีบออกจากร้านเพราะไม่อยากจะมีเรื่อง

    และเจสสิก้าก็รีบลุกตามเพื่อนสาวตัวเล็กทันทีเพราะเธอก็เริ่มชักทนเก็บอารมณ์หงุดหงิดไม่ไหว  ยืนรอเพื่อนสาวตายิ้มเคลียร์ค่าอาหารที่ถูก  อร่อยมากสำหรับพวกเธอเสียอย่างเดียวบรรยากาศอันน่ารำคาญของพวกนั้นไม่น่ามีเลยจริงๆ

                ทางด้านเดอะแก๊ง  เหมือนพวกเขาจะรู้ตัวว่าสร้างความไม่พอใจให้กับโต๊ะสาวสวยทั้ง3มากอยู่  เห็นได้จากอาการของพวกเธอและไหนจะคำพูดอีก  พวกเขาก็รู้สึกไม่ดีที่ไปรบกวนบรรยากาศดีๆในการรับประทานอาหารของพวกเธอ  เว้นก็แต่ซูยองที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกลับไปกวนประสาทเขาเพิ่มอีก  ดีนะที่เป็นผู้หญิงท่าเป็นผู้ชายละก็พวกเขาคงเละเป็นแน่

    SY; “ซะใจยัยนั่นชะมัด  พวกแกเห็นมั้ยวีนแตกหนีไปแล้ว  ทำเป็นรำคาญคนกำลังมีความสุข  สมน้ำหน้า 555

    TY; “แทนที่แกจะสำนึกพวกเราทำให้เขาไม่พอใจ  เสียมารยาทำลายบรรยากาศในการทานอาหารของพวกเค้านะ”

    SY; “แล้วไง  ใครสนไม่ได้เป็นไรกัน  แกอย่าใส่ใจมากได้ป่ะ”  เป็นซูยองวันยันค่ำที่ไม่สนใครนอกจากตัวเองและเพื่อน

    เท่านั้นหรือคนในครอบครัวของเขาเท่านั้น  แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับคนในกลุ่มกับนิสัยไม่สนใครของเขา

    YR; “แต่เกรงใจหน่อยก็ดี  มารยาทนะรู้จักมั้ย?  ป่านนี้เค้ามองพวกเราเป็นคนไม่ดีไปแล้วมั้ง”  เอ่ยพลางส่ายหัว

    YA; “กลัวแม่สาวผมบลอนด์คนนั้นมองเป็นคนไม่ดีงั้นสิ  เห็นแกมองอยู่ได้”  พูดตามที่เห็นว่าตลอดทานข้าวเพื่อนผิวเข้ม

    ของเขาแอบมองสาวผมบลอนด์โต๊ะข้างๆอยู่ตลอด  สวยน่ะแต่ติดหยิ่งๆดูเย็นชาไปหน่อย(ไม่น่ารักเหมือนน้องซอ)

    YR; “แกจะบ้าหรอ  ชั้นมองที่ไหนแค่มองไปเรื่อยๆอย่ามั่วดิว่ะ”  รีบปฎิเสธทันทีที่ยุนอาพูดทันทีเพราะไม่อยากโดนแซวแต่

    เขาก็ว่าวางตัวนิ่งๆไม่เอะอ่ะโวยวายตามเพื่อนร่างสูงแล้วนะ  คนสวนผมบลอนด์จะเห็นมั้ยไม่รู้ว่าเขาไม่ได้เอะอ่ะ

    TY; “อย่าเถียงเลยท่าทางแกออกซะขนาดนั้นทำท่านิ่งๆ  เงียบๆไม่ค่อยพูดมากเก๊กๆ  วางมาด  นี่แหล่ะแกเวลาเจอหญิง” 

    YA; “เออว่ะ!  จริงอย่างที่ไอแทบอกชั้นลืมนึกไปว่าอยู่ทำไมมันนิ่ง เงียบ ไม่เฮฮาพูดมากเหมือนปกติ”  พูดเสิรมแทยอน

    SY; “ไม่เห็นจะน่าสนใจซักคน ไม่เห็นสวยเลย  เตี้ยก็เตี้ย  เสียงก็แหลม  รำคาญรูหู  สู้เด็กในสต๊อกชั้นก็ไม่ได้”  ทำท่า

    ส่ายหัวพลางดื่มน้ำที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ใส่ปากจนหมดแก้ว  ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆแล้วทั้งหมดก็หัวเราะใส่เขา

    YA; “ขอให้แกได้แฟนหรือไม่ก็เมียแบบที่แกพูดเมื่อกี้เลยละกันนะเพื่อน แบบเปะๆเลย”  พลางตบไหล่ซูยอง

    SY; “พูดบ้าอะไรของพวกแกว่ะ  ไม่มีทางที่ชั้นจะมีเมียแบบนั้นเด๊ดขาด”  เริ่มหงุดหงินในการแช่งของเพื่อน

    YR; “แน่ใจหรอว่ะที่พูดนะ”  ยังไม่เลิกแซวเพื่อนตัวสูงจนคนเดินแซวลุกไปเข้าห้องน้ำ

    TY; “จำคำพูดแกนะเว้ย 555”  พูดตามหลังซูยองทั้งหมดหัวเราะพร้อมกัน

    SH; “หัวเราะอะไรกันหรอค่ะ  บอกซอบ้างซิ”  ถามเพราะไม่เข้าใจว่าพวกพี่ๆหัวเราะอะไรกัน

    HY; “นั่นซิ พวกแกหัวเราะอะไรชั้นกับน้องหรือป่าวย่ะ”  ยังจ้องหน้าเพื่อนไม่เลิกเพราะคิดว่าหัวเราะเธอและน้องที่มัวแต่กิน

    YR,TY,YA ; “เปล่าไม่มีอะไรหัวเราะไอซูมันเฉยๆ  แกรีบกินเถอะจะได้รีบกลับไปนอนกัน”

    HY; “แล้วไป  ชั้นนึกว่าพลาดอะไรไปซะแล้วเห็นพวกแกหัวเราะเสียงดัง  เอะอ่ะโวยวายดังเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว(ชิน)”

    เพราะชินกับอาการของเพื่อนเลยไม่ได้สงสัยว่าเกิดเรื่องกับพวกเขาทั้ง4  และเธอก็ไม่รู้เรื่องที่พวก4แสบไปสร้างความไม่พอใจให้สาวสวยโต๊ะข้างๆ  ไม่งั้นถ้าเธอรู้มีหวังพวกเขาโดนด่ายับแน่  หลังจากที่พวกเขาทานเสร็จแล้วซูยองเคลียร์ค่าอาหารที่ไม่แพง  อร่อย  อิ่มท้องอย่างที่พวกเขาต้องการแล้วก็เดินกลับบ้านพักเพื่อพักผ่อนเตรียมรับมือกับวันพรุ่งนี้

     

    จบตอนแล้ว...To Be Continue … ^

    ที่นั่งทานอาหารเพื่อความชัดเจนยิ่งขึน


    SH  YA  SY               SN

    HY  TY  YR               JS  TF


     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×