คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : จบสักที
เมื่อแน่ใจกันแล้วว่าสัมพันธ์สวาทของคนทั้งคู่ได้สิ้นสุดลงแล้วพวกเธอก็ออกจากห้องตัวเองเพื่อจะไปที่ห้องชีวอน
หน้าห้องชีวอน “ฟานี่แกพร้อมแล้วนะ” เจสสิก้าถามความมั่นใจของเพื่อนสาว ทิฟฟานี่ได้แต่พยักหน้าบอกว่าเธอพร้อม
…ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ… “ใครมันมาขัดจังหวะว่ะ!คนกำลังหลับสบายเชียว” ชายหนุ่มบ่นด้วยความรำคาญด้วยความเพลียจากกิจกรรมรักที่เพิ่งสิ้นสุดลงหยิบได้ผ้าขนหนูมานุ่งปิดบังส่วนล่างแล้วเดินไปเปิดประตู และทันทีที่เปิดประตูชายหนุ่มตกใจสุดๆทำหน้าไม่ถูก อยากจะหายไปจากจุดนี้เมื่อเห็นหน้าแฟนสาวยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ทันจะได้พูดอะไรกันหญิงสาวทั้ง3ก็ดันชายหนุ่มเข้าไปในห้องโดยไม่ปิดประตู(แบบประจาน) พวกเธอทั้งหมดมองไปทางผู้หญิงที่นั่งมองพวกเธอเหมือนอยากจะถามว่าพวกเธอเป็นใคร สภาพของคนทั้ง2ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำอะไรมาและชีวอนคงพูดไม่ออกเพราะเห็นๆกันอยู่
“พี่ชีวอนทำงานอยู่หรอค่ะ” ทิฟฟานี่ถามชีวอนตามที่เค้าเคยบอกเธอไว้ชายหนุ่มยืนนิ่งไม่พูดอะไร “พี่ขอโทษครับ”
“ไม่ต้องทำเป็นพูดดีไปหรอกค่ะพี่ชีวอน” เจสสิก้าไม่เชื่อคำขอโทษจากเขา “อุตส่าห์ทำตัวแสนดีให้เชื่อใจสุดท้ายก็…”
ซันนี่เว้นวรรคไม่พูดต่อพร้อมกรอกตาไปมา “พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นนะครับเขายั่วพี่ก่อน พี่เป็นผู้ชายนะ”
ชีวอนเถียงกลับทั้งๆที่ก็รู้ว่าตัวเองผิดหวังให้แฟนสาวหายโกรธและให้อภัย ฝ่ายผู้หญิงที่อยู่บนเตียงพอได้ยินที่ชีวอนโยนเรื่องมาให้ก็โกรธก็ในเมื่อเขาเป็นคนนัดให้เธอมาหาเอง “คุณเป็นคนโทรให้ฉันมาหาเองนะทำไมพูดแบบนี้ ไหนบอกว่ารักชั้น คิดถึงชั้นมากไหงล่ะ คุณโกหกหรอ?” ทันทีที่สิ้นสุดเสียงของหญิงสาวชีวอนรีบปฎิเสธทันที “พี่ไม่ได้ชวนเธอโกหกครับ”
เขาบอกปัด “คุณนี่มันเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้เลยอยากได้ก็โทรไปพอหมดความต้องการก็ไล่ ชั้นไม่น่าหลวมตัวกับคุณเลยไหนคุณบอกว่ารักชั้นคนเดียว ผู้หญิงคนนั้นคบเพราะพ่อแม่ให้คบเพื่อธุรกิจไง คุณบอกคุณไม่ได้รักเค้าแสดงว่าคุณโกหก”
พร้อมชี้ไปทางทิฟฟานี่แล้วรีบลุกพร้อมหยิบเสื้อผ้าตามพื้นห้องเดินเข้าห้องน้ำเพื่อใส่เสื้อผ้า 3สาวมองดูเหตุการณ์ทะเลาะกันเองระหว่างทั้งคู่และสุดท้ายก็มองชีวอนด้วยสายตาที่ผิดหวัง ไม่ทันที่ชีวอนจะได้พูดก็ต้องชะงักในสิ่งที่ทิฟฟานี่พูด
“พี่ชีวอนไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะ เรื่องของเราขอให้มันจบและสิ้นสุดตอนนี้เลยนะคะ ฟานี่เสียใจที่เชื่อใจต่อจากนี้เราไม่ใช่แฟนหรือคนรักกันอีกต่อไปแล้ว จะเป็นก็แค่พี่ชีวอนที่ฟานี่รู้จักเพราะอย่างน้อย2ปีที่ผ่านมาพี่ก็ทำตัวดีกับฟานี่”
ทิฟฟานี่รีบพูดไม่ให้ชีวอนได้มีโอกาสได้พูดแก้ตัวเพราะเธอตั้งใจที่จะตัดความสัมพันธ์นี้อยู่แล้ว แล้วเธอก็ยื่นมือถือให้เขาดู
“ลองเอานี่ไปดูนะคะ เพื่อจะนึกขอแก้ตัวออก” ชีวอนกดโทรศัพท์ดูเห็นว่าเป็นคลิปวีดีโอพอกดเข้าไปดูก็ต้องตกใจ ตาโต ก็มันเป็นภาพตั้งแต่เขาจูบกับผู้หญิงคนนั้น ขับรถพากันมาที่ม่านรูดทั้ง ชื่อ ป้ายทะเบียนรถ เลขที่ห้อง เวลา มันถูกต้องเขาไม่มีข้อแก้ตัวอะไรเลยแค่รู้สึกเสียดายที่โดนจับได้ เขาอุตส่าห์ปิดบังมาตั้งนานก็จริงอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นบอกเขาไม่ได้รักเธอคบเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่เขาคิดได้ว่าถ้าเลิกกันเขาจะเสียหน้าทางธุรกิจไหนจะชื่อเสียงเงินลงทุนอีกทิฟฟานี่ช่วยเขามาตลอดจึงพยายามหาคำพูดให้หญิงสาวหายโกรธ
“น้องฟานี่ครับพี่ขอโทษ พี่เป็นผู้ชายมันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้บ้างแต่จากนี้ไปพี่สัญญาคับว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ให้อภัยพี่เถอะนะครับพี่ขอโทษจริงๆ”
เขาพยายามพูดขอร้องให้น่าเห็นใจที่สุด “พี่ยังมีหน้าให้ยัยฟานี่ให้อภัยอีกหรอคะ พี่เห็นว่าเราโง่กันนักหรอ” ซันนี่เคืองกับคำพูดของชีวอนมากเพราะมันช่างเห็นแก่ตัว แต่ทุกคนก็ต้องหยุดคุยกันอีกครั้งเมื่อผู้หญิงคนเดิมออกมาจากห้องน้ำหยิบกระเป๋าเพื่อจะออกจากห้อง แต่ก่อนที่จะออกจากห้องเธอหันไปพูดกับทิฟฟานี่ “ชั้นว่าคุณน่าจะตาสว่างได้แล้วนะ”แล้วเธอก็เดินออกไปโดยไม่หันมามองชีวอนเพราะตอนนี้เธอเกียจที่เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากและแถมยังโยนความผิดให้เธออีก
“พี่ขอโทษครับ พี่รักฟานี่มากนะครับ ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งนะครับ” พร้อมส่งมือทั้ง2ไปกอบกุมมือบางมาจับไว้ตรงหน้า
“ถ้าพี่รักฟานี่จริงคงไม่ทำแบบนี้หรอกค่ะ แบบนี้หรอคะที่เรียกว่ารักพวกเราไม่โง่นะคะที่จะดูไม่ออก” เจสสิก้าโมโหมาก
“พี่ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ฟานี่ให้อภัยพี่ตั้งนานแล้วค่ะ…” ไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะพูดจบชีวอนพุ่งเข้ากอดเธอพูดแต่ขอบใจที่เธอให้อภัยเขา 2เพื่อนสาวมองหน้าเธออย่างตำหนิที่ให้อภัยเขาและยอมเขาง่ายๆพวกเธอไม่เข้าใจแต่ไม่นานพวกเธอก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนสาวจะพูด ”ค่ะฟานี่ให้อภัยพี่ แต่ไม่ใช่ในฐานะคนรักหรือแฟนนะคะ แต่เป็นแค่พี่ที่ฟานี่รู้จัก” ชีวอนนิ่งไปชั่วครู่ส่วน2เพื่อนสาวที่ยิ้มให้เธอเหมือนจะบอกว่าดีใจที่เธอไม่โง่ “ฟานี่ก็ต้องขอบคุณพี่ที่ทำให้ฟานี่รู้ว่าจริงๆแล้วฟานี่เองก็ไม่ได้รักพี่ ฟานี่ไม่เสียใจกับการกระทำของพี่เลยแม้แต่น้ำตาสักหยดยังไม่ยอมไหลเลย แค่เสียดายเวลาที่ผ่านมา”
ชายหนุ่มยืนเงียบไม่พูดอะไรเพราะไม่มีคำแก้ตัวที่จะรั้งเพราะหลักฐานในมือมันมัดตัวแน่นมากดิ้นยังไงก็มไม่หลุด
“ลาก่อนนะคะ” ทิฟฟานี่โบกมือให้เขาก่อนจะเดินออกจากห้องไปยังรถของพวกเธอตามด้วยซันนี่ และเจสสิก้าก่อนออกจากห้องเดินเข้าไปหาชีวอนพร้อมเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ในมือของชีวอนคืน “อันนี้ขอคืนนะคะ ส่วนคลิปลบให้ทันทีค่ะไม่อยากเก็บไว้เปลืองเมม” พร้อมชูโทรศัพท์ให้เขาดูว่าเธอลบคลิปแล้วก็เดินออกไปขึ้นรถที่เพื่อนรอและขับออกไปทันทีโดยที่ซันนี่เป็นคนขับ(รถซันนี่)
“ฟานี่ตอนนี้แกรู้สึกยังไงบ้างอ่ะ” เจสสิก้าถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน “ก็สบายดีไม่ได้เป็นไรโล่งใจยังไงไม่รู้ซิที่ไม่มีแฟน”
SN: “ดีงั้นพรุ่งนี้เราไปเที่ยวเกาหลีกัน พี่ชั้นจะไปดูงานที่โซลพอดี เราก็ตามแล้วแยกไปเที่ยวกันเองดีมั้ยแก”
JS: “แล้วจะไปเที่ยวที่ไหนหล่ะ ชั้นอยากไปทะเลนะแก” พร้อมทำท่าคิดเพราะพวกเธอก็ไม่ได้กลับไปนานมากแล้ว
TF: “ไปเกาะเชจูกัน ที่นั่นทะเลสวยชั้นไม่ได้ไปอีกเลยตั้งแต่แม่เสียอยากกลับไปอีกครั้งจัง” พร้อมกับหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถทำให้เพื่อนๆสงสัยว่าเธอเป็นอะไร
JS: “ฟานี่แกมีอะไรหรือป่าว?” ทนสงสัยอาการของเพื่อนสาวไม่ไหวเลยเอ่ยปากถาม
TF: “ชั้นมีความทรงจำดีๆตอนที่ยังเด็กอยู่ที่นั่น และฉันอยากเจอเค้าอีกสักครั้ง” แล้วยิ้มตาปิดตามฉบับจนเพื่อนสงสัย
SN: “เจอใครอ่ะแก รักแรกของแกหรอ น่ารักป่ะหล่อป่ะ บอกหน่อยดิ” ด้วยความอยากรู้เลยรีบถามทันที
TF: “น่ารักม๊ากมากสำหรับฉัน” เอามือประสานกันไว้ใต้คางทำหน้าเพ้อฝัน “แต่ไม่หล่อนะแก”
SN: “น่าเสียดายอ่ะแกนึกว่าหล่อ เพราะเห็นที่เข้ามาจีบแกมีแต่หล่อๆ”
JS: “ฟานี่ไม่ใช่แกนะที่แพ้แต่คนหล่อ” ด้วยหมั่นไส้เลยอดจิกกัดเพื่อนสาวตัวเล็กไม่ได้
TF: “ที่เขาไม่หล่อเพราะเขาเป็นผู้หญิงนะซิ 555” ขำออกมาทันทีเมื่อแกล้งซันนี่ได้สำเร็จ
JS: “ยัยฟานี่อย่าบอกนะว่าแกเป็นพวกเดียวกับยัยซันนี่อ่ะ ที่ชอบทั้งผู้หญิงผู้ชาย”
TF: “ชั้นไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาทำให้ชั้นดีใจที่เห็นหน้า เสียใจที่ต้องจากกัน ใจเต้นแรงที่อยู่ใกล้ ตอนนั้นชั้นเด็กมากชั้นก็ไม่รู้
ว่าตัวเองเป็นอะไร ที่สำคัญชั้นอบอุ่นใจ ปลอดภัยเวลาที่มีเข้าข้างๆ แต่ชั้นไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับพี่ชีวอนเลยสักครั้ง”
JS: “อย่าบอกนะว่าเป็นรักครั้งแรกของแก กับผู้หญิงด้วย Oh! My Gosh” หลุดอุทานออกมาด้วยความตกใจ
SN: “ชั้นว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไม่ได้ผิดซักหน่อยใครเดือดร้อนเขาเรียกว่าให้โอกาสตัวเองในการเลือก มีบางทีนะแกที่
ผู้หญิงบางคนที่ดูแลรักเราดีกว่าผู้ชาย อีกหลายอย่างอ่ะบางทีเรื่องเพศก็ไม่ได้สำคัญมันอยู่ที่ใจ ผู้ชายก็ไม่ได้ดีทุอย่างหรอกนะ
ชั้นก็ไม่รู้จะอธิบายแกยังไง?เรื่องแบบนี้แกต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองย่ะ”
JS: “ชั้นชอบแต่ผู้ชายย่ะไม่สนเพศเดียวกัน ชั้นไม่ใช่พวกแกนะ” โบกมือทำท่าไม่สนใจอย่างเดียว
TF: “ชั้นว่าก็จริงอย่างที่ซันว่านะ สักวันถ้าแกเจอแกอาจจะไม่พูดแบบนี้ก็ได้นะ แกต้องเจอกับตัวเอง”
JS: “ย่ะ!แล้วชั้นจะรอว่าจะเป็นเหมือนพวกแกหรือป่าว แต่คงยากเพราะชั้นไม่สนเพศเดียวกัน”
SN: “ฟานี่แกเล่าเรื่องเด็กรักแรกของแกให้ฟังหน่อยซิ ชั้นอยากฟังอ่ะแก” พร้อมเลี้ยวรถเข้าเขตคฤหาสน์ตระกูลจอง
JS: “หยุดเลยแกค่อยเล่าพรุ่งนี้ถึงบ้านชั้นแล้ว ชั้นจะฟังด้วยห้ามแอบเล่านะฟานี่พรุ่งนี้ค่อยเล่าทีเดียวเลย”
SN: “ไหนแกบอกไม่สนไง แล้วอยาฟังไปทำไม” แซวกลับซะหน่อยเห็นทำเป็นไม่สนใจที่อย่างนี้อยากจะฟัง
JS: “ฟังเพื่อกรณีศึกษาเพื่อเจอกับตัวเองย่ะ ทำไมจะฟังนะฟานี่อย่าเพิ่งเล่านะ” หันไปออดอ้อนเพื่อนสาวตายิ้ม
TF: “OKจ๊ะ พรุ่งนี้ค่อยเล่าทีเดียวไม่ต้องห่วงนะ”
SN: “พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าอย่าขี้เซานะจ๊ะชั้นจะรีบมารับตั้งแต่ตี5 เพราะเครื่องออกตอนเช้าไม่ต้องห่วงตั๋วพร้อมพวกแกก็เตรียม
ตัวให้พร้อม หลังจากรับฟานี่แล้วชั้นจะรีบมารับแกแล้วไปสนามบินกันเลย”
JS: “อืม…ตามนั้น ทางที่ดีโทมาปลุกด้วยก็ดีนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ Bye”
SN: “ฟานี่แกรับหน้าที่ปลุกยัยเจสนะปลุกยากชะมัด” ทิฟฟานี่พยักหน้ารับคำแล้วทั้ง2ก็ขับรถออกไปเพื่อไปส่งทิฟฟานี่ที่
คฤหาสน์ตระกูลฮวัง หลังจากส่งทิฟฟานี่เสร็จซันนี่ก็ขับรถกลับคฤหาสน์ตระกูลลีของตัวเอง
คฤหาสน์ตระกูล ลี เมื่อซันนี่จอดรถได้ก็รีบวิ่งเข้าบ้านตะโกนร้องเรียกหาพี่ชายของตัวเองทันที
“อีทึก อปป้า” …เงียบ… “อีทึก อปป้า” ครั้งนี้ตระโกนดังรอบบ้านเหล่าแม่บ้าน สาวใช้ต่างตกใจรีบวิ่งออกมาดูว่าคุณหนูเล็กของบ้านเป็นอะไร “คุณหนูเป็นอะไรค่ะ” ป้าแม่บ้านเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “เห็นพี่อีทึกมั้ย?ค่ะป้า” ยังไม่ทันจะได้คำตอบก็มีเสียงที่คุ้นเคยจากชายหนุ่มทีนุ่งผ้าขนหนูปิดท่อนล่างผืนเดียว ท่าทางรีบร้อนที่หน้ามีเม็ดเหงื่อไหลเต็มไปหมด
“มีอะไรยัยตัวดีเรียกซะบ้านแถบแตก” อีทึกชายหนุ่มน่าตาดีเรียกน้องสาว ทุกคนในบ้านรวมทั้งซันนี่ยกเว้นพ่อแม่เท่านั้นต่างรู้กันดีว่าอีทึกคบแต่ผู้ชายด้วยกันแต่จะรับหรือรุกเธอก็ไม่ได้ถามเพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วสภาพแบบนี้คงจะทำอะไรกันอยู่แน่ในความคิดของเธอไม่น่าจะมาขัดจังหวะตอนนี้เลยจริงๆ “ขัดจังหวะความสุขชั้นจริงๆแก มีอะไรรีบว่ามา”
“พรุ่งนี้พี่จะไปดูงานที่โซลใช่มั้ยค่ะ” “อืม ทำไม?” อีทึกสงสัยว่าทำไมอยู่ๆน้องสาวตัวดีถึงได้ถาม
“ซันขอไปด้วยนะแค่ติดไปด้วย รับรองไม่กวนพี่ทำงานแน่” รีบบอกทันทีกลัวพี่ชายจะไม่ให้ไป
“อืม งั้นก็ได้” ตอบรับเพราะคิดแล้วไม่ได้เป็นปัญหาอะไรแต่ก็ต้องชะงักเมื่อน้องสาวตัวดียังพูดไม่ทันจบดี
“แต่น้องไปกับเพื่อนอีก2คน ก็ยัยฟานี่กับเจสซี่ “ แล้วก็ต้องยิ้มเมื่อพี่ชายยิ้มและพยักหน้า “อื้ม เดี๋ยวพี่จัดการให้”
แล้วอีทึกก็เดินกลับขึ้นไปสานงานที่ค้างคาต่อที่ห้องทันที ส่วนซันนี่ก็เดินเข้าห้องของตัวเองไปทันทีที่เข้าห้องไปก็รีบโทรบอกเพื่อนสาวตายิ้มทันที
“ฟานี่ แปปนะเดี๋ยวโทรหายัยเจสด้วย” เวลาพวกเธอคุยโทรศัพท์กันมักจะโทรคุยพร้อมกันทีเดียว3คนเลย
“(ว่าไงยะ)” “OK พวกแกชั้นคุยกับพี่อีทึกแล้วนะเรื่องพรุ่งนี้นะ”
“(แล้วพี่เค้าว่ายังไงบ้างให้ไปด้วยมั้ย?)” ทิฟฟานี่ถามเพราะใจจริงเธอก็เกรงใจพี่ชายของเพื่อนสาวอยู่ที่รบกวนกะทันหัน
“พี่เขาไม่ว่าอะไรหรอกกำลังอารมณ์ดีอยู่ เลยยอมให้ไปด้วยง่ายๆไม่ถามมากเลย”
“(แค่เที่ยวไปใช่ป่ะแก)” เจสสิก้าถามเพราะเธอจะได้เตรียมตัวเรื่องตั๋วถูก
“อืมใช่ ไปฟรีกลับเอง เออ!แล้วเราจะไปกันกี่วันละแก” เพราะพวกเธอยังไม่ได้คุยกันเลยว่าจะไปกี่วัน
“(สัก4วันดีมั้ยแก กลับมามหาลัยเปิดเรียนพอดี)” เจสสิก้าออกความเห็นแล้วทั้ง2คนก็เห็นด้วย พวกเธอคุยกันต่อนิดหน่อยแล้วก็ต่างแยกย้ายกันไปเตรียมตัวเดินทางในวันพรุ่งนี้ ด้านทิฟฟานี่เมื่อเธอจัดของเรียบร้อยก็รีบเดินไปหาผู้เป็นพ่อเพื่อที่จะบอกว่าจะไปเที่ยว “แด๊ดดี้คะ” เธอเรียกผู้เป็นพ่อให้หันมาสนใจจากการดูรายการฟุตบอล
“ว่าไงลูกสาวคนสวยของพ่อ” ถามกลับด้วยอารมณ์ดีเพราะน้ำเสียงลูกสาวเหมือนจะออดอ้อนอะไรซักอย่าง
“วันหยุด4วันนี้ฟานี่ขอไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆนะคะ” บอกจุดประสงค์ทันทีที่เห็นผู้เป็นพ่ออารมณ์ดี เขาเงียบทำท่าคิดหนัก
“แล้วไปกับใคร ที่ไหนละลูก” ถามด้วยความเป็นห่วงแต่ทำน้ำเสียงจริงจังเพื่อแกล้งเมื่อเห็นหน้าลูกสาว
“ไปกับเจสซี่แล้วก็ซันนี่ค่ะ เราจะไปเกาะเชจูกันค่ะ” บอกตามความจริงเพราะเธอไม่เคยโกหกผู้เป็นพ่อสักครั้ง
“มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น ไม่ชวนชีวอนไปด้วยละลูกพี่เค้าเป็นผู้ชายมีอะไรจะได้ช่วยกันได้”
“ไม่เป็นหรอกค่ะแด๊ด เพราะตอนนี้ฟานี่กับพี่ชีวอนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เราเลิกกันแล้ว” แล้วทิฟฟฟานี่ก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ผู้เป็นพ่อฟัง ฮวัง ซองมิน ได้แต่ส่ายหน้าไม่อยากจะเชื่อหูถ้าไม่ใช่ลูกสาวเขาเล่าคงไม่เชื่อ เพราะชายหนุ่มทำตัวดีน่าเชื่อถือไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้แต่ก็งงกับอาการของลูกสาวที่เหมือนกับไม่ได้เสียใจกับเหตุการที่เกิดขึ้นเลย
“อืม ถ้าอย่างนั้นลูกต้องดูแลตัวเองดีๆนะแด๊ดดี้เป็นห่วงไปเที่ยวกันไกล” พร้อมเอามือหนาลูบผมสวยของลูกสาว
“ค่ะแด๊ดดี้ เฮ้อ!” “เป็นอะไรไปอีกลูกจะได้ไปเที่ยวทำไมทำหน้าแบบนั้นหล่ะ” ถามเมื่อเห็นลูกสาวคิดอะไรอยู่
“แด๊ดดี้จำตอนเด็กๆที่พาฟานี่ไปเที่ยวเกาะเชจูได้ป่ะค่ะ ที่ได้เจอแทแท ฟานี่อยากเจอเขาอีกครั้งจังเลย”
ผู้เป็นพ่อทำท่าคิด “ใช่เด็กตัวเล็กขาวๆที่มาส่งลูกตอนหลงกับแด๊ดใช่มั้ย?” “ใช่ค่ะคนนั้นเลยค่ะแด๊ด”
“ป่านนี้เด็กคนนั้นคงโตเป็นสาวเหมือนลูกแล้วมั้งตั้งสิบกว่าปีแล้วนิ ถ้าเจอก็ชวนเขามาเที่ยวที่นี่บ้างละกันนะ” ส่งยิ้มให้ลูกสาว
“ค่ะถ้าฟานี่เจอนะคะ งั้นฟานี่ไปเตรียมต่อก่อนนะคะ รักแด๊ดดี้นะคะ จุ๊บ” หอมแก้มพ่อแล้วก็เดินอมยิ้มขึ้นไปบนห้องตัวเองเมื่อเข้ามาก็เตรียมตัวอีกนิดแล้วไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เตรียมตัวนอนแต่ก่อนจะนอนก็หยิบอะไรบางอย่างจากลิ้นชักหัวเตียงออกมามันคือ พวงกุญแจโลมาสีฟ้า เธอเดินเอาไปไว้ในกระเป๋าสะพายที่ใช้ประจำขาดไม่ได้เพราะเธอจะถือว่ามันคือของนำโชคให้เธอได้เจอกับเรื่องดีๆและมันเป็นความทรงจำที่แสนดีของเธอ แล้วก็ล้มตัวนอนเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความหวังว่าที่เธอไปเกาะเชจูครั้งนี้เธอจะได้เจอกับแทแทที่เธอคิดถึงมานาน
จบตอนแล้ว...To Be Continue … ^
ความคิดเห็น